ก็ตามแบบใบปลิวที่เขาแจกออนไลน์ในหมู่คนไทยที่นั่น ไปเป็นกำลังใจให้คนไทยห่างไกลบ้าน ซึ่งดูๆแล้วคงไม่ได้กลับบ้านเกิดกันแล้ว
ไปเป็นพลเมืองที่นั่นกันแล้ว แต่ก็ยังรักในบ้านเกิด รักในศิลปวัฒนธรรม ชื่นชอบศิลปินคนไหนก็จ้างไปชมกัน ไม่ว่าจะต้องจ่ายแพงแค่ไหน
ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ไม่ใช่ถูกๆ ตอนไปแสดงเห็นความดีอกดีใจที่เขาได้เจอศิลปินที่เขาชื่นชอบ เห็นแล้วขนลุกน้ำตาซึม "สงสารคนไกลบ้าน"
เตรียมอุปกรณ์ไป หิ้วหนักเปล่าๆ ที่โน่นเขาจัดให้พอใช้ เหมือนงานบ้านเราเลย นอกจากมีศิลปินให้ดูแล้ว ต้องมีคาราโอเกะให้แฟนๆร้องด้วย
2คิวนี้เป็นคิวจ้าง แต่ก่อนออกเดินทาง มี่แฟนคลับคนไทยที่รู้ว่าทีมเป็กกี้จะไป ขอคิวเพิ่มมีที่นอร์เวย์กับเดนมาร์ก เราเลือกไปออสโลว์นอร์เวย์
ยัดคิวเพิ่มมาอีก1วัน ไม่เสียหลาย คนจัดคิวที่โน่นมีรายได้เพิ่ม เราก็ได้เที่ยวเพิ่มอีกประเทศ วินๆกันทั้งสอง
ไหนๆจะไปแล้ว สอบถามน้องแดนเซอร์ในทีมเราที่เขาเคยไปกับศิลปินอื่น เขาบอกไปแสดงอย่างเดียวไม่ได้เที่ยวหรอก เล่นเสร็จที่หนึ่งก็พะรุงพะรัง
ตาลีตาเหลือกไปอีกที่ เพราะคนจัดเขาต้องยัดคิวให้คุ้ม สุดท้ายสามวัน 19-20-21 เป็นจริงอย่างที่น้องบอก เหนื่อยจริง เล่นรอบแรกเสร็จตีสองที่เบอร์ลิน
หอบของไปขึ้นเครื่องตีสามบินไปออสโลว์ ไปถึงแฟนคลับพาเที่ยว ไปเจอลูกน้องเก่าสมัยเล่นบาร์เบียร์พัทยา ได้แฟนญี่ปุ่นไปเปิดร้านอาหารชื่อเบนโตะ
นัดไปเลี้ยงข้าว แสดงเสร็จกินไวน์กันต่อจนดึกดื่น ตื่นเช้าบินกับไปเบอร์ลิน ต่อเครื่องไปเอสเซ่น เมนคอนเสิร์ตของทัวร์ครั้งนี้
พอรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เราเลยวางแผนไปเที่ยวกันก่อน ออกเดินทางตั้งแต่วันที่10ตอนดึกๆ เที่ยวให้คุ้มกันก่อน เช่ารถขับตะลอนยุโรปกัน คืนรถเช่าวันที่19
แล้วค่อยทำงานวันที่19-20-21 เสร็จงานแล้วนั่งรถไฟไปลั้นลากันที่อัมเสตอร์ดัมอีกสองวันสองคืนแล้วถึงบินกลับไทย
เกือบถึงยุโรป 50 ยูโร แต่ดันเมาปลิ้นซะก่อน ทะยอยลงภาพและเรื่องราวเป็นซีรีย์ยาวๆกันไปเลย ติดตามกันไปเรื่อย อยากถามอะไรก็ถามกันมา
เริ่มต้นเรื่องเลย บินจากสุวรรณภูมิวันที่10 ตีหนึ่ง ไปแวะต่อเครื่องที่โดฮา ตื่นเต้นกับนั่งเครื่องโตๆ สายการบินชนะเลิศอันดับ1ปีนี้ การ์ต้าแอร์
แอร์สวย เสิร์ฟอาหารสองมื้อ เครื่องดื่ม ไวน์ วิสกี้ ตลอดเส้นทาง
กินอาหารบนเครื่อง มันก็จะคับแคบหน่อย ของก็ยี่ห้อแปลกๆ หลุดพ้นจากซีพีสักสิบกว่าวัน คนขับแท็กซี่ที่อัมเสตอร์ดัม มันคุยให้ผมช้ำใจ อาหารบ้านยูมีแต่ฮอร์โมน
แวะพักต่อเครื่องที่โดฮา ตื่นเต้นกับหมียักษ์ และสตาร์บั๊ค
ไปต่ออีกหกชั่วโมง เริ่มๆปวดตูดแล้ว ข้ามเส้นเวลา บินข้ามทะเลดำ
แล้วก็ถึงสนามบินเมืองมิวนิค รับรถที่ติดต่อเช่าไปจากเมืองไทย ไปถึงจ่ายเพิ่มอีกเยอะ ค่าประกันคนขับ คนขับสำรอง ค่ามัดจำ เล่นเอาหน้าเสีย
เพิ่มเป็นหมื่นเลย ซื้อสติกเกอร์ทางด่วนข้ามประเทศ แต่ตรงนี้ดี แปะแล้ววิ่งได้ทั่วยุโรป ไม่มีด่านเก็บตังให้รถติด ความเร็วที่จำกัดก็ขึ้นบนหน้าปัดรถ
ว่าตรงนี้วิ่งได้เท่าไหร่ อีตอนไปเซ็นใบรับรถ เขาขอเช็คชื่อที่อยู่ ถามว่าสะกดถูกต้องนะ เราถามทำไม เขาบอกว่าคุณทำผิดกฎจราจรตรงไหน ไม่เสียเวลา
เขาจัดส่งใบสั่งถึงบ้านคุณเลย เล่นเอาแหยไปเลย เพราะเคยอ่านเจอโดนใบสั่งถึงเมืองไทยหลักแสน เด่วมาเล่าว่าอะไรปรับแพง พวกปาดครับเขาบอก
ถึงขั้นระงับใบขับขี่ ไม่สงสัยเลยขับรถสิบกว่าไม่มีใครปาดสักคัน พวกเราก็คอยเตือนกัน "อย่าปาด อย่าปาด" เจอซ่อมถนน เขาจอดติดกันยาวเป็นกิโล
ทั้งที่เลนว่างๆอีกสองเลน ไม่มีใครปาดออกเลย เต็มที่เขาก็ออกจากรถมายืนสูบบุหรี่รอกัน ไอ้เราคันไม้คันมืออยากออกเลนว่างวิ่งเลาะไปปาดเข้าจะตาย
แต่ไม่กล้า 555
รูปภาพช่วงนี้มีเบลอๆหน่อย ยังปรับกล้องที่ซื้อมาใหม่ไม่เก่ง สรุปนะเอาสมาร์ทโฟนถ่ายรูปดีๆไปสักตัว ซื้อ Sim2Fly ของ AIS ไปด้วย
สะดวกกว่า ถ่ายปุ๊บอัพโซเชี่ยลได้เลย ไม่ต้องรอเอารูปจากเมมกล้องมาอัพ ถึงกล้องจะไวไฟได้ ก็ยังต้องพึ่งโทรศัพท์อัพโหลดอยู่ดี