สรุปใจความสำคัญได้ว่า
1 คำว่าเฟส ที่ sound EN ชอบเรียกๆกัน ที่จริงควรใช้คำว่า Polarity จึงจะถูก (เอาเป็นว่าใช้คำว่าเฟสหรือ polarityก็ได้)
2 อะไรก็ตามที่มีการกลับทิศทางของสัญญาณในทางเดินของสัญญาณถือว่า กลับเฟส (Inverse phase or inverse polarity) ไม่ว่าจะเป็นการต่อสายสัญญาณ สายลำโพงหรือตำแหน่งไมค์
3 มี สองคำที่ต้องทำความเข้าใจคือ out of phase กับ inverted phase
out of phase คือ แหล่งกำเนิดเสียงอันใดอันหนึ่ง กลับเฟส ทำให้เกิด เสียงเบสหาย (ไม่ได้หายทั้งหมดแต่เบาลง)
inverted phase คือ แหล่งดำเนิดเสียงทั้งสองกลับเฟส สิ่งที่เกิดขึ้นคือ loss of low nd frequency (loss of Punch)คือ เสียงความถี่เบสช่วงต่ำๆหายย่าน 30-40Hz สังเกตได้จากปกติถ้าเฟสตรงกันกระเดื่องมันจะจุกอก อันนี้แหละเรียก Punch ถ้าinverted phase มันจะไม่จุกอก
4 Inverted phase ที่เกิดจากไมค์ เกิดจากการที่ลมจากการกระแทก เดินทางในทิศทางออกจากDiaphragm ของไมค์ยกตัวอย่างเช่น snare tom เราตีกระทบหน้ากลอง ลมมันจะออกที่ก้นกลอง เฟสที่ได้จะเป็น เฟสกลับ(180องศา) ถ้าดูจาก oscilloscope จะเห็นInitial phase เป็นเฟสกลับ แต่ถ้าเป็นไมค์กระเดื่อง เราเหยียบกระเดื่องลมมันจะพุ่งเข้า ไมค์ตรงๆ อันนี้ได้ เฟสตรงกัน
5 ถ้าเราวางไมค์จ่อตู้แอมป์กีต้าร์ เยื้องจากจุดศูนย์กลาง 22องศา เฟสที่ไ้ด้จะ เป็น 22องศา อันนี้ไม่ถึงกับ inverted phase แต่เสียง punch มันจะหายไปเล็กน้อย ดังนั้นความเชื่อแบบนี้เป็นความเชื่อที่ผิด
ุ6 วิธีที่จะช่วยเรื่อง Inverted phase ได้ก็คือ กดปุ่ม reverse phase ในmixerของเรา(ถ้ามี) หรือ กลับขั้วสายของเราซะ หรือใช้ patch bay ในการกลับเฟส
5555+ ทีนี้ก็ตอบคำถามคาใจของตัวเองได้แล้ว (กำ.....ถามเองตอบเอง)
1 ถ้าต่อแบบกลับขั้ว ก็จะได้ Inverted phase
2 ถ้าใช้สายที่ต่อกลับขั้วเฉพาะไมค์ตัวเดียว ไมค์ตัวนั้นก็ Inverted Phase เสียง Punch จะหาย(ไอ้Punchเนี่ย เราไม่ต้องการให้เกิดกับ Vox mic อยู่แล้ว จะกลับเฟสไม่กลับเฟส ก็ไม่เป็นไร)
กรณีท่านพิมชนกกล่าวมาน่าจะเป็น out of phase สัญญาณทั้งสองหักล้างกันเนื่องจากแหล่งกำเนิด อันใดอันหนึ่งเฟสต่างกัน 180องศา
อ่านแล้วคิดถึงสมัยเรียนฟิสิกส์ ม ปลาย เพิ่งได้ใช้เอง เรื่อง การแทรกสอดของคลื่น
กลับมาอธิบายได้ว่า ทำไมเสียงเบสมันหาย เพราะเบสมันความถี่ต่ำ ความยาวคลื่นเลยยาว v=f x (ความยาวคลื่น) เนื่องจากความเร็วเสียงในอากาศเท่ากัน
ดังนั้นเวลาเราเดินไปตำแหน่งต่างๆจะได้ยินเสียงเบส -กระเดื่องหนักเบาไม่เท่ากันจาก กฎการแทรกสอดของคลื่น
ส่วนเสียงอื่นๆนั้นจะไม่ได้ยินดังเบาต่างกันมากเหมือนเบส เนื่องจากความถี่สูง ความยาวคลื่นน้อยลงจนฟังการแทรกสอดไม่ออก จากสูตรการแทรกสอด คือ ระยะระหว่างแหล่งกำเนิดเสียง = n(ความยาวคลื่น)