ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )  (อ่าน 24339 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 16:45:56 น. »
โจทย์คำถาม  ลับ ลวง พราง ระดับมือโปรเฟซชั่นนอลนี่ไม่ธรรมดาเลย
ถ้าว่ากันตามลำดับขั้นตอนที่ป๋าว่ามานั่นแสดงว่าต้องมั่นใจในตัวลำโพง เป็นอย่างมากนะครับ
ผมว่าเสียงคงดังกว่าฟ้าผ่าเป็นแน่ๆ  มิน่าครูใหญ่อิมพอร์ตจากเมืองนอกถึงทนม่ายไหว

ผมไม่มีความรู้เรื่องกลางแจ้งมากนักแต่ถ้าโฮมยูสละก้อพอเตาะแตะไปได้ครับ
เป็นผมจะเริ่มดังนี้ครับเพราะเครื่องบ้านมันเจ๊งง่ายต้องระมัดระวังที่สุด

ข้อที่หนึ่ง    ผมจะมองหาจุดที่ตั้งลำโพงก่อน  อาจจะปรึกษาคุณครูคนสวย
และคอยแสร้งทำเป็นปรึกษาขอไอเดียตลอดเพื่อให้เกิดความคุ้นเคย
จากนั้นผมจะปล่อยให้ความคุ้นเคยแปรสภาพเป็นความไว้วางใจ....

ข้อสอง        เมื่อตั้งลำโพงเสร็จแล้วผมจะเชื่อมสายลำโพงเข้ากับแอมป์ช้าง
ซึ่งถ้าเป็นผมอีกนั่นแหละผมอาจจะเอาแอมป์เด็กๆ ซักสองสามร้อยวัตต์ไปแทน
เพราะผมส่งสปายไปสืบมาแล้วว่าหน้างานและวัตถุประสงค์เป็นอย่างไร
ต่อลำโพงกะแอมป์เสร็จ  จะรู้สึกโล่งใจเป็นที่สุด  เป็นเรื่องแรกที่ผมทำทุกครั้งครับ
จากนั้นก็เชื่อมต่อสายระบบเหมือนที่ป๋าว่ามาคะรับ

ข้อสาม  ตรวจว่าปุ่มที่เกียวกับเกน  สไลด์  วอลลุ่มทั้งหมดของทุกเครื่องในระบบ
อยู่ในตำแหน่งต่ำสุด  ก่อนที่จะเปิดสวิตช์  ON  ที่มิกเซอร์  ที่  EQ  และสุดท้ายที่พาวเวอร์แอมป์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 16:57:17 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 17:12:10 น. »
เมื่อมิกเซอร์คือตัวควบคุม (Control)  เสียงทั้งระบบ  ดังนั้นมิกซ์จึงถือว่าเป็นพระเอก
อย่างอื่นเป็นผู้ช่วย

ทีนี้เราจะเปิด  CD  ก่อนหรือหลังเซ็ทไมโครโฟน  เป็นเรื่องง่ายแล้ว
ผมชอบฟังเพลงจึงเลือกที่จะเปิดซีดีก่อนละกัน
แผ่นที่มีเพลง  18 ฝนนั่นแหละที่ผมชอบใช้เป็นซาวด์ตรวจสอบ
เพราะจังหวะจะโคนชัดเสียงร้องขึ้นสูงลงต่ำน่าประทับใจ
เอาละครับเปิดซีดีซึ่งเชื่อมสายที่ช่อง  18  ,19
มิกซ์ตัวนี้มี  PFL ด้วยยิ่งง่ายขึ้นอีก  
ผมจัดการตั้งเกนอินพุตให้ไฟสัญญาณขึ้นสูงสุดที่วียู   =  0 dB  (ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานสากลไว้ก่อน)
แต่ไม่ก่อนหน้านั้นผมจะเลื่อนสไลด์ ช่อง  18  ช่อง  19   ขึ้นไปที่  0 dB  ด้วยครับ

เมื่อได้สัญญาณที่วียู  =  0 dB  ถ้ามีมิเตอร์วัดจะได้ความแรงประมาณ  2 โวลท์  ซึ่งเป็นมาตรฐานโลก
ผมจะลดเกนลงนิดหนึ่งตีเสียว่า 1 ขีด  กันเหนียวไว้ก่อน  บ้านกะโรงเรียนอยู่ไกลกันกลัวเครื่องเจ๊งนะครับ

ผมใช้หลักของการเล่นเครื่องบ้านโดยถือว่า  มิกเซอร์คือปรีแอมป์
การปรับที่ปรีเพื่อขยายสัญญาณจาก  CD  ที่เข้ามามีความแรง  2 โวลท์มาตรฐาน
คือหมุนวอลลุ่มปรีแอมป์ไปที่บ่าย 3 โมง( 15 นาฬิกา) บวกลบเล็กน้อย

สัญญาณ  Out Put  จากมิกซ์วึ่งมีความแรงตามมาตรฐาน ซึ่งบริษัทผู้ผลิตทั่วโลกใช้กัน 
จะผ่าน  EQ  ซึ่งตอนนี้ผมจะตั้งบายพาสไว้ก่อน
เมื่อสัญญาณผ่าน  EQ  เข้าพาวเวอร์แอมป์  ผมจะเริ่มหมุนวอลลุ่มที่แอมป์จนได้ระดับความดังตามต้องการ

ซึ่งตอนนี้ผมให้สัญญาณเด็กที่ช่วยยกของเปิดไฮเนเก้นรินให้ฟองล้นแก้วมารออยู่แล้ว
เขาเรียกว่า  เชื่อขนมกินได้ก่อนเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 17:27:34 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 17:37:40 น. »
ทีนี้มาทีไมโครโฟน  ผมจะปรับให้คุณครูคนสวยตะลึงตึงๆ  
ว่าทำไมเสียงร้องเสียงพูดของตัวถึงไพเราะอย่างนี้
ไมค์ทีเตรียมมาให้เสียงเอนกประสงค์ครอบจักรวาลอยู่แล้ว
ถึงจะหลับตาข้างหนึ่งใช้มือขวามือเดียวปรับก็ได้ครับ  
เชื่อว่าทุกท่านย่อมกระจ่างอยู่แก่ใจแล้วในจุดนี้
เคล็ดไม่ลับนั้นมันจะอยู่ที่คนปรับต้องฟังสไตล์เสียงของคุณครูอนุบาลให้ออก

ในนี้  EQ  ที่มิกเซอร์จะเป็นแบบพาราเมตริก  
ตรงนี้แหละสามารถจูนเสียงคุณครูให้หวานฉ่ำสดใส
ตามสไตล์ของแก้วเสียงของครูคนสวยเขาละ

ส่วน  EQ  นอก  ที่บายพาสไว้นั้นเป็นแบบกราฟฟิค 
ปรับแต่งให้ย่านความถี่ราบเรียบ  ต้องดูอะคูสติกของห้องประกอบกันครับ
ทำได้เมื่อไหร่  ไม่มีเสียงหอนมากวนใจแน่นอน

จะปรับตัวไหนก่อนหลังอย่างไรผมไม่ขออธิบายละกัน
ถ้าอยากได้เคล็ดวิชา  ต้องหิ้วเบียร์กับแกล้มมาที่บ้านผมละครับ
หลักสูตรนี้ผมเรียนสองปี  ขอค่ายกครูนิหน่อยละกัน  แฮะ  แฮะ


ป.ล.  เปิดมิกซ์   เปิดอีคิว  เปิดแอมป์  ตามลำดับ
         หรี่วอลลุ่มแอมป์ทุกครั้งก่อนปิดแอมป์  ปิดอีคิว  เช่นกันเลื่อนสไลด์ที่มิกซ์ลงแล้วค่อยปิดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 19:15:26 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 17:59:59 น. »

เนื่องจากงานเร่งรีบให้เด็กช่วยเดินสายลำโพง
และคุณครูเองก็เกาะโต๊ะยืนดูอยู่ใกลๆ  ผมไม่อยากละโอกาสนี้ถอยห่างเดินออกไปดูว่า
้เด็กต่อสายลำโพงกลับขั้วกลับเฟสหรือเปล่า

เลยต้องใช้ปุ่มบางปุ่มที่มิกซ์นั่นแหละเป็นตัวเช็ค 
เอาหูที่ถูกฝึกมาดีแล้วฟังแป๊บเดียวก็รู้ว่า โอเคหรือไม่
เพิ่มความเชื่อถือเชื่อมั่นยกเครดิตตัวเองโชว์คุณครูเสียเลยครับ

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 18:05:47 น. »

ถ้าไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง  ผมจะถือโอกาสลาคุณครูกลับ
โดยมิลืมทิ้งท้ายว่าเย็นเลิกเรียนค่อยกลับมาขนเครื่อง
ผมรู้ว่าบ้านคุณครูไปทางเดียวกัน

จากนั้นผมตั้งจิตบนบานให้ก่อนเลิกเรียนวันนั้นฝนจงตกให้หนัก  หนักตลอดคืน

ออฟไลน์ man. united

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 122
  • 7EE1AD6E - 8F616B36 - 2317A617
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 18:37:22 น. »


ถ้าเป็นผม คงเลือกที่จะทำแบบข้อ 3 ครับ :happy: :o^: :thank1:

ออฟไลน์ sknsomkiet

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 291
  • HL#7C1232B0
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 18:55:13 น. »
ผมเลือกข้อ 5 เพื่อลดโวลุ่มแอมป์จนได้ความดังลงจนเกือบถึงความดังที่ต้องการ
จากนั้นก็เลือกข้อ 2 เพื่อลดความดัง ในช่องชาแนลอยู่ที่ประมาณ 80% ของสไลด์ แต่ได้ความดังที่ต้องการครับ

ผิดถูกอย่างไรกรุณาชี้แนะด้วยครับ  :thank1:

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 18:58:15 น. »
คำตอบที่ถูกต้องแม่นยำ  ย่อมมาจากคำถามที่ครอบคลุมคือ
ถ้าแค่ต้องการลดความดังของเสียงลง  
ทุกข้อสามารถทำได้หมด

แต่ถ้าถามต่อว่า  จะเลือกข้อไหนเพื่อที่จะทำให้ความดังลดลงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
โดยมีข้อแม้คือ  ให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดตามวัตถุประสงค์
ครานี้ต้องมาช่วยกันคิดต่อละครับ

เพราะคุณภาพของเสียงย่อมมาจากการที่  I/O  
คือ Input และ  Output  มันต้องสัมพันธ์กัน
ยิ่ง  มิกซ์  อีคิว  พาวเวอร์แอมป์  ต่างยี้ห้อ  ละก้อ
มันจะต้องทั้งลดหรือเพิ่มไปในขณะเดียวกัน  ให้สัมพันธ์กันของแต่ละข้อ
จนถึงจุดที่ลงตัวพอดี
ทำแค่  ข้อ  1 2 3 4 5  อย่างเดียวข้อเดียวคงไม่ได้ครับ

วอลลุ่มที่แอมป์  เป็นตัวควบคุมความแรงของสัญญาณเสียงจากภาคต้นคือภาคปรีหรือมิกซ์
อีกอย่างวอลลุ่มเป็นตัวกำหนดค่า  Input Impedance  ของแอมป์อีกด้วย

แอมป์ทรานซิสเตอร์จะมีอินพุตอิมพีแดนซ์ที่ต่ำกว่าแอมป์หลอดมากทีเดียวครับ

หมายเหตุ  ถ้ายังต้องการคุณภาพเสียงที่ดีนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 19:16:37 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 19:25:33 น. »
ทีนี้อย่างไรถึงจะเรียกว่า  เสียงที่มีคุณภาพดี  จะรู้ได้อย่างไร
หรือว่าเซ็ทเอาตามใจเจ้าของเครื่องเช่า  หรือลูกค้าเจ้าของงานเจ้าภาพที่จ่ายเงินให้เรา
หรือเอาตามคนแขกที่มาฟังในงาน  แขกที่คอยเดินมาชี้แนะให้ทำโน่นนี่

คำว่า PA  ย่อมาจากอะไรรู้กันอยู่แล้ว
พีเอแบ่งออกเป็น 2  อย่างคือ
งานพูดงานโฆษณาหาเสียงในที่สาธารณะ
และอีกข้อคือ ยกข้อที่หนึ่งมาด้วย  แต่ บวกกับเป็นงานแสดงดนตรีสดซึ่งรวมการร้องเพลงไปด้วย

ดังนั้นเสียงร้องเสียงดนตรีที่มีคุณภาพดี  จึงต้องเป็นเสียงที่มีความเป็นดนตรีสูง

ตอนนี้นักดนตรีต้องมาช่วยตอบละครับ  เพราะผมเป็นแค่นักฟังเพลงธรรมดา
ขืนตอบก็เหมือนเอาสไตล์ลูกทุ่งของผมเป็นที่ตั้ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 19:32:45 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 19:57:08 น. »
ถ้าเป็นการรับฟังเพลงภายในบ้านทั่วไป

ความเป็นดนตรีสูง (Musicality)  
คือมันต้องเป็นเสียงดนตรีเสียงเพลงที่ออกจากลำโพง  "ที่มีหรือให้จังหวะลีลาการถ่ายทอดที่ดี"
เสียงดังกล่าวที่ว่านี้มันไปเกี่ยวข้องกับ 3 เรื่อง  คือ

Tonal-Balance  ,  Sound Stage  และ  Dynamic

โอ้  อธิบายแต่ละข้อได้เป็นเดือนเลยนะนั่น

ออฟไลน์ J_matt

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 152
  • 7EE34230 K.กุ้ง หญ.
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 20:01:02 น. »
เป็นผม ผมเลือกข้อ 5 ครับ ปรับมาให้อยู่ 11โมง ถึงเที่ยงครับ (กับห้องขนาดนั้น) แล้วจะคอนโทรล mixer ง่ายขึ้น...ผมคิดเอาเองแบบง่ายๆน๊ะว่า ระยะทางสั้นๆ เหยียบคันเร่งซะมิดก้าน เข้าเกียร์1 ปล่อยคลัชทันที...ล้อฟรี..เหม็นไหม้...รถไม่ไปไหน...แถมถ้าศูนย์ไม่ดี..มันสะบัดซ้าย-ขวา..ควบคุมยาก...อาจเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าน๊ะครับ..ผมเคยลองกับ crown xls power กับ mixer soundcraft แบบอาจารย์ป๋าว่า เสียงย่านต่ำ หาย ย่านสูง ก็หาย ออกมาเสียงคล้ายๆเคาะกระป๋องนมเลย..55555 ปร้อง..แปร้ง...ปร้อง..แปร้ง...

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 21:07:52 น. »
สิ่งที่พี่เรต้องการสื่อ อาจไม่ใช่คำตอบที่หลายคนตอบครับ

ผมได้แนวทาง และวิธีการเป็นซาวด์เอนฯบ้านนอก มาเมื่อหลายปีก่อนจากบทความนี้ ทางเวปmadhouse

ทุกวันนี้ภาพทุกภาพ ตัวหนังสือที่อธิบายแทบทุกจุด ถูกเก็บไว้ในสมองส่วนที่ตื้นที่สุด เพื่อใช้งานได้ก่อนเป็นอันดับแรกในการทำซาวด์

ขอบคุณครูเร ซาวด์มาร์คอีกครั้งครับ


อ้อ.  ถ้าถามความเห็นผม.   ผมเลือกครูประจำชั้นครับ :love2:

ออฟไลน์ มานพ

  • ผู้ดูแลระบบ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 123094
  • 9664E44E,11D88A55,7C1132A8
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 21:35:01 น. »
ถ้าเป็นผมหล่ะทำไงดีหว่า หัดเล่นไม่นาน

1. ก่อนเปิดเครื่อง ผมคงลด Volume ของ POWER AMP มาที่ต่ำสุด
2. ปรับ slide 17,19,20,master มาที่ unity หรืออาจจะประมาณ -5
3. gian input 19,20 สำหรับผมคงหมุนไปกึ่งกลางจากนั้นลดมาประมาณ 10%
4. จากนั้นเปิด power amp ปรับ volume ไปที่ตำแหน่งที่ห้องนั้นได้ยินเสียงที่เหมาะสม
5. สำหรับ 17 ลองให้คนพูดแล้วหมุน gain จนสัญญาณคลิปขึ้น จากนั้นหมุนต่ำลงมาซัก 5-10%

ทำไม? เหตุผลเพราะผมต้องการคุณภาพของสัญญาณ input เลยเลือกปรับ gain

 :hap3:

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 21:40:17 น. »
ถ้าเป็นผมหล่ะทำไงดีหว่า หัดเล่นไม่นาน

1. ก่อนเปิดเครื่อง ผมคงลด Volume ของ POWER AMP มาที่ต่ำสุด
2. ปรับ slide 17,19,20,master มาที่ unity หรืออาจจะประมาณ -5
3. gian input 19,20 สำหรับผมคงหมุนไปกึ่งกลางจากนั้นลดมาประมาณ 10%
4. จากนั้นเปิด power amp ปรับ volume ไปที่ตำแหน่งที่ห้องนั้นได้ยินเสียงที่เหมาะสม
5. สำหรับ 17 ลองให้คนพูดแล้วหมุน gain จนสัญญาณคลิปขึ้น จากนั้นหมุนต่ำลงมาซัก 5-10%

ทำไม? เหตุผลเพราะผมต้องการคุณภาพของสัญญาณ input เลยเลือกปรับ gain

 :hap3:

วันนั้นที่อำภาพูน. ไลน์ไมค์เร่งเกนเกือบสุดยังไม่ดัง

ไม่รู้ใครไปดรอปหลังรีซีฟเวอร์ไว้ที่-6db.  แถม สายต่อจากหลังรีซีฟเวอร์ใช้แจ็คโฟนออกโฟน เข้าที่ไลน์อิน

มือซาวด์ปริมณฑล เซ็ตกันไว้แบบนั้น

ออฟไลน์ มานพ

  • ผู้ดูแลระบบ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 123094
  • 9664E44E,11D88A55,7C1132A8
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 21:45:26 น. »
สำหรับการเซ็ตนั่นไม่รู้ใครทำไว้ แต่ที่ผมเลือกใช้ TR-TR เดิมๆ ของ MIPRO เพราะผมไม่ต้องการ
ต่อ TR -> XLR แล้วไปขยายที่ MIXER อีกที

สาเหตุ MIPRO ถ้าถอดบอร์ดออกมาดูสำหรับผมถือว่าเขาชดเชยมาแล้ว  ไม่งั้นบริษัทมันทำมาตั้งแต่แรกแล้วสำหรับ XLR
ผมไม่ชอบเสียงดังแล้วรกหู ผมชอบที่มันฟังได้นานครับ
อาจจะชอบและ set ไม่เหมือนท่านอื่น  :flower:



หรือผมเข้าใจผิดครับพี่เร  ;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 21:58:18 น. โดย E22NP »

niceworld

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 21:46:35 น. »
ไม่มีใครปรับได้ถูกใจเท่าคุณครูปรับเองหรอกครับ
เสียงมิวสิคเป็นแบ็คกราวน์ ใครจะรู้ว่าต้องการแค่ไหน
ของง่ายๆ แค่นี้คุณครูลองทำได้สบาย :mad244:

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 21:49:45 น. »
สำหรับการเซ็ตนั่นไม่รู้ แต่ที่ผมเลือกใช้ TR-TR เดิมๆ ของ MIPRO เพราะผมไม่ต้องการ
ต่อ TR -> XLR แล้วไปขยายที่ MIXER อีกที

สาเหตุ MIPRO ถ้าถอดบอร์ดออกมาดูสำหรับผมถือว่าเขาชดเชยมาแล้ว ผมไม่ชอบเสียงดังแล้วรกหู ผมชอบที่มันฟังได้นานครับ
อาจจะไม่เหมือนท่านอื่น  :flower:


ผมสงสารครูภูมิแกครับ. ตะเบงเสียงร้องจนเอ็นโป่ง เสียงยังมาแผ่วๆ ทั้งที่เร่งเกนเกือบสี่โมงเย็น ;D

ไมค์โปรภาคเอ้าท์พุตมันเป็นอันบาล้านซ์ มีวงจรชดเชยและดรอปสัญญาณผมรื้อมาดูตั้งแต่วันแรกที่มันมาถึงมือ

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2013, 22:48:10 น. »
สำหรับผม ขออนุญาต ไม่set ระบบ แบบป๋าเรนะครับ

ผมจะทำตามขั้นตอนดังนี้ครับ

1. ต่ออุปกรณ์ทุกชิ้น ให้เรียบร้อย ยกเว้น สายลำโพงที่ต่อจากก้นแอมป์
2. เปิดเครื่อง CD->mixer->EQ->Power amplifier
3. เลื่อน slide master และ slide ch fader ของ CD  ไว้ที่ ระดับ U (unity)  EQ gain ที่ 0 dB ส่วน power amp ยังไม่หมุน Volume ครับ
4. เปิด CD เลือกเพลงอะไรก็ได้ ที่มีเสียงดนตรีครบทุกย่านความถี่
5. หมุน Ch gain 19-20(ของCD) หมุนจน master VU meter clip พอดี
6. สังเกต LED meter ของ EQ ถ้า clip พอดีกัน (กดป่ม bypass) ถ้ายังไม่clip ให้เพิ่ม gain จน meter ของ EQ clip
    - แต่ถ้า clip ก่อนที่ VU meter ของ mixer จะclip ให้ปรับสัญญาณที่ mixer ให้ clip ก่อน แล้วจึงลด gain ของ EQ ลงจนไฟ กระพริบ พอดีกัน
7. หมุน Volume ของ amp ตามเข็มนาฬิกา จน สัญญาณ clip กระพริบ พอดี ทั้ง 2 ch จำตำแหน่งที่ volume amp ใ้ห้ดี
8. จากนั้น ปิด CD ปิด Amp แล้วต่อสายลำโพงเข้ากับก้น amp แล้วเปิดใหม่ หมุน volume amp ไว้ที่ตำแหน่งเดิม(ที่สัญญาณ clip พอดี)
9. ทดสอบไมค์ (กด unmute ที่ ch 17) slide fader ที่ 0 dB แล้วหมุน gain ทดสอบไมค์จนได้เสียงดังพอดี

ถ้าคุณครูคนสวยบอกว่าดังไป ผมจะลด volume ของ power amp  ลงแล้วค่อยๆเร่งจนคุณครูพอใจ เหตุผลนั้นจะอธิบายในตอนต่อไปครับ

ที่ผมปรับอย่างนี้เพราะผมยึดหลัก Gain structure ครับ ใช้วิธีนี้ set up gain เพื่อ ง่ายต่อการ ปรับ เครื่องมือทั้ง Board mixer และ outboard (Gate/ compressor/Effect/EQ/Cross over/Aux monitor และอื่นๆ) ซึ่งต้องได้ gain ที่เหมาะสม โดยเฉพาะ พวก compressor/Gate สัญญาณ input ต้องได้จาก mixer หากสัญญาณมาน้อย จะทำให้ dynamic range น้อยลงด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 03:17:45 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 00:07:44 น. »
อันนี้ เป็นทฤษฎี Gain structure ครับ ซึ่งสำคัญมากสำหรับการใช้งาน sound reinforcement   ลองไปอ่านๆดู เพื่อมาปรับการใช้งานเครื่องมือเราได้ประสิทธิภาพมากขึ้น

http://www.communitypro.com/files/literature/tech%20notes/GAIN_ADV_TECH.pdf
อันนี้ guide ของ mackie  http://www.mackie.com/pdf/CMRefGuide/Tips_Ch4.pdf
http://mikeriversaudio.files.wordpress.com/2010/10/gainstructure.pdf


แต่ก่อนผมมีปัญหาเรื่องการปรับ gain ซึ่งเคยปรับแบบที่ บางท่านส่วนใหญ่ปรับกัน คือปรับ volume amplifier ให้สุด เพื่อที่จะให้ ได้ gain น้อยๆ ไมค์จะได้ไม่หอน อันนี้ผมลองแล้วหอนเหมือนเดิมครับ
ถ้า gain น้อย ทำอะไรก็ไม่ถนัด เช่น sent monitor Aux gain ก็จะน้อยตามด้วย ถ้า amp ไม่แรง เร่งAuxจนสุด ก็ไม่ดังครับ แถมหอนซ้ำอีก ทีนี้ก็ไปกด EQ ลง ยิ่งไม่เหลือ gain นักร้อง-นักดนตรี ก็ไม่ได้ยินอีก ทุกท่านเคยประสบเหล่าปัญหานี้ไหมครับ
    อันนี้เล่าประสบการณ์ที่เคยเจอมาครับ
พอใช้หลัก gain structure เข้ามาปรับ โอ้.... นักร้อง-นักดนตรีบอกว่า เสียงเกินดังไป ทั้งที่ใช้ชุด monitor ตัวเดิม เรื่อง หอน ค่อยไปปรับที่ EQ อีกที ตอน set up   

อีกเรื่องที่อาจต้องทำความเข้าใจกันใหม่ เรื่อง ปุ่ม Volume ของ Amp ครับ ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ปุ่ม volume แต่มันคือ ปุ่ม Gain sensitivity ครับ เหมือนกับ ปุ่ม gain ที่อยู่ที่ board mixer นั่นแหละ ยิ่งบิดเยอะ ความไวต่อสัญญาณก็มาก ใช้ gain จาก mixer/cross over นิดเดียวก็ดังแล้ว  แต่เราจะได้ gain ที่ mixer น้อย
ถามว่า gain น้อยแล้วเกิดอะไรขึ้น  ก็กระทบกับ อุปกรณ์ out board ของเราดังที่ผมอธิบายข้างต้นไปแล้ว แถมได้ Noise มาด้วย  ดังรูป



สังเกตถ้า gain น้อย ไป เราจะได้ Noise เพิ่ม อีก

จากรูป จะมีคำว่า dynamic range/ Signal to noise ratio/ Head room ซึ่งคุ้นๆ กันมั้ยครับ โดยเฉพาะ คำว่า signal to noise ratio กับ Head room มักจะเจอใน คู่มือตรง technical specification คำพวกนี้หมายถึงอะไร เกี่ยวข้องอะไรกับการ set  up ระบบ ของเรา 

เดี๋ยวผมมาตอบอีกที  ขอตัวไปดูคนไข้ที่ห้องฉุกเฉินก่อนนะครับ  :o^:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 01:57:16 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 00:35:30 น. »
สำหรับการเซ็ตนั่นไม่รู้ใครทำไว้ แต่ที่ผมเลือกใช้ TR-TR เดิมๆ ของ MIPRO เพราะผมไม่ต้องการ
ต่อ TR -> XLR แล้วไปขยายที่ MIXER อีกที

สาเหตุ MIPRO ถ้าถอดบอร์ดออกมาดูสำหรับผมถือว่าเขาชดเชยมาแล้ว  ไม่งั้นบริษัทมันทำมาตั้งแต่แรกแล้วสำหรับ XLR
ผมไม่ชอบเสียงดังแล้วรกหู ผมชอบที่มันฟังได้นานครับ
อาจจะชอบและ set ไม่เหมือนท่านอื่น  :flower:



หรือผมเข้าใจผิดครับพี่เร  ;)

โดยปกติแล้ว ที่ Channel input ของmixer นั้น ช่องเสียบ XLR กับ TRS จะมี Sensitivity ต่างกันครับ
XLR จะ Sensitivity ต่ำกว่า  ใช้รับสัญญาณพวก ไมค์ ต่างๆ ซึ่งเป็น Low impedance  ส่วนTRS เป็น High impedance จะ sensitivity สูงกว่า ใช้รับสัญญาณแบบ unbalace / balance เช่น สัญญาณ จาก sound card เครื่องเล่น CD  
ส่วนพวก Guitar ส่วนใหญ่ในงาน PA เราจะใช้ ไมค์จ่อที่ตู้แอมป์ เพื่อที่จะได้เสียงจากตู้สดๆ อันนี้เป็นแบบ low impidance ต่อเข้าที่ XLR
Guitar bass ถ้าต่อตรงๆ เลย เป็น high impedance ต่อเข้าที่ TRS จะเหมาะสม แต่ถ้าเราเล่น PA ระยะทางจาก Bass ถึง mixer อาจไกลกันมาก สัญญาณจาก  high -impedance เป็นแบบ Unbalance สัญญาณจะ drop และ มี noise จึงต้องต่อเข้ากับ Direct injection box (DI box) เพื่อเปลี่ยนจาก High เป็น Low impedance และ เป็นสัญญาณ Balance ดังนั้นจึงควรต่อเข้าที่ช่อง XLR ครับ

ถ้าต่อไมค์เข้ากับ เต้าเสียบ TRS ของ mixer จะได้ gain น้อย เนื่องจาก sensitivity สูง ยิ่งไปกด pad ลด gain output ที่หลัง receiver ของไมค์ และแถมภาค output เป็น unbalance เหมือนที่น้านพเจอ ยิ่งรับgain จาก receiver ไม่ได้ บิด gain ที่ mixer จนสุดก็ไม่ดัง
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมค์ ถึงต้องต่อเข้าช่อง XLR   CD ต่อเข้าที่ TRS ยกเว้นแต่ว่า ที่ Receiver ของ mic มีภาค pre amp อยู่แล้วก็สามารถต่อเข้า TRS ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 08:10:57 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 03:13:05 น. »
มาดูเรื่อง Basic Gain structure กันต่อครับ



Dynamic range คือ ระดับสัญญาณตั้งแต่ noise floor จนถึง clip ซึ่งเครื่องมือแต่ละชิ้น mixer/ EQ/ cross over/ Power amp จะมีค่าต่างกัน โดย mixer จะมีมากที่สุด เพื่อที่จะปรับแต่ง gain เพื่อ ป้อนไปสู่เครื่องมืออื่นๆได้ดี

Signal to noise ratio คือ ระดับสัญญาณตั้งแต่ noise floor จนถึง ระดับ 0 dB

้Head room คือระดับ สัญญาณ ตั้งแต่ 0 dB จนถึง clip level ซึ่งใน mixer แต่ละ ยี่ห้อ ก็ไม่เท่่ากัน อยู่ที่ประมาณ 20-24 dB ส่วนนี้สำคัญมากสำหรับงาน PA มันคือเพดานที่เราจะสามารถปรับ mix balance sound ต่างๆให้คงอยู่ระดับนี้

จะเห็นว่า ระดับที่เหมาะสมของการปรับ Gain ไมค์ - เครื่องดนตรีต่างๆ ไม่ใช่ให้อยู่ที่ 0 dB ทั้งหมด ระดับที่เหมาะสมควรอยู่ที่ -12 ถึง +6 dB แล้วแต่ความต้องการใช้ gain ในการปรับแต่ง

คงมีหลายท่านสงสัยว่า อ้าวแล้วพวกที่เขาเปิดเพลงเสียงดัง เกิน 100 dB ล่ะ มันใช้หน่วยเดียวกันกับ mixer เราหรือเปล่า ทำไมเปิดแค่ 0 dB ที่ mixer แล้วชาวบ้านว่าดังไป ถ้าเปิด 100 dB จะไม่เป็นประสาทหูเสื่อมหรือ  ซึ่งอันนี้มันคนละความหมายกันครับ ความดังที่เราได้ยิน เราเรียกว่า ระดับความดังของเสียง (Sound Level) มีหน่วยเป็น decibel (dB) ใช้เขียนสื่อความหมายว่า dBSPL
ใช้อ้างอิงคนละแบบกับ mixer ของเรา



รูปนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง ระดับความดังของเสียง กับ ความถี่ของเสียง ให้ดูแล้วคิดตามนะครับ

จะมีคำว่า Sound Pressure Level (SPL) คือ ระดับความดังที่วัดได้ในสิ่งแวดล้อม ซึ่งอ้างอิงกับระยะที่เราฟัง หน่วยเป็น dB SPL

งาน PA แบบ out door ควรมี SPL สูงสุด 110-115 dB ฟังแล้วไม่เมื่อยหู
งาน indoor แบบงานแต่งในหอประชุม SPL สูงสุด 85-95 dB
ส่วนงานของคุณครูคนสวย SPL ไม่ควรเกิน 85 dB

ซึ่ง SPL เราวัดได้โดยใช้ SPL meter วัด
แต่เราไม่มีเครื่องมือ เอาอย่างนี้แล้วกันครับ ต่อเครื่องเสียงแบบที่ผมต่อแล้ว เปิดเพลงให้ครูคนสวยฟังค่อยๆหมุน volume amp ขึ้นโดยที่สัญญาณ mixer ยังอยู่ที่ 0 dB จนคุณครูคนสวยพอใจ จุดนี้เป็นระดับที่เหมาะสมที่สุด และ ยังได้ head room อีก 20 dB

ในงาน PA out door ควรมีระดับความดังอยู่ที่ 90-100 dB คือระดับที่ควรใช้เป็นระดับอ้างอิง 0 dB ใน mixer ของเรา เช่น เราปรับ สัญญาณจาก signal generator ให้ได้ 0 dB ที่ mixer เปิด amp เรียบร้อย ปรับ output ที่ cross over จากนั้นใช้ SPL meterวัดที่จุดอ้างอิงของเรา(จุดที่เราmixอยู่) ปรับจนได้ 95 dB เป็นระดับอ้างอิง ที่ 0 dB ของ mixer ถ้า mixer ของเรา Headroom มี 22 dB เราจะได้ SPL ระบบของเรา 117 dB(95+22)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 5 สิงหาคม 2013, 00:14:33 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 06:00:58 น. »
ขอบคุณครับหมอ  สำหรับตำราเล่มใหญ่    ที่น่าจำมาก   มีโอกาส    ก็มาอีกน่ะครับ  รอเก็บ

ออฟไลน์ เลิศพล

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • **
  • กระทู้: 3609
  • HL#5CA2FA96
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 06:26:24 น. »
หมอแมค หายไปนาน เอาตำรามาให่เล่มใหญ่  :thank1:

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 06:29:36 น. »
มาดูเรื่อง Basic Gain structure กันต่อครับ

(....)

Dynamic range คือ ระดับสัญญาณตั้งแต่ noise floor จนถึง clip
ซึ่งเครื่องมือแต่ละชิ้น mixer/ EQ/ cross over/ Power amp จะมีค่าต่างกัน
โดย mixer จะมีมากที่สุด เพื่อที่จะปรับแต่ง gain เพื่อ ป้อนไปสู่เครื่องมืออื่นๆได้ดี

Signal to noise ratio คือ ระดับสัญญาณตั้งแต่ noise floor จนถึง ระดับ 0 dB

้Head room คือระดับ สัญญาณ ตั้งแต่ 0 dB จนถึง clip level
ซึ่งใน mixer แต่ละ ยี่ห้อ ก็ไม่เท่่ากัน อยู่ที่ประมาณ 20-24 dB
ส่วนนี้สำคัญมากสำหรับงาน PA มันคือเพดานที่เราจะสามารถปรับ mix balance sound ต่างๆให้คงอยู่ระดับนี้


จะเห็นว่า ระดับที่เหมาะสมของการปรับ Gain ไมค์ - เครื่องดนตรีต่างๆ ไม่ใช่ให้อยู่ที่ 0 dB ทั้งหมด
ระดับที่เหมาะสมควรอยู่ที่ -12 ถึง +6 dB แล้วแต่ความต้องการใช้ gain ในการปรับแต่ง




ผมสงสัยเรื่องเฮดรูมสำหรับงานพีเอมานาน  เพิ่งกระจ่างใจเช้านี้ละครับ  ขอบคุณครับ
คงต้องลองเล่นตาม  เพื่อไล่อาการมึนงงอยู่บ้างให้หายไป
และอยากให้ช่วยขยายความเรื่อง  ฺBasic Gain Structure  ให้มากกว่านี้ครับผม

หมายเหตุ  จากรูปแสดงว่า  Dynamic Range ยิ่งมากยิ่งดีใช่ไหมครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 06:44:00 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 08:21:54 น. »
เย็นเกือบค่ำวันนั้นฝนไม่ยักกะตกตามที่ฝันไว้
เด็กยกของกลับบ้านพร้อมน้องสาวอนุบาลของเขา
ผมต้องออกแรงเหนื่อยคนเดียว  
เก็บของขึ้นรถเสร็จตะโกนบอกนักการที่ยืนรอปิดประตู
เดินไปห้องน้ำนักเรียนข้างรั้วไกลหน่อย

เสร็จธุระเดินกลับมาเจอสาวสวยคนหนึ่งนั่งรอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ที่เบาะข้างคนขับ
ผมลืมครูคนสวยเสียสนิทครับ  แต่เหมือนฟ้าดินลิขิต
รถเคลื่อนตัวออกผมแก่เขินด้วยการเปิดเพลงที่ชื่นชอบที่อัดจากยูทูบฟัง
ชอบจังหวะนี้มากที่สุดในชีวิต  
และหวังว่ามันจะไปกระตุ้นต่อมสนุกให้คนนั่งข้างๆ โชติช่วงขึ้น

LAMBADA  เพลงที่สองนะครับ


[flash=600,500]http://www.youtube.com/v/AIpZyhVgQsk?version=3&hl=th_TH[/flash]



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 08:24:25 น. โดย มะละกอ »