eXtreme Karaoke
เครื่องเสียง / ภาพ => Sound Interface,Sound Modules,SoundFont,VSTi => ข้อความที่เริ่มโดย: a035 ที่ วันที่ 19 ตุลาคม 2013, 07:15:00 น.
-
bit rate นั้นสำคัญไฉน แล้วเราควรใช้ bit rate เท่าไหร่ให้เหมาะสมกับ การใช้งานกับซีสเต็มของเรา (คาราโอเกะ,ฟังเพลง)
ขอบคุณครับ ;)
-
(http://image.ohozaa.com/i/5e6/wck0FP.png) (http://image.ohozaa.com/view2/x9PWdISTsDYNTfaC)
-
เกือบสามสิบปี ผมหากินและผูกพันกับคำๆ นี้ในภาคโทรคมนาคม :cheer:
บิตเรตเป็นตัวชี้วัดของการรับส่งข้อมูลในจำนวนที่กำหนดของเวลา จะเกี่ยวกับ sampling และเวลา การควอนไตซ์ ต่างๆ เอามาใช้ในเรื่องเพลงได้
มาตรฐาน audio CD คือ data rate 44.1 kHz/16 หมายถึงข้อมูลเสียงสุ่มตัวอย่าง 44,100 ครั้งต่อวินาที
ที่ bit depth เท่ากับ 16 CD-DA จะมีเสียงแบบ stereo
bit rate ของ PCM audio data สามารถคำนวณได้จาก
(http://upload.wikimedia.org/math/4/a/9/4a9998107a97d49da4ee8a5f404ec490.png)
ตัวอย่าง CD-DA แผ่นซีดีเพลงนั่นแหล่ะ บันทึกด้วย (44.1 kHz sampling rate, 16 bits ต่อ sample และ 2 channels) จะได้
(http://upload.wikimedia.org/math/2/5/7/2577326851233e5ebfd1538a4e2e6d78.png)
ขนาดของข้อมูลเสียง (รวม header และ metadata) คำนวณได้จาก
(http://upload.wikimedia.org/math/a/4/5/a45dfc435d75d8cd2fff84cb119d9801.png)
ขนาดว่าด้วยจำนวน byte (1 byte ประกอบด้วย 8 bits)
(http://upload.wikimedia.org/math/9/7/8/978a45b17b7c0449b8cd1e30faaf3c4f.png)
ฉะนั้น CD 1 แผ่นความจุ 80 นาที (4800 วินาที)
(http://upload.wikimedia.org/math/2/d/4/2d486b2443636075283896881be758e9.png)
โดยทั่วไปบิตเรตสูงๆ เวลา playback จะให้เสียงที่ดีครับ
(http://upic.me/i/0b/19-10-25568-38-16.jpg) (http://upic.me/show/47669676)
(http://upic.me/i/12/19-10-25568-43-01.jpg) (http://upic.me/show/47669706)
(http://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?action=dlattach;topic=84628.0;attach=52909;image)
ถามว่าควรใช้ bitrare เท่าไหร่กับ system ของเรา ต้องถามตนเองครับ ปกติเราฟังเพลงจาก source แบบไหน
หลัง ๆ มีแผ่น 24 bits ทำขายราคาถูกแล้วครับ และเดี๋ยวนี้เพลงก็มีขายผ่านเน็ตด้วย แต่ถ้าฟังจาก CD ธรรมดา
อย่างเดียว 16 bits 44.1k ก็พอครับ เครื่องเล่น CD ธรรมดาๆ นี่ไม่ถูกนะครับ ว่างๆ เสาร์อาทิตย์เราไปป่วนบ้าน
พี่แสงสารภีกัน
-
เคยไปดูทหารเดินสวนสนามไหมครับ
ทหารที่ถูกฝึกมาเป็นเวลานาน เวลาเดินจะพร้อมเพรียงกันมากดูแล้วสวยงาม
ทีนี้อยากถ่ายรูปเก็บไว้ดูภายหน้า โดยกล้องถ่ายหนังแบบฟิลม์ (อะนาล็อก)
สมมุติเดินไป 100 ก้าว ใช้เวลา 50 นาที (ย้ำสมมุติ) เปลืองเนื้อที่ฟิลม์ในการเก็บภาพมาก
แต่ปัจจุบันจะใช้กล้องวีดีโอดิจิตอลถ่าย ใช้เวลา 50 นาทีเท่ากัน
แต่ตอนบันทึกหรือเร็คคอร์ด ตัวกล้องจะหยิบตัวอย่างการเดินมา หรือ Sampling การเดินมาจำนวนหนึ่ง
สมมุติว่า 10 ก้าว ตรงนี้เรียกเป็นภาษาทางดิจิตัลว่า Bit/Rate
การสุ่มมานี่บางทีเราเรียกว่า Encode คือการเข้ารหัสตามมาตรฐานที่กำหนด
เวลาเล่นกลับก็ Decode ออกมา ได้ 100 ก้าวเหมือนเดิม
เสียงก็ทำงานเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เพราะมันประหยัดพื้นที่ในการเก็บในฮาร์ดีส หรือเมมมอรี่อื่นๆ
มาตรฐาน CD คือ 16 Bit/44.1 Hz
DVD 24 Bit/ 48 Hz เพื่อป้องกันการก๊อปปี้ ซึ่งจริงๆ ทำมิได้
สองตัวนี้ถ้าเอาให้กระจ่างคงต้องเปิดชั้นเรียนละครับ
บิทสูงกว่านั้นเป็นเรื่องของ ราคาคุยเพื่อขายแพงขึ้นของพ่อค้า
ชีวิตจริงคนทั่วไปจะเอาเวลาที่ไหนมาฟังกันให้ละเอียดละออ
เพราะเสียงคนพูดยังทำกันแค่ 8 Bit เท่านั้นครับ
-
ผมต่อสาย coax. และสาย optic. จากการ์ดอีมู 1212m จากพีซีมาเข้ามิกซ์ดิจิตอล o1v96vcm ได้ลองเทียบ bit/rate ระหว่าง 24bit/44.1 กับ 24bit/48 พบว่า กรณีแรกได้เสียงมีมวลและโลหนากว่า แต่กรณีหลังได้เสียงใสชัดและโปร่งกว่า ปัจจุบันเลยใช้ 24bit/48 เพื่อแยกคาราฯ 8 ไลน์ในมิกซ์มาโดยตลอด หากจะถามว่าเลือกอย่างไหนดีกว่ากันคงต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าชอบแนวเสียงอย่างไรมากกว่า
-
dark one ไป v4 แล้วเหรอ ยังใช้ มดเขียวอยู่เลย สำหรับผมฟังเพลงเป็นหลักนั่งฟังเฉยๆมันไม่สนุกหาอะไรทำระหว่างฟังมันเป็นเรื่องน่าสนุก บิตเรต ก็สนุกดี แม้จะแยกไม่ออก เพราะหูไม่เคยฟัง ไฮเอนด์ประจำ เครื่องที่ใช้เป็น pa แต่เอามาฟังในห้อง เพลงที่ใช้ฟังก็เป็น mp3 มาแปลงไฟล์เป็น flac wave บางทีมันก็แยกไม่ออก
-
dark one ไป v4 แล้วเหรอ ยังใช้ มดเขียวอยู่เลย สำหรับผมฟังเพลงเป็นหลักนั่งฟังเฉยๆมันไม่สนุกหาอะไรทำระหว่างฟังมันเป็นเรื่องน่าสนุก บิตเรต ก็สนุกดี แม้จะแยกไม่ออก เพราะหูไม่เคยฟัง ไฮเอนด์ประจำ เครื่องที่ใช้เป็น pa แต่เอามาฟังในห้อง เพลงที่ใช้ฟังก็เป็น mp3 มาแปลงไฟล์เป็น flac wave บางทีมันก็แยกไม่ออก
โดนตัดแล้ว จะทำให้มันเหมือนเดิมได้ด้วยหรือครับ
-
ได้ความรู้ความเข้าใจเยอะเลย :thank1: