ผู้เขียน หัวข้อ: การตรวจวัดแอลกอฮอล์  (อ่าน 19686 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ขอชอลอ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2416
  • HLno. 96E63ADF / 8D001112 (xmen)
การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 17:30:25 น. »
เนื่องจาก กำลังเป็นประเด็นในสังคมปัจจุบัน
เกี่ยวกับวิธีเลี่ยงการเป่าแล้วระดับแอลกอฮอล์เกิน

จึงได้นำบทความที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านครับ


กระทู้นี้ มิได้มีเจตนาส่งเสริมการดื่มสุรา
หากแต่เป็นหนทางการป้องกันการเสียเงิน เสียเวลา เสียประวัติ
จากการ บกพร่องโดยสุจริต
เนื่องจากว่า บางครั้งไม่ได้เมามาก แต่มีความจำเป็นที่จะต้องขับรถ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  เมาไม่ขับ ดีที่สุด ครับ




ที่มา : http://www.panyathai.or.th

การตรวจวัดแอลกอฮอล์
      การศึกษาวิธีที่จะวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายมีมากว่า 150 ปีแล้ว ผู้ที่ศึกษาเป็นคนแรกคือ Francis Edmund Anstie (ค.ศ. 1833 - ค.ศ. 1874) ชาวอังกฤษ พบว่า แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป จะสามารถพบบางส่วนได้ในลมหายใจ และปัสสาวะ นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ Nielous (ค.ศ. 1848 - ค.ศ. 1910) ศึกษาพบว่า แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป จะพบในลมหายใจ ปัสสาวะ น้ำลาย และเหงื่อ หลังจากนั้นได้มีนักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาวิจัยอีกหลายท่าน

        ในระยะแรกการวิเคราะห์หาปริมาณแอลกอฮอล์ใช้วิธีเก็บตัวอย่างจากเลือด หรือ ปัสสาวะจากผู้ต้องสงสัย แต่มีปัญหาคือ ต้องวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการและต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญ ทราบผลช้า และที่สำคัญคือ ไม่สามารถสื่อไปถึงปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในร่างกาย ฉะนั้น ได้มีการนำวิธีการวิเคราะห์ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากลมหายใจมาใช้ ในช่วงปี 1930-1953 ได้มีการคิดค้นเครื่องวัดแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจขึ้น และได้มีการพัฒนาเครื่องมือวัดเป็นรุ่น ๆ จนถึงปัจจุบัน การพัฒนาเครื่องวัดนี้ เพื่อออกแบบให้เครื่องสามารถวัดได้เฉพาะแอลกอฮอล์ชนิดที่เป็น Ethyl อย่างเดียว (เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ที่มนุษย์เราดื่มจะผสมแอลกอฮอล์ชนิด Ethyl) โดยไม่ถูกสอดแทรกโดยสารอื่น เช่น acetone, chloroform, ther, thyl acetate, methanol เป็นต้น เพื่อที่จะให้การวิเคราะห์ปริมาณลมหายใจใกล้กับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดมากที่สุด


        เครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจ แบ่งตามลักษณะของเครื่องได้เป็นสองประเภท คือแบบพกพา (Mobile) และแบบประจำที่ (Stationary) ถ้าแบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้งาน แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ เครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจแบบตรวจคัดกรอง (screening) และเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจแบบตรวจยืนยันผล (Evidential)

        โดยที่เครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจแบบตรวจคัดกรอง เป็นเครื่องที่ใช้ในการทดสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด โดยวิธีเป่าลมหายใจเข้าเครื่องวัด ผลที่แสดงจะเป็นตัวหนังสือว่าเกิน หรือไม่เกินค่ามาตรฐานที่ตั้งไว้ เช่น แสดงเป็น pass หรือ Fail หรืออาจแสดงเป็นตัวเลขก็ได้

        เครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์แบบตรวจยืนยันผล เป็นเครื่องที่ใช้ในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด โดยวิธีเป่าลมหายใจเข้าเครื่องวัด ผลที่ได้จะแสดงเป็นตัวเลขว่ามีปริมาณในหน่วย mg/100ml เช่น 50 mg/100ml (แสดงว่า ในเลือด 100 มิลลิลิตรมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ 50 มิลลิกรัม) เป็นต้น


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 21 สิงหาคม 2009, 09:56:14 น. โดย เด็กบางมด »

ออฟไลน์ ขอชอลอ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2416
  • HLno. 96E63ADF / 8D001112 (xmen)
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 17:31:44 น. »
การทำงานของเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจ

         สำหรับการทำงานของเครื่องวัดระดับแอลกอลฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจนั้น ในการตรวจจะให้ผู้ตรวจเป่าลมหายใจเข้าเครื่องซึ่งมีตัวตรวจจับแอลกอฮอล์ (Alcohol Detector) ตัวตรวจจับเมื่อได้รับแอลกอฮอล์จากลมหายใจ จะมีการแปรสภาพซึ่งอาจมองเห็นได้ เช่นการเปลี่ยนแปลงสีของสารเคมี หรือวัดได้จากพลังงาน เช่น กระแสไฟฟ้า ความต่างศักย์ การเปลี่ยนแปลงสภาพนี้ จะถูกแปลค่าให้รายงานออกมาที่หน้าปัดของเครื่อง ในของ ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด (Blood Alcohol Concentration: BAC) ทั้งนี้ โดยอาศัยการคำนวณค่าจาก ค่าความสัมพันธ์ของสัมประสิทธิ์ในการแปลงค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเป็นปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจ

        การที่เครื่องวัดฯ จะวิเคราะห์ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากลมหายใจได้ถูกต้อง ต้องใช้ลมหายใจจากส่วนลึกของปอดที่สัมผัสกับเส้นเลือดฝอยในปอด เพื่อจะให้ได้ค่าปริมาณแอลกอฮอล์ที่ถูกต้อง ผู้ผลิตได้ออกแบบให้เครื่องวัดฯ เมื่อถูกเป่าลมหายใจเข้าเครื่องต่อเนื่องไปได้ระยะหนึ่ง ความแรงในการเป่าจะลดลง สูบไฟฟ้าในเครื่องฯ จะเก็บตัวอย่างลมหายใจประมาณ 1 ซีซี แบบอัตโนมัติ ในกรณีที่เครื่องไม่ได้ออกแบบให้เก็บตัวอย่างลมหายใจแบบอัตโนมัติ การตรวจวัดต้องให้ผู้ถูกตรวจเป่าลมหายใจเข้าเครื่องอย่างต่อเนื่อง และผู้ที่ทำการตรวจวัด จะนับ 1 ถึง 5 ในใจอย่างช้า ๆ เมื่อนับครบแล้ว จึงกดปุ่มรับตัวอย่าง เพื่อให้สูบไฟฟ้าเก็บตัวอย่าง รูปที่ 2 แสดงถึงความสัมพันธ์ของระดับ แอลกอฮอล์ในลมหายใจกับปริมาตรของลมหายใจที่เป่าออกมา จะเห็นว่าเมื่อเป่าลมหายใจเข้าเครื่องวัด ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในลมหายใจจะเริ่มต้นที่จุด ๆ หนึ่ง แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และความเข้มข้นจะค่อย ๆ คงที่ในที่สุด




ออฟไลน์ ขอชอลอ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2416
  • HLno. 96E63ADF / 8D001112 (xmen)
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 17:33:02 น. »
ทำอย่างไรจึงจะลดโอกาสที่จะถูกตรวจสอบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจสูง

       จากที่ได้กล่าวไปในตอนต้นถึงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทางการจราจรได้ง่าย นอกจากจะทำความเสียหายให้แก่ผู้ควบคุมยานพาหนะ แล้วยังทำให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลที่อยู่รอบข้างหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องของผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เอง คู่กรณี ไม่เว้นแม้แต่ญาติพี่น้องของผู้ที่เป็นคู่กรณี ดังนั้น การป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้นี้ ทางที่ดีที่สุดคือ ถ้าต้องขับขี่หรือควบคุมยานพาหนะ ก็ควรงดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เข้าไป ทั้งนี้จากประสบการณ์ของผู้เขียน พบว่า การดื่มเบียร์เพียงหนึ่งแก้ว (250 มิลลิลิตร) สำหรับบางคนก็อาจทำให้ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 50mg% ได้ และมักจะมีแนวโน้มว่าอยากดื่มแก้วที่สองและสามมากขึ้นตามลำดับ ดังนั้นการที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ตั้งแต่แก้วแรก จะเป็นการปฏิบัติตัวที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ขับขี่ยานพาหนะและกลัวว่าจะถูกตรวจว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ควรจะทำดังนี้


         1. งดการดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 15 นาที ก่อนการขับขี่หรือควบคุมยานพาหนะ และไม่ควร รับประทานยา หรือใช้สเปรย์ระงับกลิ่นปากก่อนการขับรถเพราะอาจมีผลต่อการตรวจวัดได้


         2. อย่างน้อยใน 5 นาทีที่ก่อนการถูกตรวจวัด ไม่ควรสูบบุหรี่ เนื่องจากกลิ่นบุหรี่จะสะสมในเครื่องวัด ทำให้เครื่องเสียได้ และกลิ่นบุหรี่ยังอาจเป็นที่น่ารังเกียจของผู้ที่จะใช้ต่อไป


        3. หากถูกเรียกเพื่อตรวจวัดลมหายใจ ก่อนท่านจะเป่าลมหายใจเข้าเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากลมหายใจจะต้องแน่ใจว่า หลอดเป่าที่ใช้ต้องเป็นของใหม่ที่ได้ทำให้ปลอดเชื้อ (Sterilization) แล้ว


        ในกรณีที่ถูกตรวจแล้วพบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจเกิน 50 mg% หรือเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไม่มากนัก และผู้ที่ถูกตรวจไม่แน่ใจในผลการตรวจวัดฯ หรือคิดว่าตัวเองไม่เมาเหล้าถึงขนาดนั้น ผู้ที่ถูกตรวจมีสิทธิ์ตามกฎหมาย ที่จะร้องขอการตรวจพิสูจน์ได้โดยวิธีการตรวจจากปัสสาวะ และตรวจวัดจากเลือด โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจวัด ซึ่งการตรวจวัดนี้จะกระทำภายใต้การกำกับดูแลของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมาย


 :beer:


ออฟไลน์ sriAROON

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 3717
  • อย่าเลื่อยขี้เลื่อย
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 17:33:36 น. »
ขอบคุณครับ....
เมื่อซักครึ่งเดือนที่แล้ว น้องชายผมอยู่มิตซูบางนา นั่งกินเบียร์กับลูกพี่ของเขา ตกเย็นขับออกมา เจอเข้าไป ๕,๐๐๐.-บาท อายัดใบขับขี่ ๖ เดือน  โทร.มาหาผม  ผมก็ได้แต่ แบ๊ะ ๆๆ

ออฟไลน์ ขอชอลอ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2416
  • HLno. 96E63ADF / 8D001112 (xmen)
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 17:39:06 น. »
หลักการทำงานของเครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ในเลือดโดยวิธีการเป่าลมหายใจ

        ให้ผู้ถูกตรวจวัด เป่าลมหายใจเข้าเครื่อง ซึ่งมีตัวตรวจจับ (Detector) แอลกอฮอล์อยู่ ตัวตรวจจับ เมื่อได้รับแอลกอฮอล์จากลมหายใจ จะมีการแปรสภาพซึ่งอาจจะมองเห็นได้ เช่น การแปลงเปลี่ยนสีของสารเคมี หรือวัดได้จากพลังงานเช่น กระแสไฟฟ้าการดูดซับคลื่น การเปลี่ยนแปลงสภาพนี้ จะถูกเปลี่ยนแปลงให้รายงานออกมาที่หน้าปัทม์ของเครื่อง ในรูปของค่าระดับแอลกอฮอล์ในเลือด (Blood Alcohol Concentration:BAC)

         ตัวอย่างตรวจจับแบบต่างที่ใช้ในการวัดแอลกอฮอล์จากลมหายใจ มีด้วยกัน 4 แบบคือ

        1. แบบ Colorimeter ใช้หลักการเปลี่ยนสีของ Potassium Dichromate จากสีเหลือง ถ้าได้รับไอของแอลกอฮอล์ จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว

        ความเหมาะสม ใช้ทดสอบแอลกอฮอล์ในลมหายใจ ใช้ได้ครั้งเดียว


        2. แบบ Semiconductor ใช้หลักการไอของแอลกอฮอล์ไปจับ Semi-conductor ทำให้ความต้านทานเปลี่ยนแปลง

        ความเหมาะสม ใช้ทดสอบแอลกอฮอล์ในลมหายใจ แต่ความเที่ยงตรงไม่ดี

        3. แบบ Fuel cell เป็นแบบเซลไฟฟ้าเคมี(Electrochemical Fuel cell) เมื่อไอของ แอลกอฮอล์ถูกดูดซับโดย cell จะทำให้เกิดปฎิกิริยากลายเป็นกรดอะเซติคและเกิดกระแสไฟฟ้าซึ่งเป็นสัดส่วนโดยตรงกับปริมาณแอลกอฮอล์

        ความเหมาะสม มีความถูกต้องดี มีความจำเพาะต่อการวัด Ethyl alcohol เครื่องมี ขนาดเล็กพกพาได้ ราคา 42,600 บาท เมื่อปี2547 (ครม.อนุมัติจัดซื้อ ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน)

        4. แบบ Infrared Absorption อาศัยหลักการที่แสง Infrared จะถูกดูดซับมากน้อยเท่าใดขึ้นกับระดับความเข้มข้นของไอแอลกอฮอล์

        ความเหมาะสม มีความถูกต้องดี มีความจำเพาะต่อการวัด Ethyl alcohol แต่เครื่องมีขนาดใหญ่ราคาสูงเหมาะใช้สำหรับใช้ประจำที่




ต่อไปนี้เป็นความเห็นของผมเอง

เมื่อพิจารณา รูปแบบการตรวจจับของเครื่อง ทั้ง 4 แบบแล้ว
ของไทย  ไม่รู้ทำแบบไหน
แต่จากประสบการณ์การเป็นพยานในที่เกิดเหตุ
ผมเห็นกล่อง มีโลโก้ NECTEC

เพราะฉะนั้น ก็พอจะเดาๆ ไปได้ว่า
กระบวนการ  กว่าที่จะออกมาเป็นตัวเลข  มันต้องผ่าน ADC
ซึ่ง สัญญาณที่จะเข้ามาสู่ ADC นั้น
ก็น่าจะเป็นแบบ semiconductor  โดยวัดจากค่าความต้านทานที่เปลี่ยนแปลงไป

ส่วนวิธีการวัด น่าจะเป็นแบบ moving average สุ่มตัวอย่างมาหลายๆตัวอย่างแล้วหาค่าเฉลี่ย
(เค้าถึงให้เราเป่านานๆ เพื่อที่จะได้มีลมเยอะๆ แล้ว sampling เอาลมมาหลายๆครั้ง)


ออฟไลน์ ขอชอลอ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2416
  • HLno. 96E63ADF / 8D001112 (xmen)
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 17:41:38 น. »
ตารางแสดงผลของแอลกอฮอล์ในเลือดที่ระดับความเข้มข้นต่างๆ ต่อร่างกายและจิตใจ



 :beer:


ออฟไลน์ กฤษฎานคร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4504
  • HL#-- 4C9C3998 [หมอโป่งจัดให้]
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 18:13:37 น. »
เมื่อเป่า แล้วจะต้องเป็นเรื่องทุกครั้ง  เพราะ เครื่องเป่า นั้น
 1. มีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ..ถึงการใช้งานทุกครั้งที่เป่า
 2. เป่าแล้วตัวตรวจสอบในเครื่องจะบันทึกวันเวลา ครั้งที่เท่าไร ไว้ ตรงนี้เอามาเป่าแล้วต้องมีรายละเอียด
ประกอบทุกครั้ง  คือผู้เป่าเป็นใคร  ผู้ให้เป่าเป็นใคร  ผลการเป่าได้ตรงกะที่พิมพ์ออกมาด้วย (แบบใบเสร็จ)
 
ดังนั้นอย่าเป่าหากท่านไม่มั่นใจว่าไม่ผ่าน แน่ๆ  ให้ถ่วงเวลา และคุยกะผู้ที่รับผิดชอบ ให้ดี ๆ ครับ  เพราะหากเป่าไปแล้วไม่ผ่าน ท่านจะแก้ไขอะไรไม่ได้  เจ้าหน้าที่เขาไม่เสี่ยงที่จะแก้อะไรให้ได้ ทุกอย่างมีหลักฐานหมด ตรงตามวันเวลา ครั้งที่ ทุกอย่าง

ที่ผมทราบดี เพราะเพื่อนผมเป็นผู้รับผิดชอบ เครื่องเป่าที่ สภ.ประจวบฯ  ครับผม

ออฟไลน์ Nineyod

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 14347
  • 4864146E/786AD800 [วิทยา]8008FCC9
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 18:18:03 น. »
ขอบใจนะน้อง :devil:

ออฟไลน์ อนันตชัย ระยอง

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • **
  • กระทู้: 16324
  • x-men : 7485488C , 7C842C7A, 12347732
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 18:21:46 น. »
แล้วเขามีการ calibrate เครื่องวัดบ่อยแค่ไหน...

เพิ่มเติมครับ..
ที่มีข่าวว่าถ้าดื่มนมเปรี้ยว 1 ขวดเล็กหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ จาก 150 mg/100 ml เหลือเพียง 50 mg/100 ml เป็นไปได้มากน้อยเพียงใดครับ

ออฟไลน์ sriAROON

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 3717
  • อย่าเลื่อยขี้เลื่อย
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 18:41:18 น. »
.................................................
ที่ผมทราบดี เพราะเพื่อนผมเป็นผู้รับผิดชอบ เครื่องเป่าที่ สภ.ประจวบฯ  ครับผม
อยู่ประจวบฯ อย่าเอามาให้ผมเป่าล่ะ  :shoots:

ออฟไลน์ Nineyod

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 14347
  • 4864146E/786AD800 [วิทยา]8008FCC9
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 18:51:22 น. »
แล้วเขามีการ calibrate เครื่องวัดบ่อยแค่ไหน...

เพิ่มเติมครับ..
ที่มีข่าวว่าถ้าดื่มนมเปรี้ยว 1 ขวดเล็กหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ จาก 150 mg/100 ml เหลือเพียง 50 mg/100 ml เป็นไปได้มากน้อยเพียงใดครับ

พี่ต้องลองครับ อิอิ :happy: :cheer:

ถ้าได้ผลก็ดีไป แต่ถ้าไม่ก็ถือซะว่าพี่อนันก็ได้ดื่มนมเปรี้ยว :D

ที่แพงที่สุดในโลก คริคริ :hap3:




ออฟไลน์ กฤษฎานคร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4504
  • HL#-- 4C9C3998 [หมอโป่งจัดให้]
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 19:01:23 น. »
ถ้าเจอ ตัวเป่า และมั่นใจว่าไม่ผ่าน แน่ๆ  ก็ให้กลับหลังหัน   ไปหากาแฟเข้ม ๆ และน้ำเย็นจัดดื่มเยอะ ๆ สักพักก็จะฉี่ ออกมา
ก็จะลดไปได้เยอะ  แล้วไม่ต้องกลับทางนั้น  ก็นอน ค้างที่ไหน ไปเลย  คริ ๆๆๆๆ ;D ;D :hap5:

ออฟไลน์ ภูวดิษฐ์

  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 8188
  • HL740E3299
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 19:11:59 น. »
พี่ต้องลองครับ อิอิ :happy: :cheer:

ถ้าได้ผลก็ดีไป แต่ถ้าไม่ก็ถือซะว่าพี่อนันก็ได้ดื่มนมเปรี้ยว :D

ที่แพงที่สุดในโลก คริคริ :hap3:


แล้วนายยอด จะรอดไหมเนี่ย ;D ;D :o^:

ออฟไลน์ V7_Hed Only

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 101
  • 440B86DB
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 19:17:27 น. »
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ และจำเป็นอย่างยิ่ง  :thank1:
จะได้ไว้เป็นเอกสารอ้างอิงเวลากลับเช้า :hap3: :hap3:

ออฟไลน์ เอื้อศิลป์มิวสิค

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ระดับ 5
  • **
  • กระทู้: 1289
  • HL#4C0BD324 รับจาก X-MEN
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 19:18:03 น. »
แล้วเขามีการ calibrate เครื่องวัดบ่อยแค่ไหน...

เพิ่มเติมครับ..
ที่มีข่าวว่าถ้าดื่มนมเปรี้ยว 1 ขวดเล็กหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ จาก 150 mg/100 ml เหลือเพียง 50 mg/100 ml เป็นไปได้มากน้อยเพียงใดครับ
ไม่กล้ายืนยัน แต่ก็พกยาคูลกันไว้2ขวดตลอดแต่ไม่มีโอกาศทดลองของจริงเลยไม่รู้ว่าใช้ได้จริง(อันที่จริงไม่อยากโดนหรอก )  ขอเล่าประสพการณ์เก่าก่อนมีเรื่องยาคูลหรือนมเปรี้ยวนิดหนึงครับ  ไปงานกลับมาก็โดนเป่าก่อนทางเข้าบ้านสักแปดร้อยเมตร ตอนนั้นก็คว้าน้ำเปล่าอัดเข้าไป2ขวดลิตรพ่นเสปร์น้ำหอมเข้ากระพุ้งแก้มอีกสาดใหญ่ๆ(ไม่รู้จะทำอะไรก็มันโดนแน่ๆแล้วนี่ หนักเป็นเบายังดีว๊ะ..คิดไปครับ)  ผลเป่าออกมา 70  ครับ  ที่จริงมันน่าจะเป็นร้อยโน่นแหละคงเป็นน้ำเปล่าช่วยเจือจางลงไป งานนั้นโดนแต่มีวิธีรอดตัวหรือโชคยังไม่ร้ายเกินไปก็ไม่รู้ เข็ดเหมือนกันแหละ   และมีคนรู้จักกันเขาบอกเขาจะโดนเป่านี่แหละ(บรรจุดีกรีมาเต็มที่)เขาคว้าพวกลูกอมดับกลิ่นปากเคี้ยวกลืนเคี้ยวกลืนอัดเเข้าไปเต็มที่เท่าที่มีติดรถ ผลเป่าออกมาไม่เกินครับก็รอดตัวไป   ได้คุยกับคนรู้จักอีกคนเขาบอกควรดื่มนมจืดล่วงหน้าสัก10-20นาทีจะช่วยได้จริงเท็จยังไงก็ไม่ขอพิสูจน์ครับ  คนเราดื่มแล้วถ้าไม่จำเป็นก็คงไม่ขับหรอกนะครับแต่บางคราวมันก็ต้องขับเมื่อจะโดนเป่าก็ย่อมไม่อยากให้เกินปริมาณก็สรรหาสิ่งที่พอช่วยได้ ใครมีประสพการณ์ดีๆก็ช่วยเล่าสู่กันฟังเผื่อเป็นแนวทางแก้ไขในยามคับแก้ว เอ๊ย!!คับขัน ว่าแล้วก็ :beer: :cheer: :cheer1:

ออฟไลน์ อนันตชัย ระยอง

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • **
  • กระทู้: 16324
  • x-men : 7485488C , 7C842C7A, 12347732
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 19:27:24 น. »
ผมเคยถูกเรียกให้เป่าที่อำนาจเจริญ..ผลการเป่าไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์..แต่ในรถกลิ่นตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์..เจ้าหน้าที่ตร.(จสต.) งงมาก..หันไปรายงานสารวัตรที่ควบคุมด่านจนต้องเดินมาให้เป่าใหม่..ก็ยังไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ดี..ก็พ่อตาผมทำเบียร์หกในรถตั้งค่อนขวด จะไม่เหม็นได้ไง..ส่วนผมไม่ได้กิน..อิ อิ..

ออฟไลน์ เลิศพล

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • **
  • กระทู้: 3609
  • HL#5CA2FA96
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 19:38:21 น. »
 :thank1: เครื่องเป่าเนี่ย.... ขออย่าได้เจอกันเลย

ก็ไม่ว่ากันอยู่แล้ว เพื่อส่วนรวม ผมเคย XXXX ( หมายถึงกรึ่ม นะครับ) ง่วงก็ง่วง ยังก๊ะงูเลื้อย จอดนอนข้างทางเลือกโล่ง ๆ ไฟเยอะ ปลอดภัย ในรถไม่มีอะำไร เลยไม่กลัว(หรือไปไม่ไหวหว่า) หรือปั๊มน้ำมัน

หลัง ๆ ปลอดภัยสุด ๆ มาว หรือ ง่วง ไม่กลับเลยนี่แหนะ ใกล้แจ้งค่อยบึ่ง.....

ส่วนเคล็ด ไท พัทยา เคยฟังมา หน้าโรงพัก กะว่าปลอดภัย คริ คริ  :sadism: :sadism:

ออฟไลน์ Nineyod

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 14347
  • 4864146E/786AD800 [วิทยา]8008FCC9
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2009, 19:47:27 น. »
แล้วนายยอด จะรอดไหมเนี่ย ;D ;D :o^:

อ้าวพี่...ไหงมาลงที่ผมล่ะครับ :mad245: :devil:

ออฟไลน์ ขอชอลอ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2416
  • HLno. 96E63ADF / 8D001112 (xmen)
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: วันที่ 21 สิงหาคม 2009, 09:53:42 น. »
เทคนิคในการควบคุมระดับอัลกอฮอล์ในเลือด

1. ให้ดื่มเครื่องดื่มอัลกอฮอล์แบบช้า ใช้เวลาให้มากในระหว่างดื่ม
2. ให้ดื่มเครื่องดื่มที่ไม่ใช่อัลกอฮอล์สลับในระหว่างการดื่ม เช่นน้ำส้ม
3. ไม่ดื่มอัลกอฮอล์ในช่วงที่ท้องว่าง อาหารไขมันและโปรตีนสามารถชลอการดูดซึมให้ลดลง
    ได้
4. ให้สังเกตุปริมาณอัลกอฮอล์ที่ดื่นในแต่ละแก้วด้วยว่าเติมลงไปปริมาณเท่าไร
5. ให้เจือจางสุราด้วยน้ำ และให้เจือจางเพิ่มขึ้นในแก้วต่อๆไปเพราะต่อมรับรสของคุณจะเริ่ม
    แย่ลง ไม่จำเป็นต้องใช้ปริมาณเท่าเดิมได้

6. ให้ระวังเรื่องการออกฤทธิ์เสริมกันหากมีการใช้ยาอื่นๆร่วมด้วย
7. ดื่มเท่าที่จำเป็นเท่านั้นตามความพอดี อย่าดื่มตามคำขยันขยอของเพื่อนๆ
8. พยายามคุยให้มากในกลุ่มอย่านั่งเฉย เพราะการนั่งอย่างเดียวจะทำให้เราดื่มมากขึ้น
9. อย่าเข้าร่วมในเกมหรือการแข่งขันการดื่ม และให้เริ่มหยุดการดื่มก่อนปารตี้เลิกหรือก่อน
    กลับอย่างน้อย 1 ชม. เพื่อให้ตับได้มีเวลาในการกำจัดอัลกอออล์ในเลือดลงในระหว่างนี้ให้
    ดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อให้มีการขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น

10. เพื่อป้องกันการถูกขยันขยอให้ดื่มตลอดเวลา ให้เติมน้ำแข็งในแก้วไว้ตลอดเวลา อย่าดื่ม
      จนหมด ให้เหลือติดไว้ครึ่งแก้วอยู่ตลอดเวลา

11. การใช้อาหารเสริมเข้ามาช่วยลดระดับอัลกอฮอล์ในเลือดให้ลดลงได้เร็วมากขึ้น ตัวที่มี
      ประโยชน์ในการขับพิษได้ดีมากได้แก่ L-Glutathione เมื่อเรารู้ตัวว่าระดับอัลกอฮอล์
      จะสูงเกินมาตราฐาน ให้ทาน L-Glutathione 1-2 แคปซูลพร้อมดื่มน้ำตามจำนวนมาก
      รอสัก 1 ชม. จะช่วยลดระดับอัลกอฮอล์ลงได้มากกว่าการให้ตับทำหน้าที่แต่ฝ่ายเดียว
12. ให้ใช้ชุดตรวจระดับอัลกอฮอล์ก่อนที่จะตัดสินใจว่า ระดับ BAC เรายังเกินมาตราฐานที่
      กำหนดหรือไม่ จึงวางแผนการเดินทางว่าจะขับกลับเอง หรือให้คนอื่นขับให้ หรือจะใช้
      รถแท็กซี่พากลับโดยจอดรถทิ้งไว้ในงานก่อน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการ
      ขับขี่รถยนต์






อันนี้ เครื่องละ 900.-   หาซื้อมาติดรถไว้ก็ดีนะครับ
http://www.weloveshopping.com/template/a13/showproduct.php?pid=13540212&shopid=166523#


peter midi

  • บุคคลทั่วไป
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: วันที่ 21 สิงหาคม 2009, 10:09:39 น. »
ผมไม่กลัว เพราะผมไม่ดื่มครับ ผิดศีล 5555
ดื่ม pepsi จะดีกว่า
 :party: :party:
 :hap5: :hap5:

winit

  • บุคคลทั่วไป
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: วันที่ 21 สิงหาคม 2009, 10:53:56 น. »
บอย ไม่ดื่ม ฮ่ะ ;D :hap3:

ออฟไลน์ เฮง

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 243
  • HL#no.740EB2AC
Re: การตรวจวัดแอลกอฮอล์
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: วันที่ 21 สิงหาคม 2009, 12:36:47 น. »
เพื่อนผมที่เป็น จนท. บอกว่าถ้าแก้ไม่ได้  ให้ขัดขื่นไม่ยอมเป่า แต่นั่งหรือนอน หรือ เดินเล่นอยู่แถวนั่น 

(เสียค่าปรับการขัดขื่นไม่ปฎิบัติตามเจ้าหน้าที่ นิดเดียวเอง และไม่หนักด้วย)

 :th2: