ถูกต้องตามพี่ป้อมว่าครับ เผอิญไม่ได้จบกฎหมาย เลยไม่แม่น 555
เป็นคดีอาญาต่อบุคคลซึ่งยอมความได้ ไม่ใช่คดีอาญาต่อแผ่นดินที่ยอมความกันไม่ได้
พอดีว่างขออนุญาติเล่าสู่กันฟังหน่อยแล้วกันครับเรื่องการใช้เพลงในร้าน
ในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมาผมมีเอาเครื่องลงให้ลูกค้าซึ่งเป็นร้านอาหารอยู่ 5-6 ร้าน เป็นสวนอาหารขนาดใหญ่ 2 ร้าน
เป็นร้านคาราโอเกะ 2 ร้าน และร้านลีลาศอีก 2 ร้าน แต่ละร้านเปิดนานพอสมควร บ้างร้านก็สนับสนุนท้องที่
บางร้านมีพรรคพวกเพื่อนฝูงเป็นทนายความ บางร้านก็มีป้ายลิขสิทธิ์บางค่ายมาติด แต่ไม่ขอเล่านะครับ เรื่องมันยาว 555
แต่ทั้งหมดไม่เคยโดนจับลิขสิทธิ์ ล่าสุดเดือนที่แล้ว ผมเอาเครื่องลงร้านอาหารที่ซอย เสรีไทย 9 ร้านเล็กๆนะครับเข้าไปก็ลึกพอสมควร
กำหนด แกนด์โอเพ่นนิ่ง วันที่ 3 ก.ค. พอวันที่ 2 ผมก็ซาวด์เช็คตอนเย็น เจ้าของร้านเป็นผู้หญิง ผมก็นั่งกินกับเพื่อนฝูงแล้วนั่งฟังซาวด์กันไป
ก็มีอยู่โต๊ะเดียว แพล็บเดียวลิขสิทธิ์โผล่เข้ามามุ่งหาเจ้าของร้านทันที ไวมั๊ย ขนาดอยู่ลึก ซอยแคบๆขนาดนั้น 555 มาเจรจาบอกว่าถ้าจะเปิดเพลง
ขอให้ซื้อลิขสิทธิ์กับเขาก่อน เออมันก็ดีนะ ที่ไม่หานักบินมาจับกิน แฟนเจ้าของร้านมาพอดี มันก็เพื่อนผมนี่แหละ เป็นทนายความ
ก็ซักทันที ตามสันดานมัน อ้อมาจากบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลงไทย ก็ขอให้กลับไปก่อน วันรุ่งขึ้นวันเปิดทางการผมก็ไปที่ร้าน
เพื่อนมันเอาสติกเกอร์มาติดซะเองแล้ว อ้าวผมก็ถามเอามายังไง มันบอกพรรคพวกกันให้มา เพราะมันก็เคยว่าความให้บริษัทนี้มาก่อน
ที่เล่าสู่กันฟังสุดท้ายคนที่จะทำธุรกิจนี้ ควรศึกษาลู่ทางเอาไว้บ้างนะครับ รู้จักใครพอจะผ่อนหนักเป็นเบาก็ติดต่อกันไว้บ้างมันหลายเรื่อง
แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า และมันมีขั้นตอนตามป.วิอาญาอยู่แล้วลองพึ่งอาจารย์กู(เกิ้ล)ดูนะครับ ขอบคุณที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ อิอิ
จริงๆเรื่องมันยาวแต่พิมพ์ไม่ไหว ขอโชว์ภาพซะหน่อยเลย..555 ร้านนี้แหละครับ เสรีไทยซอย 9 แยก 3
(อ้อผมกำลังยุให้เค้าซื้อฮาร์ดล็อคเอ็กซ์ตรีมอยู่ แต่ร้านนี้มีทั้งโฟล์คซอง บางช่วงก็ร้องคารากัน)