eXtreme Karaoke
ถามตอบปัญหาด้านโปรแกรม Karaoke => Tip & Technic => ข้อความที่เริ่มโดย: มิสเตอร์บันเทิง ที่ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2008, 22:05:46 น.
-
พอดีผมเพิ่งซื้อ โน๊ตบุ๊ค CPU ATOM 1.8 RAM 1.512 G ต้องซื้อซาวด์การ์ด External เพื่อแยก Line
เห็นอาจารย์ภูม บอกว่าเสียงต่างกันนั้น ต่างกันมากมั๊ยครับ และใช้โน๊ตบุ๊คปัญหามีอะไรบ้าง ถ้าไม่เวิร์ค จะได้ขายทิ้งแล้วซื้อเครื่องแบบ Destop
-
พอดีผมเพิ่งซื้อ โน๊ตบุ๊ค CPU ATOM 1.8 RAM 1.512 G ต้องซื้อซาวด์การ์ด External เพื่อแยก Line
เห็นอาจารย์ภูม บอกว่าเสียงต่างกันนั้น ต่างกันมากมั๊ยครับ และใช้โน๊ตบุ๊คปัญหามีอะไรบ้าง ถ้าไม่เวิร์ค จะได้ขายทิ้งแล้วซื้อเครื่องแบบ Destop
แล้วแต่คนชอบครับ สำหรับผมแล้ว ผมพอใจครับ
-
พอดีผมเพิ่งซื้อ โน๊ตบุ๊ค CPU ATOM 1.8 RAM 1.512 G ต้องซื้อซาวด์การ์ด External เพื่อแยก Line
เห็นอาจารย์ภูม บอกว่าเสียงต่างกันนั้น ต่างกันมากมั๊ยครับ และใช้โน๊ตบุ๊คปัญหามีอะไรบ้าง ถ้าไม่เวิร์ค จะได้ขายทิ้งแล้วซื้อเครื่องแบบ Destop
;D
บางคนที่ผมเคยคุยด้วย บอกว่าเขาก็เคยแยก 14 ไลน์ (5.1 +7.1) แต่สุดท้ายก็มาเล่น สเตอรีโอ ปรับแต่งง่ายกว่า
สรุปว่าแล้วแต่ชอบครับ
อีกอย่างถึงแม้จะออกสเตอรีโอ แต่หากซาวน์การ์ดคุณภาพต่างกัน เสียงก็ย่อมต่างกัน เช่น ใช้ออนบอร์ดออกสเตอรีโอ กับใช้ X-Fi ออกสเตอรีโอ คุณภาพเสียง X-Fi ย่อมดีกว่า
---------------- จริงครับ
|
|
V
-
USB DAC โลด ;D
-
หากต้องการลงทุนน้อยผมอยากแนะนำ แอมป์ขยายหูฟัง ใช้ถ่าน AAA 1 ก้อน
คุณภาพเสียงนุ่มลึกใส ยกระดับซาวนด์ออน ได้อีกเยอะ ผมลองใช้ร่วมกับ EEE
เสียงดีมากครับ ราคารวมค่าส่งแล้ว 690 บาท รับลองไม่ผิดหวังในราคาเท่านี้ครับ
เหมาะที่จะเล่นร่วมกับซาวนด์ออน เป็นอย่างมาก
-
^
^
^
อาหารรสชาติมันห่วย ปรุงยังไงมันก็ไม่ได้ทำให้มันอร่อยได้หรอกครับ...อาจจะพอกินกันตายได้ (คำเปรียบเปรยครับ) >:D
เอาใหม่ ๆ
วัตถุดับชั้นดี แต่...พ่อครัวฝีมือห่วย คนกินจะปรุงเพิ่มอย่างไร มันก็ไม่ได้ทำให้มันอร่อยเป็นอาหารเลิศรสได้ ฉันใดก็ฉันนั้นครับ... :angel:
-
มิกตัวละ ราคาราวแสน ??? ( ของใหม่ ) EQ อีก 8000 สงสัยมันคงสู้ ของราคา 4900 ไม่ได้นิ :)
ปล.ยังไม่รวมตัวอื่นๆ ;D
-
มิกตัวละ ราคาราวแสน ??? ( ของใหม่ ) EQ อีก 8000 สงสัยมันคงสู้ ของราคา 4900 ไม่ได้นิ :)
ปล.ยังไม่รวมตัวอื่นๆ ;D
ทำไมใช่ของแพงจังเลยครับ ท่าน เฉพาะมิก ตัวเดียว ผมซื้อ ชุดคาราโอเกะไว้ร้องได้ทั้งชุดเลยนะนั้น ;D
แต่สุดท้ายก็คือ สูงสุดคืนสู่สามัญ ฉันไดก็ฉันนั้นครับท่าน
มาม่า ก็ยังคงเป็น มาม่า ครับ คือกินเมื่อไหร่ก็ยังคงอร่อยแบบมาม่า แม้ว่าจะพึ่งกิน หูฉลามมาใหม่ๆ(แล้วมันเกี่ยวกันตรงไหน)
-
มิกตัวละ ราคาราวแสน ??? ( ของใหม่ ) EQ อีก 8000 สงสัยมันคงสู้ ของราคา 4900 ไม่ได้นิ :)
ปล.ยังไม่รวมตัวอื่นๆ ;D
เอาเครื่องครัวชั้นเลิศระดับภัตราคารห้าดาวมาใช้ แต่...วัตถุดิบห่วยแตก มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
หรือวัตถุดิบชั้นดี แต่...บรรจุภัณฑ์ไม่ได้เรื่อง ไม่สะอาด มันก็คงไม่ต่างกัน...
ของแบบนี้มันเน้นจุดใดจุดหนึ่งไม่ได้เสมอไปหรอก มันต้องดูองค์ประกอบมวลรวม
ฉันใดมีเครื่องเสียงเรือนแสน แต่...เอา MP3 ห่วย ๆ มาเปิด เสียงมันก็คงได้แค่นั้น และมันยิ่งจะตอกย้ำความห่วยแตก ของสิ่งที่นำมาปรุงแต่งด้วยฉันนั้น...
-
แล้วคิดว่าระหว่างกุ๊กอาหารไทย กับ อาหารฝรั่ง ใครทำต้มยำกุ้ง อร่อยกว่ากันครับ
-
พอดีผมเพิ่งซื้อ โน๊ตบุ๊ค CPU ATOM 1.8 RAM 1.512 G ต้องซื้อซาวด์การ์ด External เพื่อแยก Line
เห็นอาจารย์ภูม บอกว่าเสียงต่างกันนั้น ต่างกันมากมั๊ยครับ และใช้โน๊ตบุ๊คปัญหามีอะไรบ้าง ถ้าไม่เวิร์ค จะได้ขายทิ้งแล้วซื้อเครื่องแบบ Destop
:D ความพึงพอใจของผู้ใจเป็นตัวตัดสิน หากท่านพอใจในคุณภาพเสียง ณ จุดที่อุปกรณ์ของท่านสามารถทำได้
นั่นคือ ถึงที่สุดแล้ว สำหรับท่านเอง แต่...ถ้ายังไม่พอ นั่นคือ สิ่งที่ท่านแสวงหา แล้วเมื่อใด มันจะถึงที่สุด
;D จงใช้ตัวของท่าน หูของท่านเป็นผู้ตัดสิน อย่าเชื่อในสิ่งที่ท่านยังไม่ได้สัมผัส จริงไม๊
-
สิ่งที่ดีที่สุดคือความพึงพอใจของเราครับ ก็อย่างที่บอกนั่นแหละสำหรับผมพอใจในสิ่งที่ผมได้และก็พอใจในสิ่งที่ผมมีแล้วครับ
-
อาหารรสชาติมันห่วย ปรุงยังไงมันก็ไม่ได้ทำให้มันอร่อยได้หรอกครับ...อาจจะพอกินกันตายได้ (คำเปรียบเปรยครับ) Evil
เอาใหม่ ๆ
วัตถุดับชั้นดี แต่...พ่อครัวฝีมือห่วย คนกินจะปรุงเพิ่มอย่างไร มันก็ไม่ได้ทำให้มันอร่อยเป็นอาหารเลิศรสได้ ฉันใดก็ฉันนั้นครับ...
ผมชอบคำสุภาษิตนี้มากครับ เอาไปเลย 1 จอกครับ
-
มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเคยพูดกับผมว่า มีเงินซื้อเครื่องเสียงราคาเป็นแสน แต่ใช้ซาวนด์การ์ดกระจอก ๆ สายห่วย ๆ เพื่ออะไร? แถมต่อด้วยว่า จะงกไปถึงไหน กับเครื่องคอมฯ และซาวนด์การ์ดราคาไม่กี่พัน สายไม่กี่พัน... หึหึหึ >:D
เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ความพอใจ มันอยู่ที่ความเหมาะสมมากกว่า...
ท่านอาจจะพอใจ แล้วผู้ฟังหรือลูกค้าล่ะครับ เค้าพอใจมั้ยล่ะ เกิดว่าเค้าเคยฟังที่ดีกว่าชุดของท่าน เค้าคงได้มีอะไรเป็นข้อเปรียบเทียบ ในการตัดสินใจใช้บริการท่านเป็นแน่แท้ ราคาก็เป็นอีกเรื่อง แต่...ไม่ใช่สิ่งที่เป็นหลักเสมอไป อยากให้พวกเรามีชุดใช้งานที่เป็นมาตรฐานสากลกันครับ ในเมื่อเรามีชมรม หรือคอมมิตตี้ กลุ่มของพวกเราต้องมีเครื่องมือ หรือการบริการที่ได้มาตรฐาน ไม่งั้นส่งผลยังอนาคตแน่นอน... ::)
-
ผมเห็นด้วยกับท่านหนุ่มเมืองน่านครับ แหละผมก็คิดเหมือนกับท่าน
เพราะว่า ถึงแม้จะเป็น แค่ soundfont แต่ใช้การ์ดออนบอร์ด กับ การ์ดเสียงราคาแพง ยอมต่างกันในที่ีนี้ คือรายละเอียด แค่เสียงแบสออกมาก็ต่างกกันแล้ว
พวกผมทำวงดนตรีเยอะ เค้าเคยใช้แค่ Live 5.1 ผมก็เปลี่ยนเป็นตัวแพงๆให้เค้า พอเค้าไปออกงาน เค้าได้พบว่า เสียงใส และแน่นกว่าเดิม
เอาง่ายๆ ทำไมคนฟัง mp3 เหมือนกัน แต่ไปแสวงหา USB DAC มาใช้แทน Sound on board เพราะ่ว่า มันให้เสียงที่ดีกว่า แต่ในที่นี้ หูฟังต้องดู
บางคนบอกว่า โอ้ย มีเครื่องเสียงแพงเป็นแสนๆ ล้านๆ แต่ใช้แค่ vibra ถามว่า มันจะออกมาดีได้ไง ในเมื่อต้นทางเสียงมันแย่ ปรับยังไงก็ไม่ดี
ถ้าคนที่มีเงินทุนทำวงดนตรี ซื้อของ อุปกรณ์แพงๆ ก็ไม่เสียหายที่จะใช้ซาว์ด แพงๆ
เชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่นะ
แต่ถ้าการ์ดเสียงแพงๆ มันไม่ีดี แล้วมันจะผลิตมาทำไม
แต่ถ้าจะเปิดดังๆ ตุ๊บๆ ตั๊บๆ โป๊งๆ ไม่เน้นรายละเอียดเนื้อเสียง อะไรก็คงไม่สำคัญ อยู่ที่จุดประสงค์มากกว่า
-
ขอสนับสุนนข้อความทุกกระทู้ครับ
-
ขอสนับสุนนข้อความทุกกระทู้ครับ
โอ้ว มีสปอนเซอร์ด้วยแฮะ กระทู้นี้ อิอิ งั้นผมขอรับการสนับสนุน USB DAC ซักตัวนะครับป๋า ;D
-
โอ้ว มีสปอนเซอร์ด้วยแฮะ กระทู้นี้ อิอิ งั้นผมขอรับการสนับสนุน USB DAC ซักตัวนะครับป๋า ;D
;D ;D ;D
-
สำหรับผม พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีครับ และก็ภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำครับ
และก็สุขใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นผู้ให้ครับ และก็สบายใจในทุก ๆ สิ่งว่ามาแล้วไม่มีใครเดือดร้อนครับ
-
ถ้าให้ผมเอาโน๊ตบุ๊คหรือพีซีไปต่อกับเครื่องเสียงเล่นเพลงฟังซักเพลงโดยใช้การ์ดที่มากับเครื่อง
ฟังดูยังไงก็ยังสู้การ์ด PCI หรือ USB บางรุ่นไม่ได้อยู่แล้วครับ
แต่ถ้าผมไม่ได้พกตัว External หรือ PCI ไปด้วย หรือไม่มีตังค์ซื้อผมก็จะใช้ออนบอร์ดนั่นล่ะครับ
จงพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่................... ;D
-
คนเราแปลกครับ ....ชอบโยนความสุขที่มีอยู่ทิ้งไป แล้วไปแสวงหาความสุขเอาข้างหน้า เป็นอย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น.....ขอโทษครับผมไม่ได้ว่าใคร....นะครับ
-
ในงาน PA เสียงที่ดีกว่าไม่ได้หมายความว่าเราใช้ซาว์นการ์ดที่ดีกว่า มันอยู่ที่เราจัดระบบเสียงและความชำนาญในการปรับแต่งมากกว่าครับ เสียงร้องและการแสดงหน้าเวทีคือพระเอก ทุกวันนี้ผมใช้โน๊ตบุ๊คซาว์นบอร์ดแต่ทำไมงานเพียบแสดงว่ามันไม่ได้ขี้เหร่อะไรมากมายเลย ไม่เคยมีลูกค้ามาบ่นว่าเสียงไม่ดีไม่งั้นคงไม่ยืนอยู่ได้จนทุกวันนี้ ผมฟังเป็นครับเสียงใช้ได้หรือไม่ได้ 10 กว่าปีแระ
Home กับ PA เข้าใจคนละอย่างจริงๆ แล้วในงาน PA เค้าจะซื้ออิควอไลเซอร์มาทำไมกัน จริงอยู่ของแพงเสียงย่อมดีกว่าอันนี้ไม่เถียงแต่มันไม่ได้ดีมากมายจนเหมือนนรกกับสวรรค์ เครื่อง PA มันไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากเหมือนเครื่องเสียงห้องอัดหรือในบ้านหรอกครับ
ใช้ฟังในบ้านไงท่าน ท่านจะได้รายละเอียดครบคุ้มราคาเลยล่ะ แต่เอามาใช้กับ PA อย่างไปหวังอะไรกับมันมากลำโพงมันไม่สามารถให้อะไรเราได้มากมายหรอก เลือกใช้ของให้ถูกกับงานครับบางสิ่งบางอย่างอาจใช้แทนกันได้แต่มันไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป เล่นงาน PA แล้วจะต้องเสียเงินเยอะๆไปซื้อซาว์นแพงๆ ผมว่าผมไปหาซื้อ Sound Roland รุ่นใหม่ๆเสียงดีๆมาใช้ดีกว่าอันนี้เค้าทำมาเพื่องาน PA โดยเฉพาะครับกระผม
อันนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นในของแต่ละบุคคลนะครับ ไม่ได้ขัดแย้งเพื่อจะเอาชนะคะคานอะไร มันจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่เพิ่งเริ่มและคิดจะลงทุน ไม่ต้องเชื่อใครครับอย่างน้อยการขัดแย้งจะทำให้เราได้ฉุกคิดครับว่า
เออ...แล้วมันดีจริงอย่างที่เค้ากล่าวอ้างมาหรือเปล่าหรือเราต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองซะก่อน
ถูกต้องครับพี่ เครื่องเสียง PA ต้องให้เสียงแบบ PA ครับ +1
-
ครับ เรามาถกปัญหาและเสนอแนะครับ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้คนได้ตัดสินใจครับ
ว่าชอบในไหน ในบ้านหรือกลางแจ้ง ขนาดงานเท่าไหร่ ทุกคนอาจจะชอบแตกต่างกันไป
อาจชอบไม่เหมือนกัน แต่ที่ผมเหนพวกเราชอบเหมือนกันคือ ชอบเสียงดนตรี
ชอบฟังเพลง ชอบสร้างความสุขให้กับคนอื่นครับ เรามาที่นี่เพื่อจูนคลื่นความถี่
ให้เจอกันในสิ่งที่ชอบได้เหมือนกันที่สุดครับ ขอบคุณทุกความคิดเหนทุกความรู้สึกครับ
ผมว่าบ้านเราเป็นบ้านที่ถือว่าเป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริง ๆ ครับ พวกเรายืนอยู่บนเหตุผลกันทุกคนครับ
ขอบคุณจากใจในทุกความคิดเห็นครับทุกท่าน อากาศเริ่มเย็นแล้ว ที่อุดรนี่ออกไปทางหนาวแล้ว
ยังไงก็อยากให้พวกเรารักษาสุขภาพด้วยนะครับ +1 ทุกท่านครับผม
-
ขอสนับสุนนข้อความทุกกระทู้ครับ
จ่ายค่าหนับหนุนมาเลยนะ....
ผมกำลังหาของดี เหมือนกัน ที่ไม่แพง คงเหมาะสมกับการใช้ที่บ้าน
และตั้งงบไว้ 2 แสน สำหรับ งาน PA จะลาออกจากกงานประจำ ไปทำวงแล้ว
-
ผมอยู่กับเสียงเพลงค่อนข้างเยอะครับ
ทั้ง Home Use และ PA เสียงสองประเภทนี้แตกต่างกันครับตามสภาพแวดล้อม
ใช้ Soundcard ทั้งแบบ Internal และ USB เมื่อมาฟังกับ Onboard แล้ว
แตกต่างกันครับ ถ้าเล่นแบบ MIDI ใช้ Sound ที่ซื้อมาติดตั้งเพิ่มจะให้มิติเสียงที่ดีกว่าแน่นอน
แต่ไม่ใช่แบบสุดโต่ง อาจจะประมาณ 30-40 เปอร์เซนต์
จะเสียงดีไม่ดีขึ้นอยู่กับเครื่องปรุงแต่ง และส่วนประกอบที่รวมกันหลายๆอย่าง(รวมถึงมือมิกซ์ด้วย)
แต่ถ้าเราพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ผมว่าก็พอแล้วครับ
จงใช้หูของเราเป็นตัวตัดสิน ว่าเรามีความพอใจอยู่แค่ใหนครับ :D :D
-
จ่ายค่าหนับหนุนมาเลยนะ....
ผมกำลังหาของดี เหมือนกัน ที่ไม่แพง คงเหมาะสมกับการใช้ที่บ้าน
และตั้งงบไว้ 2 แสน สำหรับ งาน PA จะลาออกจากกงานประจำ ไปทำวงแล้ว
กลับบ้านท่าน ไปทำงาน
-
ผมชอบจังเลยกระทู้นี้ช่างตั้งหัวข้อดีแท้ คนถามคนเดี๊ยะ สมาชิกช่วยกันตอบกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเลย ผมยังไม่มีตังซื้อโน้ตบุคเลย ต้องทนใช้เครื่องประกอบเอง สะสมอุปกรณ์เอา เลยได้ฟังแต่เสียง พีซีไอ การ์ด ก็ว่ามันก็พอฟังได้อยู่นะ
-
.........................ฯลฯ..............................................
............................มันจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่เพิ่งเริ่มและคิดจะลงทุน ......................
;D
* ชอบประโยคนี้มากๆๆครับ
* ชอบกระทู้นี้ และกระทู้แบบนี้มากๆๆ ครับ ชอบฟังคนเถียงกัน ได้ความรู้และแง่คิด
* โดยส่วนตัว ผมไม่ใช่คนมีประสพการณ์ และความรู้เกี่ยวกับระบบเครื่องเสียงมากนัก แต่
* เคยได้ฟังมาหลายครั้งแล้วว่าเสียงของ PA กับเครื่องเสียงบ้านนั้น คนละอย่างกันจริงๆ
* เคยได้ฟังและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง - ซาวน์การ์ดธรรมดาๆ + ซาวน์การ์ดที่แพงๆหน่อย และซาวน์การ์ดออนบอร์ด ว่าเสียงแตกต่างกันจริง ตามราคา
* แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็เชื่อมาตลอดว่า ซาวน์การ์ดออนบอร์ด โดยเฉพาะของโนตบุค ถึงแม้มันจะต้องการประหยัด ลดต้นทุน แต่ถ้าคุณภาพห่วยแตก มันคงไม่กล้าใส่มาให้เป็นตัวดึงยอดขายโนตบุคแน่ๆ
-
ผมชอบประโยคนี้มากกว่าครับเสธ.
“ผมไม่ได้ล้มเหลวหรอก แค่ได้ค้นพบกว่าหมื่นวิธีที่ไม่ได้ผลเท่านั้นเอง” โทมัส อัลวา เอดิสัน
-
"ไม่มีแนวคิดอะไร อ่านอย่างเดียว กินแรง" 555+
-
ผมชอบประโยคนี้มากกว่าครับเสธ.
“ผมไม่ได้ล้มเหลวหรอก แค่ได้ค้นพบกว่าหมื่นวิธีที่ไม่ได้ผลเท่านั้นเอง” โทมัส อัลวา เอดิสัน
เยี่ยมครับพี่ เหมือน งมเข็มในมหาสมุทร ประมาณนั้นใช่ไหมครับพี่ ;D
-
ผมว่าโน๊ตบุ๊ค ก็โอเคนะ ตอนนี้ผมใช้ ทั้ง Home และ PA ขอแสดงความคิดเห็นแค่นี้นะ ขอให้ทุกคนมีงาน มีเงินใช้เยอะๆๆๆๆนะครับ ถือโอกาสอวยพรปีใหม่เลย
-
แจมนิดนึงครับ เครื่องกะคนชุดเดียวกันทุกอย่างออนบอร์ดกะพ่วงการ์ด ลองนึกแล้วถามใจตัวเองดูครับ สายแจ็คเมตรละ20กะ100 คนปรับคนเดิมเครื่องชุดเดิมทุกอย่างไม่ขยับปุ่มใดใดทั้งสิ้น ถามใจตัวเองอีกทีครับ ออนบอร์ดก้อเสียงดีครับ ดีมากด้วยแต่มันจะดีกว่าครับ...
-
ผมว่าราคาพอจะใช้ตัดสินได้เหมือนกันนะครับ...(ในเบื้องต้น)... คงไม่มีใครที่ผลิตสินค้าห่วย ๆ เพื่อมาขายราคาแพง ๆ หรอกครับ... คุณภาพมันต้องมีความเหมาะสมกับราคาบ้างละนะ...ไม่งั้นจะขายให้ใคร...ทำไมรถเบ๊นซ์แพงกว่าอีซูซุ....ฉันใดก็ฉันใด....ซาวด์การ์ดราคาหมื่นย่อมจะต้องมีอะไรที่เหนือกว่าซาวด์การ์ดราคาไม่กี่ร้อยบาท...แน่นอน.. สำคัญว่าใครจะรู้จักใช้ประโยชน์จากตัวของมันให้เกิดประโยชน์สูงสุดคุ้มค่าราคาที่ซื้อมาหรือไม่เท่านั้น.....(พูดแบบว่าไม่ต้องคิดมากเพราะไม่ค่อยรู้เรื่องเทคนิคเฉพาะของซาวด์เท่าไหร่)
-
สรุปแล้วเครื่องใครเครื่องมัน ใช่มะ ;D
-
จากส่วนตัวนะ ผมเองก็เป็นนักดนตรีคนนึง ซึ่งคลุกคลี กะ มิดิ คาราโอเกะ มาตั้งแต่อายุ10-11(ตอนนี้18)
ตามความคิดผมอ่ะ ไม่ได้มีไรตายตัวเสมอไป เช่น สมมติว่า มีเครื่องเสียงของบอสเทค ชุดเกือบล้านกับซาวออนบอร์ด
กับมีเครื่องเสียงยี่ห้อเมืองไทย(NPE ฯลฯ)แต่เป็น Creative X-Fi ยังไงเสียงมันก็ต่างกันเพราะในโลกนี้มันมีอะไร
หลายอย่างเป็นปัจจัยมากมาย อย่างพวกแอม หรือแม่แต่ซาวน์การ์ดดีๆ Capacitor(คาปาซิเตอร์ = ตัวเก็บประจุ)
ก็มีผล เพราะมันมีหลายเกรด(เรื่องมันยาวนะ)
ปัจจัยที่มีผลในความคิดผมนะ
1.Hardware(ซาวน์การ์ด,คอม,อุปกรณ์ต่างๆ)
2.Software(โปรแกรมต่างๆ)
3.PEopleware(คนก็มีผลนะ)
แนะนำนะ หากฟังในบ้านแบบชุดเล็กๆถึงกลางๆเนี่ย คอมแรงปานกลาง+ซาวน์การ์ดดีๆCreative งบซัก1000-2500+ชุดเครื่องเสียงซัก30-100วัต(คงไม่มีใครเล่นPA1000วัตในบ้านมั๊ง ;D ;D)+การฝึกฝนที่จะทดลองฟังเพลงต่างแล้วมานั่งหัดมิกเอง(ถูกใจสไตล์ตัวเองก็พอ เพราะเราฟังในบ้าน)
หากท่านรับออกงานต่างคอมแรงๆๆ+Creative งบซัก2500ขึ้นไป+เครื่องเสียงดีๆ+การปรับแต่งดีๆ(แบบเป็นกลางๆให้เข้ากับงาน ฟังจากส่วนรวมเป็นใหญ่เอาให้กลมกลืน)รับรองว่าเสียงที่ออกมาจะมีมิติดีกว่า
มันก็แล้วแต่บุคคลด้วยอ่ะครับ
รอฟังจากปรมาจารย์ทุกท่าน
เพราะทุกวันนี้ผมนั่งเล่นกีต้าก็ซ้อมกับVSTi
อิอิ มาอีกละอีกไม่นานพบกับ "มาซ้อมดนตรีกับ VSTi+Sonar กันเถอะ"
-
ไม่มีความเห็นครับ กลับไปทำงานพี่ป้อม ฮิ ฮิ
-
เห็นด้วยกับคุณป้อม บิ๊กแบงค์ ครับผม ;D ;D ;D
-
กระผมเจ้าของกระทู้ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นด้วยความเคารพ ผมได้ความรู้จากหางอึ่ง เป็นหางชี้ เอ้ย..หางช้างเลยครับ...........ขอบพระคุณครับ
-
เชิญท่านต่อไปแสดงความคิดเห็นครับ
ผมต่อก็ได้ครับพี่ เป็นความจริงอย่างที่พี่ป้อม พูดมาครับ ผมก็เคยเล่นแบบหนักๆอย่างเทพ เกรดในห้องอัด
แต่พอใช้งานจริงๆมันไม่ได้ต่างออกไปมากนักในงาน PA สุดท้ายผมก็เก็บของพวกนั้นไว้แล้วมาใช้อะไรๆที่
มันง่ายๆ ใช้ของระดับกลางๆ ไม่แพงมากนัก แต่ให้ความสุขเหมือนกัน
เมื่อวานในมีโอกาสไปเชียงใหม่ ก็เลยแวะไปที่ร้านขายอุปกรณ์เครื่องเสียง ได้มีโอกาสได้รอง EQ ตัวหนึ่ง
เป็นหนุม ไม่ใช่สไลด์ จากการลองฟังเสียงแบบ ผ่าน EQ กับ ไม่ผ่าน ให้ผลที่ต่างกันมาก ทดลองกับลำโพง
คุ่ละ 18000 บาท เป็นลำโพง 15 นิ้วสองทาง ตอนที่ไม่ผ่าน EQ เสียงที่ได้ก็เป็นไปตามราคาของ ลำโพง
แต่พอผ่าน EQ เท่านั้นแหละ เสียงที่ได้ออกจากลำโพง เทียบได้กับลำโพงแพงๆได้เลย ให้รายละเอียดเสียง
ดีมาก เสียงถูกแยกออกมาอย่างชัดเจน ต่ำ กลาง แหลม ไม่แข่งกันออกมา ตัว EQ เป็นแบบ แยกปรับได้ 5 ช่อง
ความถี่ แต่ละช่องสามารถที่จะ กำหนดความถี่ที่ต้องการได้ เสียงที่ได้จาก EQ ตัวนี้มีทั้งความหนาของเสียง
มิติเสียง สามารถเข้าไปเสริมสิ่งที่ขาดหายหรือว่าไปลบข้อด้วยของลำโพงในแต่ละตัวได้ จากการสอบถาม
ราคา เจ้าของร้านบอก 100,000 บาท ครับ เฉพาะ EQ ตัวเดียว และไม่ใช่ EQ 31 แบนด์ด้วยสิ
-
กลับมาไล่อ่านอีกรอบก้อเริ่มชัดขึ้นครับ ถ้าในบ้านก้อพอฟังออกแต่ออกงานเนื่ยไม่ค่อยรู้หรอกครับ แค่อีคิวกะครอสเนี่ยตอนเปิดซีดีก้ออ๊วกแล้วกว่าจะลงตัวไหนจะไมค์อีก งาน PA การปรับเซ็ทอัพให้ผลมากกว่าออนบอร์ดหรือการ์ดครับ สนับสนุนคุณป้อมครับ