ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )  (อ่าน 24361 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 08:33:13 น. »
เพลงที่สอง  Lambada เริ่มต้นอินโทร  หางตาเห็นอาการคนนั่งข้างทำให้ความมั่นใจเพิ่มขึ้น
ภาษากาย  (ฮัดเช้ย  Body language)    ฟ้องชัดแบบนี้
ทำให้ผมพูดบีบเสียงให้ดูหนุ่มขึ้นว่า

"  ทานข้าวก่อนนะครับ  วันนี้ที่ร้าน  "อำภาพูน"  มีร้องคาราโอเกะด้วย"

ผมกดคันเร่งเมื่อเห็น  หน้าสวยพยักหน้าตอบ.....

ออฟไลน์ waran

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 136
  • HL#>7E8E19E8 ซื้อจาก 1 Sound Pro นครปฐม
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 08:47:43 น. »
ข้อ5ครับ ต้นสัญญาณปรับแต่งมาดีแล้ว เพียงลดระดับความดังแค่นั้น ;D

ออฟไลน์ ครูนันต์ หนองบัว

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1186
  • #HL9666644Fด.ช.เคยโสด 9C00439E midi ud.
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 09:59:47 น. »
ถ้ามันตั้งบาลานกันดีทุกอย่างแล้ว  เด็กยังอุดหู ก็แปลว่าเสียงดังเกินไป ต้องลดที่ข้อ  3  ครับผม (สำหรับผมนะครับ) :o^:

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 13:03:31 น. »

ผมสงสัยเรื่องเฮดรูมสำหรับงานพีเอมานาน  เพิ่งกระจ่างใจเช้านี้ละครับ  ขอบคุณครับ
คงต้องลองเล่นตาม  เพื่อไล่อาการมึนงงอยู่บ้างให้หายไป
และอยากให้ช่วยขยายความเรื่อง  ฺBasic Gain Structure  ให้มากกว่านี้ครับผม

หมายเหตุ  จากรูปแสดงว่า  Dynamic Range ยิ่งมากยิ่งดีใช่ไหมครับ

ใช่แล้วครับ Dynamic range ยิ่งมากยิ่งดี เดี๋ยวจะมีอธิบายต่อเรื่อง Advance gain structure ไว้เป็นช่วงเย็นๆนะครับจะมาต่อให้ :thank1:

ออฟไลน์ เสริม

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ระดับ 3
  • **
  • กระทู้: 239
  • HL-54902934
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 15:58:54 น. »
ในส่วนของการต่อสัญญานเสียงจากภาครับของไมค์ลอยเข้ากัับมิกซ์เซอร์ในส่วนของ xlr นั้น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของไมค์ด้วย หากเป็นไมค์ shure แท้ ไม่ว่าจะต่อเข้าทางโฟน หรือ xlr การปรับเกณฑ์ของมิกซ์จะใกล้เคียงกันมาก เคยสอบถามช่างของ บ.ที่รับติดตั้งระบบเสียงให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ก็ได้รับคำตอบว่า shure ได้ชดเชยในส่วนนี้ไว้จึงทำให้การต่อจากเครื่องรับของ shure ไม่ว่าจะเป็นทางใดระดับสัญญานที่ออกมาจะใกล้เคียงกัน แต่หากเป็นยี่ห้ออื่น ๆ ส่วนใหญ่ระดับสัญญานของ xlr จะแรงกว่าโฟนค่อนข้างมาก

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: วันที่ 1 กรกฎาคม 2013, 23:59:15 น. »
มาต่อกันครับ



-จากรูป ด้านซ้ายมือคือ dynamic range ในอุดมคติ ของ อุปกรณ์ Electronic = 120 dBu มี Head room 30 dBu และ signal to noise ratio(SNR) 90 dBu
- รูปกลาง Dynamic range เป็นอุปกรณ์ ชนิดหนึ่ง สมมติ ว่าเป็น mixer มี 105 dbu โดยมี Head room 24 dBu และ SNR 81 dBu
- รูปขวาคือ Dynamic range ของ หูมนุษย์ มี 120 dB SPL

เทียบจาก ซ้ายไปขวา 0 dBu ของ mixer ถ้าเราปรับให้ได้ เท่ากับ 80 dB SPL ที่ Head room สูงสุดของ mixer(+24dBu) จะได้ 114 dB SPL



รูปที่2

รูปนี้ บางท่านโดยส่วนใหญ่ชอบปรับกันครับ คือ ให้ สัญญาณ input จาก mixer ไป Signal processor (เช่น EQ/Cross over) ไป Amplifier เป็น 0 dB
(mixer ตั้งไว้ที่ 0 dB cross over /EQ ิbypass 0 dB และ amp บิดสุดเต็มกำลัง โดย Amp ตัวนี้ให้ระดับความดังที่ 120 dB SPL)

ซึ่งโดยทั่วไป Amp จะมี Head room ที่ต่ำกว่าชาวบ้านเขาอยู่แล้วครับ คือ 6 dB
ดูนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น



ไอ้หยา....
Dynamic range รวม ของระบบ เราเหลือแค่ 65 dBu
เหลือ Head room แค่ 6 dBu !!!

นั่นคือ ถ้า เราต้องการฟัง สบายๆ แบบที่ครูคนสวย ต้องการที่ 80 dB เราต้องเร่ง gain ที่ mix แค่ - 30 dBu

แต่ถ้าเราต้องการ คง gain ไมค์ ที่ mixer ไว้ที่ ไว้ที่ 0 dB ให้มันดูดี ว่าระบบเรา มาตรฐาน 0 dB เราต้อง ลด slide master fader หรือ slide channel fader ลงไป - 30 กว่าๆจึงจะได้ระดับเสียงที่ 80 dB SPL
แต่ผลที่ตามมา จะทำ gain output จาก mixer ออกมาแค่ -30 กว่าๆ dB
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 2 กรกฎาคม 2013, 03:37:49 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: วันที่ 2 กรกฎาคม 2013, 02:53:17 น. »
ดังนั้น เพื่อให้ได้ Head room และ dynamic range สูงสุด เพื่อที่จะง่ายต่อการ ควบคุมระบบเสียงของเรา ควรทำดังนี้ครับ



ต่อเครื่องทั้งระบบทุกอย่างให้ครบ ยกเว้น สายลำโพงที่ต่อกับ amp

เปิด mixer แล้วให้ master slide อยู่ที่ 0 dB
จากนั้น ปล่อยสัญญาณจาก signal generator (ถ้ามี) โดยใช้ Pink noise ออกมาที่ out put ของ mixer ให้ Level meter เกือบ clip ดังรูปข้างบน
ถ้าไม่มี signal Gen ก็ใช้เพลงอะไรก็ได้ที่มีเสียงดนตรีออกครบทุกความถี่



-แต่เนื่องจาก Head room ของ signal processor ของเรา มีแค่ +18dBu จึงรับ สัญญาณจาก mixer ที่มี Head room ถึง 26 dBu ไม่ไหว จึงเกิดอาการ clip ค้างก่อน






ดังนั้น เราต้องลด Gain input ของ signal processors ลง 8 dB meter จึงจะเกือบ clip
สังเกตที่ amp ที่มี Head room อันน้อยนิด ถ้าเปิดเครื่องไว้แล้วบิดจนสุด สัญญาณจาก crossover มาแรงขนาดนี้ ต้อง clip แดงแจ๋ แน่นอน
ฉะนั้นต้องหมุน Volume amp(Gain sensitivity) ไว้ที่ตำแหน่งต่ำสุดก่อน จากนั้น ค่อยๆ ปรับขึ้นจน ไฟ clip ของ amp กระพริบ พอดีก็จะได้แบบรูปข้างล่าง หรือปรับลด volume amp ลงจน ไฟ clipกระพริบ ในกรณีที่บิดไว้ตำแหน่งขวาสุด แล้วให้จำตำแหน่งนี้ไว้ว่าเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยกับ amp ของเรา เวลาไป set up งานครั้งต่อไปก็ให้หมุนมาตำแหน่งนี้

(หมายเหตุ สัญญาณที่ amp clip นั้น อาจจะไม่ใช่กำลังสูงสุดที่ amp ขับออกมาได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ผลิตจะปรับให้ ไฟ LED clip นั้น มี sensitivity ที่เท่าไร เช่น สมมติว่า amp ตัวนี้ +6 dBu คือ Voltage ที่ขับได้สูงสุด sensitivity อาจอยู่ แค่ +4 dBu ก็clip แล้ว เพื่อป้องกัน ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับ ตัว power amp และ ลำโพง จากการ Oscillate)


 


-จากรูปจะเห็นได้ว่า Dynamic range ของระบบเราเพิ่มเป็น 85 dBu จากเดิม 65 dBu  
-Head room ได้เพิ่มเป็น 26 dBu เท่ากับของ mixer
- โดยมีระดับความดัง ที่ 0 dBu ของ mixer เทียบกับ Acoustic SPL อยู่ที่ประมาณ 94 dB SPL (เส้นสีน้ำเงิน)
สำหรับ ระดับความดังที่คุณครูคนสวยต้องการ คือประมาณ 80 dB SPL (เส้นสีเขียว) เราก็สามารถลด ได้ทั้ง Channel fader หรือ Main fader ของ mixer ลง - 14 dBu  หรือลดที่ Gain ของ EQ ก็ได้  ดังนั้นถ้าเรา set ได้อย่างนี้ เราก็ไม่จำเป็นต้องลด volume ของ amp อีก


-ถ้าเราต่อ Aux sent monitor หรือ sub group เราก็ต้อง set gain แบบนี้ทั้งระบบ เหมือนกัน คือให้ clip เท่ากัน ทุกๆอุปกรณ์ในระบบ

สุดท้ายคือ การใส่ Limiter ให้กับ amp ของเรา เพื่อป้องกัน ความเสียหายที่จะเกิดกับ amp และ ลำโพง
ง่ายๆ คือ เมื่อเราปรับสัญญาณให้ amp clip เรียบร้อยแล้ว ไปที่ output ของ cross over (Digital cross over) เปิด function Limiter แล้วปรับลด threshold ลงจนสังเกตได้ว่าอาการ clip ของ amp ไม่ค้าง หรือ ไม่ให้กระพริบ
จากนั้นทำอย่างนี้กับ ทุกๆ Output ของcross over Low-mid-high ทำทีละ  band เท่านี้ก็เสร็จการ set up ระบบของเราแล้วครับ

หาก set ได้อย่างนี้แล้ว เสียงยังไม่ดังจุใจท่่าน ทุกอย่างเปิด clip จนหมด แต่เสียงยังไม่ดัง การแก้ปัญหาคือ หา Power amp และตู้ลำโพงมาเพิ่มครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 สิงหาคม 2013, 22:31:05 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: วันที่ 2 กรกฎาคม 2013, 03:35:24 น. »
สำหรับการ Set up ตาม สถานที่ต่างๆ ระดับความดังที่ใช้ก็ต่างกัน เช่น งาน out door โต๊ะจีน 700 โต๊ะ  งานในหอประชุม ก็ต่างกัน เหมือนกับตัวอย่าง case ของคุณครูคนสวย

ไม่จำเป็นต้องมี SPL meter วัดเสียง ที่กล่าวมามันเป็นทฤษฎีเพื่อให้ท่านเข้าใจ Gain structure
ในทางปฏิบัติ ใช้หูของเราเลยครับ ระดับความดังเท่าไรจึงจะเหมาะสมกับกาลเทสะ

อันดับแรก เราก็ set เครื่องเสียงแบบคนที่เข้าใจ gain structure ตามที่กล่าวมาทั้งหมด
จากนั้นเปิดเพลงทดสอบ ถ้าดังไป วิธีการที่ดีและง่ายที่สุด คือ ลด ที่  output volume ของ cross over ครับ ปรับลดลงมา จนระดับความดังเหมาะสม 
balance กันให้ได้ระหว่าง Low-mid-high เท่านี้ก็เสร็จการ ปรับ Gain structure ของเราแล้วครับ

สังเกตแล้วคิดตามนะครับ ถ้าเราลด Main fader จะทำให้ Gain ทีไปที่ EQ และ Crossover ลดลง ซึ่งจะทำให้ยากต่อการ ปรับแต่ง EQ และ Function ต่างๆใน cross over เช่น Compressor/gate/ Limiter ค่าต่างๆที่เราตั้งไว้ ก็ไม่ทำงาน เพราะ Gain ยังไม่ถึงระดับ Threshold ที่ตั้งไว้ แต่ถ้าเราใช้วิธีการลด output volume ของ cross over ก็จะไม่มีผลกระทบกับ gain input ของ cross over

ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงการ Setup gain ให้เหมาะสมเท่านั้น
ยังเหลือที่จะต้อง setup ต่ออีก เช่น
- EQ เพื่อปรับ Room acoustic resonance
- EQ Monitor/ gain before feedback
- การ Balance sound ต่างๆ
- การปรับ Dynamic Gate / compessor

ต้องทำให้เร็วให้คล่องครับ
ลองนำไปใช้ดูนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 2 กรกฎาคม 2013, 08:24:12 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ jgn 8bit

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1113
  • 752F6A1E (เหลืออันเดียว)
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: วันที่ 2 กรกฎาคม 2013, 06:28:53 น. »
ตอบกันหมดแล้ว ขอเป็น ข้อ 4   :devil: ;D :devil:

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: วันที่ 2 กรกฎาคม 2013, 07:53:31 น. »
ขอบคุณมากครับคุณหมอ
พอเข้าใจลางๆ  ยังไม่ชัดเท่าไร  คงต้องลองปฏิบัติจะได้แจ่มแจ้งไปเลย

กว่า 20 ปีที่ผมหันมาสนใจระบบเสียง PA นั้น  มิได้หวังว่าจะยึดเป็นอาชีพแต่ประการใด
คืิอเมื่อชอบฟังเพลงร้องเพลงในบ้าน
สิ่งที่เห็นความต่างกันอย่างมากระหว่าง  งานบ้านกับงานกลางแจ้งคือ
การที่บริษัทผู้ผลิตระบบเสียงต่างให้ความสนใจในเรื่องของ  Professional มากกว่า
มีการวิจัยและพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือทุกด้านตลอดเวลา
และเมื่อก้าวมาถึงยุคดิจิตอล  ยิ่งทุ่มเทมากขึ้น  ก้าวหน้ามากไปกว่าเครื่องบ้านไกลลิบ

คนที่เล่นเครื่องบ้านเองก็ดูเหมือนหยุดอยู่กับที่  
เพิ่งจะมาปีสองปีนี้เองที่เริ่มหันมาหยิบยืมระบบ PA มาใช้เล่น
โดยเฉพาะการนำเอาครอสมาใช้ในระบบลำโพงบ้านครับ
และตรงนี้เองที่ผมกำลังทดลองเล่นอยู่  รวมถึงนักเล่นทั่วโลกด้วยครับ

หมายถึงว่าอนาคตอันใกล้นี้ระบบกลางแจ้งจะถูกย่อส่วนเอามาใช้ในบ้าน
ครานี้จะได้ฟังดนตรีวงใหญ่ได้อย่างสะใจเสียที


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 2 กรกฎาคม 2013, 11:22:23 น. โดย มะละกอ »

mota99

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #60 เมื่อ: วันที่ 2 กรกฎาคม 2013, 09:17:48 น. »
ผมเลือก ข้อ 3 ครับ   น่าจะโอเค :th2: :th2:

ออฟไลน์ ริช ดอกรัก

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 838
  • HL#95E0D310
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #61 เมื่อ: วันที่ 2 กรกฎาคม 2013, 09:31:28 น. »
ท่านมะละกอ ท่านพอเข้าใจลางๆ
ผมยังมืดอยู่เลย ;D
เดียวต้องทำความเข้าใจไปเรื่อยๆ
ยังไงก็ขอขอบคุณมาก  :flower:

ออฟไลน์ pat pat

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 285
  • 440A42CB ซื้อต่อจาก เพียงดาวมิวสิค
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #62 เมื่อ: วันที่ 4 กรกฎาคม 2013, 12:37:52 น. »
มารอ บทที่ไม่มีสรุป จากการได้เจอปัญหากับตัวเองผมจะเลือกตัวควบคุมตัวสุดท้าย

ออฟไลน์ โด่งครับ

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1787
  • HL#: 4D2F90F0 ท่านชายอ่ำ
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: วันที่ 4 กรกฎาคม 2013, 16:43:48 น. »
ผมเลือกข้อสุดท้ายครับ (รอเฉลย)

 ;D

ออฟไลน์ phisit

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 103
  • 97606B02 จากกุ้งดีโฟร์ดี
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #64 เมื่อ: วันที่ 5 กรกฎาคม 2013, 11:49:08 น. »
จะค่อยๆทำความเข้าใจครับ

ออฟไลน์ verayut357

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 460
  • 5DE7D9F2 (ครูภูมิ)
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #65 เมื่อ: วันที่ 5 กรกฎาคม 2013, 11:54:09 น. »
สำหรับการ Set up ตาม สถานที่ต่างๆ ระดับความดังที่ใช้ก็ต่างกัน เช่น งาน out door โต๊ะจีน 700 โต๊ะ  งานในหอประชุม ก็ต่างกัน เหมือนกับตัวอย่าง case ของคุณครูคนสวย

ไม่จำเป็นต้องมี SPL meter วัดเสียง ที่กล่าวมามันเป็นทฤษฎีเพื่อให้ท่านเข้าใจ Gain structure
ในทางปฏิบัติ ใช้หูของเราเลยครับ ระดับความดังเท่าไรจึงจะเหมาะสมกับกาลเทสะ

อันดับแรก เราก็ set เครื่องเสียงแบบคนที่เข้าใจ gain structure ตามที่กล่าวมาทั้งหมด
จากนั้นเปิดเพลงทดสอบ ถ้าดังไป วิธีการที่ดีและง่ายที่สุด คือ ลด ที่  output volume ของ cross over ครับ ปรับลดลงมา จนระดับความดังเหมาะสม 
balance กันให้ได้ระหว่าง Low-mid-high เท่านี้ก็เสร็จการ ปรับ Gain structure ของเราแล้วครับ

สังเกตแล้วคิดตามนะครับ ถ้าเราลด Main fader จะทำให้ Gain ทีไปที่ EQ และ Crossover ลดลง ซึ่งจะทำให้ยากต่อการ ปรับแต่ง EQ และ Function ต่างๆใน cross over เช่น Compressor/gate/ Limiter ค่าต่างๆที่เราตั้งไว้ ก็ไม่ทำงาน เพราะ Gain ยังไม่ถึงระดับ Threshold ที่ตั้งไว้ แต่ถ้าเราใช้วิธีการลด output volume ของ cross over ก็จะไม่มีผลกระทบกับ gain input ของ cross over

ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงการ Setup gain ให้เหมาะสมเท่านั้น
ยังเหลือที่จะต้อง setup ต่ออีก เช่น
- EQ เพื่อปรับ Room acoustic resonance
- EQ Monitor/ gain before feedback
- การ Balance sound ต่างๆ
- การปรับ Dynamic Gate / compessor

ต้องทำให้เร็วให้คล่องครับ
ลองนำไปใช้ดูนะครับ



ขอบคุณ  หมอแม็ค  รพ.ภูหลวง    รักษาคนเก่ง แล้วยังเก่งเรื่อง SOUND อีก แถมใจดีนำความรู้มาแบ่งปัน   :thank1: :thank1:

raysoundmark

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #66 เมื่อ: วันที่ 7 กรกฎาคม 2013, 13:41:43 น. »
ขอขอบคุณป๋ามะละกอ หมอแม๊ค และท่านอื่นๆทุกท่าน
ที่เข้ามาร่วมแจมกันนะครับ

ป๋ามะละกอครับ
เรื่องหน้า..ผมจะเขียนเรื่องให้เป็นฤดูฝน..
และอาจจะมี..กระท่อมเล็กๆ..อยู่ระหว่างทางจากโรงเรียนกลับบ้านด้วยครับ

หมอแม๊ค คือท่านที่อุดหนุนซื้อสินค้าจากผม..มาตลอดหลายปีนี้หรือเปล่าครับ
ขออภัยด้วย..ที่ผมนึกชื่อเล่นว่า หมอแมกซ์ (MAX) มาโดยตลอด

ที่ทุกๆท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นหรือเล่าประสบการณ์
ล้วนแล้วแต่อยู่ในประเด็นของกระทู้นี้ทั้งนั้น

กระทู้นี้..น่าจะเป็นเรื่องของ ระดับสัญญาณที่เหมาะสม
ที่เราจะนำไปใช้งานในระบบเสียงของพวกเรา
.

raysoundmark

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #67 เมื่อ: วันที่ 7 กรกฎาคม 2013, 13:42:09 น. »
ผมนึกถึง..เรื่องของผู้เล่นเครื่องเสียงบ้าน..ในอดีต..ขึ้นมาได้ประเด็นนึง

เมื่อก่อนโน้น..สมัยคุณปู่ คุณพ่อ ของพวกเรา
ผู้เล่นเครื่องเสียงบ้าน..บางท่านที่เพิ่งเริ่มต้น
มักจะนิยมซื้ออุปกรณ์เครื่องเสียงบ้าน..แต่ละชิ้น..เป็นยี่ห้อเดียวกันทั้งชุด
ด้วยเหตุผลว่า..มันเข้ากันได้ดี..มันแมชท์กันดี

จริงๆแล้วตามหลักเท๊กกะหนิก
คือ ในสมัยก่อนโน้น ยังไม่มีการกำหนดค่ามาตรฐานสากล
ในการส่งผ่านสัญญาณเสียง จากอุปกรณ์หนึ่ง ไปยังอีกอุปกรณ์หนึ่ง
แต่ละยี่ห้อ..ต่างก้อกำหนดค่าทางเข้า..และส่งออก..ให้สัมพันธ์กัน..ในยี่ห้อของตนเอง

แต่ปัจจุบัน..ปัญหานี้..หมดไปแล้ว
เนื่องจากผู้ผลิตแต่ละเจ้า..เริ่มผลิตสินค้า
ที่มีค่ามาตรฐานในการส่งผ่านสัญญาณเสียง..ใกล้เคียงกัน
.

raysoundmark

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #68 เมื่อ: วันที่ 7 กรกฎาคม 2013, 13:42:59 น. »
ถ้าพวกเราสังเกต..สินค้าอุปกรณ์เครื่องเสียง…ในกลุ่มโปรเฟสชั่นแนล
เราจะเห็นว่า..มีฟังก์ชั่นพื้นฐาน..อยู่สองสามอย่าง..ครับ

เช่น

มีปุ่มปรับตั้งค่าทางเข้า..อาจใช้คำว่า GAIN, TRIM, ATTENUATE หรืออื่นๆ
มีไว้สำหรับปรับตั้งค่าสัญญาณเสียง..ที่จะรับเข้ามา

มีปุ่มปรับตั้งค่าทางออก..อาจเป็นคำว่า OUTPUT, MAIN, L-R หรืออื่นๆ
มีไว้สำหรับปรับตั้งค่าสัญญาณเสียง..ที่จะส่งออกไปสู่อุปกรณ์ชิ้นอื่น

มี METER บอกระดับสัญญาณ
ในอดีตอาจเป็นมิเตอร์แบบเข็ม..กระดิกดุ๊กดิ๊กดุ๊กดิ๊ก
ปัจจุบันปรับเปลี่ยนมาเป็นแถบไฟ..วิ่งขึ้นลงซ้ายขวาแวบแวบ
มิเตอร์..ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะคอยช่วยงานผมได้มากๆครับ

สิ่งเหล่านี้..เป็นฟังก์ชั่นสำคัญพื้นฐาน
ในการใช้งานอุปกรณ์เครื่องเสียง


ส่วนฟังก์ชั่นเสริม เช่น ไฟสีแดงแสดงการ CLIP หรือ ปุ่ม PFL, AFL ที่อยู่บนอุปกรณ์
ก้อถือเป็นสิ่งเสริม..ให้การใช้งานเครื่องเสียง..ง่ายมากขึ้น
.

raysoundmark

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #69 เมื่อ: วันที่ 7 กรกฎาคม 2013, 13:43:45 น. »
สิ่งที่ผมเกริ่นมา..พวกเราทุกๆท่านทราบดีอยู่แล้ว..ว่า

เป็นฟังก์ชั่นสำหรับช่วยในการปรับตั้งค่าสัญญาณ
หรือ..เป็นเรื่องของ LEVEL

ไม่ใช่การปรับแต่งเนื้อเสียง..หรือการปรับ TONE..โดยตรง

แต่..มันมีผลกับเนื้อเสียงครับ

.

raysoundmark

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #70 เมื่อ: วันที่ 7 กรกฎาคม 2013, 13:45:31 น. »
รูปที่หมอแม็คนำมาให้พวกเราดู..น่าสนใจมากครับ

มันคือ “ธรรมชาติของระดับสัญญาณเสียงในระบบ”
( อาจมีอื่นๆเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย..แต่ผมขอข้ามไปก่อนนะครับ )

พวกเราคุ้นเคยและตระหนักดีอยู่แล้ว..สำหรับส่วนบนๆ
ที่ผมลงสีแดงๆเพิ่มเอาไว้

มันก้อคือ..การ CLIPPLING ของสัญญาณเสียง
พวกเราได้รับการบอกเล่ามามาก..มีความรู้กันมากพอสมควร
เกี่ยวกับการรักษาระดับสัญญาณไว้..อย่าส่งสัญญาณเสียงแรงเกินไป
ระวังไฟสีแดงอย่าให้แวบแวบ
มิฉะนั้น..เสียงก้ออาจเกิด DISTORT หรือ CLIP
ภาษาบ้านๆ..ก้อคือ เสียงแบน เสียงพร่า หรือ เสียงแตก

ส่วนใครจะสามารถคอนโทรล
หรือเล่นกับ HEADROOM ได้มากน้อยขนาดไหน
ก้อขึ้นอยู่กับแต่ละท่าน..และความจำกัดของตัวอุปกรณ์

อันนี้ทราบถูกต้องกันอยู่แล้วครับ
.


raysoundmark

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #71 เมื่อ: วันที่ 7 กรกฎาคม 2013, 13:46:23 น. »
ตามในรูป..ลองกลับมาดูช่วงล่างกันบ้างครับ

ต้องขออภัยนะครับ..ป๋ามะละกอ น้ายอด น้านพ
..เป็นช่วงล่างของรูปครับ..ไม่ใช่หยั่งที่ทั้งสามท่านกำลังนึกอยู่

ช่วงล่าง..ของรูป..ครับ
ที่ผมเขียนเป็นลูกศรสีแดงเติมลงไป

จะเห็นว่าในทุกสัญญาณเสียงจะมี NOISE ซ่อนตัวอยู่

NOISE FLOOR ที่ว่า..เกิดได้จากหลายๆสาเหตุ..
ไม่ว่าตัวอุปกรณ์หรือตัวนำระดับสูงแค่ไหน..ก้อไม่สามารถรอดพ้นชะตากรรมนี้ไปได้
สุดแต่ว่า..จะมาก..หรือน้อย..เท่านั้นเอง
.


raysoundmark

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #72 เมื่อ: วันที่ 7 กรกฎาคม 2013, 13:47:49 น. »
ในการปรับตั้งค่าสัญญาณ..เพื่อส่งผ่านสัญญาณเสียง
จากอุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง..ไปยังอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่ง

ถ้าเขียนเป็นภาษาง่ายๆหน่อย..อาจจะเขียนได้ว่า
น่าจะส่งสัญญาณไป..ในระดับที่สูงพอสมควร
มีข้อควรตระหนักคือ
ถ้าส่งแรงเกินไป..เสียงที่ได้อาจมัวพร่าหรือแตกได้
ถ้าส่งน้อยเกินไป..เสียงที่ได้อาจไม่เต็ม..หรืออาจจะไม่สะอาดได้

อย่าลืมคิดถึง..ช่วงล่าง..กันบ้างนะครับ

______________________________________________

การส่งผ่านสัญญาณเสียงใน LEVEL ที่ต่ำเกินไป

มีผลต่อ DYNAMIC RANGE อย่างแน่นอน

มีผลต่อ SIGNAL TO NOISE RATIO ( S/N ) อย่างแน่นอนครับ

.

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #73 เมื่อ: วันที่ 7 กรกฎาคม 2013, 14:04:23 น. »

หมอแม๊ค คือท่านที่อุดหนุนซื้อสินค้าจากผม..มาตลอดหลายปีนี้หรือเปล่าครับ
ขออภัยด้วย..ที่ผมนึกชื่อเล่นว่า หมอแมกซ์ (MAX) มาโดยตลอด

ที่ทุกๆท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นหรือเล่าประสบการณ์
ล้วนแล้วแต่อยู่ในประเด็นของกระทู้นี้ทั้งนั้น

.

ใช่แล้วครับ ป๋าเร :o^:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 7 กรกฎาคม 2013, 16:04:20 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
Re: ปัญหาอะไรเอ่ย เกี่ยวกับมิกเซอร์ ( ข้อที่2 )
« ตอบกลับ #74 เมื่อ: วันที่ 7 กรกฎาคม 2013, 14:09:25 น. »
แฮะๆ อ่านไปอ่านมาชักปวดหัว พาลงุนงงกับตัวว่าเอ๊.   ที่ผ่านมากตูทำถูกหรือปล่าวหว่า ทำมาได้ไงตั้งหลายปี. ทั้งๆที่ไม่เคยรู้ไอ้เรื่องพวกนี้เลย

รู้แต่ว่า. ถ้าเสียงดังตังค์จะมา ถ้าเสียงดังถูกใจคน งานจะมาเรื่อยๆ. รู้แค่นั้นจริงๆครับ. สำหรับผมทฤษฎีรู้ไม่เยอะ. รู้แค่ว่าจะทำอย่างไรให้มันออกมาดังและน่าจะดีตามความคิดผมเท่านั้นเอง.

ขออนุญาตก๊อปไปปริ้นท์ไว้อ่านยามหัวสมองโล่งๆน่ะครับ