eXtreme Karaoke
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: เด็กชายเคยโสด ที่ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2011, 06:45:06 น.
-
(http://www.audio-teams.com/webboard/img-lib/webboard/wbp_112426985241.jpg)
เอาไว้เผื่อท่านที่ไม่รู้ครับ
-
(http://www.audio-teams.com/webboard/img-lib/webboard/wbp_112426985241.jpg)
เอาไว้เผื่อท่านที่ไม่รู้ครับ
ผมก้อ ไม่เคยรู้จริงๆ นะ....ขอบคุณหมอมั๊กมากครับ
แ่ต่...ที่พาวเวอร์ผม เค้าให้ต่อ Specorn ไว้เหมือนเดิม แล้วกดปุ่ม Bridge เอาครับ...
-
แอมป รถยนต์ ... ส่วนมากเป็นบริดจ์ (ทำเฟสไว้แล้ว) ไม่มีสวิทช์กด ..จ้า..
เอาให้ครบ หมอ เอาของแอมป์ PA มานำ ครับ ..จะได้รวมเป็นที่เดียว .เอาไว้ดูกันครับ
-
ใช่เหรอครับ....ที่เคยต่อก็เอาลำโพงต่อขั้ว+ ch Rต่อกับขั้ว+ ch Lนะครับถึงเรียกว่าการบริดจ์ไม่ใช่เหรอครับ
ถึงจะย้ายขั้วลบ ch หนึ่งไปอีก ch หนึ่ง แต่ก็ยังเป็นการต่อแบบธรรมดาอยู่ครับ เพราะขั้วลบทั้ง 2 ch ต่อถึงกันครับ หรือกราวด์ร่วม
ถ้าเป็นของเครื่อง PA ลำโพงต่อกับขั้ว+กับขั้ว+ ครับ เสียบแจ๊คเข้า ch ที่ถูกกำหนดว่าเป็นบริดจ์เพียงข้างเดียว ครับ อย่าลืมกดสวิตส์บริดจ์ที่หลังเพาว์เวอร์ด้วยนะครับเดี๋ยวไม่ดัง ถูกหรือไม่ครับ
-
ใช่เหรอครับ....ที่เคยต่อก็เอาลำโพงต่อขั้ว+ ch Rต่อกับขั้ว+ ch Lนะครับถึงเรียกว่าการบริดจ์ไม่ใช่เหรอครับ
ถึงจะย้ายขั้วลบ ch หนึ่งไปอีก ch หนึ่ง แต่ก็ยังเป็นการต่อแบบธรรมดาอยู่ครับ เพราะขั้วลบทั้ง 2 ch ต่อถึงกันครับ หรือกราวด์ร่วม
ถ้าเป็นของเครื่อง PA ลำโพงต่อกับขั้ว+กับขั้ว+ ครับ เสียบแจ๊คเข้า ch ที่ถูกกำหนดว่าเป็นบริดจ์เพียงข้างเดียว ครับ อย่าลืมกดสวิตส์บริดจ์ที่หลังเพาว์เวอร์ด้วยนะครับเดี๋ยวไม่ดัง ถูกหรือไม่ครับ
เห็นด้วยคราฟเพ่ ต่อขั้ว+ ch Rต่อกับขั้ว+ ch L
มันเป็นวงจรกลับเฟส 180 องศา ถ้าเราต่อเทีบยกราวด์ เหมือนกับต่อแบบธรรมดาคราฟเพ่
-
ต่อตามเครื่องหมาย ที่ทำไว้ ด้านหลังแอมป์ แต่ละรุ่นนั่นละครับ ว่าจะธรรมดา หรือให้บริดจ์
ในเมื่อ แอมป์ เขากลับเฟสอินพุท 180 เพื่อต่อบริดจ์ ได้ทันที ตลอดเวลา (บางแท่นของรถยนต์ก็มีสวิทช์สับ)
.. เครื่องหมายที่สกรีนไว้สำหรับให้ต่อได้ถูก ..ครับ
เพราะจริง ๆ แล้ว ที่เครื่องหมายทำไว้เป็นขั้ว ลบ ด้านขวาสุดนั้นเป็นขั้วบวกจริง ๆ ของแอมป์ (Right -)
ส่วนกราวน์ก็ร่วมอยู่ปกติ.. (ร่วมที่ขั้ว 2-3 จากซ้าย)
-
ผมไม่รู้เรื่องแอมป์รถยนต์ครับ ผมรู้เรื่องแอมป์บ้านนิดๆ ก็คือ
การบริดจ์นั้นหมายถึงการรวมเอาทั้ง L/R มาเป็นพวกเดียวกัน เว้าง่ายๆคือ จาก stereo มาเป็น mono
ทำเพื่อให้ได้กำลังขับมากขึ้น เมื่อบริดจ์แล้ว การต่อก็ต่อเป็นแบบ stereo เหมือนเดิมนั่นเองครับ เพียง
แต่ว่ามันจะเป็น mono หรือว่าเป็นได้แค่ข้างเดียวซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะให้มันเป็น L หรือ R
ซึ่งรูปการต่อที่หมอให้ดูนั้น ถูกต้องแล้วครับ ;D :th2:
-
ขอแจมสักนิสครับ เนื่องจากผมเล่นแอมป์รถยนต์มาเยอะ (นิสหน่อย) ถ้าแอมรถยนที่เป็น Class AB ธรรมดา มันจะมีสวิตซ์เลื่อน ไปยังคำว่า Bridge ส่วนการต่อลำโพง
ขั้ว + ของลำโพงต่อกับขั้ว + ของ CH 1 ส่วนขั้ว - ของลำโพง ต่อเข้ากับ ขั้ว - ของ CH 2
(http://upic.me/t/g6/img_482651_1.jpg) (http://upic.me/show/22793783)
ส่วนแอมป์ที่ เป็น Class D โดนส่วนมาก จากที่เคยเล่นมา มันจะเป็น MONO (1 CH) เอาไว้ขับซับ ชึ่งข้างในของแอมป์ จะบริจ มาให้เรียบร้อยแล้ว (Full Bridge)
และกำลังวัตต์ ที่ออกมาก็เยอะพอประมาณอยู่แล้ว โดนส่วนมาแล้วจะสามารถรองรับโหลด (ลำโพง) ได้ ถึง 1 โอห์ม เลยทีเดียว และยังมีที่สามารถลองรับ ได้ 0.5 โอห์ม
แทบจะเหมือนเอาสายไฟมาซอตกันเล่น ๆ อิอิ
ส่วนการต่อนั้น ตัวของแอมป์ มันจะเขียน ว่า + - ch1 และ + - ch2 ชึ่งที่จริงแล้ว มันเป็น MONO ชึ่ง + ของ ch1
ก็ + ของ ch2 นั้นเอง (มีการขนาน) ภายในแอมป์อยู่แล้ว เพราะโดยส่วนมาก ลำโพงรถยนต์ จะมีอิมพีแดนซ์ ที่ 2 โอห์มต่อดอก เมื่อต่อ 1 คู่ ก็จะใด้ อิมพีแดนซ์
ที่ 1 โอห์ม พอดี กับ แอมป์ของเรา
(http://upic.me/t/y1/items_10055139_04.jpg) (http://upic.me/show/22794573)
(http://upic.me/t/rv/66226102010050.1.jpg) (http://upic.me/show/22794598)
ส่วนแอมป์บ้าน ก็ไม่ต่างกันครับ ส่วนมากจะเป็นจำพวกแอมที่ใช้ในงานกลางแจ้งมากกว่า จุดสังเกตุ จะมีคำว่า Bridge อยู่ บริเวณข้างหลังแอมป์ แต่การต่อลำโพงจะแตกต่างกันนิสหนึ่ง
แอมป์บ้าน เมื่อบริจแล้ว การต่อก็คือ ขั่วบวกของ ลำโพงจะต่อ + ของ Ch1 แล้วขั้ว - ของลำโพงจะต่อที่ + ของ Ch2
ผิดพลาดประการใดก็ ชี้แจงด้วยนะครับ :beer:
-
แล้วแต่ผู้ออกแบบ แต่ล่ะยี้ห้อต่อไม่เหมือนกัน แต่ส่วนมากจะเขียนบอกไว้ที่ข้วลำโพงว่าต่ออย่างไร เท่าที่เคยเห็นมาน่ะครับ
-
ใช่ครับ ๆ เท่าที่ต่อมา มีเขียนบอกอยู่แล้วละ :beer:
-
ผมไม่รู้เรื่องแอมป์รถยนต์ครับ ผมรู้เรื่องแอมป์บ้านนิดๆ ก็คือ
การบริดจ์นั้นหมายถึงการรวมเอาทั้ง L/R มาเป็นพวกเดียวกัน เว้าง่ายๆคือ จาก stereo มาเป็น mono
ทำเพื่อให้ได้กำลังขับมากขึ้น เมื่อบริดจ์แล้ว การต่อก็ต่อเป็นแบบ stereo เหมือนเดิมนั่นเองครับ เพียง
แต่ว่ามันจะเป็น mono หรือว่าเป็นได้แค่ข้างเดียวซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะให้มันเป็น L หรือ R
ซึ่งรูปการต่อที่หมอให้ดูนั้น ถูกต้องแล้วครับ ;D :th2:
เพิ่มเติมนิดหนึ่งครับ การบริจไม่ได้หมายความว่าเอา L กับ R มารวมกับครับ ถ้าจะว่ารวมกันก็ใช่ครับแต่เมื่อรวมกันแล้ว
จะยังไม่ได้ต่อเข้าไปยังภาคขยายเลย ต้องทำการกลับเฟส ข้างใดข้างหนึ่งก่อน แล้วต่อลำโพงที่เอาต์พุตทั้งสองข้างเลย โดยไม่เทียบกราว
ข้างที่กลับเฟตจะเป็นขั้วลบ
-
ต้องกลับเฟส180องศาข้างใดข้างหนึ่งถึงจะต่อบริดจ์โมโนได้นะครับ/ไม่งั้นพังเหมือนของผม กระจุย555/
-
ต้องกลับเฟส180องศาข้างใดข้างหนึ่งถึงจะต่อบริดจ์โมโนได้นะครับ/ไม่งั้นพังเหมือนของผม กระจุย555/
อิอิ ไปต่อ อิท่าไหนครับ ถึงพัง
-
ใช่เหรอครับ....ที่เคยต่อก็เอาลำโพงต่อขั้ว+ ch Rต่อกับขั้ว+ ch Lนะครับถึงเรียกว่าการบริดจ์ไม่ใช่เหรอครับ
ถึงจะย้ายขั้วลบ ch หนึ่งไปอีก ch หนึ่ง แต่ก็ยังเป็นการต่อแบบธรรมดาอยู่ครับ เพราะขั้วลบทั้ง 2 ch ต่อถึงกันครับ หรือกราวด์ร่วม
ถ้าเป็นของเครื่อง PA ลำโพงต่อกับขั้ว+กับขั้ว+ ครับ เสียบแจ๊คเข้า ch ที่ถูกกำหนดว่าเป็นบริดจ์เพียงข้างเดียว ครับ อย่าลืมกดสวิตส์บริดจ์ที่หลังเพาว์เวอร์ด้วยนะครับเดี๋ยวไม่ดัง ถูกหรือไม่ครับ
ถ้าต่อตามที่ หมอชาติ เหลามา ก็ไม่ผิดแน่นอน ครับ เป็นการบริดจ์ตามที่เครื่องเขากำหนดให้ทำ นั้นหมายความว่า มีสวิตให้กดเลือกด้วย
แต่ถ้าต่อแบบ เอา บวก 2 ข้างมารวมกัน(บวก+บวก) ก็จะเป็นประเภท ที่ ไม่มีสวิตให้กดเลือก คือ ทำการบริดจ์แบบดื้อ ๆ เลยครับ
ซึ่งอันหลัง มีโอกาส เจอ สโม๊คที่ไม่อยากเจอ สูง ครับ
การบริดจ์ ควร ใช้กับแอมป์ ที่ออกแบบมาให้มีความสามารถในการ ทำบริดจ์ จะปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
ปล. การบริดจ์มีความเสี่ยง โปรดอ่านรายละเอียด ก่อนดื่ม ;D
-
...เคยลองบริดส์ Mono ครั้งหนึง..ก็ใช้ได้ครับ....แต่ ขอแนะนำไม่ควร บริดส์ Mono เสี่ยงมาก ๆ ..เล่น stereo ดีที่สุด..
...ถ้าจะต่อก็แบบนี้ครับ..ตามภาพ..(ขออภัย แจ๊ค + หักไปตัวภาพเลยไม่สวย)
-
แอมป์ ที่บริจไม่ได้แล้วเอา ลำโพงไปต่อขั้ว + กับ + จะกลายเป็นเซอร์ราวด์ แทนครับ มันจะเอาเฉพาะเสียงที่แตกต่างทาง L และ R (เพราะยังต่อใช้ทุกวันอยู่เลยครับ) ;D ;D
-
ของผมมันไม่ออกเซอร์ราวนะแต่ดังอยู่แป๊บเดียวพังเลย
ไม่ต่อบริดจ์ดีกว่าแอมป์ทนกว่าเยอะเลยความร้อนไม่มากด้วย