วันนี้ขออนุญาตมาแชร์ความคิดเห็นในเรื่อง ค่า Sensitivity ของพาวเวอร์แอมป์กันครับ
ค่า Sensitivity ของพาวเวอร์แอมป์คืออะไร ? ถ้าจะกล่าวง่าย ๆ ก็คือค่าความแรงของสัญญาณที่ส่งเข้า ภาค Input ของพาวเวอร์ แล้วทำให้แอมป์ทำงานเต็มขีดความสามารถ ก่อนสัญญาณจะถูก Clip (โดยที่เปิดวอลลุ่มหน้าแอมป์จนสุด) และมักจะกำหนดไว้ใน 2 รูปแบบที่เห็นกันได้โดยทั่ว ๆ ไป กล่าวคือ
1. กำหนดเป็นค่าความแรงของสัญญาณ Input โดยมีหน่วยเป็น Vrms
2. กำหนดเป็นอัตราการขยายสัญญาณ โดยมีหน่วยเป็น dB
ในรูปแบบที่ 1 เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะเข้าใจง่าย ซึ่งมีทั้งแบบ Fix ค่า และแบบมีสวิทช์ให้เลือกค่าที่ต้องการใช้ และค่า Vrms ที่นิยมใช้กันคือ 0.775Vrms, 1Vrms และ 1.4Vrms เป็นต้น ซึ่งเมื่อเราป้อนสัญญาณ Input เข้าแอมป์ด้วยความแรง Vrms ที่กำหนดไว้ แอมป์ตัวนั้นก็จะทำงานจนเต็มขีดความสามารถ (ก่อนสัญญาณจะถูก Clip ยอด) ซึ่งข้อเสียของการกำหนดแบบนี้คือ หากเราใช้แอมป์ต่างยี่ห้อ ต่างรุ่นกัน ถึงจะกำหนดค่าเท่ากัน แต่กำลังที่ถูกส่งต่อไปยังตู้ลำโพงจะ ไม่เท่ากัน (ยกเว้นว่ากำลังสูงสุดของแอมป์แต่ละตัวเท่ากันเป๊ะ ๆ)
สำหรับในรูปแบบที่ 2 ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันในประเทศทางแถบยุโรป จะเป็นการกำหนดอัตราการขยายสัญญาณของพาวเวอร์แอมป์ว่าให้ขยายสัญญาณแรงขึ้นกี่ dB จากความแรงสัญญาณ Input เช่น แอมป์ยี่ห้อ Lap. gruppen จะสามารถกำหนดได้ ตั้งแต่ 23, 26, 29, 32, 35, 38, 41 จนถึง 44dB ซึ่งข้อดีของการกำหนดค่าแบบนี้คือ ไม่ว่าเราจะใช้แอมป์ต่างยี่ห้อ หรือ ต่างรุ่นกัน แต่ถ้าเรากำหนดค่าอัตราขยายสัญญาณเท่ากัน กำลังที่ถูกส่งต่อไปยังตู้ลำโพงจะ เท่ากันเสมอ (ยกเว้นว่ากำลังสูงสุดของแอมป์แต่ละตัวไม่เท่ากัน เมื่อเราเร่งความแรงสัญญาณจนเกินขีดความสามารถของแอมป์ตัวที่กำลังน้อยกว่า มันก็จะทำงานต่อไม่ได้) ทีนี้เมื่อกำหนดเป็นอัตราการขยายสัญญาณ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าที่ความแรงสัญญาณเ Vrms เท่าไหร่? ที่แอมป์จะทำงานจนเต็มขีดความสามารถ
ลองสำรวจกันดูครับว่า พาวเวอร์แอมป์ที่ท่านใช้งานกันอยู่ เป็นรูปแบบไหน 1 หรือ 2 ครับ ?