eXtreme Karaoke
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงในบ้าน (Home Used/High Fidelity ) => ข้อความที่เริ่มโดย: นายเอ ที่ วันที่ 30 กันยายน 2011, 18:49:14 น.
-
วันนี้กลับมาที่สุพรรณฯนำลำโพงทดสอบกับแอมป์หลอดของ ts-audio รุ่น KB-300I
หลอดเอ้าพุช 300B ภาคไดรฟ์ 6SN7 อินพุท 12ax7
ภาค Phono ของ TS Audio รุ่น PH 1
เครื่องเล่นแผ่นเสียงโบราณของ ไพโอเนียร์
เสียงหวานน่าฟังสุดๆ
ผลทดสอบลำโพงกลางเบสดีมาก ปลายแหลมไม่สุด อาจต้องโมฯแหลมอย่างเดียว
เมื่อเอามาเทียบ กับลำโพง Quad ของเจ้าบ้าน เทียบได้อย่างสูสีแม้ค่าตัวห่างกันเกือบเท่าตัว
หากได้โมแหลม Tannoy แล้ว รับรองสู้ได้ เจ้าบ้านมองค้อนได้เลย
พรุ่งนี้ไปบ้านหม้อ จะหาซีมาโมฯ tannoy ใหม่
ไม่มีภาพ ไม่ได้ติดกล้องมาด้วย.
-
หลอกเจ้าบ้าน เอาหลอด 6SN7 ของ Edicron มาใช้กับปรีตัวใหม่ผม คู่หนึ่งแล้วครับ ;D
-
มาว่ากันต่อกับแนวเสียง
หากใครเคยฟังลำโพงยี่ห้อMonitor Br2 แนวเสียงทางเดียวกันเลยครับ
เด่นกลางเบสสะอาด แหลมหางสั้นๆ ราคาค่าตัวหมื่นกว่าๆ
แต่ tannoy mx1 ตัวนี้แค่ 7900 บาท เทียบเคียงได้ระดับนี้ หากมองสูงไปกว่านี้ ลำโพงคู่ละ 3หมื่นขึ้นไปเลยละครับ
ลำโพง tannoy ยังไม่พ้นระยะเบิร์นนะครับ
และทุกคำคอมเม้น เจ้าบ้านผู้ชำชองเครื่องเสียงบ้าน เป็นผู้วิจารณ์ ไม่ใช่ผมทั้งหมด อิอิ
-
แผ่นเสียง เมื่อเทียบซีดีสมัยใหม่เสียงต่างกันอย่างลิบลับ
แผ่นเสียงได้หวานสุด โทนอุ่นๆ เสียยงร้องชัดเป็นตนดีมาก ม๊าก มากกกกกกกกกกกกก
แม้จะหาเพลงใหม่ๆยากหรือไม่มีเลย แต่เพลงเก่าๆ ของแผ่นเสียง บางชุดซีดีหาไม่ได้เลยนะครับ
ทั้งเซ็ทเป็นอนาล็อคแท้ๆ ภาค Phono ก็หลอด แอมป์ก็หลอด แถมหลอด 300B ไม่ใช่หลอดถูกๆนะครับ คู่ละหมื่น โมอุปกรณ์ หลอด หมดไปมากกว่าค่าตัวแอมป์เดิมๆ
ใจรักของเจ้าของจริงๆ ผมฟังยังเคลิ้มไปเลย
เมื่อเทียบกับซีดี เครื่องเล่นเป็นของ Rotel ราคา สามหมื่นกว่า เสียงว่าดี กลับแข็ง มันพุุุ่งๆจัดๆ ไงไม่รู้ ฟังแล้วล้าหูมากๆ แต่บางคนอาจชอบก็ได้
เวทีเสียงของซีดีจะหลุดลอยออกมาหน้าตู้ ส่วนแผ่นเสียงจะได้อิมเมจที่ลึกลงไป
หากเทียบดูนะครับ เครื่องซีดีราคา 3หมื่น แผ่นซีดีขั้นต่ำ 500 บาท ถึง พันกว่า ต่อ 1 อัลบั้ม แบบออดิโอไฟล์
ส่วนเครื่องเล่นแผ่นเสียงไวนิลดำๆ ดูเทอะทะ ราคามือสอง ไม่เกิน 5000 บาท phono ตัวขยายสัญญาณหัวเข็ม ราคา 5000 บาท รุ่นอื่นแค่พันกว่า
เป็นหลอดนะครับ ส่วนแผ่นไวนิล แผ่นเสียงราคามือสอง แผ่นละ 100 บาท
เจ้าของบอกว่าหลงกับซีดีมาซะนาน ทำไมไม่เล่นแผ่นเสียงตั้งแต่แรก ผมเพิ่งได้ฟังครั้งแรก :love2:
-
อย่าเพิ่งโมครอสลำโพงแทนนอยเลยนะครับ
ถ้าอยากทำเปลี่ยนแค่สายลำโพงภายในก่อน
ลำโพงน่าจะจูนให้มีเบสมากพอควร จึงบดบังปลายแหลมไปซึ่งความจริงมีไม่ใช่ไม่มี
แก้ด้วยการเปลี่ยนขาตั้ง ผมจำไม่ได้ว่าต้องใช้ขาตั้งมวลแบบไหน
และแก้ด้วยการเซ็ทที่ตั้งลำโพงใหม่ เมื่อเข้าที่ก็จะได้ยินรายละเอียดของเสียงย่านความถี่สูงเองครับ
เซ็ทลำโพงให้ โทอินเข้าจนเกิดปรากฎการณ์ที่เรียกว่า Disappear ด้านข้างตู้ลำโพงด้านในจากจุดนั่งฟัง
คงเคยเซ็ทนะครับ ส่วนระยะห่างน่าจะอยู่ระหว่าง 165-170 ซม. ลองดูก่อนนะครับ
-
ยังเผาไม่ได้ที่จะโมแระ..
-
ใช้ขาตั้งlovan คู่ละหกพันครับ สายภายในเปลี่ยนแน่นอนส่วนเน็ตเวิร์คเปลี่ยนเฉพาะคาปาเอาเกรดดีหน่อยเขาแนะjenzen ครับปลายมันห้วนไป โมแค่นั้น เพราะเบสและกลางดีมากๆไม่อยากแตะต้องมันเลย
ส่วนห้องฟังมาตรฐานครับเพราะยืมห้องทดสอบทิ้งระยะหลังตู้ปรทิ้งระยะหลังตู้ประมาณ2 เมตรผนังเก็บเสียงอย่างดีตำแหน่งฟังจูนมาเป็นปีแล้วไม่ใช่ปัจจัยภายนอกแน่นอนครับ
-
มาพบเมื่อสายไป Tannoy Reveal Studio Monitor
(http://www.pantipmarket.com/_data/board/52/11691952/picture/11691952-1.jpg)
http://www.pantipmarket.com/items/11691952
ใครอยากฟังฮิฟิ ฮิเอ็น สอยไปเลยครับ ไม่ชอบผมซื้อต่อ 2000 จริงๆนะเอ๊า!!
-
แผ่นเสียง เมื่อเทียบซีดีสมัยใหม่เสียงต่างกันอย่างลิบลับ
แผ่นเสียงได้หวานสุด โทนอุ่นๆ เสียยงร้องชัดเป็นตนดีมาก ม๊าก มากกกกกกกกกกกกก
แม้จะหาเพลงใหม่ๆยากหรือไม่มีเลย แต่เพลงเก่าๆ ของแผ่นเสียง บางชุดซีดีหาไม่ได้เลยนะครับ
ทั้งเซ็ทเป็นอนาล็อคแท้ๆ ภาค Phono ก็หลอด แอมป์ก็หลอด แถมหลอด 300B ไม่ใช่หลอดถูกๆนะครับ คู่ละหมื่น โมอุปกรณ์ หลอด หมดไปมากกว่าค่าตัวแอมป์เดิมๆ
ใจรักของเจ้าของจริงๆ ผมฟังยังเคลิ้มไปเลย
เมื่อเทียบกับซีดี เครื่องเล่นเป็นของ Rotel ราคา สามหมื่นกว่า เสียงว่าดี กลับแข็ง มันพุุุ่งๆจัดๆ ไงไม่รู้ ฟังแล้วล้าหูมากๆ แต่บางคนอาจชอบก็ได้
เวทีเสียงของซีดีจะหลุดลอยออกมาหน้าตู้ ส่วนแผ่นเสียงจะได้อิมเมจที่ลึกลงไป
หากเทียบดูนะครับ เครื่องซีดีราคา 3หมื่น แผ่นซีดีขั้นต่ำ 500 บาท ถึง พันกว่า ต่อ 1 อัลบั้ม แบบออดิโอไฟล์
ส่วนเครื่องเล่นแผ่นเสียงไวนิลดำๆ ดูเทอะทะ ราคามือสอง ไม่เกิน 5000 บาท phono ตัวขยายสัญญาณหัวเข็ม ราคา 5000 บาท รุ่นอื่นแค่พันกว่า
เป็นหลอดนะครับ ส่วนแผ่นไวนิล แผ่นเสียงราคามือสอง แผ่นละ 100 บาท
เจ้าของบอกว่าหลงกับซีดีมาซะนาน ทำไมไม่เล่นแผ่นเสียงตั้งแต่แรก ผมเพิ่งได้ฟังครั้งแรก :love2:
ปัญหามันอยู่ที่ว่า ตอนนี้ผมไม่มีphonoหลอดฟัง ใช้โฟโนออปแอม์อยู่ได้มาจากสถานีวิทยุ ตอนนี้กำลังจะประกอบ peal phono กับ แอมป์ LM3886อยู่ ได้แผ่นปริ้นมาแล้ว แต่หาอะหรั่ยได้ยังไม่ครบ อยู่อุดรหาอะหรั่ยไม่ได้เลย..... :zzz: :zzz:
-
ปัญหามันอยู่ที่ว่า ตอนนี้ผมไม่มีphonoหลอดฟัง ใช้โฟโนออปแอม์อยู่ได้มาจากสถานีวิทยุ ตอนนี้กำลังจะประกอบ peal phono กับ แอมป์ LM3886อยู่ ได้แผ่นปริ้นมาแล้ว แต่หาอะหรั่ยได้ยังไม่ครบ อยู่อุดรหาอะหรั่ยไม่ได้เลย..... :zzz: :zzz:
โฟโนหลอดของ TS แค่ 5 พัน หาตามเว็บครับ ได้แน่นอน เจอแล้วจะบอกครับ
วันนี้พี่ผมก็ฝากซื้อแผ่นเพลงไวนิล ของหงา คาราวานชุดเก่าๆ พรุ่งนี้ไปฟังที่บ้านแกต่อ ผมทิ้งลำโพงให้แกฟัง คงได้คำวิจารณ์ลำโพงอีกพอสมควร
-
โฟโนหลอดของ TS แค่ 5 พัน หาตามเว็บครับ ได้แน่นอน เจอแล้วจะบอกครับ
วันนี้พี่ผมก็ฝากซื้อแผ่นเพลงไวนิล ของหงา คาราวานชุดเก่าๆ พรุ่งนี้ไปฟังที่บ้านแกต่อ ผมทิ้งลำโพงให้แกฟัง คงได้คำวิจารณ์ลำโพงอีกพอสมควร
เสียดาย..ถ้าอยู่ใกล้จะไปฟังด้วยซะหน่อย..ลำโพงเทพๆ.... :th2:
-
เสียดาย..ถ้าอยู่ใกล้จะไปฟังด้วยซะหน่อย..ลำโพงเทพๆ.... :th2:
ในขณะที่ lossless กำลังมาแรง ผมกำลังจะไปหลงไหลของโบราณๆ ซะแล้ว ไม่ลองฟัง ไม่รู้เลยจริงๆ คิดว่าแค่คำบอกเล่า
แผ่นเสียงไวนิล มันให้เสียงที่ไดนามิกซ์ไม่จัดมากนัก ความหวานที่ไม่ไปทำลายความใส ความกระจ่าง ความชัด
เสียงมีตัวตน ราวกับจับต้องได้ มันมีบรรยากาศรอบๆมวลของเสียงที่ปล่อยออกมา ฟังก็รู้ว่า รูปทรงของเสียง
การจิบปากจิบคอร้อง เสียงลูกคอ เสียงแหบๆ เสียงร้องที่ออกมาจากลำคอ ปากเล็กปากกว้าง ร้องปากจู๋ กระดกลิ้น ร้องแล้วขยี้เสียง มีน้ำลายเป็นฟอง
ร้องเหมือนจิบเบียร์ มันออกอย่างนี้จริง :th2: เทียบกับ MP3 ดนตรีออกเป็นไม้หน้ากระดานเรียงหนึ่ง รับไม่ได้จริง ๆ
แต่ถ้าใครมีความสุขแบบเดิมอยู่แล้ว ผมก็แนะนำอย่าริลองฟัง ไม่งั้นท่านจะกลับบ้าน ฟังอะไรก็ไม่เพราะ หาว่าผมพาลไปเสียเงินอีก :hap5: :hap5: :hap5:
ปล.อย่าเชื่อผมเน้อออ ผมคิดไปเอง ;D
-
ชอบเหมือนกัน :flower:
(http://img641.imageshack.us/img641/7253/46025962.jpg)
(http://img713.imageshack.us/img713/3161/57592997.jpg)
-
ชอบเหมือนกัน :flower:
(http://img641.imageshack.us/img641/7253/46025962.jpg)
(http://img713.imageshack.us/img713/3161/57592997.jpg)
อย่างฟังชุดนี้จังอัพโหลด ส่งมาให้หน่อยครับ :flower: ;D ;D
-
ในขณะที่ lossless กำลังมาแรง ผมกำลังจะไปหลงไหลของโบราณๆ ซะแล้ว ไม่ลองฟัง ไม่รู้เลยจริงๆ คิดว่าแค่คำบอกเล่า
แผ่นเสียงไวนิล มันให้เสียงที่ไดนามิกซ์ไม่จัดมากนัก ความหวานที่ไม่ไปทำลายความใส ความกระจ่าง ความชัด
เสียงมีตัวตน ราวกับจับต้องได้ มันมีบรรยากาศรอบๆมวลของเสียงที่ปล่อยออกมา ฟังก็รู้ว่า รูปทรงของเสียง
การจิบปากจิบคอร้อง เสียงลูกคอ เสียงแหบๆ เสียงร้องที่ออกมาจากลำคอ ปากเล็กปากกว้าง ร้องปากจู๋ กระดกลิ้น ร้องแล้วขยี้เสียง มีน้ำลายเป็นฟอง
ร้องเหมือนจิบเบียร์ มันออกอย่างนี้จริง :th2: เทียบกับ MP3 ดนตรีออกเป็นไม้หน้ากระดานเรียงหนึ่ง รับไม่ได้จริง ๆ
แต่ถ้าใครมีความสุขแบบเดิมอยู่แล้ว ผมก็แนะนำอย่าริลองฟัง ไม่งั้นท่านจะกลับบ้าน ฟังอะไรก็ไม่เพราะ หาว่าผมพาลไปเสียเงินอีก :hap5: :hap5: :hap5:
ปล.อย่าเชื่อผมเน้อออ ผมคิดไปเอง ;D
ชอบเหมือนกัน :flower:
(http://img641.imageshack.us/img641/7253/46025962.jpg)
(http://img713.imageshack.us/img713/3161/57592997.jpg)
ท่านไม่ได้คิดไปเองหรอก มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ตอนที่แผ่น CD เข้ามาใหม่ๆผมเห็นว่ามันสะดวกดีผมก็เลยเลิกฟังแผ่น เก็บเครื่องเล่นกับแผ่นเข้าลังกระดาษไว้แบบบไม่สนใจใยดี พอดีกับช่วงที่บ้าเครื่องกลางแจ้งด้วย เครื่องเสียงบ้านที่มีอยู่ก็ขายไปซื้อชุดกลางแจ้งหมด พอวันหนึ่งมาเบื่อกลางแจ้งมาก(ตอนนี้ก็เบื่ออยู่) เลยลองมาเปิดเพลงฟัง เอทำไมเราถึงฟังเพลงไม่เพราะเลย หรึว่าเราเริ่มจะแก่ไปซะแล้ว จำได้ว่าก่อนๆตอนเราเลิกงานกลับบ้านมา ในตอนนั้นสำนักงานเรายังไม่มีคอมพิวเตอร์ทุกอย่างยังใช้วิธีเขียนเอา ทำไม่ทันต้องหอบมาเขียนอยู่บ้าน เขียนไปเปิดแผ่นฟังไปมีความสุขดี ก็เลยไปเปิดลังงัดเครื่องเล่นกับแผ่นมาปัดฝุ่น ลองเปิดเทียบเพลงเดียวกัน ระหว่างแผ่นเสียงกับMP3 เรียกลูกชายมาฟังด้วย ลูกชายบอก สู้แผ่นเสียงไม่ได้หรอกพ่อ เออมิน่าทำไมเราถึงฟังเพลงไม่เพราะมันเป็นยังงี้นี่เอง แต่เสียดายนะครับช่วงที่เห่อCDใหม่ๆ เครื่องเล่นแผ่นเสียงผมมี 3 เครื่อง ผมให้เขาไปฟรีๆ ตั้ง 2 เครื่อง เพราะตอนนั้นคิดว่ามันหล้าสมัยแล้ว ยังดีนะยังเก็บของไพโอเนียไว้ตัวหนึง กับได้ ทรีโอ มาเพิ่มอีกตัว สงสัยงานงี้จะต้องมีกระทู้พิเศษสำหรับคนรักแผ่นดำซะแล้ว.... :ho: :zzz:
-
เพลงที่ rip มาจากแผ่นดำแล้วมาอัดเป็น CD ผมเปิดฟังด้วย
NOS DAC (NOS=Non Over Sampling) ให้เสียงมีความรู้
สึกสบายกว่าแผ่น CD ที่ขายในปัจจุบันนะครับ เคยไปร้านนี้
(http://img180.imageshack.us/img180/1768/82446323.jpg)
เจ้าของร้านอัธยาศัยดีมากครับ สอนการอัดเสียงจากแผ่นดำให้ผม
ทุกวันศุกร์จะมารวมกลุ่มฟังเพลงที่ร้านกัน :th1:
(http://img30.imageshack.us/img30/2387/87291923.jpg)
-
ท่านไม่ได้คิดไปเองหรอก มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ตอนที่แผ่น CD เข้ามาใหม่ๆผมเห็นว่ามันสะดวกดีผมก็เลยเลิกฟังแผ่น เก็บเครื่องเล่นกับแผ่นเข้าลังกระดาษไว้แบบบไม่สนใจใยดี พอดีกับช่วงที่บ้าเครื่องกลางแจ้งด้วย เครื่องเสียงบ้านที่มีอยู่ก็ขายไปซื้อชุดกลางแจ้งหมด พอวันหนึ่งมาเบื่อกลางแจ้งมาก(ตอนนี้ก็เบื่ออยู่) เลยลองมาเปิดเพลงฟัง เอทำไมเราถึงฟังเพลงไม่เพราะเลย หรึว่าเราเริ่มจะแก่ไปซะแล้ว จำได้ว่าก่อนๆตอนเราเลิกงานกลับบ้านมา ในตอนนั้นสำนักงานเรายังไม่มีคอมพิวเตอร์ทุกอย่างยังใช้วิธีเขียนเอา ทำไม่ทันต้องหอบมาเขียนอยู่บ้าน เขียนไปเปิดแผ่นฟังไปมีความสุขดี ก็เลยไปเปิดลังงัดเครื่องเล่นกับแผ่นมาปัดฝุ่น ลองเปิดเทียบเพลงเดียวกัน ระหว่างแผ่นเสียงกับMP3 เรียกลูกชายมาฟังด้วย ลูกชายบอก สู้แผ่นเสียงไม่ได้หรอกพ่อ เออมิน่าทำไมเราถึงฟังเพลงไม่เพราะมันเป็นยังงี้นี่เอง แต่เสียดายนะครับช่วงที่เห่อCDใหม่ๆ เครื่องเล่นแผ่นเสียงผมมี 3 เครื่อง ผมให้เขาไปฟรีๆ ตั้ง 2 เครื่อง เพราะตอนนั้นคิดว่ามันหล้าสมัยแล้ว ยังดีนะยังเก็บของไพโอเนียไว้ตัวหนึง กับได้ ทรีโอ มาเพิ่มอีกตัว สงสัยงานงี้จะต้องมีกระทู้พิเศษสำหรับคนรักแผ่นดำซะแล้ว.... :ho: :zzz:
ไม่แน่ครับ อาจได้ชมรมคนรักของดำ :hap3:
ให้เครื่องเสียงที่กำลังทำพร้อมก่อนครับ ผมตั้งใจจะหา เครื่องเล่นซีดี แต่ตอนนี้ถอดใจแล้ว เล่นแผ่นเสียงดีกว่า เครื่องถูกกว่า แผ่นเสียงแผ่นละ 100 - 300 บาท
เทียบก็ซีดีแล้วประหยัดกว่าเยอะ ส่วนเพลงใหม่ๆ หา Lossless เปิดในคอมพ์แจ๋วกว่าซีดีอยู่แล้ว...
-
ไม่แน่ครับ อาจได้ชมรมคนรักของดำ :hap3:
ให้เครื่องเสียงที่กำลังทำพร้อมก่อนครับ ผมตั้งใจจะหา เครื่องเล่นซีดี แต่ตอนนี้ถอดใจแล้ว เล่นแผ่นเสียงดีกว่า เครื่องถูกกว่า แผ่นเสียงแผ่นละ 100 - 300 บาท
เทียบก็ซีดีแล้วประหยัดกว่าเยอะ ส่วนเพลงใหม่ๆ หา Lossless เปิดในคอมพ์แจ๋วกว่าซีดีอยู่แล้ว...
ไม่ถูกนะเอ หัวเข็มอย่างเดียวของพอให้ใช้ก็สองหมื่นแล้วครับ
-
ไม่ถูกนะเอ หัวเข็มอย่างเดียวของพอให้ใช้ก็สองหมื่นแล้วครับ
พี่ผมหาของเก่ามาฟัง 5000 เอง โฟโนอีก 5000 ;D
เสียงก็ไม่ขี้เหร่นะ....
-
ตา A ก่อนโม้ทิงน่องนอย.....เผาให้ใหม่ก่อนไม่ดีกว่าหรือ .....หรือขยับซ้ายขยับขวา กระกดตูด กระเด้าดิน ดูก่อน
หาก เผาไหม้เสร็จแล้ว ไม่ได้เรื่อง ค่อยเก็บกระดูกไปลอย อังคาร ก็ยังทันนะ........ไหนบอกว่าหันกลับไปหาของดำแล้วไง
ของ ดำ ๆ ก็ใจ ร่ม ๆ หน่อย.............รออีกแป๊ะเดียว ไว้ออกพร้อมกันไม่ดีกว่าหรือ .............จริง ๆ จะเร่งซอยไปถึงไหน......... :party:
-
ตา A ก่อนโม้ทิงน่องนอย.....เผาให้ใหม่ก่อนไม่ดีกว่าหรือ .....หรือขยับซ้ายขยับขวา กระกดตูด กระเด้าดิน ดูก่อน
หาก เผาไหม้เสร็จแล้ว ไม่ได้เรื่อง ค่อยเก็บกระดูกไปลอย อังคาร ก็ยังทันนะ........ไหนบอกว่าหันกลับไปหาของดำแล้วไง
ของ ดำ ๆ ก็ใจ ร่ม ๆ หน่อย.............รออีกแป๊ะเดียว ไว้ออกพร้อมกันไม่ดีกว่าหรือ .............จริง ๆ จะเร่งซอยไปถึงไหน......... :party:
ยังไม่ได้ทำอะไรเลย........ครับ :hap3: เพราะไปหา ซี Jenzen ไม่ได้... ของมันแพง เลยดูๆเชิงไปก่อน..
สำหรับของดำ มีอยู่กับตัว ;D เชื่อมั๊ยนะ... :o^:
-
มาว่ากันต่อกับแนวเสียง
หากใครเคยฟังลำโพงยี่ห้อMonitor Br2 แนวเสียงทางเดียวกันเลยครับ
เด่นกลางเบสสะอาด แหลมหางสั้นๆ ราคาค่าตัวหมื่นกว่าๆ
แต่ tannoy mx1 ตัวนี้แค่ 7900 บาท เทียบเคียงได้ระดับนี้ หากมองสูงไปกว่านี้ ลำโพงคู่ละ 3หมื่นขึ้นไปเลยละครับ
ลำโพง tannoy ยังไม่พ้นระยะเบิร์นนะครับ
และทุกคำคอมเม้น เจ้าบ้านผู้ชำชองเครื่องเสียงบ้าน เป็นผู้วิจารณ์ ไม่ใช่ผมทั้งหมด อิอิ
ผมขอคร้านเกี่ยวกับ Monitor Br2 นะครับ ในฐานนะที่เคยผิดหวัง และช้ำใจกับลำโพงตัวนี้มาก ๆ จากที่ผมได้สัมผัสมานะครับ เบสอั้น, ปลายแหลมกุด , กลางแห้งๆ ครับ อันนี้ผมต้องขออนุญา๖ิเรียนแบบตรงไป ตรงมาครับ เพราะ้อ้อมๆ ไม่เป็ฯครับ :cheer: ซึ่งเมื่อก่อนตอนที่จะไปซื้อก็ด้วยประสบการณ์ยังมีน้อย ก็ไม่รู้ว่าลำโพงตัวนี้เป็น อิมพีแด๊นช์ 6Ohm ก็เลยโง่ซื้อ , และโชคดีที่ปัจุบันมีผู้รับไปดูแลต่อแล้ว ถือเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวกับ Monitor Br2 ครับ :th2:
-
แล้วตอนนี้ใช้อะไรอยู่ครับ
-
ผมขอคร้านเกี่ยวกับ Monitor Br2 นะครับ ในฐานนะที่เคยผิดหวัง และช้ำใจกับลำโพงตัวนี้มาก ๆ จากที่ผมได้สัมผัสมานะครับ เบสอั้น, ปลายแหลมกุด , กลางแห้งๆ ครับ อันนี้ผมต้องขออนุญา๖ิเรียนแบบตรงไป ตรงมาครับ เพราะ้อ้อมๆ ไม่เป็ฯครับ :cheer: ซึ่งเมื่อก่อนตอนที่จะไปซื้อก็ด้วยประสบการณ์ยังมีน้อย ก็ไม่รู้ว่าลำโพงตัวนี้เป็น อิมพีแด๊นช์ 6Ohm ก็เลยโง่ซื้อ , และโชคดีที่ปัจุบันมีผู้รับไปดูแลต่อแล้ว ถือเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวกับ Monitor Br2 ครับ :th2:
แหม๊....ดูพี่เล่นแต่ละตัว...ตอนนี้ BR2 มันก็กิ๊กก๊อกไปเลยนะซิ...ฮ๊าๆๆ
ปัจจุบันเจ้าของ BR2 ก็ขายทิ้งไปแล้วเช่นกัน เห็นตอนนี้เล่น Quad อยู่นะ.. ส่วนผมไปเรื่อยๆตามฐานะ ที่พอๆจะขอเมียมาเล่นได้... ประสบการณ์ก็ยังน้อย ;D
-
เพิ่มเติมกับลำโพง Tannoy หลังจากได้เปลี่ยนสายภายใน และเบิร์นได้พอประมาณ
เบสลึกและสะอาดมาก....คุ้มมากๆที่ได้มันมา ซื้อมา 7900 ใครซื้อหมื่นผมก็ไม่ขาย... ถ้าหมื่น2พีเอ็มมาเลย :hap5: :hap5: :hap5:
-
ผมเคยใช้อยู่ระยะหนึ่ง สำหรับลำโพงค่าย AUDIO MONITOR ซื้อจากเฮียปักสมัยอยู่ที่ร้านเสือป่า
ตัวแรก STUDIO 10 ต่อมาลดลงเรื่อย MA 700 และสุดท้าย MONITOR ONE (ไม่ใช่ one gold)
ต้องได้แอมป์ที่ถึงๆ พอสมควรครับ ไม่งั้นเสียงจะแกร่งจนฟังไม่ได้
เมื่อจับคู่ได้ ถือว่าเป็นลำโพงในอุดมคติทีเดียว ผมว่าเสียงร้องฟังสบายใจกว่า Proac 1 SC หรือ TOTEM Model 1 เสียอีก (ไม่เคยลองกับ Signature)
STUDIO 10 มือสอง ประมาณ 40000 ไม่ค่อยมีใครขายส่วนใหญ่จะเก็บกันครับหายากกว่า โทเทม เสียอีก
(http://image.free.in.th/z/ib/dscn2461.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=483b962ee775590998a604ffc926b4c7)
MA 700
(http://www.picza.net/uppic/pic/2011_10_11/022/02293a2859c58ae88570934207454dcb.jpg) (http://www.picza.net/show.php?id=02293a2859c58ae88570934207454dcb)
Thanks: Ro (http://ro.xn--n3cg3dvb4bwc.net/) ฝากรูป (http://www.picza.net)
MONITOR ONE GOLD มือสองราคาเท่ากับหรือแพงกว่ามือ 1 แน่ะ
(http://image.free.in.th/z/ie/206255414035dsc07784.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=d2611bd81aeb9ecb24286d990464267b)
-
ผมเคยใช้อยู่ระยะหนึ่ง สำหรับลำโพงค่าย AUDIO MONITOR ซื้อจากเฮียปักสมัยอยู่ที่ร้านเสือป่า
ตัวแรก STUDIO 10 ต่อมาลดลงเรื่อย MA 700 และสุดท้าย MONITOR ONE (ไม่ใช่ one gold)
ต้องได้แอมป์ที่ถึงๆ พอสมควรครับ ไม่งั้นเสียงจะแกร่งจนฟังไม่ได้
เมื่อจับคู่ได้ ถือว่าเป็นลำโพงในอุดมคติทีเดียว ผมว่าเสียงร้องฟังสบายใจกว่า Proac 1 SC หรือ TOTEM Model 1 เสียอีก (ไม่เคยลองกับ Signature)
STUDIO 10
(http://image.free.in.th/z/ib/dscn2461.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=483b962ee775590998a604ffc926b4c7)
แจ่มครับ เดี๋ยวนี้มีมือสองหลุดมา คว้าไม่ค่อยทัน... :th2:
-
แล้วตอนนี้ใช้อะไรอยู่ครับ
Wavecor ครับ :cheer:
http://www.wavecor.com/html/tw030wa05_to_08.html
http://www.wavecor.com/html/wf120bd03_04.html
(http://upic.me/i/iy/dsc07896.jpg) (http://upic.me/show/28921195)
(http://upic.me/i/ds/dsc07927.jpg) (http://upic.me/show/29053005)
(http://upic.me/i/gw/wf120bd03_wf120bd04_photo.jpg) (http://upic.me/show/28371676)
(http://upic.me/i/lt/tw030wa05-08_picture.jpg) (http://upic.me/show/19156046)
-
ขอความเห็นเกี่ยวกับลำโพงตังนี้ครับ ;D
http://www.rogershifi.com/ENG/spec-LS3_5A65.php
-
ลำโพง ROGER รุ่นครบรอบ 65 ปี ถ้าจำไม่ผิดหยิบยกสูตรลำโพงในตำนาน
ขึ้นมาปัดฝุ่นอีกครั้ง ลำโพง Rogers LS3/5A นั้น เป็นลำโพงมอนิเตอร์ที่
สถานีวิทยุโทรทัศน์ BBC แห่งเกาะอังกฤษสร้าง ของเดิมไดรเวอร์นั้นจะใช้ KEF
รุ่นนี้เป็น Bi-Wire ครับ ของเพื่อนผมมี ผลิตในจีทั้งหมด 11 โอห์มขับไม่ยาก
เวลาฟังเพลงแนะนำให้แกะหน้ากากออก รุ่นเดิมๆ นั้นเป็นของสะสมหายากมาก
:th2:
-
มาช่วยขยายเพิ่มเติมอีกหน่อยครับ
สมัยหนึ่ง สถานีวิทยุโทรทัศน์บีบีซีของอังกฤษ ต้องการลำโพงเล็กๆ สำหรับใช้งานในรถเคลื่อนที่สำหรับงานออกอากาศในสนาม
เน้นฟังใกล้ๆ ให้เสียงพูด เสียงร้อง เสียงเพลงที่ชัดเจนแจ่มใสมากที่สุด เพราะใช้ในรถออกอากาศเคลื่อนที่
ทีมงานบีบีซี ออกแบบและจดลิขสิทธ์เอาไว้
และมอบลิขสิทธ์ให้บริษัทโรเจอร์เป็นผู้ผลิต โดยระบุว่าต้องใช้ดอกลำโพงของ KEF
น่าจะเป็นรุ่น 110 B และเสียงแหลมรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า จำรุ่นไม่ได้ครับ
เมื่อนำออกมาเข้าประจำการเป็นที่ฮือฮามาก จนคอฟังเพลงนำมาใช้ในบ้านห้องเล็กๆ
และเมื่อโรเจอร์เลิกผลิต ก็มี KEF , SPENDER , HERBETH , RICHARD ALLEN , STIRING
ได้สิทธิ์ในการทำออกขายและสามารถออกแบบตัวดอกลำโพงของตัวเองได้
ทว่าต้องยังคงให้สุ้มเสียงในสไตล์เดิมของมัน ผมเคยจอง KEF LS 3/5a รุ่น Signature ผลิตจำนวนจำกัดไว้คู่หนึ่ง
พอของมาเผอิญช่วงนั้นหมุนเงินไม่ทันจริงๆ เลยได้แค่ลองฟังพร้อมยกสิทธิ์ให้คนอื่น
เป็นที่ทราบดีว่าลำโพงรุ่นนี้เลือกเจ้าของด้วยนะครับ จะต้องเป็นผู้ที่ชอบฟังเพลงอย่างที่เรียกว่า รักเดียวใจเดียว และต้องพิถีพิถันมาก
แอมป์นั้นถ้าใช้วัตต์น้อยไปเสียงก็ออกได้ไม่เต็มที่
เช่นเดียวกันแอมป์ที่วัตต์ช้างมากเกินก็ยิ่งฟังไม่ได้ จะต้องพอดีพอดีถึงจะเปล่งประกาย
เมื่อปราบมันอยู่ลำโพงคู่นี้ก็กลายเป็นไข่ในหินของทุกคน เหมือนทองคำที่ยิ่งนานวันราคามีแต่สูงขึ้น
กล่าวกันว่า KEF รุ่นที่ว่านี้เข้าคู่กับอินทิเกรดแอมป์ของจาดีสรุ่นออเครสตร้า
ซึ่งให้เสียงคนพูดหรือเสียงคนร้องได้ไพเราะเสียงเป็นธรรมชาติมีน้ำมีนวลมาก
โดยเฉพาะที่เปิดจากอัลบั้มข้างล่างนี้ครับ เสียงพูดของท่านนายกอังกฤษ Tony Blair ที่ใช้ภาษาผู้ดีอังกฤษแท้ได้สละสลวยมาก
และที่สุดของที่สุดเสียงร้องจากพระสหายสนิท
Elton John ในเพลง Candle In The Wind บีบีซี เร็คคอร์ดได้เยี่ยมมาก
ลำโพง KEF LS 3/5a รุ่นนี้ถ่ายทอดออกมาได้ไม่มีที่ติเลย
เป็นความทรงจำที่นำมาเล่าสู่กันฟัง ตำนานของมันยาวชนิดอ่านกันข้ามปีซึ่งหาอ่านได้ในกูเกิ้ลครับ
(http://image.free.in.th/z/ij/p1080406.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=2772a2dd067fc2cd40c79329329afdf5)
(http://image.free.in.th/z/ii/wba_177896.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=8c3f9e4ba9344f793b7d26d3879a170a)
โดยส่วนตัวผมยังคงความคิดว่า DIANA Princess Of Wales ยังคงมีพระชนม์ชีพอยู่
ยามที่เห็นข่าวในทีวี ผมก็จะหยิบอัลบั้มนี้มาเปิดฟังครับ
-
ยังไม่ได้ทำอะไรเลย........ครับ :hap3: เพราะไปหา ซี Jenzen ไม่ได้... ของมันแพง เลยดูๆเชิงไปก่อน..
สำหรับของดำ มีอยู่กับตัว ;D เชื่อมั๊ยนะ... :o^:
(http://www.uppic.org/image-E1BC_4E97B936.jpg) (http://www.uppic.org/share-E1BC_4E97B936.html)
แค่ M cap ก็เหลือๆแล้วมั๊ง....จะหา jenzen ที่บ้านหม้อมะมีหรอก ต้องที่สุวรรณภูมิ บ้านหม้อ
มีแต่ scr
-
(http://www.uppic.org/image-E1BC_4E97B936.jpg) (http://www.uppic.org/share-E1BC_4E97B936.html)
แค่ M cap ก็เหลือๆแล้วมั๊ง....จะหา jenzen ที่บ้านหม้อมะมีหรอก ต้องที่สุวรรณภูมิ บ้านหม้อ
มีแต่ scr
ก็ดูๆ M-cap เหมือนกันครับ อาจจะเอาไปใช้กับแอมป์หลอดซิงเกิ้ลเอ็น EL34
พอดีไปได้แหล่ง Mcap มา
และจะเอา Solen มาใช้ในเน็ตเวิร์คแทน...
(http://www.lautsprechershop.de/hifi/images/mcap.jpg)
http://www.lautsprechershop.de/hifi/cond_mun_en.htm
-
M cap ในไทยร้านอยู่รองเมือง ปทุมวัน โทรศัพท์ ( Tel.) 02-2167-685-7
ต้องเข้าเวปนี้ http://www.supremecap.net/capacitors.html
ใช้รุ่น supreame เป็นอย่างต่ำ รุ่น mkp ใช้ทำ cross ในลำโพง b&w
ใส่ค่า 0.1 ให้ปลายแหลมหน่อย ไม่รู้ว่าชอบแบบไหน M cap
มันดีตรงปลายแหลมเปิดแต่ไม่จัดแม้เวลาเร่งหนักๆ ได้แรงพุ่งอีก
แต่ไม่แข็งเหมือน Scr ส่วน solen ไม่เคยใช้ เคยฟังแต่รู้สึกไม่ชัด
เป็นรองกว่าทั้ง 2 ตัว เอาพวกนุ่มๆมาใช้กับหลอดมันจะน่วมไป
ก็แล้วแต่รสนิยม ผมมันชอบ สด ชัด โหด ไม่หนวกหู ยิ่งอัดยิ่งมันส์
-
M cap ในไทยร้านอยู่รองเมือง ปทุมวัน โทรศัพท์ ( Tel.) 02-2167-685-7
ต้องเข้าเวปนี้ http://www.supremecap.net/capacitors.html
ใช้รุ่น supreame เป็นอย่างต่ำ รุ่น mkp ใช้ทำ cross ในลำโพง b&w
ใส่ค่า 0.1 ให้ปลายแหลมหน่อย ไม่รู้ว่าชอบแบบไหน M cap
มันดีตรงปลายแหลมเปิดแต่ไม่จัดแม้เวลาเร่งหนักๆ ได้แรงพุ่งอีก
แต่ไม่แข็งเหมือน Scr ส่วน solen ไม่เคยใช้ เคยฟังแต่รู้สึกไม่ชัด
เป็นรองกว่าทั้ง 2 ตัว เอาพวกนุ่มๆมาใช้กับหลอดมันจะน่วมไป
ก็แล้วแต่รสนิยม ผมมันชอบ สด ชัด โหด ไม่หนวกหู ยิ่งอัดยิ่งมันส์
น่าสน... ส่วน Solen ผมเพิ่งลองของ...เพราะราคาไม่แพงมาก แต่ดีกว่า SCR เยอะครับ