มีเวลาก่อนจะเข้าทำงานใหญ่ เสนอมุมมองเท่าที่เจอมาด้วยตัวเอง และศึกษาหาข้อมูล ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้ชี้ขาดว่าจะเอาอะไร
ระหว่างเจ้าสองตัวนี้ มีข้อดีเยอะแยะทั้งคู่ อยู่แต่ว่าตัวไหนจะตอบโจทย์การใช้งานของเรา
เรื่องเสียง แม็กกี้หนากว่า เพราะเขาหนากว่าใครๆมาตั้งแต่อนาล๊อก สมัยนั้นน้อยรายที่จะจับต้องได้เพราะราคา และตัวแทน
ก็เลยตอบโจทย์กันด้วย ซาวด์คราฟท์ Live 4 แต่ในยุคดิจิตอลในวงเงินไม่ถึงแสนหรือแสนกว่า แบรนด์ดังพวกนี้ตอบโจทย์
ไม่ได้ เพราะไม่ได้ออกแบบเองแล้ว ไปเทคโอเวอร์แบรนด์เล็กมา แต่รุ่นใหญ่ราคาหลายๆแสนเฉียดหลักล้าน ก็ยังแจ่มสมชื่อ
เสียงของ QU ผมว่าหนึบดี ไม่บาง(หนากว่าหลายยี่ห้ออื่นที่ไม่กล่าวถึง) ปรับง่าย หมายถึง ปรับหาเสียงที่ต้องการได้ไม่ยาก
ความทนทาน แม็กกี้โฆษณาว่าสร้างแบบรถถัง ทนมือทนเท้า เขาทดสอบแบบเดินเหยียบ เอารถทับ จับโยน ขนาดนั้นเลย
DL32r ไม่มีคอนโซลหน้าบอร์ด แต่ได้อินพุท 32 แชนแนล วางแบบเสตจบ๊อกซ์บนเวที เดินฟังเสียงปรับด้านหน้าใช้ไอแพด
ในวงเงิน สี่หมื่นครึ่ง มีสล็อต Dante Expansion Card ซื้อมาใส่แล้วใช้เป็นเสตจบ็อกซ์ ต่อได้กับทุกยี่ห้อที่มีสล็อต Dante
QU 16 มีคอนโซลหน้าบอร์ด มีสไลด์ผี(เลื่อนเองได้) ขณะที่ DL32r ต้องรูดปรื๊ดบนไอแพด แต่วงเงินแพงกว่า DL32r
QUจะเดินปรับด้านหน้าด้วยแอปบนไอแพดก็ได้ หรือถ้าจะตั้งมิกซ์ไว้ด้านหน้าก็ต้องลงทุนเพิ่มกับเสตจบอกซ์ 16 อินพุท
ตัวอย่าง ถ้าเราทำงานที่ต้องรองรับศิลปินซึ่งมีซาวด์แมนต้องมาใช้เครื่องเรา ผมก็เห็นมีแค่ไม่กี่คนที่จะใช้ปรับด้วยไอแพด
อันนี้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ QU เพราะรองรับได้ ไอ้ที่จะเอาไอแพดตัวเองมาซิงค์กับเครื่องเราผมพึ่งเจอคนเดียว ซาวด์
ของวงไอน้ำ แล้วอีกคนก็ซาวด์ของอาร์เอสไปกับหลายศิลปิน แต่บ่อยๆก็ไปกับใบเตย คนนี้ใช้ไอแพดเรารูดปรื๊ดได้เลย
แต่ตอนนี้ผมสนใจ QU-Pac ไม่มีสไลด์ มีทัชสกรีนให้ใช้ ขยายเป็น 32 แชนแนลได้ ร่วมกับเสตจบ็อกซ์ AB168 เข้า16ออก8
ใช้ที่คอนโทรล 1 ถึง 16 แล้วใช้บนเวที 17 ถึง 32 ผมว่าเวิร์คนะ ราคาไม่ถึงสี่หมื่น เสตจบอกซ์สามหมื่นกว่า รวมสองอย่าง
เพิ่มอีกหน่อยได้ QU24 แต่ไม่มีเสตจบอกซ์ ใช้สายมัลติคอร์เก่าๆของเราก็ทดแทนได้ Qu-Pacตัวนี้ใช้สมองของ QU32 ครับ