เอาเป็นว่า ย่านความถี่เสียงที่หูคนได้ยิน กล่าวโดยรวมมี ย่านต่ำ กลาง และสูง
ย่านต่ำยังซอยแยกเป็น ต่ำลึก ตีซะว่า 120 Hz ลงมา ที่เรียกว่าเป็นย่านที่ใช้ขับซับวูฟเฟอร์
เพื่อเพิ่มความหนักแน่นของเสียงดนตรี ความถี่ต่ำลึกขนาดนี้ ต้องการตู้ใหญ่ๆ ดอกควรเป็น 15 หรือ 18 นิ้ว
และต้องการอภิมหาแอมป์มาขับ มันจึงเป็นที่มาของตู้ W ซึ่งตอบสนองความต้องการอันนี้ได้ตรงเป้า
ตู้ W แบบสี่เหลี่ยมมุมกระจายเสียงกว้าง หนักแน่น คุมพื้นที่ได้ดี
ตู้ w แบบสี่เหลี่ยมคางหมู คือตูดแคบกว่าด้านหน้า มันก็เหมือนกับทอระโข่ง
เสียงพุ่งไปได้ไกล ลักษณะเสียงที่เร็วและชัดเจน เมื่อนำมาเข้ากับลำโพงเสียงกลางที่มีคุณสมบัติคล้ายกัน
ทั้งลักษณะตู้และดอก เช่นตู้ทรง PS ใช้ดอกที่มีคุณภาพหน่อย
ก็จะได้เสียงดนตรีที่เร็วกระฉับกระเฉง เสียงดนตรีจะชัดสดใสมาก เสียงคนร้องน่าฟังเหมือนเป็นการเล่นดนตรีสด และเสียงดังพุ่งไปได้ไกล
ตู้ W จะให้เสียงที่ฟังได้นานไม่ล้าหู พูดให้สั้นคือมัน หนักแน่น นวลนุ่ม เป็นธรรมชาติ
ก็ต้องดูว่า พื้นที่งาน การจัดตั้งเวที บริเวณคนนั่งฟัง มีลักษณะอย่างไรเราถึงจะจัดการกับระบบเสียงได้ถูกต้องแม่นยำครับ
อย่าเรียกว่า ข้อดี ข้อเสียเลยครับ เพราะระบบลำโพงถูกออกแบบมาให้ใช้งานไม่เหมือนกัน
การเอาลำโพงที่ใช้งานในอาคารได้คุณภาพเสียงที่ดี ไปใช้กับงานที่อยู่ชายหาดแค่เสียงคลื่นลมก็เหนื่อยแล้ว
การตอบให้ตรงเป้าจึงต้องการข้อมูลอย่างอื่นอีกด้วยครับ