eXtreme Karaoke
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: pong007 ที่ วันที่ 16 ธันวาคม 2012, 12:28:53 น.
-
เห็นเขาว่ารายละเอียดเสียงถ้าใช้ขับเสียงกลางแหลมเสียงสู้ CLASS AB ไม่ได้ แต่ถ้านำมาขับเบสรายละเอียดเสียงจะแตกต่างจาก CLASS AB เยอะไหม ครับเห็นราคาไม่แพงและได้กำลังวัตต์สูง(งบน้อยอ่ะครับ) :thank1:
-
เท่าที่ได้ศึกษาดู AMP CLASS D เขาทำมาขับเสียง เบสโดยเฉพาะครับ ต้นแบบมาจาก AMP รถยนต์ ที่ใช้ขับซับเบสโดยตรง
-
:thank1:
-
ดีอยู่นะครับ
-
ไม่มีใครเค้าเอา CLASS D มาขับเสียงกลางกันหรอก ครับ CLASS D มันใช้สำหรับ เสียงเบส โดยเฉพาะ
-
ไม่มีใครเค้าเอา CLASS D มาขับเสียงกลางกันหรอก ครับ CLASS D มันใช้สำหรับ เสียงเบส โดยเฉพาะ
ผมเอามาใช้อยู่ครับ ก็ไม่ได้ขี้ล้ายนักนะครับ แต่ต้องปรับแต่งนิดหน่อยปล่อยแบบแฟลตไม่ได้ครับ
-
เสียง ของคลาสD แบบเฉพาะตัวมันเองครับบ
ข้างละ 2 แท่น 2 ทาง กลางแหลม ข้างละ 4 ตู้ เบส ข้าง ละ 8 ตู้
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2012/11/27/3667_1354001974.jpg)
(http://image.tiggersound.com/upload/imagesMember/2012/12/10/3667_1355150595.jpg)
:thank1:
-
ถ้าบอกว่ามันใช้ไม่ได้ แล้วจะมีเครื่องปรับแต่งเสียงลงทุนกันเป็นแสนทำไมนะ อิอิ
จริง ๆ แล้วเพาเวอร์แอมป์ก็แค่มาขยายสัญญาณให้มันใหญ่ขึ้นเท่านั้นเองไม่ได้ไปจัดการเสียงเลยนะครับ
บางทีก็อยากให้พวกเราเข้าใจด้วย ไม่ใช่ว่าซื้อเครื่องปรุงมาประดับแร็คให้ทุกคนรู้ว่าผมก็มีเหมือนกับคนอื่น อิอิ
-
ไม่มีใครเค้าเอา CLASS D มาขับเสียงกลางกันหรอก ครับ CLASS D มันใช้สำหรับ เสียงเบส โดยเฉพาะ
ผมเอามาใช้อยู่ครับ ก็ไม่ได้ขี้ล้ายนักนะครับ แต่ต้องปรับแต่งนิดหน่อยปล่อยแบบแฟลตไม่ได้ครับ
ขอยืนยันอีกเสียงครับ ท่านวีรยุทธ ทำ CLASS D สำหรับขับกลางแหลมโดยเฉพาะ แจ่มไม่แพ้ CLASS AB เลยนะครับ
ปรับแฟลทนี่แหละ ผมว่าอีกหลายท่านที่ใช้รุ่นเหมือนของผมก็คงยืนยันได้เช่นกัน.. :happy: :happy:
-
ขับเบส แจ่มมากๆ
-
คลาส D มันดีกับ BASS ส่วน AB ก็ต้องขับ MID-HI ตามนั้นครับท่าน
-
แอมป์ที่อยู่ในตู้ลำโพงแบบแอคทีพ
คลาส D ทั้งนั้น..
-
จากความรู้ที่ผมมีอยู่น้อยนิดนะครับ
amp Class AB
- เป็นแอมป์ที่ให้รายละเอียดดีมาก กับเพลง Jazz เพลง classic หรือเพลงจำพวกหวานๆ ฟังสบายๆ
- ข้อด้อยของ amp พวกนี้คือจะมีกำลังขับที่ต่ำ ใช้ขับพวกลำโพงเสียงกลาง เสียงแหลมได้ดี แต่ไม่เหมาะที่จะนำมาขับซับวูฟเฟอร์
amp Class D
- เป็นแอมป์ที่มีกำลังขับสูงที่สุดในบรรดา amp ทั้งหมด แต่ให้รายละเอียดไม่ดีนัก เหมาะกับเพลง Dance เพลง Pop Dance หรือเพลิงจำพวกที่เน้นเบสหนักๆ ดังๆ มันส์ๆ
- ข้อด้อยของ amp พวกนี้คือรายละเอียดของเสียงจะสู้แอมป์ Class A ไม่ได้เลย แต่นิยมนำ amp พวกนี้มาขับ ซับวูฟเฟอร์เพราะมันมีกำลังขับมาก ทำให้ขับซับวูฟเฟอร์แล้วได้เสียงเบสหนัก แน่น และมีพลัง
-
จากความรู้ที่ผมมีอยู่น้อยนิดนะครับ
amp Class AB
- เป็นแอมป์ที่ให้รายละเอียดดีมาก กับเพลง Jazz เพลง classic หรือเพลงจำพวกหวานๆ ฟังสบายๆ
- ข้อด้อยของ amp พวกนี้คือจะมีกำลังขับที่ต่ำ ใช้ขับพวกลำโพงเสียงกลาง เสียงแหลมได้ดี แต่ไม่เหมาะที่จะนำมาขับซับวูฟเฟอร์
amp Class D
- เป็นแอมป์ที่มีกำลังขับสูงที่สุดในบรรดา amp ทั้งหมด แต่ให้รายละเอียดไม่ดีนัก เหมาะกับเพลง Dance เพลง Pop Dance หรือเพลิงจำพวกที่เน้นเบสหนักๆ ดังๆ มันส์ๆ
- ข้อด้อยของ amp พวกนี้คือรายละเอียดของเสียงจะสู้แอมป์ Class A ไม่ได้เลย แต่นิยมนำ amp พวกนี้มาขับ ซับวูฟเฟอร์เพราะมันมีกำลังขับมาก ทำให้ขับซับวูฟเฟอร์แล้วได้เสียงเบสหนัก แน่น และมีพลัง
AJ-FS 9000 คลาสอะไรไม่รู้ ผมเอามาขับ 2242 ขัางละ 2 เบสตึ๊บได้ใจเลยครับ
ส่วนกลาง+แหลม ผมใช้ชินกิว่า HV 8900 เสียงกลาง 12 นิ้วแหลม P.BMD 750 ใสมวากๆเลยครับ
-
มันเป็นเรื่องของภาคจ่ายไฟในวงจรครับ คราสd ใช้ขับเบสเหมาะสมกว่า
-
แล้วเครื่องปรุงที่ซื้อกันแพง ๆ มีไว้เพื่อทำอะไรครับ อยากรู้จริง ๆ ครับ
ห้ามตอบว่ามีไว้เพื่อประดับแร็คนะครับ ผมว่านี่คือคำตอบที่ว่าแอมป์ที่ใช้ได้หรือไม่
-
PowerAmp แต่ละคลาส แต่ละแบรนด์มันมีข้อจำกัดและบุคลิกของเสียงต่างกัน ถ้ามีโอกาสได้เปรียบเทียบจะเห็นความแตกต่าง วิธีการเปรียบเทียบจะต้องคำนึงถึงความทรัพยากรที่เป็นชุดเดียวกันและห้วงเวลาเดียวกัน ผมจะทดสอบและวิเคราะห์เสียงย่านLowโดยการปล่อยเสียงเป็นโมโน แยกPowerยี่ห้อละข้าง แล้วฟังทีข้างอย่างละเอียด จนสามารถแยกพอได้ว่า.-
1.ย่านLowไม่มีคลาสใหนหนึบมวลเป็นก้อนๆเกินไบโพล่าและมอสเฟตแบบหม้อแปลงนะ กรวยกระดาษไม่กระพือมาก เก็บตัวไว กระฉับ เสียงค่อนข้างมีมารยาท ไม่มั่ว
2.กลางแหลมถ้าไม่นับหลอดหรือAB คลาสDก็เป็นคลาสที่เปล่งความถี่ย่าน 700Hz-<8K ได้จัดจ้านทีเดียว แต่ถ้าย่าน >8k ผมยกให้AB เอาไปกิน
3.ผมหลงทางไปกับบอสเxxและคลาสD ของช่างเxxมาซะนาน หลงทางเพราะกระแสจริงๆ ตัวหนึ่งแรง!!แต่เป็นลมซะมากกว่า แบนๆเบลอๆ ส่วนของช่างเxาก็แรงแบบเหมือนจะแรง ปลายกระเดื่องบานไม่กระฉับ และเสียวลุ้นระทึก
ทรัพยากร
----------
**ใช้ Soundcard X-fi รุ่น Top และใช้ซาวด์ในตัว X-32 ไม่ใช้Comp/gate/EQ และอื่นไดเลย
1.Mixer Digital Behringer X-32
2.ครอส XTA DP-226และBss fds-336
3.TC Finalizer Plus
4.Mic U4D beta58
5.PowerAmp: Crown MA-5002(ยืม)/ณรงค์ซาวด์รุ่นใหญ่/FP14000ยูโรเทค/Bosstech3600Vz/Taft i6000/Obit 3600/DPA-3600ช่างเยา และอีกหลายค่าย แต่เทสไม่ถึงครึ่งเพลงต้องเอาทิ้งเพราะทนฟังไม่ได้ อิอิ
6.ตู้Wสูตร RM-Tech ดอก SD-18 ข้างละ 4 ใบ, กลางแหลมดอก 15" ดอกEminence รุ่นถูก Delta 15-A, แหลม D-750
7.เพลงที่ใช้ทดสอบ XMKL และ เพลงแม้ว่า(โลโซ),ปลาไหล,ออนเวซำแวร์,ชีนอทแด และไฟล์กลองสด
สรุป
-----
:mad245:
-
ความหมายของผมคือ มีเครื่องปรุงไว้เพื่ออะไรถ้าไม่มีไว้ใช้แก้ปัญหาครับ จะคลาสไหนถ้าเรารู้หลักการก็สามารถจัดการได้หมดครับ
-
PowerAmp แต่ละคราส แต่ละแบรนด์มันมีข้อจำกัดและบุคลิกของเสียงต่างกัน ถ้ามีโอกาสได้เปรียบเทียบจะเห็นความแตกต่าง วิธีการเปรียบเทียบจะต้องคำนึงถึงความทรัพยากรที่เป็นชุดเดียวกันและห้วงเวลาเดียวกัน ผมจะทดสอบและวิเคราะห์เสียงย่านLowโดยการปล่อยเสียงเป็นโมโน แยกPowerยี่ห้อละข้าง แล้วฟังทีข้างอย่างละเอียด จนสามารถแยกพอได้ว่า.-
1.ย่านLowไม่มีคราสใหนหนึบมวลเป็นก้อนๆเกินไบโพล่าและมอสเฟตแบบหม้อแปลงนะ กรวยกระดาษไม่กระพือมาก เก็บตัวไว กระฉับ เสียงค่อนข้างมีมารยาท ไม่มั่ว
2.กลางแหลมถ้าไม่นับหลอดหรือAB คลาสDก็เป็นคลาสที่เปล่งความถี่ย่าน 700Hz-<8K ได้จัดจ้านทีเดียว แต่ถ้าย่าน >8k ผมยกให้AB เอาไปกิน
3.ผมหลงทางไปกับบอสเxxและคลาสD ของช่างเxxมาซะนาน หลงทางเพราะกระแสจริงๆ ตัวหนึ่งแรง!!แต่เป็นลมซะมากกว่า แบนๆเบลอๆ ส่วนของช่างเxาก็แรงแบบเหมือนจะแรง ปลายกระเดื่องบานไม่กระฉับ และเสียวลุ้นระทึก
ทรัพยากร
----------
**ใช้ Soundcard X-fi รุ่น Top และใช้ซาวด์ในตัว X-32 ไม่ใช้Comp/gate/EQ และอื่นไดเลย
1.Mixer Digital Behringer X-32
2.ครอส XTA DP-226และBss fds-336
3.TC Finalizer Plus
4.Mic U4D beta58
5.PowerAmp: Crown MA-5002(ยืม)/ณรงค์ซาวด์รุ่นใหญ่/FP14000ยูโรเทค/Bosstech3600Vz/Taft i6000/Obit 3600/DPA-3600ช่างเยา และอีกหลายค่าย แต่เทสไม่ถึงครึ่งเพลงต้องเอาทิ้งเพราะทนฟังไม่ได้ อิอิ
6.ตู้Wสูตร RM-Tech ดอก SD-18 ข้างละ 4 ใบ, กลางแหลมดอก 15" ดอกEminence รุ่นถูก Delta 15-A, แหลม D-750
7.เพลงที่ใช้ทดสอบ XMKL และ เพลงแม้ว่า(โลโซ),ปลาไหล,ออนเวซำแวร์,ชีนอทแด และไฟล์กลองสด
สรุป
-----
:mad245:
:th2: :th2: :th2:
-
ความหมายของผมคือ มีเครื่องปรุงไว้เพื่ออะไรถ้าไม่มีไว้ใช้แก้ปัญหาครับ จะคลาสไหนถ้าเรารู้หลักการก็สามารถจัดการได้หมดครับ
คำว่ารู้หลักการคืออะไร? และจัดการอย่างไร/แบบใหนได้หมด คงไม่ใช่เปลี่ยนทรัพยากรทั้งหมดเพื่อแอมป์นะ ว่ามา...
เครื่องปรุง ถ้าเป็นงานสเกลใหญ่ๆ อย่างเล่นสด/คอนเสิร์ต หรือในฮอลใหญ่ๆ เครื่องปรุงต่างๆมีประโยชน์เพื่อมาแก้ปัญหาบางสถานการณ์ที่เป็นอุปสรรคให้เสียงที่ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
แต่...ถ้าบอกว่า อย่างงี้ก็เลิศแล้ว โดยเอาหูตัวเองเป็นมาตรฐานอ้างอิง ก็...แค่นั้นแหละไม่ต้องเปลืองอะไรมาก
แต่ถ้าจะอ้างอิงมาตรฐาน หรือยืนบนพื้นฐานที่ว่าปรับให้คนอื่นฟังก็ต้องมีเครื่องมืออื่นเข้ามมาปรุงแต่งให้ได้ใกล้เคียงมาตรฐานที่สุด
แต่ถ้าเอาตัวเองเป็นมาตรฐาน เบสแน่นจุกอกละ กลางแหลมหวานจัดจ้านแล้ว ก็จบ! ไม่ต้องไปใส่ใจใครๆ
ผมยอมรับว่ายังไม่เข้าใจหลายอย่างเกี่ยวกับระบบเสียง และการจัดการกับเสียงที่ทำให้คนส่วนมากฟังแล้วประทับใจได้ ผมรู้อย่างน้อยอยู่อย่างว่าผมปรับยังงัยให้เสียงที่ผมชอบที่สุดอย่างไร แต่ก็ไม่ทราบว่ามาตรฐานหรือรสนิยมของผมจะเป็นที่ถูกใจคนอื่นหรือไม่ แต่ถ้าฟังในบ้านผมจะเอาความชอบของผมเป็นหลัก แต่ถ้าต้องทำซาวด์งานอื่นก็จะพยายามปรับเพื่อให้คนอื่นพึงพอใจ
-
POWER AMP CLASS D ใช้ขับเบสดีไหมครับ
""ดีครับ'''''
-
POWER AMP CLASS D ใช้ขับเบสดีไหมครับ
""ดีครับ'''''
ดีครับ ดีที่สุด ดีแน่นอน ดีแน่แน่ ดีกว่า หรือ ดีจริงๆ ไม่พอครับถ้ายังไม่เทียบกับคลาสอื่น
-
ดีครับ ดีที่สุด ดีแน่นอน ดีแน่แน่ ดีกว่า หรือ ดีจริงๆ ไม่พอครับถ้ายังไม่เทียบกับคลาสอื่น
ทำซาวด์งาน เราปรับเพื่อให้คนอื่นฟัง
เห็นด้วยครับป๋า..
:happy: :happy:
-
คำว่ารู้หลักการคืออะไร? และจัดการอย่างไร/แบบใหนได้หมด คงไม่ใช่เปลี่ยนทรัพยากรทั้งหมดเพื่อแอมป์นะ ว่ามา...
เครื่องปรุง ถ้าเป็นงานสเกลใหญ่ๆ อย่างเล่นสด/คอนเสิร์ต หรือในฮอลใหญ่ๆ เครื่องปรุงต่างๆมีประโยชน์เพื่อมาแก้ปัญหาบางสถานการณ์ที่เป็นอุปสรรคให้เสียงที่ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
แต่...ถ้าบอกว่า อย่างงี้ก็เลิศแล้ว โดยเอาหูตัวเองเป็นมาตรฐานอ้างอิง ก็...แค่นั้นแหละไม่ต้องเปลืองอะไรมาก
แต่ถ้าจะอ้างอิงมาตรฐาน หรือยืนบนพื้นฐานที่ว่าปรับให้คนอื่นฟังก็ต้องมีเครื่องมืออื่นเข้ามมาปรุงแต่งให้ได้ใกล้เคียงมาตรฐานที่สุด
แต่ถ้าเอาตัวเองเป็นมาตรฐาน เบสแน่นจุกอกละ กลางแหลมหวานจัดจ้านแล้ว ก็จบ! ไม่ต้องไปใส่ใจใครๆ
ผมยอมรับว่ายังไม่เข้าใจหลายอย่างเกี่ยวกับระบบเสียง และการจัดการกับเสียงที่ทำให้คนส่วนมากฟังแล้วประทับใจได้ ผมรู้อย่างน้อยอยู่อย่างว่าผมปรับยังงัยให้เสียงที่ผมชอบที่สุดอย่างไร แต่ก็ไม่ทราบว่ามาตรฐานหรือรสนิยมของผมจะเป็นที่ถูกใจคนอื่นหรือไม่ แต่ถ้าฟังในบ้านผมจะเอาความชอบของผมเป็นหลัก แต่ถ้าต้องทำซาวด์งานอื่นก็จะพยายามปรับเพื่อให้คนอื่นพึงพอใจ
อันนี้แน่นอนครับ แต่ถ้าเสียงคนอื่นบอกว่าเพราะบอกว่าชอบ แต่สำหรับผมแล้วมันออกมาแบบเป็น Nuisance sound ผมก็คงไม่ปรับไปทำตามครับ ผมคงปรับในรูปแบบที่ผมทำแล้วมีความสุขมากกว่าครับ ผมเชื่อว่ายังมีกลุ่มลูกค้าที่เขาพอใจในรูปแบบที่เป็นเราครับ
-
:cheer: :beer: ข้อสรุปยังไงจากข้อมูลข้างล่างครับ :cheer: :beer:
ทรัพยากร
----------
**ใช้ Soundcard X-fi รุ่น Top และใช้ซาวด์ในตัว X-32 ไม่ใช้Comp/gate/EQ และอื่นไดเลย
1.Mixer Digital Behringer X-32
2.ครอส XTA DP-226และBss fds-336
3.TC Finalizer Plus
4.Mic U4D beta58
5.PowerAmp: Crown MA-5002(ยืม)/ณรงค์ซาวด์รุ่นใหญ่/FP14000ยูโรเทค/Bosstech3600Vz/Taft i6000/Obit 3600/DPA-3600ช่างเยา และอีกหลายค่าย แต่เทสไม่ถึงครึ่งเพลงต้องเอาทิ้งเพราะทนฟังไม่ได้ อิอิ
6.ตู้Wสูตร RM-Tech ดอก SD-18 ข้างละ 4 ใบ, กลางแหลมดอก 15" ดอกEminence รุ่นถูก Delta 15-A, แหลม D-750
7.เพลงที่ใช้ทดสอบ XMKL และ เพลงแม้ว่า(โลโซ),ปลาไหล,ออนเวซำแวร์,ชีนอทแด และไฟล์กลองสด
:beer: :cheer:
-
ความเห็นของนะครับ คลาส d มันเป็น ดิจิตอลแอมป์ รูปสัญยานเสียงมันต้องแก้ไขแล้วยกระดับขึ้นมา เสียงกลางและเสียงสูงมันไม่ใส เหมือนพวกคลาส ab อันนี้รับฟังได้ชัดเจนด้วยหู ไม่ต้องใช้เครื่องมือ แต่ถ้าจะทำคลาส d ให้เสียงดีในทุกความถี่เสียงเนี่ยผมว่ามันต้องใช้ต้นทุนสูงเมื่อจะต้องให้เสียงเหมือนคลาส ab แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ถ้า กลางจนถึงแหลม ผมยกให้ ab ความถี่ต่ำ ab หรือ d ก็ได้แล้วแต่ อันนี้ความคิดส่วนตัวผมนะครับ :beer:
-
แอมป์ที่อยู่ในตู้ลำโพงแบบแอคทีพ
คลาส D ทั้งนั้น..
ถูกต้องครับ สำหรับผมใช้มันทุกอย่าง ฮ่าๆ โดยเฉพาะใครว่าบอสเทคไม่ดี คลาสดี ไม่ดี ส่วนตัวผมดีคนละอย่างครับ ทุกวันนี้ใช้บอสเทค 3600 vz ขับกลางแหลมล้วนๆ 3 แท่น อัดเต็มๆเสียงเต็มไม่พีคให้เห็น ส่วนโลว์ ก็คลาสดี ท่านวีรยุทธ ประทะกับ 3600vz อย่างละสองแท่น สำหรับขับโลว์ ได้เนื้อก็เคยใช้ประเภทหม้อแปลงต้องยกนิ้วให้ เพราะมีกระแสสำรองที่หม้อแปลง เสียงย่อมหนึบหนักแน่นกว่าแต่มันหนักนั่นแหละ สรุปสุดท้ายใช้สวิสชิ่ง เบาแต่ต้องใช้หลายแท่นเอา โหลดแค่ 4 โอห์ม ข้างละสองพอ(พิมพ์ผิดๆถูกๆขออภัยด้วย)
-
เท่าที่ตระเวนฟัง และไปดูมาแบบไม่มีพื้นฐานเรื่องแนวเสียง ผมมีข้อคิดเห็นดังนี้
เทศโดยไม่ผ่านเครื่องปรุง
-คลาสดี ที่ีออกแบบใช้เพื่อขับเบสให้พละกำลังเสียงได้แน่น แต่ใช้โหลดต่ำได้ถึง 2โอมห์ และกำลังเสียงปกติ
ส่วนที่ออกแบบกลางแหลมมานั้นสดใส จัดจ้าน แต่ต้องปรับบางความถี่โดยเครื่องปรุง
- AB ขับเบสให้พละกำลังเสียงได้แน่น+ คือต่า่งจากคลาสดีขึ้นมามีความนุ่มให้เห็นชัด ส่วนมากใช้ขับข้างละ 4-2.66โอม์
ส่วนกลางแหลมติดนุ่มเรียบตามสไตล์ คุมได้ง่าย
ทั้งสองรายการเทสโดยใช้ระบบสวิทซ์ชิ่ง และหม้อแปลง เปิดเพลง เล่นเพลงไม่ต่างกันแต่มีความต่างของเสียง
แต่ถ้าเล่นสด ไม่ทิ้งกันครับ ท่านใดชอบแบบไหน หรืออยากลองก็เป้นประสบการณ์ที่ดีครับ เพราะมันกำลังและแนวเสียง
ที่ต้องไปต่อยอดสู่การปรุงอีกครั้ง แต่เรื่องกำลัง และแนวเสียงก็มีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน ซึ่งก็แล้วแต่คนชอบ :love2: :love2: :love2:
-
ผมใช้อยู่ครับ ก็พอใจนะครับ