ผู้เขียน หัวข้อ: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี  (อ่าน 84731 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #225 เมื่อ: วันที่ 28 กันยายน 2015, 19:39:29 น. »
ไมค์ลอยตัวที่หนึ่ง  สมมุติส่งคลื่น 100 Hz  ไปยังตัวรับชื่อ A  แล้วขยายสัญญาณจนแรงขึ้น เข้า LINE IN  ที่มิกซ์ ช่องที่ 1
ที่มิกซ์ตั้งปุ่ม  PAN  ตรงกลาง  เสียงออกลำโพงทั้ง ซ้ายและขวา  ถูก หรือไม่
ถ้าปุ่ม  PAN  ปรับซ้าย หรือ ขวาสุด  เสียงออกลำโพงยังดัง 2 ข้างหรือไม่

ไมค์ลอยตัวที่สอง สมมุติส่งคลื่น  200 Hz   ไปยังตัวรับที่  B  ถามว่า  ทำไมต้องส่งคลื่นต่างกัน

หมายเหตุ  การเชื่อมสายถูกต้องทุกขั้นตอน
มิกซ์ แอมป์ ลำโพงทำงานปรกติ

ถ้าตอบผิด  ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่นะครับ   ไปนอนแหละ 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 กันยายน 2015, 19:44:28 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ ครูไทยมิวสิค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 427
  • 5F65A465(เสีย),9EE23AE5(หาย) 7E8D2877 ป๊อก
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #226 เมื่อ: วันที่ 28 กันยายน 2015, 20:11:24 น. »
 :thank1: :thank1:

ออฟไลน์ ครูไทยมิวสิค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 427
  • 5F65A465(เสีย),9EE23AE5(หาย) 7E8D2877 ป๊อก
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #227 เมื่อ: วันที่ 29 กันยายน 2015, 13:23:36 น. »
ต่อผิดจริงๆ :no_ok: :no_ok: :strom: :strom:

ออฟไลน์ แสง สารภี

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 514
  • HL- 55019534
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #228 เมื่อ: วันที่ 29 กันยายน 2015, 18:57:14 น. »
หมายถึงอย่างนี้ไหมครับ...
ตัวรีซีฟเวอร์ของไมค์ลอย มี 2 ช่อง คือ A และ B
ต่อช่องเดียวก็ออกช่องเดียว เสียงไมค์ก็ออกตัวเดียว อย่างนี้ไหม?
 ครับอ้าย
มี 2 ช่องก็ต้องใช้สาย 2 เส้น ครับ วันนี้พี่เขาก้อทำสายให้ผม 2 เส้นครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 กันยายน 2015, 18:59:36 น. โดย แสง สารภี »

ออฟไลน์ ครูไทยมิวสิค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 427
  • 5F65A465(เสีย),9EE23AE5(หาย) 7E8D2877 ป๊อก
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #229 เมื่อ: วันที่ 29 กันยายน 2015, 21:23:31 น. »
มี 2 ช่องก็ต้องใช้สาย 2 เส้น ครับ วันนี้พี่เขาก้อทำสายให้ผม 2 เส้นครับ
[/quote] ความจริงที่ไม่รู้ ผมมัวแต่ใช้ช่อง หัว XLR มาตลอด ก็เลยงง สับสน หัว TRS แบบ เตอริโอ ครับ ตอนนี้โอเคครับ :thank1:[/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font][/font]

ออฟไลน์ sknsomkiet

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 291
  • HL#7C1232B0
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #230 เมื่อ: วันที่ 30 กันยายน 2015, 00:05:32 น. »
อยากร่วมตอบคำถามครับ ตามที่ผมเข้าใจ ถูกผิดอย่ากันนะท่านมะละกอ
1. ที่มิกซ์ตั้งปุ่ม  PAN  ตรงกลาง  เสียงออกลำโพงทั้ง ซ้ายและขวา  ถูก หรือไม่
ตอบ ถูกต้องครับ
2. ถ้าปุ่ม  PAN  ปรับซ้าย หรือ ขวาสุด  เสียงออกลำโพงยังดัง 2 ข้างหรือไม่
ตอบ ไม่ถ้าเป็น TS
3. ไมค์ลอยตัวที่สอง สมมุติส่งคลื่น  200 Hz   ไปยังตัวรับที่  B  ถามว่า  ทำไมต้องส่งคลื่นต่างกัน
ตอบ เพราะว่าจะได้สัญญานไมล์ 2 ไลน์
 :thank1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 กันยายน 2015, 00:13:11 น. โดย sknsomkiet »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #231 เมื่อ: วันที่ 30 กันยายน 2015, 07:08:39 น. »
อยากร่วมตอบคำถามครับ ตามที่ผมเข้าใจ ถูกผิดอย่ากันนะท่านมะละกอ
1. ที่มิกซ์ตั้งปุ่ม  PAN  ตรงกลาง  เสียงออกลำโพงทั้ง ซ้ายและขวา  ถูก หรือไม่
ตอบ ถูกต้องครับ
2. ถ้าปุ่ม  PAN  ปรับซ้าย หรือ ขวาสุด  เสียงออกลำโพงยังดัง 2 ข้างหรือไม่
ตอบ ไม่ถ้าเป็น TS
3. ไมค์ลอยตัวที่สอง สมมุติส่งคลื่น  200 Hz   ไปยังตัวรับที่  B  ถามว่า  ทำไมต้องส่งคลื่นต่างกัน
ตอบ เพราะว่าจะได้สัญญานไมล์ 2 ไลน์
 :thank1:


ข้อที่หนึ่ง   แม่นแล้ว

ข้อที่สอง   แม่นครึ่งเดียว  เพราะไม่ว่าแจ็กจะเป็น  TRS  หรือ  TS  
              สัญญาณก็เข้ามิกซ์  PAN  ซ้ายเสียงออกตู้ซ้าย  แพนขวาเสียงออกตู้ขวา

              เสียบไมค์ 2 ตัว  แพนซ้ายสุดให้ผู้หญิงร้อง  อีกตัวแพนขวาสุดให้ผู้ชายร้อง  
              ฟังในบ้านเพื่อเปรียบเทียบเสียงร้อง มีประโยชน์นำไปจูนเสียงใช้งานตามต้องการครับ
              ส่วนออกงานกลางแจ้งขนาดเล็กถึงปานกลาง  
              นักร้องยืนร้องอยู่ตรงกลางหน้าเวที  ปุ่มแพนตั้งตรงกลาง
              เวลานั่งร้องเดินไปทางซ้าย เราคุมเครื่องก็ค่อยๆ แพนไปทางซ้ายตาม
              
              ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ชมได้ยินเสียงเดินไปทางซ้ายตามนักร้อง
              เกิดอารมณ์ร่วมกับการแสดงซึ่งเป็นไปตามคอนเซ็พท์ของคำว่า PA ครับ

ข้อที่สาม   เป็นการบริหารความถี่ ไมค์เกินหนึ่งตัว  ใช้ความถี่ต่างกัน ป้องกันความถี่มันขี่กัน (รบกวน)
               งานประกาศรางวัลแกรมมี่อะวอร์ดทุกปี  ใช้ไมค์ลอยประมาณ  75 ตัว ทุกยี้ห้อ
               ต้องจ้างบริษัทที่เชี่ยวชาญบริหารความถี่ มาจัดการเรื่องความถี่ให้ไมค์แต่ละตัว และให้เข้ากับแต่ละยี้ห้อนั้นด้วยครับ


ขอขอบคุณที่เข้ามาร่วมวงสนุกด้วยนะครับ  ผ่านอะไรในการเล่นกับเครื่องเสียงมาบ้าง ทั้งรายละเอียดรายละหยาบ นำมาเล่าสู่กันฟังครับ
              

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 กันยายน 2015, 07:13:00 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ ครูไทยมิวสิค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 427
  • 5F65A465(เสีย),9EE23AE5(หาย) 7E8D2877 ป๊อก
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #232 เมื่อ: วันที่ 30 กันยายน 2015, 08:15:24 น. »

ข้อที่หนึ่ง   แม่นแล้ว

ข้อที่สอง   แม่นครึ่งเดียว  เพราะไม่ว่าแจ็กจะเป็น  TRS  หรือ  TS  
              สัญญาณก็เข้ามิกซ์  PAN  ซ้ายเสียงออกตู้ซ้าย  แพนขวาเสียงออกตู้ขวา

              เสียบไมค์ 2 ตัว  แพนซ้ายสุดให้ผู้หญิงร้อง  อีกตัวแพนขวาสุดให้ผู้ชายร้อง  
              ฟังในบ้านเพื่อเปรียบเทียบเสียงร้อง มีประโยชน์นำไปจูนเสียงใช้งานตามต้องการครับ
              ส่วนออกงานกลางแจ้งขนาดเล็กถึงปานกลาง  
              นักร้องยืนร้องอยู่ตรงกลางหน้าเวที  ปุ่มแพนตั้งตรงกลาง
              เวลานั่งร้องเดินไปทางซ้าย เราคุมเครื่องก็ค่อยๆ แพนไปทางซ้ายตาม
              
              ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ชมได้ยินเสียงเดินไปทางซ้ายตามนักร้อง
              เกิดอารมณ์ร่วมกับการแสดงซึ่งเป็นไปตามคอนเซ็พท์ของคำว่า PA ครับ

ข้อที่สาม   เป็นการบริหารความถี่ ไมค์เกินหนึ่งตัว  ใช้ความถี่ต่างกัน ป้องกันความถี่มันขี่กัน (รบกวน)
               งานประกาศรางวัลแกรมมี่อะวอร์ดทุกปี  ใช้ไมค์ลอยประมาณ  75 ตัว ทุกยี้ห้อ
               ต้องจ้างบริษัทที่เชี่ยวชาญบริหารความถี่ มาจัดการเรื่องความถี่ให้ไมค์แต่ละตัว และให้เข้ากับแต่ละยี้ห้อนั้นด้วยครับ


ขอขอบคุณที่เข้ามาร่วมวงสนุกด้วยนะครับ  ผ่านอะไรในการเล่นกับเครื่องเสียงมาบ้าง ทั้งรายละเอียดรายละหยาบ นำมาเล่าสู่กันฟังครับ
              


ความรู้ที่เราต้องรู้ :thank1:

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #233 เมื่อ: วันที่ 30 กันยายน 2015, 10:43:12 น. »
สำหรับผม  เสียงเพลงเสียงดนตรี มีสองอย่างคือ

จังหวะ ( Rhythm)  และ  

ทำนอง (อังกฤษ: Melody) คือ ความต่อเนื่องของโน้ตดนตรี ที่เรียงร้อยอย่างเหมาะสม
การใช้เสียงสูง เสียงต่ำ เสียงยาว เสียงสั้น นำมาปะติดปะต่อกันเป็นชุด
ทำนองยังต้องมีจังหวะเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้
ทำนองที่ดีต้องมีความหมาย มีเสียงที่สมดุล และมีเอกลักษณ์ สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ฟัง


รูปแบบของเพลงที่ต่างกัน ก็จะมีรูปแบบของทำนองที่แตกต่างกันไปด้วย เช่น

เพลงร๊อค เพลงป๊อป และเพลงพื้นบ้าน โดยทั่วไปจะยึดทำนองเพียง 1 หรือ 2 รูปแบบเท่านั้น แต่จะไปแตกต่างในส่วนของเนื้อร้องแทน
เพลงแจ๊ส จะใช้แนวทำนองเดิมเป็นหลักในการด้นสด ไม่ยึดติดในรูปแบบทำนองเดิม แต่จะเปลี่ยนรูปแบบทำนองไปตามนักดนตรีแต่ละคน

https://th.wikipedia.org/wiki/ทำนองเพลง


เสียงดนตรีที่เราได้ยิน  มี ดีด สี ตี เป่า

กลองทั้งชุด เป็นเครื่องตี เคาะ  ให้เสียงเฉพาะตัว
เสียงกลองให้จังหวะได้อย่างเดียว  

กีตาร์ เป็นเครื่องดีด และสีก็ได้แล้วแต่เท็คนิกการแสดงโชว์

เสียงกีตาร์ ให้เสียง เมโลดี้ ตามความหมายข้างบน

เมื่อมีกลอง และ กีตาร์ มาเล่นร่วมกัน เพลง โน๊ต ตัวเดียวกัน
เสียงที่ได้ จะแยกว่าเป็นกลอง และเป็นกีตาร์
เสียงดนตรีฟังขาดอารมณ์เพลง (รักหวาน เศร้าเสียใจ  รื่นเริง ฯลฯ)

คนทำเพลงจึงต้องเสริมด้วยการนำ เบส ซึ่งเป็นเครืองดีดมาช่วย
เบสให้เสียงได้ 2 แบบคือ  จังหวะ  และ  เมโลดี้  ในเวลาเดียวกัน

เสียงเบส เป็นตัวเชื่อมให้เเสียงกลอง  และ  เสียง กีตาร์ รวมเป็นเนื้อเดียวกัน
รวมเป็นเพลงๆ เดียวกัน ฟังดูแล้ว  เหมือนว่าเสียงกลองมีเมโลดี
ขณะเดียวกันกันที่ เสียงกีตาร์ ก็ฟังเหมือนมีจังหวะเด่นขึ้น
คนฟังเพลงสนุกตามครับ

กลับมาที่การผสมเสียงคนร้อง  +  เสียงดนตรี  โดยมีเอฟเฟคเป็นตัวเชื่อมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
ผมเชื่อว่าคงนำพื้นฐานความรู้ทีเล่ามาไปใช้
ใช้ให้ถูกที่ ถูกทาง ถูกเวลาเช่นเพลงลูกกรุง ลูกทุ่ง เพื่อชีวิต

จึงอยู่ที่คนคุมมิกซ์จะผสมเสียงละครับ  ไม่มีอะไรตายตัว

สำหรับคุณขวัญที่สนใจเรื่องนี้  ให้เปิดคอนเสิร์ทของ  Daina Krall  แสดงสดที่ปารีส
ที่ผมให้ไป ดูตั้งแต่ช่วงต้น ไปจนจบเพลงแรก
ในนั้นมีเสียงร้องที่ดีมากๆ  มีเสียงเบสจากคนเล่นระดับโลก เดินเบส เชื่อมกีตาร์กับกลองได้วิเศษสุด  
ทำให้ผู้ฟังหลายหมื่นคนเร้าใจตบมือให้เกียรติอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย

ฟังแล้วลองมิกซ์ดูครับ  ไม่นานนักจะเข้าใจ ครับผม


เชิญทัศนา



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 กันยายน 2015, 11:03:04 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ รัก

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 110
  • 57E3D0DE ซื้อจากพี่จ่ากอบ
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #234 เมื่อ: วันที่ 30 กันยายน 2015, 16:35:33 น. »
 :thank1:

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #235 เมื่อ: วันที่ 2 ตุลาคม 2015, 07:21:32 น. »
ต่อจากมิกซ์ คงเป็น Active Cross

แต่ผมจะขอข้ามไปคุยเรื่องของ พาวเวอร์แอมป์ + ลำโพง
ลำโพงคือ สุดปลายทางของเครื่องและเสียง
เสียงที่เปล่งออกมาจะรู้ว่าลำโพงอยู่ระดับไหน
ซึ่งคนละเรื่องกับคำว่า ถูกใจ ,  ถูกใจคนๆ เดียว กับถูกใจหลายคนๆ คนย่อมต่างกัน

เสียงจากลำโพงดี มันจะฟ้องว่า พาวเวอร์แอมป์ ดี หรือ ห่วย กับลำโพงคู่นั้น
มิใช่ว่าแอมป์ไม่ดีนะครับ เพียงแต่มันมิใช่เนื้อคู่กัน อยู่กินไม่นานต้องร้างลา
เรื่องแบบนี้ วันเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

แต่สำหรับ จิ๋ว แต่ แจ๋ว  การที่จะเลือก ไม่ยากไม่เย็นขนาดนั้นครับ
เหตุเพราะ คำว่า แจ๋ว  เราไม่เน้นเรื่องเสียงอย่างเดียว
เราเน้นทุกด้านองค์รวมของคำว่า  “Entertain”



Style  จึงเป็นที่มาของ  S  ตัวที่สาม ครับ .....

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #236 เมื่อ: วันที่ 5 ตุลาคม 2015, 07:07:21 น. »

ความแจ๋วนั้น  คือความง่ายที่สุด  และสั้นที่สุด 

แอมป์หนึ่งตัว ลำโพงหนึ่งคู่  คือความง่ายที่สุด และสั้นที่สุด
อยากหรูหราตามแฟชั่น ด้วยการเพิ่มลำโพงอีกหนึ่งคู่
ง่ายที่สุดคือเพิ่มแอมป์มาขับอีกตัว

อย่าได้คิดขนานลำโพงข้างละสองคู่ ด้วย แอมป์ตัวเดียว
จิ๋วแต่แจ๋ว จะไม่ทำแบบนั้น

นี่จึงเป็นที่มาของ  “Style” (เอกลักษณ์)  S ตัวที่ 3 
ระบบเสียงต้องมี สไตล์  ที่ไม่เหมือนใคร
จะไม่เหมือนใครจำต้องมีเคล็ดวิชา ครับ

มีสองคำที่เกี่ยวข้องกับลำโพง คือ คุณภาพ และ ประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพ เป็นเรื่องของความดัง 
ประสิทธิภาพสูง เช่น 100 dB  ไม่หมายความว่า  มีคุณภาพสูงตามไปด้วย
ประสิทธิภาพต่ำ เช่น 82 dB กลับเป็นลำโพงที่คุณภาพดีมากๆ

ลำโพงมีหน้าที่เปล่งเสียง
แอมป์มีหน้าที่ ขับ ขี่ ลำโพง
แอมป์จึงมีหน้าที่ ควบคุมลำโพง
และแอมป์ควบคุม ลำโพงอิมพีแด็นซ์ 8 โอห์มได้ดีที่สุด

ในยุคโบราณ เมื่อระบบเสียงต้องการความดังเพิ่มขึ้นอีก
เพิ่มลำโพงหนึ่งตัว ได้ความดังเพิ่ม 3 dB
ยุคนั้นจึงออกแบบดอกลำโพงให้มีอิมพีแด๊นซ์  16 โอห์ม เอามาขนานกัน เหลือ 8 โอห์ม

จิ๋วแต่แจ๋วจึงใช้ลำโพงคู่เดียว ให้ความดังครอบคลุมผู้ขม 250 คน
แต่ถ้าสถานที่ไม่อำนวย มุมกระจายเสียงด้วยลำโพงคู่เดียวไม่สามารถทำได้
จำเป็นต้องมีอีกหนึ่งคู่มาช่วย เพื่อยิงเสียงให้มุมกว้างขึ้น
มันจึงเป็นที่มาของลำโพงข้างละสองตู้   
มีไว้เพื่อแก้ปัญหา  มิใช่เป็นแฟชั่น

ออฟไลน์ sknsomkiet

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 291
  • HL#7C1232B0
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #237 เมื่อ: วันที่ 5 ตุลาคม 2015, 18:39:21 น. »
มาถึงเรื่องนี้ขอยกมือถามครับ  :thank1:
ผมมี 8 Ohm Lound Speaker 1 คู่ ซึ่งมี rated power ดังต่อไปนี้
Continuous 400W
Prgram      800W
Peak        1600W
ผมจะใช้ Power Amp ตัวไหนจึงเหมาะที่สุดครับ
1. 8 Ohm Dual 650W
2. 8 Ohm Dual 800W
2. 8 Ohm Dual 850W
3. 8 Ohm Dual 1200W
4. 8 Ohm Dual 1600W

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #238 เมื่อ: วันที่ 5 ตุลาคม 2015, 19:42:36 น. »
มาถึงเรื่องนี้ขอยกมือถามครับ  :thank1:
ผมมี 8 Ohm Lound Speaker 1 คู่ ซึ่งมี rated power ดังต่อไปนี้
Continuous 400W
Prgram      800W
Peak        1600W
ผมจะใช้ Power Amp ตัวไหนจึงเหมาะที่สุดครับ
1. 8 Ohm Dual 650W
2. 8 Ohm Dual 800W
2. 8 Ohm Dual 850W
3. 8 Ohm Dual 1200W
4. 8 Ohm Dual 1600W

ระหว่างรอป๋า   ผมมาตอบให้ก่อนจะได้ไม่เหงา

ตัวใหนก็ได้  ใช้ได้ทุกตัวเอาเท่าที่ชอบ

รถสปอร์ตแรงม้าสูงไม่จำเป็นต้องวิ่งเร็วตลอดเวลา ขับช้ากินลมบ้างก็ได้

เช่นกัน รถซิตี้คาร์ก็ไม่จำเป็นต้องขับแค่ 80 วันใหนรีบเหยียบบ้างก็ได้

แต่ไม่ได้หมายความว่าเอามาแข่งกันบนสนามแข่งเพราะรถเล็กยังไงก็สู้สปอร์ตไม่ได้   แต่ถ้าวิ่งถนนกรุงเทพก็น่าคิด

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #239 เมื่อ: วันที่ 6 ตุลาคม 2015, 06:55:29 น. »

ขอขอบพระคุณน้านพ ที่ช่วยตอบครับ

คำถามแบบนี้แหละที่ผมกลัวที่สุด  คือผมตอบไม่ได้จริงๆ 
เคยศึกษาและหาอ่านเอาความรู้เพื่อทำความเข้าใจมาบ้างเหมือนกัน
แต่แล้วก็ยังไม่สามารถเข้าใจ

เพิ่งมาเห็นแสงสว่างปลายอุโมง เมื่อเห็นน้านพตอบนี่แหละ

ผมเล่นเครื่องบ้าน เน้นฟังเพลง  ไม่เคยสนใจเรื่อง วัตต์ลำโพง
ที่ไม่สนใจ  เพราะผมไม่เชื่อตัวเลขประเภทนี้นะครับ
และแอมป์ที่ใช้ทุกวันนี้ ที่ขับลำโพงแล้วฟังถูกใจ กำลังข้างละ 5 วัตต์เอง
มันชื่อว่า  Amp Camp Amp  ทำเองกะมือ 
ทำตามแบบที่นายเนลสัน พาส  เผยแพร่ให้นัก DIY ทั่วโลกเล่นกัน
และมันขับดอก เจบีแอล 2226 สนั่นลั่นบ้าน
ฟังดูดีกว่า  Crown SX700 ที่ทั้งหยาบและแห้งแล้งเหมือนอยู่ในทะเลทราย

ตอบได้แค่นี้ครับ  ตอบมากกว่านี้ เดี๋ยวคนขายแอมป์ ขายลำโพง ค้อนเอา


ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #240 เมื่อ: วันที่ 6 ตุลาคม 2015, 07:00:43 น. »


ธรรมชาติ เที่ยงตรงกว่าท่านเปาบุ้นจิ้นฉันใด
การเล่นเครื่องเสียงแล้วถูกเครื่องฯ มันเล่นเอาอย่างปวดเจ็บก็ฉันเดียวกัน

ลำโพงซึ่งเป็นที่รักของหลายท่าน ทว่าลำโพงมันไม่เคยรักเจ้าของเลย
เลี้ยงไม่เชื่อง  หรือถ้าเป็นแมว ถือว่าเป็นแมวให้โทษมากกว่าให้คุณ
เป็นเสมือนหนึ่งม้าพยศ  กว่าจะทำความเข้าใจจนม้าพยศยอมให้เจ้าของขี่
ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคย โบราณเรียก  วัวเคยขา ม้าเคยขี่

น่าเสียดาย ที่เราครอบครองลำโพงหลายต่อหลายคู่
ออกงานทีตั้งลำโพงโชว์ความอลังการ
แต่พอเปิดฟังเสียงแล้ว “จิตตก” ลำโพงราคาห้าหมื่น เสียงออกมาไม่ถึงห้าพัน
แถมงานยังไม่เสร็จ ลำโพงไหม้บ้าง  ว๊อยซ์ขาดบ้าง
อย่างนี้เรียกว่า ลำโพงให้โทษ ได้หรือเปล่า.....

ออฟไลน์ ครูไทยมิวสิค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 427
  • 5F65A465(เสีย),9EE23AE5(หาย) 7E8D2877 ป๊อก
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #241 เมื่อ: วันที่ 7 ตุลาคม 2015, 08:22:39 น. »
รายงานตัวครับ ตอนนี้สายที่ท่านลุงมะละกอ แนะนำเรียบร้อยแล้ว พร้อมงาน ทดสอบก่อนออกงานจริง (9 ต.ค.) ผมขอเรียนถามท่านลุงหน่อยครับ เกี่ยวกับการตัดความถี่ที่ตอบสนองย่านความ ระหว่าง เช่น LOW ต่ำสุดที่ 40  Hz    Mid-High ไม่เกิน 140  HZ (สองทาง) ประมาณนี้ หรืออยู่ที่ตู้ลำโพงและพื้นที่การใช้งาน  :thank1:

ออฟไลน์ โฮลมาน

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 433
  • HL#6C893604 ลุงกานต์
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #242 เมื่อ: วันที่ 7 ตุลาคม 2015, 09:06:20 น. »
ขออนุญาตสงสัยอีกแล้วครับท่าน ลำโพงยี่ห้อเดียวกันทำถึงมีหลายรุ่นหลายราคามันเลือกไม่ถูกนะครับ บริษัทเดียวๆทำผลิตมาหลายยี่ห้อๆ :cry: :cheer: :beer: :cheer1: :thank1:

ออฟไลน์ เหน่ง หนองมน

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4456
  • HL- 555A571E
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #243 เมื่อ: วันที่ 7 ตุลาคม 2015, 09:35:07 น. »
รายงานตัวครับ ตอนนี้สายที่ท่านลุงมะละกอ แนะนำเรียบร้อยแล้ว พร้อมงาน ทดสอบก่อนออกงานจริง (9 ต.ค.) ผมขอเรียนถามท่านลุงหน่อยครับ เกี่ยวกับการตัดความถี่ที่ตอบสนองย่านความ ระหว่าง เช่น LOW ต่ำสุดที่ 40  Hz    Mid-High ไม่เกิน 140  HZ (สองทาง) ประมาณนี้ หรืออยู่ที่ตู้ลำโพงและพื้นที่การใช้งาน  :thank1:

ครูหมายถึงค่าความถี่ในครอสดิจิตอล หรือ อนาลอคครับ

ออฟไลน์ เหน่ง หนองมน

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4456
  • HL- 555A571E
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #244 เมื่อ: วันที่ 7 ตุลาคม 2015, 09:36:18 น. »
ขออนุญาตสงสัยอีกแล้วครับท่าน ลำโพงยี่ห้อเดียวกันทำถึงมีหลายรุ่นหลายราคามันเลือกไม่ถูกนะครับ บริษัทเดียวๆทำผลิตมาหลายยี่ห้อๆ :cry: :cheer: :beer: :cheer1: :thank1:

ราคาเป็นตัวตอบโจทย์สเปค ครับครู

ออฟไลน์ ครูไทยมิวสิค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 427
  • 5F65A465(เสีย),9EE23AE5(หาย) 7E8D2877 ป๊อก
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #245 เมื่อ: วันที่ 7 ตุลาคม 2015, 10:58:30 น. »
ครูหมายถึงค่าความถี่ในครอสดิจิตอล หรือ อนาลอคครับ
ครอสดิจิตอล ครับ แน่ะนำด้วยครับ  :thank1:

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #246 เมื่อ: วันที่ 7 ตุลาคม 2015, 12:16:38 น. »
ขออนุญาตสงสัยอีกแล้วครับท่าน ลำโพงยี่ห้อเดียวกันทำถึงมีหลายรุ่นหลายราคามันเลือกไม่ถูกนะครับ บริษัทเดียวๆทำผลิตมาหลายยี่ห้อๆ :cry: :cheer: :beer: :cheer1: :thank1:


เป็นเรื่องทางการตลาดครับ 
โดยทั่วไป ผู้ผลิต จะผลิตรุ่นเรือธง แพงมาก ดีเยี่ยม วางตลาด
จากนั้นผลิตรุ่น คอมเมอร์เชียล ออกขายทั่วโลก โดยตั้งราคาที่จุดหนึ่ง
เมื่อมีการแข่งขันสูง  ราคาที่เคยตั้งไว้ มันลดไม่ได้ เดี๋ยวเสียภาพพจน์ และเสีย Positioning การตลาดครับ
จำต้องออกอีกรุ่น  ราคาถูกลง  แข่งกัน

ดู เบียร์สิงห์ นะครับ  ช่วงหนึ่ง ยอดขายตกเพราะกลยุทธทางการตลาดของเบียร์ช้าง
บุญรอดต้องออก  เบียร์ลีโอ มาสู้ราคา

เส้นทางเดินของลำโพง ก็คล้ายๆ กันกับ  รถโตโยต้า  ที่มีหลายรุ่นนั่นแหละครับ
จะใช้ขนของก็ซื้อ ไฮลักซ์  วิ่งในเมืองซิตี้คาร์ ซื้อคันเล็ก  ออกต่างจังหวัด ซื้อรถตู้  นั่งให้โก้ก็ เลกซัสไปโน่น

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #247 เมื่อ: วันที่ 7 ตุลาคม 2015, 12:24:53 น. »
รายงานตัวครับ ตอนนี้สายที่ท่านลุงมะละกอ แนะนำเรียบร้อยแล้ว พร้อมงาน ทดสอบก่อนออกงานจริง (9 ต.ค.) ผมขอเรียนถามท่านลุงหน่อยครับ เกี่ยวกับการตัดความถี่ที่ตอบสนองย่านความ ระหว่าง เช่น LOW ต่ำสุดที่ 40  Hz    Mid-High ไม่เกิน 140  HZ (สองทาง) ประมาณนี้ หรืออยู่ที่ตู้ลำโพงและพื้นที่การใช้งาน  :thank1:


ระหว่าง  70 - 120 Hz เท่านั้น  
เลือกที่เสียงเบสออกตามที่ใจชอบ จุดฟังทดสอบห่างจากตู้ลำโพง ประมาณ  15 - 20 เมตรนะครับ

ถามว่า  ทำไมต้องฟังที่  15  เมตรขึ้นครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 7 ตุลาคม 2015, 12:32:27 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ เหน่ง หนองมน

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4456
  • HL- 555A571E
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #248 เมื่อ: วันที่ 7 ตุลาคม 2015, 18:43:25 น. »

ดูในภาพ จุดเริ่มย่านโลวผมตัดที่ 31.5 Hz  เอาภาษาบ้านๆนะครับ จุดนี้คือเราจะเริ่มตัดความถี่ย่านที่ต่ำสุด ตามสเปคดอกและตู้ของเรา



ย่านLP FREQ  ผมจะตัดที่94.2Hz คือตู้ซัพที่ผมใช้คือ b1000 รับความถี่ได้ตั้งแต่30Hz-250Hz



มาดูย่านแหลม ผมเริ่มตัดครอสที่94 Hz ผมเล่นสองทางผมจะตัดความถี่ของย่านโลว์กับมิดไฮ ให้ค่อมกันนิดหน่อยเพื่อไม่ให้เสียงดนตรีบางย่านมันขาดหายไป



มาดูย่านปลายแหลมผมปล่อยมาที่ 20kHz คือค่าสูงสุดที่หูเราสามารถได้ยิน บางทีตู้ดอกเนตเวอค เราอาจจะไม่สามารถซัพพอรทเสียงได้ถึงก็ตามครับ


 Sub b1000
Mid/hi ajt121

บางสิ่งที่ผมอธิบายไปอาจจะถูกบ้างผิดบ้างก็ขออภัย แต่ผมใช้งานจริงๆ ถ้าไม่เชื่อ 23-24 มาชมครับ


Sent from my iPad using Tapatalk

ออฟไลน์ เหน่ง หนองมน

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4456
  • HL- 555A571E
Re: โมเครื่องบ้าน ออกรับงานดนตรี
« ตอบกลับ #249 เมื่อ: วันที่ 7 ตุลาคม 2015, 19:06:19 น. »
ขออนุญาตนำบทความที่ผมเขียนไว้ที่เวปเพื่อนบ้าน มาลงให้อ่านกันเพลิน ๆ นะครับ  หากมีสิ่งใดผิดพลาดหรือหากว่ามีสิ่งใดขาดตกบกพร่องก็ต้องขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อน เพราะเป็นเรื่องที่ผมเขียนขึ้นมาจากประสบการณ์ล้วน ๆ ครับ



วันนี้ผมจะมาคุยกับเพื่อนสมาชิกในหัวข้อเรื่อง " วิธีการตัดความถี่จากครอสให้กับตู้ลำโพงแต่ละย่าน (เบื้องต้น) "

ทำไมถึงมีวงเล็บว่า เบื้องต้น  ทั้งนี้เป็นเพราะว่าตู้ลำโพงที่เราใช้งานกันอยู่นั้น มีหลากหลายสูตร หลากหลายยี่ห้อ ทำให้การเลือกตัดความถี่จากครอส ไปยังตู้ลำโพงแต่ละตัวนั้นผิดแผก แตกต่างกันไปในรายละเอียด  แต่ในเบื้องต้นนั้น ใกล้เคียงกันมาก จึงจะขอพูดคุยกันถึงวิธีการเบื้องต้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการทำงานก่อน  ส่วนในรายละเอียดนั้น ท่านต้องไปทำการปรับให้เข้ากับตู้ลำโพงที่ท่านใช้งานอีกครั้งหนึ่ง

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ความถี่เสียงที่หูมนุษย์ สามารถตอบสนองได้นั้นเริ่มตั้งแต่ 20Hz ไปจนกระทั่ง20kHz และยังตอบสนองต่อความถี่ต่างๆ ได้ดีไม่เท่ากันอีกด้วย 

เรามาดูภาพประกอบกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น


ขออนุญาตยกบทความจากเวปไซด์เครื่องเสียงรถยนต์ (emotioncar.com) มาตอนหนึ่งเพื่ออธิบายรูปด้านบน
(กินแรงชาวบ้าน) แต่ขออนุญาตแก้ไขบางประโยค เพื่อให้เข้ากับเครื่องเสียงกลางแจ้งที่เรากำลังคุยถึงกันอยู่


ช่วงการตอบสนองความถี่หากแบ่งคร่าวๆ จะแบ่งออกได้เป็น 4 ช่วง   แต่กราฟนี้จะแยกให้ละเอียดขึ้นไปอีก โดยแบ่งออกเป็น 8 ช่วงความถี่ดังนี้

ช่วงที่ 1 เรียกว่าย่านเบสลึก ประมาณ 20-40 ช่วงนี้จะไม่ได้ยิน แต่จะได้ความรู้สึก แบบว่าสิ่งของรอบข้างสั่นสะท้าน

ช่วงที่ 2 เรียกว่าย่านพลังเบสแล้วกัน ประมาณ 40-100 ช่วงนี้จะเป็นช่วงเสียงเบสที่มีความรู้สึกกระแทกๆ เช่น เสียงกลองจากใบที่ใหญ่ที่สุด ที่ใช้เท้าเหยียบ เสียงกระแทกจุกอกก็ช่วงนี้แหละครับ

ช่วงที่ 3 เรียกว่าย่านเบสปกติ ประมาณ 100-200 เช่นพวกกีต้าร์เบสเส้นกลางๆ (ถ้าเป็นสายเส้นใหญ่ อาจจะลงไปถึงช่วงพลังเบส หรือปลายๆเบสลึกได้เลย)  ถ้าช่วงนี้ขาดไปแบบว่าน้อยไป เราก็จะรู้สึกว่าขาดเสียงเบส แต่ถ้ามากเกินไป ก็จะทำให้เสียงโดยรวมฟังดูทึบๆได้ ที่เราฟังเพลงแล้วบอกว่าเสียงกลางน้อยไป จริงๆอาจจะไม่ใช่นะ
ครับ อาจจะเป็นที่ช่วงนี้มากเกินไป แล้วไปกลบเสียงกลาง

ช่วงที่ 4 เรียกว่าย่านเนื้อเสียงแล้วกัน ประมาณ 200-800 ย่านนี้จะครอบคลุมถึงเสียงร้องย่านต่ำๆ เช่นเสียงผู้ชายต่ำๆ ถ้าช่วงนี้มีมากกำลังดี จะช่วยเรื่องความอุ่นของเสียง Warmth sound ถ้ามากไปเสียงรวมๆก็จะไม่เคลียร์เท่าที่ควร ถ้าน้อยไปก็จะขาดเนื้อเสียง

ช่วงที่ 5 เรียกว่าย่านเสียงกลางหลักแล้วกัน ประมาณ 800-2,000 ย่านนี้มีเครื่องดนตรีหลายชนิด รวมไปถึงเสียงร้องหลักๆ ถ้าขาดย่านนี้ไป เสียงจะเบาบาง บี้แบน แต่ถ้ามากเกินไป มันจะดังหนวกหู

ช่วงที่ 6 เรียกว่าย่านเสียงกลางสูงแล้วกัน ประมาณ 2,000-5,000 ย่านนี้จะมีเสียงเครื่องเป่า พวกกีต้าร์สายเส้นเล็ก ถ้าย่านนี้มากเกินไป ฟังนานๆหูจะล้า แต่ถ้ามากเกินไปเยอะจะแสบหูเลย

ช่วงที่ 7 เรียกว่าย่านเสียงแหลม ประมาณ 5,000-10,000 ย่านนี้ผมเรียกว่าย่านเนื้อเสียงแหลมแล้วกัน เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเคาะทองเหลืองทั้งหลาย ถ้าช่วงนี้หายไป เสียงจะดูทึบๆ แต่ถ้ามากเกินไปเสียงเครื่องเคาะประเภทนี้จะฟังดูพุ่งเกินจริง

ช่วงที่ 8 เรียกกว่าย่านปลายแหลม ประมาณ 10,000-20,000 ย่านนี้จะมีเสียงฉาบอยู่ด้วย แล้วจริงๆย่านนี้จะไม่ค่อยมีเสียงหลักของเครื่องดนตรีอะไร แต่ว่ามันจะเป็นลักษณะของบรรยากาศมากกว่า ถ้าขาดย่านนี้ไป อาจจะฟังดูเสียงเครื่องดนตรีครบอยู่ ฟังดูเผินๆอาจจะเหมือนย่านนี้ไม่สำคัญ แต่จริงๆ แล้วมีสำคัญไม่น้อยเลย ถ้าขาดย่านนี้ เสียงจะไม่มีความไพเราะ ขาดบรรยากาศที่น่าฟัง

เมื่อเรามาพิจารณาถึงย่านเสียงที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว  หากเราสามารถจัดระบบเสียงของเราให้ย่อยออกได้ถึง 8 ย่าน ก็จะได้สามารถปรับแต่งให้เสียงออกมาได้น่าฟัง และใกล้เคียงกับเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงมากที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราคงไม่สามารถจัดระบบเสียงของเราให้แบ่งย่อยออกได้ถึง 8 ย่านความถี่แน่ ๆ  ซึ่งระบบเสียงที่นิยมใช้งานกันมากที่สุดในวงการเครื่องเสียงกลางแจ้ง ก็คงหนีไม่พ้นระบบ 2 ทางและ ระบบ 3 ทาง แบบที่เพื่อน ๆ สมาชิกใช้กันอยู่ตอนนี้

เราจะทำการจัดแบ่งความถี่ทั้ง 8 ย่าน เสียใหม่ ให้เหลือเพียง 2 ย่าน หรือ 3 ย่าน ตามระบบเสียงของเรากันอย่างไรดี ?  โดยคร่าว ๆ ที่รับรู้กันก็คือ

- ย่านเสียงต่ำ  Low Range
- ย่านเสียงกลาง  Mid Range
- ย่านเสียงสูง  High Range

แต่คำถามคือ แล้วเราจะตัดแบ่งความถี่ในแต่ละย่านให้เหมาะสมกับตู้ลำโพงในระบบของเราได้อย่างไร ?  ถ้าตอบกันแบบกำปั้นทุบดินก็คือ ดูจากสเปคของดอกลำโพงที่เราใช้ในแต่ละย่านเป็นหลัก



เครดิต ก๊อบเฮียแซมมาครับ :thank1: