ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำยาบำรุงตับและสารบำรุงปอดเตรียมขึ้นราคาเพื่อผลสัมฤทธิ์ด้านการกีฬาของชาติ  (อ่าน 3514 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เด็กชายเคยโสด

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 20090
  • 6E65CE52,7309F48F,48B54692,6E674E74,1E001EF5
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1424736527

สืบเนื่องจาก พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เพื่อประกาศบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีผลให้ผู้ผลิตและจำหน่ายยาสูบและสุราต้องจัดสรรเงินในอัตรา 2% ของภาษีสรรพสามิตที่เสียในแต่ละปี เข้าสู่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า กระทรวงการคลังกำลังรอการประกาศบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างป็นทางการ ซึ่งจะมีผลให้ผู้ผลิตและผู้ค้ายาสูบ สุรา ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนพัฒนากีฬาฯ นอกเหนือจากการเสียภาษีสรรพสามิตตามปกติ ซึ่งจากการหารือกับผู้ค้าหลายรายมีแนวโน้มจะผลักภาระดังกล่าวไปยังผู้บริโภคอย่างน้อยอีก 2% จากราคาขายปลีกปัจจุบัน จากราคาปกติน่าจะขึ้นไปอีกราว 3-5 บาท โดยคาดว่าจะมีเงินเข้ากองทุนพัฒนากีฬาฯ ประมาณปีละ 4 พันล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 2557 มีการเก็บภาษีจากยาสูบและสุราได้กว่า 2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นยาสูบ 6.1 หมื่นล้านบาท สุรา 6.4 หมื่นล้านบาท และเบียร์ 7.6 หมื่นล้านบาท

รายงานข่าวจากโรงงานยาสูบระบุว่า โรงงานยาสูบกำลังพิจารณาต้นทุนบุหรี่ที่จะต้องปรับขึ้นแต่ละยี่ห้อ คาดว่าจะปรับขึ้นไม่เท่ากัน แต่อย่างน้อยต้องขึ้น 2% ให้เท่ากับที่ต้องจ่ายเงินให้กับกองทุนพัฒนากีฬาฯ เพราะถือเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของยาสูบ และในปีนี้ยาสูบต้องเตรียม งบประมาณสำหรับการย้ายโรงงานแห่งใหม่ ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้กองทุนพัฒนากีฬาฯโดยไม่ปรับขึ้นราคาได้ อีกทั้งปัจจุบันโรงงานยาสูบได้จ่ายเงินให้กับกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) และเงินบำรุงองค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะประเทศไทย (สสท.) หรือไทยพีบีเอส ปีละ 1,600 ล้านบาท ถ้าต้องจ่ายให้กองทุนพัฒนากีฬาฯอีกก็จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 2,600 ล้านบาท ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับกำไรที่โรงงานทำได้ปีละ 6,000 ล้านบาท

"การจ่ายเงินให้กับกองทุนพัฒนากีฬาฯจะดำเนินการในลักษณะเดียวกับที่จ่ายให้ สสส.คือ 2% คิดเป็นเงินปีละกว่า 1,000 ล้านบาท ถ้าปีไหนยอดขายดี กำไรมาก ต้องจ่ายมากกว่านี้อีก ตรงนี้คงต้องเตรียมพร้อมให้ดี เพราะได้ข่าวว่ากฎหมายจะมีผลบังคับในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะไม่เกินไตรมาส 1 ปีนี้" รายงานข่าวระบุ

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นบุหรี่เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่ต้องจ่ายให้กับกอง ทุนกีฬาฯนั้น คงไม่เฉพาะบุหรี่ไทย ทางบุหรี่นอกก็กำลังพิจารณาในเรื่องนี้เช่นกัน


ดีใจด้วยนะครับสำหรับสิงห์นักดื่มและเสืออมควันทุกท่าน
ท่านได้ช่วยสนับสนุนการกีฬาของประเทศไทยเต็มตัวครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2015, 16:19:57 น. โดย เด็กชายเคยโสด »

ออนไลน์ ขวัญ

  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 6594
  • HL1= 4C9D39A7 ตัวหลัก HL2=12269859 ตัวสำรอง
ไม่เป็นไรครับพี่  ผมเลิกกินเหล้าแระ  หันมากินแต่เบียร์   ;D

ออฟไลน์ รัก

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 110
  • 57E3D0DE ซื้อจากพี่จ่ากอบ
ภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยเหลือประเทศชาติ ถึงแม้มันจะน้อยนิดครับ :beer: