จากวันวานที่ยืนฟังเพลงอยู่นอกบ้าน ต่อเนื่องจากแจ๊ซช้าๆ
ผมเซ็ทให้ฟูบาร์เล่น เล่นคลาสสิคต่อในชุดที่เป็นชุดขายดี
เริ่มเพลงแรก March Turkish ที่คุ้นหูผมก็นิ่งฟังแทบหยุดหายใจ
พอเพลงที่สองขึ้นไปหนึ่งท่อนผมก็ค้นพบตัวเอง
เพราะตลอดสองสามเดือนที่ผ่านมา จมอยู่กับการฟังเพลงตลอดเวลา
ยิ่งฟังยิ่งเกิดความกระวนกระวาย เกิดสิ่งที่เรียกว่าความทุกข์ในใจ กิเลสกระมัง
คือยิ่งฟังชุดที่ทำเองหรือกำกับให้คนอื่นทำให้ และพึงพอใจมาร่วมปีนั้นมันไม่ใช่เสียแล้ว
กระทั่งคิดกำเริบขนาดที่ต้องเปลี่ยนลำโพงให้ถึงๆ ไปเลย
แต่พอคิดถึงสิ่งที่จะตามมาให้บรรลุถึงความพอใจ ก็เหนื่อยหัวอกมากขึ้น
เพราะแทบจะต้องเปลี่ยนกันทั้งระบบไปเลย.
For Elise คือเพลงที่สอง เปียโนสุดแสนโรแมนติกของบีโทเฟน
อันว่าเปียโนนั้นมี 88 ลิ่มคีย์ แบ่งตรงกลาง เล่นด้วยมือขวาและมือซ้าย
ถ้าไปดูไปฟังและใกล้ชิดของจริงหรือเคยเล่นก็จะเข้าใจและภาพพจน์ก็จะเกิดขึ้น
เสียงที่ได้ยินนั้นพลันให้เห็นถึงการเล่นด้วยมือขวาที่จิ้มลงบนแป้นคีย์เปียโนในท่อนแรก
ส่วนมือซ้ายเล่นคลอตามด้วยเสียงที่อ๊อคเทฟที่ต่ำกว่า สลับไปมา
ผมฟังเพลงนี้ทีไรเกิดความรู้สึก 2 อารมณ์ รักรื่นเริงสุขใจในตอนแรก
และสุดท้ายมันจบอย่างเศร้าพิกล อกหักว่างั้นเถอะ
โน้ตเพลงตัวเดียวกันแต่วิธีกดลิ่มให้เปียโนดังออกมาแบบเศร้าๆ
นี่ซิคือที่สุดของที่สุดของผู้ประพันธ์เพลง
ถ้าเสียงที่ได้ยินจากลำโพงมันสามารถให้ความรู้สึกที่สมจริงจนเรารู้สึกได้
กระทบและสะเทือนถึงอารมณ์พาเราย้อนกลับไปในอดีตที่เคยหวานชื่นสมหวัง เศร้าสร้อยโหยหาอาดูรได้
ผมคงพอใจกับหูตัวเองแค่นี้ละครับไม่ดิ้นรนต่ออีกแล้วละ
เมื่อเข้าใจความรักความชอบในการฟังเพลง ฟังไปเพราะอะไร ทำไมและฟังอย่างไร
ผมไม่จำเป็นต้องแสวงหาซิสเท้มที่แสนแพงหรูหรา เอาแค่ฟังแล้วให้ความรู้สึกได้อารมณ์เพลง
ไม่ว่าจะยืนฟังนอกบ้านหรือในห้องฟังก็ตาม
ที่จะต้องหาคือการเลือกเพลงที่อยากฟังมาจัดหมวดหมู่เข้าฮาร์ดดีสไว้
แล้วให้ฟูบาร์มันเล่นให้ฟังแบบสบายๆ ครับ
ฟังเพลงเพราะอยากฟังและให้รู้สึกถึงบรรยากาศในการฟังเกิดขึ้นในจิตใจ
เหมือนกับมีนักดนตรีเอกมาเล่นให้ฟังต่อหน้า เท่านี้ก็พอครับ
&feature=related