ไม่รู้นะครับส่วนตัวคิดว่ายิ่ง Tap มาก latency ยิ่งมากหรือเปล่าครับ
ตัวแพงๆรองรับถึง 4096 tap
ส่วนตัวยังใช้ DBX Venu360 อยู่ ไม่มีการปรับปรุง Firmware มานานแล้วมีฟังก์ชั่นพื้นๆ มาก เซ็งเป็ด แต่เสียงดี
จำนวน Tap เป็นตัวกำหนด Filter lenght(FL)และ Frequency Resolution ของ FIR filter ครับ
Tap ยิ่งมากจะทำให้เราสามารถทำ EQ magnitude ได้ครอบคลุมความถี่ตำ่ได้มากขึ้น และสามารถทำ EQ phase ให้ Linear ได้ครอบคลุมความถี่ตำ่ได้มากขึ้น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ Sample Rate (SR) ของ DSP ซึ่งจะแปรผกผันกับ Frequency Resolution (FR)
โดยมีความสัมพันธ์คือ FL = tap/SR, FR = SR/tap และ FR=1/FL
ยกตัวอย่าง เช่น
ถ้า DSP sample rate 48k ถ้าใช้ 1024tap
FL = 1024/48000 = 21.33ms (ตรงนี้ไม่ใช่ latency นะครับ)
FR = 48000/1024 ≈ 47Hz
ดังนั้น ถ้าเพิ่ม SR เป็น 96kHz ถ้าเราใช้ tap เท่าเดิม FLจะลดลงครึ่งหนึ่งของ SR @48kHz และ FR จะเพิ่มเป็น 2 เท่าของเดิม คือ 94Hz
ถ้าเราเปรียบเทียบ FIR filter กับ Graphic EQ กันจะได้ว่า 1 tap เปรียบเสมือนกับ EQ 1 ก้าน ค่าของ FR ก็คือค่า bandwidth ของ ก้าน EQ นั่นเอง
ยิ่ง FR น้อยๆ เรายิ่งสามารถ boost/cut EQ ได้ bandwidth แคบและละเอียดกว่า FR ที่มีค่ามาก
ค่า FR จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเราสามารถทำ EQ magnitude ได้ความละเอียดตำ่สุดที่กี่ Hz
โดยที่ความละเอียดตำ่ที่สุดที่สามารถ EQ ได้จะมีค่าประมาณ 3 เท่าของ ค่า FR เช่น
ถ้า FR= 47Hz เราจะ EQ ได้ตำ่สุดคือ 3 x 47 ≈ 150Hz
FR = 94Hz จะ EQ ได้ตำ่ที่สุด ≈ 300Hz
ถ้าเราต้องการทำให้ DSP 96kHz สามารถ EQ ได้ความละเอียดที่ความถี่ต่ำเท่ากับ DSP 48kHz เราจะต้องเพิ่ม tap เป็น 2 เท่าของ DSP 48kHz นั่นเอง
ส่วนการ EQ phase ให้ linear นั้น FIR filter จะต้องแบ่ง Filter length เป็น 2 ชุด
ชุดแรกไว้ทำ EQ magnitude
ชุดที่สองไว้ทำ EQ phase
ซึ่ง FL ชุดที่สองนี้จะเป็นตัวกำหนดค่า latency ของ FIR filter ในโปรแกรม FIRd จะใช้ wording ว่า "Filter delay"
การทำงานของ Filter ชุดนี้จะเป็นช่วงของระยะเวลาที่เกิด latency ของ Filter เพื่อที่เราจะหน่วงเวลาให้ความถี่ที่มี group delay น้อยกว่าให้มาพร้อมกันกับความถี่ที่มี group delay มากกว่า โดยที่เราสามารถทำได้โดยการ EQ phase ในโปรแกรม FIRd ให้เป็นเส้นตรงนั่นเอง
โดยส่วนใหญ่แล้วเทคนิคในการใช้ FIR filter ในการทำ EQ mag และ phase จะแบ่งครึ่ง FL กัน
ถ้ามี 1024 tap @48kHz จะใช้ FL 512 ทำ EQ mag ซึ่งค่า FR จะเป็น 47Hz คือ EQ ได้ตำ่ที่สุดประมาณ 150Hz
และ FL อีกครึ่งหนึ่งใช้ทำ EQ phase ได้ความถี่ที่ 150 Hz เช่นกัน โดยจะเกิด Latency (filter delay) คือ 512/48000 = 10.67ms
ถ้าเราจะใช้ FIR filter ทำแค่ EQ magnitude เราก็กำหนดให้ filter delay เป็น 0 tap ก็จะไม่เกิด latency
FIR filter เป็น filter ที่ละเอียดมากแต่มีข้อจำกัดคือจะทำ EQ ได้ความถี่ตำ่สุดเท่าไหร่ขึ้นกับจำนวน tap และ sample rate ของ DSP
ในขณะที่ IIR filter ทำได้ทุกความถี่แต่ไม่ละเอียดเหมือน FIR filter
ดังนั้น FIR filter จึงเหมาะกับการทำ preset ของลำโพงให้ถูกต้อง มากกว่าการนำมาใช้ปรับแต่ง tone หน้างาน
FIR filter เปรียบเสมือนกระบี่ มีสองคม
ถ้าการวัด frequency response ของลำโพงไม่ถูกต้องก็จะเกิดอันตรายจากการใช้ ฉะนั้นต้องมั่นใจว่าเราทำการวัดลำโพงได้ direct sound จริงๆ ไม่มีเสียงสะท้อนมากวนให้เกิด comb filter
Sent from my iPhone using Tapatalk