หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น พาวเวอร์แอมป์มีแต่หลอดวัตต์ต่ำ เช่น หลอด 2A3 SE ได้ประมาณ 3 วัตต์
โรงหนังหลายร้อยที่นั่งจึงต้องการลำโพงที่มีความไวสูง ยิงเสียงได้ไกลจากที่นั่งแถวหน้าถึงที่นั่งแถวหลัง
ลำโพงฮอร์นจึงเกิดขึ้น และมันสามารถตอบสนองได้ดี
ลำโพงฮอร์นให้เสียงที่พุ่งสด ได้ดีมาก ให้เสียงคนพูดได้ชัดเจน (หนังสมัยนั้น คนพูดทั้งเรื่อง)
Altec จึงมียอดขายนำลิ่ว นำทุกด้านในระบบเสียงโปรเฟสชั่นนอล ขณะนั้น
ต่อมาเมื่อผู้คนมีงานทำ มีรายได้มากขึ้น ต่างเริ่มเล่นเครื่องเสียงในบ้าน
อัลเท็คมองเห็นตลาดโฮมยูสมหึมาทั่วโลก
จึงแปลงโฉม VOTT ในโรงหนังย่อให้เล็กลง ขายเอาใจเศรษฐีใหม่เงินถึง
ใช้ชื่อว่า Altec A5 , A7
A5 ดอกเสียงทุ้ม 15 นิ้ว ใส่ตู้แบบฮอร์น เสียงกลางถึงแหลม ใช้ยูนิต + ฮอร์นหล่อขึ้นรูป ชื่อ Altec 511B
พาสสีพครอส ตัดที่ 500 Hz
A7 ฮอร์นชื่อ 811B พาสสีพตัดที่ 800 Hz
ใช้แอมป์หลอดวัตต์ต่ำตัวเดียวขับ
ให้เสียงที่ถือว่า เป็นที่สุดแล้วของการฟังเพลงในบ้าน
บ้านที่เปลี่ยนชื่อในเวลาต่อมาว่า “คฤหาสน์”
ทิ้งท้ายวันนี้ เมื่อพาวเวอร์แอมป์ทรานซิสเตอร์วัตต์สูงน้ำหนักเบา เข้ามาแทนแอมป์หลอด
คนมะริกัน เห่อของใหม่ โล๊ะขายแอมป์หลอด ในราคา 1 เหรียญ
แอมป์หลอดในอเมริกาลงเรือเดินทางมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่
วิศวกรญี่ปุ่นรื้อออกดูเป็นชิ้นๆ ค้นหาความลับของแอมป์หลอด
แอมป์ที่มีความเพี้ยนสูงขนาดนั้นทำไมจึงเสียงดีเข้าหูกรรมการ
และที่สุด คนญี่ปุ่นค้นพบหัวใจแอมป์หลอด ต่อยอดพัฒนาแอมป์หลอดราคา 1 เหรียญ
สะใจนะครับ ในปัจจุบันวันนี้
คนมะริกันเงินเยอะ หันกลับมาเล่นแอมป์หลอดจากญี่ปุ่นในราคา กว่า 50,000.- เหรียญ (กว่าล้านห้าแสนบาทไทย)
หลอดสวยๆ ญี่ปุนซื้อตุนเก็บหลอดละสลึง ทุกวันนี้บางหลอดขายหลักแสน แย่งกันซื้อ
พลอยทำให้นักเก็งกำไรเมืองไทยหันเข้าหาหน่วยงานสื่อสารของรัฐที่สต๊อกหลอดเป็นกะตั๊ก
ประมูลของที่ใช้แล้วพวกนี้ ว่ากันว่าหลอดหลายพันหลอดเดินทางไปญี่ปุ่น ฮ่องกง
กำไรไม่มากดอกครับ.....
A 7