eXtreme Karaoke
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: สำราญมิวสิค ที่ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2013, 00:09:23 น.
-
;D พาวเวอร์แอม 1000 W (RMS) ต่อข้างที่8โอม ควรใช้ดอก18นิ้วกี่วัตว์ถึงจะแมคกันได้ดี โดยที่ไม่หนักเครื่องเกินไป และ ไม่น้อยเกินไป :thank1:
-
ดอก 500 w เป๊ะ..พอดีเลย...จะให้ดีขับดอก 15 นิ้ว 500 w...หาดอกค่า SPL สูงๆ หน่อย แจ่ม อิ อิ ;D ;D ;D
ขอบคุณครับน้าไท ที่ให้ความรู้ สงสัยเรื่องนี้มานาน จัดหาไม่เคยลงตัวจักที
บางครั้งดอกขาดบ้าง บางครั้งเครื่องดันไม่ไหวบ้าง โอย.. ไม่เคยพอดี ยอมรับตัวเองว่า อ่อนประสบการณ์ครับ
ท่านใด มีแนะนำอีกขอชี้นำด้วยครับ กำลังจะจัดซื้อ :thank1:
-
หน้าจะดูที่amp ด้วย ว่ารับโหลดได้ กี่โอมห์ ถ้ารับได้ 4 ก็ไม่หน้าต่อ 2 โอมห์มันสิทำให้ampร้อน เสียงเพี้ยน
ต้องดูว่า amp ที่ใช่ class อะไร ถ้า class A ความร้อนจะสูง กินกระแส หม้อแปลงต้องampสูง รับโหลดได้ 8-2โอมห์(2โอมห์ใช้ได้กับ มอตเฟส)ถ้าเป็นทรานซิสเตอร์ได้แค่ 4โอมห์ ถ้าความร้อนสูง คุณภาพจะลดลง เมื่อทำงานต่อเนื่อง เกิน4 ชม. ขึ้นไป ส่วนมอตเฟสไม่มีผลกับความร้อนครับ ทำงานได้ยาวนานเหมาะสมกับเสียงmidi bass กับเสียง hi สูงสุด ครับ พวกนี้ จะมี Icที่cut off 150mA load 8โอหม์
-ถ้าเป็น class AB ความร้อนจะลดลง หม้อแปลงไม่ต้องมีAmp สูง พอปานกลางแต่เสียงที่ได้ไม่ใสเปิดแรงดังดี แต่ถ้าเปิดเบาๆ(มากๆ) เสียงจะขาดๆหายๆ เหมาะสมกับเสียงกลางมากเวลาใช้งาน PA กลางแจ้ง ครับ จะมี Icที่cut off 100mA load 8โอหม์
-ส่วน class D จะใช้หม้อแปลงที่มีAmp ต่ำ ครับต้องการแต่โวตล์สูง สังเกตุภาค output จะเป็นมอตเฟส สามารถใช้กับเสียงmidi bass และ sum bass เท่านั้น ต้นฉบับของ ampตัวนี้ มาจาก hea ffects amp ขนาด1U สมัยเก่า มีขอเสียคือเผาลำโพงเล่น ขนาดไฟลุก ใช้โวลต์เป็นตัว ขับ แทน กระแส (Ic) ดังนั้นจึงมีการพัฒนา มาเป็น class D ในสมัยนี้ จะมี Icที่cut off 10mA load 8โอหม์สามารถรับ โหลด ที่2โอมห์ ได้อย่างสบาย ทีจริงแล้ว มันสามารถ รับได้ ที่1โอมห์ แต่จะมีความร้อน สูงขึ้น ทำให้เกิดความเสียหายได้ง่าย ข้อดี เล่นbass ได้สมใจในความถี่ ต่ำ ข้อเสีย นำไปใช้กับเสียงแหลม ไม่ไหว เวลาเปิดแรงๆ ใช้ได้ ต้องเปิดเบาๆครับ ถึงจะรู้ รอยต่อของเสียงครับ ว่าเสียงมันไม่ได้มีความนุ่มเลย(เสียงแหลม)ต้นฉบับ มาจากAMP รถยนต์ ใช้ขับ Sum bass ครับ ถ้าอยากรู้ ทดลองป้อนความถี่ 20Hz -20KHz ที่ input ขนาด 10mW แล้วเอาสโคบจับดู ทีภาค out put จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเลยครับ
ผิดถูกขออภัย อธิบายตามความรู้ที่เรียน มาตั้งแต่ ampหลอด ทรานซิเตอร์ มอสเฟส ampยี่ห้อดังๆที่ใช้Icขยายในปัจุบัน ครับ :thank1:
-
หน้าจะดูที่amp ด้วย ว่ารับโหลดได้ กี่โอมห์ ถ้ารับได้ 4 ก็ไม่หน้าต่อ 2 โอมห์มันสิทำให้ampร้อน เสียงเพี้ยน
ต้องดูว่า amp ที่ใช่ class อะไร ถ้า class A ความร้อนจะสูง กินกระแส หม้อแปลงต้องampสูง รับโหลดได้ 8-2โอมห์(2โอมห์ใช้ได้กับ มอตเฟส)ถ้าเป็นทรานซิสเตอร์ได้แค่ 4โอมห์ ถ้าความร้อนสูง คุณภาพจะลดลง เมื่อทำงานต่อเนื่อง เกิน4 ชม. ขึ้นไป ส่วนมอตเฟสไม่มีผลกับความร้อนครับ ทำงานได้ยาวนานเหมาะสมกับเสียงmidi bass กับเสียง hi สูงสุด ครับ พวกนี้ จะมี Icที่cut off 150mA load 8โอหม์
-ถ้าเป็น class AB ความร้อนจะลดลง หม้อแปลงไม่ต้องมีAmp สูง พอปานกลางแต่เสียงที่ได้ไม่ใสเปิดแรงดังดี แต่ถ้าเปิดเบาๆ(มากๆ) เสียงจะขาดๆหายๆ เหมาะสมกับเสียงกลางมากเวลาใช้งาน PA กลางแจ้ง ครับ จะมี Icที่cut off 100mA load 8โอหม์
-ส่วน class D จะใช้หม้อแปลงที่มีAmp ต่ำ ครับต้องการแต่โวตล์สูง สังเกตุภาค output จะเป็นมอตเฟส สามารถใช้กับเสียงmidi bass และ sum bass เท่านั้น ต้นฉบับของ ampตัวนี้ มาจาก hea ffects amp ขนาด1U สมัยเก่า มีขอเสียคือเผาลำโพงเล่น ขนาดไฟลุก ใช้โวลต์เป็นตัว ขับ แทน กระแส (Ic) ดังนั้นจึงมีการพัฒนา มาเป็น class D ในสมัยนี้ จะมี Icที่cut off 10mA load 8โอหม์สามารถรับ โหลด ที่2โอมห์ ได้อย่างสบาย ทีจริงแล้ว มันสามารถ รับได้ ที่1โอมห์ แต่จะมีความร้อน สูงขึ้น ทำให้เกิดความเสียหายได้ง่าย ข้อดี เล่นbass ได้สมใจในความถี่ ต่ำ ข้อเสีย นำไปใช้กับเสียงแหลม ไม่ไหว เวลาเปิดแรงๆ ใช้ได้ ต้องเปิดเบาๆครับ ถึงจะรู้ รอยต่อของเสียงครับ ว่าเสียงมันไม่ได้มีความนุ่มเลย(เสียงแหลม)ต้นฉบับ มาจากAMP รถยนต์ ใช้ขับ Sum bass ครับ ถ้าอยากรู้ ทดลองป้อนความถี่ 20Hz -20KHz ที่ input ขนาด 10mW แล้วเอาสโคบจับดู ทีภาค out put จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเลยครับ
ผิดถูกขออภัย อธิบายตามความรู้ที่เรียน มาตั้งแต่ ampหลอด ทรานซิเตอร์ มอสเฟส ampยี่ห้อดังๆที่ใช้Icขยายในปัจุบัน ครับ :thank1:
ความรู้เพียบ :thank1:
ตอนนี้ผมมี NPE E-5000 A ถ้าจะขับซับข้างล่ะ2 ควรใช้ดอก 18 ที่กี่วัตต์ดีครับถึงจะไม่หนักเครื่องเกินไป และน้อยไปครับ
(http://upic.me/i/6e/e_series_ii.jpg) (http://upic.me/show/43404570)
(http://upic.me/i/65/5165_1309318273.jpg) (http://upic.me/show/43404602)
(http://upic.me/i/t9/42untitled.png) (http://upic.me/show/43404577)
ส่วน C-2200 ผมใช้ขับกลางแหลมครับ
(http://upic.me/i/og/77vqi.png) (http://upic.me/show/43404571)
-
ความรู้เพียบ :thank1:
ตอนนี้ผมมี NPE E-5000 A ถ้าจะขับซับข้างล่ะ2 ควรใช้ดอก 18 ที่กี่วัตต์ดีครับถึงจะไม่หนักเครื่องเกินไป และน้อยไปครับ
(http://upic.me/i/6e/e_series_ii.jpg) (http://upic.me/show/43404570)
(http://upic.me/i/65/5165_1309318273.jpg) (http://upic.me/show/43404602)
(http://upic.me/i/t9/42untitled.png) (http://upic.me/show/43404577)
ส่วน C-2200 ผมใช้ขับกลางแหลมครับ
(http://upic.me/i/og/77vqi.png) (http://upic.me/show/43404571)
ขอซื้อต่อ...อิอิอิ
-
ขอซื้อต่อ...อิอิอิ
เอาไปเลย 32,000 ยังไม่ได้ออกงานเลย 555+ ;D
-
ความรู้เพียบ :thank1:
ตอนนี้ผมมี NPE E-5000 A ถ้าจะขับซับข้างล่ะ2 ควรใช้ดอก 18 ที่กี่วัตต์ดีครับถึงจะไม่หนักเครื่องเกินไป และน้อยไปครับ
(http://upic.me/i/6e/e_series_ii.jpg) (http://upic.me/show/43404570)
(http://upic.me/i/65/5165_1309318273.jpg) (http://upic.me/show/43404602)
(http://upic.me/i/t9/42untitled.png) (http://upic.me/show/43404577)
ส่วน C-2200 ผมใช้ขับกลางแหลมครับ
(http://upic.me/i/og/77vqi.png) (http://upic.me/show/43404571)
การใช้พาวเวอร์ขับซับ ต้องคำนึกถึง วัตต์ของดอกเป็นหลักครับ ไม่ควรเกิน วัตต์ที่พาวเวอร์ทำงานได้
อีกส่วนคือ "ซับ" แต่ละรุ่น แตกต่างกัน ยังหาข้อสรุปไม่ค่อยได้ครับ ต้องดูตู้ซับที่ ไม่กินวัตต์ด้วย สำหรับพาวเวอร์ที่สำราญมี...ม่ายงั้น ก้อไม่อิ่มครับ
ยกตัวอย่าง ผมใช้
MAIN POWER TRANSISTOR BIPOLAR 1500 W 1 U SERES
Maximun Power 450W + 450W RMS /8 Ohms
750 W + 750 W RMS /4 Ohms
Bridge mono900Wrms/4 Ohms
...ขับซับสูตร สิงห์คะนองนาเต็มสูตร ต่อเอง + ดอกชาเลนเจอร์ 650el ต้องบริจเท่านั้นครับ ถึงจะอิ่ม
ส่วน ขับซับสูตรเทอร์โบ + ดอกชาเลนเจอร์ 650el เสียงออกไม่ดีเอาเลย...
ให้เห็นความแตกต่างระหว่างสูตรตู้ซับครับ
-
การใช้พาวเวอร์ขับซับ ต้องคำนึกถึง วัตต์ของดอกเป็นหลักครับ ไม่ควรเกิน วัตต์ที่พาวเวอร์ทำงานได้
อีกส่วนคือ "ซับ" แต่ละรุ่น แตกต่างกัน ยังหาข้อสรุปไม่ค่อยได้ครับ ต้องดูตู้ซับที่ ไม่กินวัตต์ด้วย สำหรับพาวเวอร์ที่สำราญมี...ม่ายงั้น ก้อไม่อิ่มครับ
ยกตัวอย่าง ผมใช้
MAIN POWER TRANSISTOR BIPOLAR 1500 W 1 U SERES
Maximun Power 450W + 450W RMS /8 Ohms
750 W + 750 W RMS /4 Ohms
Bridge mono900Wrms/4 Ohms
...ขับซับสูตร สิงห์คะนองนาเต็มสูตร ต่อเอง + ดอกชาเลนเจอร์ 650el ต้องบริจเท่านั้นครับ ถึงจะอิ่ม
ส่วน ขับซับสูตรเทอร์โบ + ดอกชาเลนเจอร์ 650el เสียงออกไม่ดีเอาเลย...
ให้เห็นความแตกต่างระหว่างสูตรตู้ซับครับ
ได้อีกความรู้ ขอบคุณเอกครับ :beer:
ตอนนี้ผมกำลังต่อสูตร AJ อยู่รุ่นหนึ่งครับ (ทำมาจะเดือนแล้วยังไม่เสร็จจักที)และได้ลองเสียงด้วย ชาเรน 650 เสียงอิ่มดี ผมลองเดินออกห่างจากตู้
เสียงของกระเดื่องและเบสก็ยังคุมอยู่ ผมลองฟังตู้แบบต่างมามาก พอเจอสูตรนี้ชอบเลย ทั้งขนาดและน้ำเสียง พอใช้ได้ คอนเฟริม :th1:
อยากจะอัดเสียงขึ้นอีก ผมกลัวน้องชาเลนจะร่วง เหมือนกับAUDIO DEVICES 800 Wอีก เลยว่าจะใช้ 2242 1000W หรือ 1200W ดู จะไหวมั๊ยหน่อออ :hap3:
(http://upic.me/i/17/2013-02-2214.12.41.jpg) (http://upic.me/show/43405249)
-
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าในเรื่องของตัวเลขสเปคของทั้งพาวเวอร์แอมป์ และ ลำโพงซะก่อน จึงจะเกิดความเข้าใจตรงกัน เริ่มจากตู้
หรือ ดอกลำโพงกันก่อน
ค่าตัวเลขของสเปคตู้หรือดอกลำโพงที่เรามักจะพบเห็นผู้ผลิตแสดงไว้อยู่เสมอ และจะต้องทำความเข้าใจมีอยู่ด้วยกันดังนี้
1. Watts
เป็นค่าที่บอกว่าตู้ลำโพง หรือดอกลำโพงนั้นรองรับกำลังขับจากพาวเวอร์แอมป์ได้เท่าไหร่ ? ไม่ได้หมายถึงว่า Watts เยอะจะต้องดังมากกว่า
Watts น้อยเสมอไปนะครับ ค่า Watts ในที่นี้ยังแบ่งย่อยออกเป็น
- Wrms เป็นค่าที่ได้จากการทดสอบด้วยการป้อนกำลังขับแบบต่อเนื่องด้วยสัญญาณ Sine Wave ต่อเนื่องติดต่อกันตามเวลาที่กำหนดโดยที่
ตู้หรือ ดอกลำโพงไม่เกิดความเสียหาย
- W program มากกว่า Wrms หนึ่งเท่าตัว ใช้เพื่อเป็นตัวเลขอ้างอิงในการกำหนดค่าพารามิเตอร์ในระบบเสียง(เสียงร้อง เสียงดนตรี) ซึ่ง
แอมปิจูดของสัญญาณไม่ต่อเนื่อง
- Wpeak (Max.) มากกว่า W program อีกหนึ่งเท่าตัว เป็นค่า Max. ที่ตู้หรือดอกลำโพงสามารถรองรับได้ อาจจะเพียงไม่กี่วินาที เท่านั้น ขึ้นอยู่กับ
คุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำดอกลำโพง
ดังนั้นเราต้องดูให้แน่ใจว่าตัวเลขที่แสดงหรือ ที่พิมพ์ไว้ที่ดอกลำโพงนั้นเป็นตัวเลข Watts ตัวไนกันแน่
2. dB SPL
เป็นค่าที่ใช้แสดงความดังของตู้หรือดอกลำโพง ซึ่งจะมีรูปแบบการเขียนเช่น
- SPL xxdB 1W / 1m หรือ Sensitivity xxdB 1W / 1m
- Max. Peak SPL xxxdB
เพื่อความเข้าใจที่ง่ายยิ่งขึ้น ขอยกตัวอย่างสเปคดอกหรือตู้ลำโพง เช่น
2.1 Power : 300Wrms / 1200W Peak
2.2 Sensitivity SPL : 98dB 1W/1m
2.1 หมายความว่าตู้ลำโพงใบนี้รองรับกำลังขับได้ 300W แบบต่อเนื่อง และได้สูงสุด (เพียงชั่วครั้งชั่วคราว) ได้ 1200W
2.2 หมายความว่าเมื่อเราขับตู้ลำโพงใบนี้ด้วยกำลังขับจากแอมป์ 1W ตู้จะให้เสียงออกมาได้ดัง 98dB ที่ระยะห่างจากตู้ 1 ม.
ถามว่าแล้วดอกหรือตู้ใบนี้จะดังได้เต็มที่แค่ไหน?
ก็ใช้สูตรคำนวณได้ดังนี้
SPL rms = (10*(log RMS power)) + 1W/1m rating = (10* (log300))+98 = 122.77dB
SPL Peak = (10*(log Peak power)) + 1W/1m rating = (10* (log1200))+98 = 128.79dB
ถามว่าเมื่อเรารู้สเปคของตู้หรือดอกลำโพงที่จะใช้งานแล้ว ในการพิจารณาเลือกพาวเวอร์แอมป์ให้เหมาะกับตู้ หรือ ดอกลำโพง
ควรจะเป็นเช่นไร?
ในงานดนตรี ซึ่งแอมปิจูดหรือความแรงของสัญญาณไม่คงที่ตลอดเวลา ดอกลำโพงสามารถรับกำลังขับได้ถึงสองเท่าตัวของ Wrms
ซึ่งก็คือ W program ได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่เกิดความเสียหาย (ถ้าผู้ขายไม่บิดเบือนตัวเลขเพื่อผลทางการค้านะครับ) ดังนั้นในการ
เลือกพาวเวอร์แอมป์จึงควรจะให้มีกำลังขับเท่ากับ Watts program หรืออย่างน้อย ก็ไม่น้อยกว่า Watts rms ของตู้หรือดอกลำโพง
ที่เราต้องการใช้งานครับ ขึ้นอยู่กับว่าท่านต้องการรีดความสามารถของดอกหรือตู้ลำโพงออกมาแค่ไหน?
หวังว่าน่าจะพอใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการพิจารณาเลือกซื้อ เลือกหา พาวเวอร์แอมป์มาใช้คู่กับตู้ลำโพงของท่านกันนะครับ
:love2: :love2: :love2:
-
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าในเรื่องของตัวเลขสเปคของทั้งพาวเวอร์แอมป์ และ ลำโพงซะก่อน จึงจะเกิดความเข้าใจตรงกัน เริ่มจากตู้
หรือ ดอกลำโพงกันก่อน
ค่าตัวเลขของสเปคตู้หรือดอกลำโพงที่เรามักจะพบเห็นผู้ผลิตแสดงไว้อยู่เสมอ และจะต้องทำความเข้าใจมีอยู่ด้วยกันดังนี้
1. Watts
เป็นค่าที่บอกว่าตู้ลำโพง หรือดอกลำโพงนั้นรองรับกำลังขับจากพาวเวอร์แอมป์ได้เท่าไหร่ ? ไม่ได้หมายถึงว่า Watts เยอะจะต้องดังมากกว่า
Watts น้อยเสมอไปนะครับ ค่า Watts ในที่นี้ยังแบ่งย่อยออกเป็น
- Wrms เป็นค่าที่ได้จากการทดสอบด้วยการป้อนกำลังขับแบบต่อเนื่องด้วยสัญญาณ Sine Wave ต่อเนื่องติดต่อกันตามเวลาที่กำหนดโดยที่
ตู้หรือ ดอกลำโพงไม่เกิดความเสียหาย
- W program มากกว่า Wrms หนึ่งเท่าตัว ใช้เพื่อเป็นตัวเลขอ้างอิงในการกำหนดค่าพารามิเตอร์ในระบบเสียง(เสียงร้อง เสียงดนตรี) ซึ่ง
แอมปิจูดของสัญญาณไม่ต่อเนื่อง
- Wpeak (Max.) มากกว่า W program อีกหนึ่งเท่าตัว เป็นค่า Max. ที่ตู้หรือดอกลำโพงสามารถรองรับได้ อาจจะเพียงไม่กี่วินาที เท่านั้น ขึ้นอยู่กับ
คุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำดอกลำโพง
ดังนั้นเราต้องดูให้แน่ใจว่าตัวเลขที่แสดงหรือ ที่พิมพ์ไว้ที่ดอกลำโพงนั้นเป็นตัวเลข Watts ตัวไนกันแน่
2. dB SPL
เป็นค่าที่ใช้แสดงความดังของตู้หรือดอกลำโพง ซึ่งจะมีรูปแบบการเขียนเช่น
- SPL xxdB 1W / 1m หรือ Sensitivity xxdB 1W / 1m
- Max. Peak SPL xxxdB
เพื่อความเข้าใจที่ง่ายยิ่งขึ้น ขอยกตัวอย่างสเปคดอกหรือตู้ลำโพง เช่น
2.1 Power : 300Wrms / 1200W Peak
2.2 Sensitivity SPL : 98dB 1W/1m
2.1 หมายความว่าตู้ลำโพงใบนี้รองรับกำลังขับได้ 300W แบบต่อเนื่อง และได้สูงสุด (เพียงชั่วครั้งชั่วคราว) ได้ 1200W
2.2 หมายความว่าเมื่อเราขับตู้ลำโพงใบนี้ด้วยกำลังขับจากแอมป์ 1W ตู้จะให้เสียงออกมาได้ดัง 98dB ที่ระยะห่างจากตู้ 1 ม.
ถามว่าแล้วดอกหรือตู้ใบนี้จะดังได้เต็มที่แค่ไหน?
ก็ใช้สูตรคำนวณได้ดังนี้
SPL rms = (10*(log RMS power)) + 1W/1m rating = (10* (log300))+98 = 122.77dB
SPL Peak = (10*(log Peak power)) + 1W/1m rating = (10* (log1200))+98 = 128.79dB
ถามว่าเมื่อเรารู้สเปคของตู้หรือดอกลำโพงที่จะใช้งานแล้ว ในการพิจารณาเลือกพาวเวอร์แอมป์ให้เหมาะกับตู้ หรือ ดอกลำโพง
ควรจะเป็นเช่นไร?
ในงานดนตรี ซึ่งแอมปิจูดหรือความแรงของสัญญาณไม่คงที่ตลอดเวลา ดอกลำโพงสามารถรับกำลังขับได้ถึงสองเท่าตัวของ Wrms
ซึ่งก็คือ W program ได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่เกิดความเสียหาย (ถ้าผู้ขายไม่บิดเบือนตัวเลขเพื่อผลทางการค้านะครับ) ดังนั้นในการ
เลือกพาวเวอร์แอมป์จึงควรจะให้มีกำลังขับเท่ากับ Watts program หรืออย่างน้อย ก็ไม่น้อยกว่า Watts rms ของตู้หรือดอกลำโพง
ที่เราต้องการใช้งานครับ ขึ้นอยู่กับว่าท่านต้องการรีดความสามารถของดอกหรือตู้ลำโพงออกมาแค่ไหน?
หวังว่าน่าจะพอใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการพิจารณาเลือกซื้อ เลือกหา พาวเวอร์แอมป์มาใช้คู่กับตู้ลำโพงของท่านกันนะครับ
:love2: :love2: :love2:
:happy: :happy: :happy: :thank1: พอเข้าใจบ้าง แต่ไม่หมด รบกวถามว่าแล้วที่ผมใช้พาวเวอร์รุ่น E-5000 A ตัวนี้ขับซับ ควรใช้ลำโพงรุ่นไหนดีครับ :thank1: :hap3:
-
:happy: :happy: :happy: :thank1: พอเข้าใจบ้าง แต่ไม่หมด รบกวถามว่าแล้วที่ผมใช้พาวเวอร์รุ่น E-5000 A ตัวนี้ขับซับ ควรใช้ลำโพงรุ่นไหนดีครับ :thank1: :hap3:
สเปคแอมป์ 1500w @ 4 ohms ท่านก็หาดอกลำโพงที่รับกำลังขับได้ 700 ~ 1000w pragram สองดอกขนานกันก็จะได้ 1400 ~ 2000w program ครับ
:love2:
-
ความรู้มากๆเลยครับ ขอบคุณครับ :thank1:
-
แอบมาเก็บข้อมูล
ส่วนใหญ่เจ้าของเครื่องเสียงจะไม่ค่อยศึกษาเรื่องพวกนี้
จะซื้อตามกระแสความนิยม หรือการบอกต่อซะเป็นส่วนใหญ่
-
แอบมาเก็บข้อมูล
ส่วนใหญ่เจ้าของเครื่องเสียงจะไม่ค่อยศึกษาเรื่องพวกนี้
จะซื้อตามกระแสความนิยม หรือการบอกต่อซะเป็นส่วนใหญ่
:thank1: :thank1: :thank1: ที่ติชม :hap5:
-
:thank1: :thank1: :thank1: ที่ติชม :hap5:
เอามาลองกะ ตู้แบนด์พาส ดอก 2242 ไหม
ถ้าสนใจก็ยกมาเลย
กำลังจะลองครอส DP266 กะจะชวนพี่บัติเอาสาริกามาลองด้วย
-
เอามาลองกะ ตู้แบนด์พาส ดอก 2242 ไหม
ถ้าสนใจก็ยกมาเลย
กำลังจะลองครอส DP266 กะจะชวนพี่บัติเอาสาริกามาลองด้วย
น่าสน แต่ลูกสาวไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวต้องไปหาหมอ :thank1:
-
น่าสน แต่ลูกสาวไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวต้องไปหาหมอ :thank1:
Xilica XP-4080 แจ่มมากขอบอก..
(http://upic.me/i/8p/xilica.jpg) (http://upic.me/show/43449958)
-
ใช้แล้วจะติด....นะครับพี่อนันต์ชัย