ผู้เขียน หัวข้อ: การเดินสายดิน  (อ่าน 29949 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ vip20

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 182
  • HL#7D2C9561
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 10:25:05 น. »
ค่าไฟก็แพงขึ้นด้วยครับ ท่าน
หากไม่รู้  จุดรั่ว

somjainuk74

  • บุคคลทั่วไป
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 10:33:23 น. »
ค่าไฟก็แพงขึ้นด้วยครับ ท่าน
หากไม่รู้  จุดรั่ว

ถูกต้อง เดือนนั้นเสียไปหลายตังค์

ออฟไลน์ sriAROON

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 3717
  • อย่าเลื่อยขี้เลื่อย
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 10:36:08 น. »
ผมทราบมาอีกวิธี ไม่ให้มิเตอร์หมุน คือบ้านใกล้ๆกัน เอา ground มาแลกกัน เอา ground อีกบ้านไปลงอีกบ้านสลับกัน
แต่ผมทำไม่เป็นและไม่กล้า....

ออฟไลน์ vip20

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 182
  • HL#7D2C9561
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 10:44:54 น. »
ผมก็หลับ ตอนเรียนไฟฟ้า
เดินสายดินแบบนี้ ทำให้กระแสไฟที่เคยรั่ว และดูดปากเราเวลาร้องเพลง กลับไปรั่วลงดินแทน
ขอช่วยไขความแก้โง่หน่อยครับว่า มันจะสิ้นเปลืองกระแสไฟ ค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นหรือไม่ครับ  :thank1:
เปลืองค่าไฟแน่นอน หากหาจุดรั่วไม่เจอ
ก็เหมือนน้ำรั่ว นั่นละครับ หลังมิเตอร์มามีน้ำรั่ว
ท่านก็เสียค่าน้ำเต็มๆ
กรณีไฟ ไม่ต่างจากน้ำครับ เปรียบเทียบกันได้เลย
ไหนๆ ก็ไหนๆ ครับ อธิบายต่ออีกหน่อย
ไฟรั่ว
ไฟดูด
ไฟช็อต

ไฟรั่ว หมายถึง กระแสไฟฟ้ารั่วหายไปจากสายไฟ ไฟที่รั่วโดยที่เราไม่ได้ใช้ประโยช์จากมันเลย เปรียบกับน้ำก็ น้ำรั่ว น้ำซึม ข้อเสียของมันคือ ทำให้เสียค่าไฟเพิ่ม
รั่วแล้วมันต้องมีที่ไป(เหมือนน้ำ) หากไม่มีที่ไปมันก็จะเจิ่งนอง บริเวณนั้น เมื่อเราไปถูกก็จะกลายเป็นไฟดูด
ฉนั้นต้องมีสายดิน(ท่อระบายน้ำรั่ว) เพื่อระบายให้มันออกไป

การติดตั้งสายดิน ต้องติดตั้งประกอบกับเครื่องป้องกันไฟรั่วด้วย
ไฟช็อต หมายถึงกระแสไฟในสายไฟมีสูงมากเกิดการลัดวงจรระหว่างสายไฟ กับ สาย o (ไฟช๊อต ไฟเกิน ไฟลัดวงจร)
ไฟดูด มี 2 กรณีคือ ดูดจากไฟรั่ว และดูดจากสัมผัสตรงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 12 กันยายน 2010, 19:20:05 น. โดย vip20 »

ออฟไลน์ มานพ

  • ผู้ดูแลระบบ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 123094
  • 9664E44E,11D88A55,7C1132A8
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 10:45:37 น. »
ผมทราบมาอีกวิธี ไม่ให้มิเตอร์หมุน คือบ้านใกล้ๆกัน เอา ground มาแลกกัน เอา ground อีกบ้านไปลงอีกบ้านสลับกัน
แต่ผมทำไม่เป็นและไม่กล้า....

มีวิศวกรโยธา มีคนการไฟฟ้ามาขายเครื่องมือชนิดหนึ่งให้บอกว่าติดตั้งแล้วค่าไฟลดลง
ค่าไฟถูกลงจริงๆ ครับ อีกหกเดือนต่อมาไฟฟ้านครหลวงตรวจพบ เนื่องจากมาตรวัดไฟขัดข้อง
เจ้าของบ้านท่านนี้ไปแจ้งการไฟฟ้าเพื่อมาซ่อมและเปลี่ยนมาตรวัดใหม่
โดนไฟฟ้าส่งฟ้องข้อหาลักทรัพย์ จ่ายค่าเสียหายไปหกหมื่นบาทครับ

ออฟไลน์ sriAROON

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 3717
  • อย่าเลื่อยขี้เลื่อย
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 10:46:47 น. »
การติดตั้งสายดิน ต้องติดตั้งประกอบกับเครื่องป้องกันไฟรั่วด้วย

เครื่องเป็นอย่างไร ติดตั้งตรงไหนครับ

ออฟไลน์ vip20

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 182
  • HL#7D2C9561
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 11:12:00 น. »
การติดตั้งสายดิน ต้องติดตั้งประกอบกับเครื่องป้องกันไฟรั่วด้วย

เครื่องเป็นอย่างไร ติดตั้งตรงไหนครับ

อุปกรณ์ ป้องกัน
มีหลายชนิด
เบรคเกอร์ทั่วๆไป คัทเอาท์ฟิวส์   ป้องกันไฟช๊อต(กรณีน้ำ ก็คือน้ำท่อน้ำแตกไหลพุ่งผิดปกติ ตัวนี้จะตัดวาล์วน้ำ)
เบรคเกอร์ป้องกันไฟฟรั่ว เช่น เซฟทีคัท จะมีป้องกันทั้งไฟรั่ว ไฟช็อต ไฟเกิน
ไฟเกิน มักจะเรียก กรณี แรงดันเกิน เปรียบกับน้ำ เช่นเราใช้สายยางรดน้ำแบบบางๆ แต่แรงดันน้ำมาแรงมากทำให้สายยางรดน้ำทนไม่ได้ปริแตก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 12 กันยายน 2010, 11:21:24 น. โดย vip20 »

somjainuk74

  • บุคคลทั่วไป
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 11:26:32 น. »
แรงดันเกินไฟฟ้า ผมและบ้านอื่นโดนมาแล้ว
ไฟฟ้าดับไม่ได้ปิดโทรทัศน์ ไฟฟ้ามาระเบิดตูม

ออฟไลน์ พี่ตุ้ม

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2686
  • พี่ตุ้มคนเดิม 8D1C1118
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 12:22:33 น. »
ที่บ้านติดเซฟทีคัท  พอช่วยอะไรได้มั่งไม๊ครับ

ออฟไลน์ ไก่ต๊อก

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2338
  • HL#840A3EF9 (x-men)
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 22:59:34 น. »
ระวังช่างต่อเติมบ้านด้วย
ของผมจ้างก็แพง ตอนตรวจรับงานเห็นมีต่อสายดินที่ปลั๊กก็ โอเค
หลังจากนั้นบังเอิญเอาแขนไปเฉียดๆหลังตู้เย็น อ้าวมีไฟมากระตุ้นต่อมได้ไง
เอามิเตอร์จับดู นิ่งสนิท ที่ไหนได้ เจ้าประคุณต่อสายจากปลั๊กแล้วปลายอีกข้าง
ดันเข้าไปอยู่ในท่อปล่อยลอยไว้เฉย โทรให้มาแก้ ปีกว่าแล้วยังไม่มาทำเลย กำของข้อย  :mad245:

ออฟไลน์ วี บุญนิยม

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • **
  • กระทู้: 5862
  • HL#4C9D39A2 จาก อนันตชัย2009
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 23:07:14 น. »
เคยเรียนมา อ.สอนว่า จะทำอะไรก็แล้วแต่
เพื่อชีวิตที่ดีที่สุด ต้อง เดินสายกลาง ครับ. ;D :beer:

ออฟไลน์ พี่ตุ้ม

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2686
  • พี่ตุ้มคนเดิม 8D1C1118
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2010, 05:06:26 น. »
เคยเรียนมา อ.สอนว่า จะทำอะไรก็แล้วแต่
เพื่อชีวิตที่ดีที่สุด ต้อง เดินสายกลาง ครับ. ;D :beer:

:sadism: :sadism: คนชอบตรงกลาง :hap3: :love2:

ออฟไลน์ ขลุ่ย

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • **
  • กระทู้: 5753
  • HL#740DB29C @ 6C8A4886 เจ้าอาวาส
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2010, 06:51:05 น. »
ค้นหาภาพเจอแล้ว  ไปเจอในเวบของการไฟฟ้า  อ่านแล้วค่อยเข้าใจหน่อย  เค้าบอกสัญญลักษณ์มาให้ด้วย  พรุ่งนี้จะให้ครูพละมาเดินสาย  ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือ
http://archive.htg2.net/webboard2/view.php?No=18736       :thank1:
ป๊ะป๋า สายดินนั้นช่วยชีวิต ไม่ได้ช่วยประหยัดไฟฟ้าน๊ะป๋า ถ้าอุปกรณ์เราชำรุด ไฟฟ้ารั่วก็ลงดินเบรคเกอร์ทำงานจบ ถ้าไม่มีจับ ช็อต ตาย บางท่านคิดว่าเอา ไฟ แล้วมาลักเอา ในบ้าน ตายมาหลายเหมือนกัน และสุดท้าย เอาไฟลงดิน เสียมาหลายเหมือนกัน กะตังค์น่ะ  ;D ;D ;D ;D ;D

ออฟไลน์ phisit

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 103
  • 97606B02 จากกุ้งดีโฟร์ดี
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: วันที่ 17 ธันวาคม 2010, 18:10:04 น. »
ผมแนะนำให้ได้ครับ
ที่เมนเบรกเกอร์ ที่ด้านไฟเข้า(ด้านบน)มี2ขั้ว ขั้วซ้ายมือจะเป็นเฟส(สายLine) ขั้วขวามือเป็นนิวตรอน(สายศูนย์Neutron)
ตรงขั้วขวามือของเบรกเกอร์(นิวตรอน)นี่แหละครับมีการต่อสายไฟทั้งหมด3เส้น
เส้นที่1 สายที่ไม่มีไฟ(สายศูนย์ นิวตรอน)จากการไฟฟ้า
เส้นที่2 ให้ต่อสายไฟไปหาหลักกราวด์รอด
เส้นที่3 ต่อไปใช้งานเป็นสายกราวด์ครับ
ด้านไฟออกที่เมนเบรกเกอร์ การใช้งานก็จะได้สามเส้นครับ
ขั้วซ้ายมือเป็นเฟสมีไฟ ใช้สายสีดำครับ
ขั้วขวามือเป็นสายศูนย์นิวตรอน ใช้สายสีเทาหรือขาว
อีกเส้นนึง เป็นสายกราวด์ ใช้สายสีเขียวหรือสายสีเหลืองแถบเขียว
สำหรับงานเครื่องเสียงPAแค่นี้พอครับ กราวด์รอดแนะนำขนาด3ฟุต ไม่สั้นไม่ยาวกะลังพอดี

ออฟไลน์ phisit

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 103
  • 97606B02 จากกุ้งดีโฟร์ดี
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: วันที่ 17 ธันวาคม 2010, 19:13:11 น. »
การติดตั้งสายดิน ต้องติดตั้งประกอบกับเครื่องป้องกันไฟรั่วด้วย

เครื่องเป็นอย่างไร ติดตั้งตรงไหนครับ
เครื่องป้องกันไฟรั่วก็พวกเซพทีคัทไงครับท่านเสธ
ติดตั้งตรงตำแหน่งสุดท้ายก่อนที่จะจ่ายไฟแยกไปแต่ละจุดครับ
ในตู้เมนสวิทช์ ภายในอาจจะมีเบรกเกอร์หลายตัวแต่ทุกตัวจะต่อแบบอนุกรมกัน
 เมนเบรกเกอร์---เซพทีคัท---ลูกเซอร์กิตเบรกเกอร์(เบรกเกอร์ตัวเล็กๆผอมๆต่อเส้นที่มีไฟเส้นเดียว)แยกจ่ายไฟไปแต่ละห้อง(ห้องครัว.ห้องนอน1,2,3.ห้องนั่งเล่น แยกกันคุม ห้องไหนไฟซ็อตไฟดับลูกเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่คุมห้องนั้นๆจะตัด ไม่กระทบห้องอื่นๆ) ---@1 กำหนดสีให้ใช้สายสีดำครับ
การเดินสายนิวตรอนจากหม้อมิเตอร์การไฟฟ้ามีข้อบังคับว่าให้เดินสายนิวตรอนไปเข้าที่จุดเทอร์มินอลก่อน(เทอร์มินอล เป็นแท่งทองเหลืองสี่เหลี่ยมเล็กๆยาวมีรูสำหรับต่อสายหลายรู ตอนซื้อจะเรียกเป็นช่อง มี4,6,8,--16ช่อง) มีข้อบังคับคือไม่ให้ต่อสายนิวตรอนมาเข้าขั้วนิวตรอนของเมนเบรกเกอร์โดนตรง จากเทอร์มินอลอันนี้เรียกว่าเทอร์มินอลกราวด์ ---@2
ก็จะเป็นจุดรวมของสายที่จะแยกไปเข้า
-ขั้วนิวตรอนของเมนเบรกเกอร์(ขั้วขวามือด้านบนนะครับ)
-ไปต่อกับหลักกราวด์รอดครับ
-ส่วนรูที่เหลือก็ต่อสายแยกไปตามห้องต่างๆครับเป็นสายกราวด์ครับ กำหนดสีเป็นสายสีเขียว หรือ สายสีเหลืองแถบเขียว
จะมีเทอร์มินอลอีกจุดนึงคือเทอร์มินอลนิวตรอน ---@3 สายสีเทาครับ
เป็นจุดรวมของสายนิวตรอนครับ นิยมต่อจากขั้วนิวตรอนด้านขาออกของอุปกรณ์ตัดไฟรั่ว มาเข้าที่เทอร์มินอลนิวตรอนอันนี้ (จำนวนช่องของเทอร์มินอลก็ให้เท่ากันกับเทอร์มินอลกราวด์) รูที่เหลือก็จะต่อออกไปเป็นสายนิวตรอนแยกไปยังห้องต่างครับ
ทีนี้เราก็ได้จุดต่อสายไปใช้งานสามเส้นดังนี้
@1 (สายเฟส มีไฟ)  สายสีดำ
@3 (สายนิวตรอน)  สายสีเทา
@2 (สายกราวด์) สายสีเขียว
ข้อสังเกตครับ เมื่อเราทำให้@3 กะ @2 แตะกัน(เอาสายมาต่อถึงกันนั่นแหละ) ไฟไม่ซ็อตนะครับแต่อุปกรณ์ตัดไฟรั่วจะตัดตัวเอง
อ่านแล้วคงงงเข้าไปอีกใช่มั้ยครับ

ออฟไลน์ พี่ตุ้ม

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2686
  • พี่ตุ้มคนเดิม 8D1C1118
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: วันที่ 17 ธันวาคม 2010, 19:24:28 น. »
สายรูที่สามของปลั๊กก็คือสายสีเขียวใช่ไม๊ครับ  ผมไม่ได้เอาไปเข้าที่เมนสวิทช์ผมต่อลงมาที่ปลั๊กที่มีสามรูเลย  ไฟที่เคยรั่วก็ไม่เห็นดูดอีกเลย  ใช้ได้ไหมครับ

ออฟไลน์ พี่ฐม นาโยง

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 270
  • HL#7487C894 (ครูภูม)
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: วันที่ 18 ธันวาคม 2010, 16:27:23 น. »
คุณพิสิฐ ฯ  ให้วามรู้ได้ดี  เข้าใจง่าย   :thank1:
แต่ ! ! ! ฝากไว้เป็นข้อคิดนิดหนึ่ง... ไม่มีเครื่องมือใดๆๆๆๆ ที่ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลง
นอกจาก...1.ไม่เปิดไฟทิ้งไว้ เมื่อไม่มีคนใช้ไฟ
                 ยกเว้น...เปิดไฟป็นยามเฝ้าบ้าน  แต่..เปลี่ยนเป็นหลอดประหยัดไฟแบบอิเลคทรอนิก
           ... 2. ทีวี(โทรทัศน์) ปัจจุบันใช้รีโมท...ท่าอย่าปิดทีวีโดยใช้รีโมท  หากจำเป็นใช้รีโมท  ปิด ทีวี
                  ต้องปิดสวิชที่ทีวีด้วยทุกครั้ง ๆๆ   และหากไม่ขี้เกียจ  ให้ดึงปลั้กจากเต้ารับด้วยทุกครั้ง
                  เผื่อ  วันหนึ่งวันใด  นางฟ้าขว้างขวาน (ฟ้าผ่า) หรือไฟเกิน ทีวีที่รักของท่าน อาจจะเป็นขี้เถ้า
ฝากอีกนิดหนึ่ง  สำหรับบุตรหลานของท่าน  หรือตัวท่านเอง  ที่ชอบทำตัวให้ทีวีกล่อมให้หลับหน้าทีวี  หรือตั้งเวลาให้ทีวี
                    มันดับไปเอง   เพราะว่าการปิดทีวีด้วยรีโมท  มันปิดเฉพาะหน้าจอและเสียง  แต่ระบบอื่นๆ มันยังทำเหมือนเดิม
                    มันก็เลยเป็นหน่วยสะสมทุกเดือน
อันนี้แหละ !!! ที่ใครต่อใครบอกว่า มีอุปกรณ์เท่ากับบ้านตัวเอง  แต่ค่าไฟแพงมาก

ออฟไลน์ phisit

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 103
  • 97606B02 จากกุ้งดีโฟร์ดี
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2010, 17:58:04 น. »
คุณพิสิฐ ฯ  ให้วามรู้ได้ดี  เข้าใจง่าย   :thank1:
แต่ ! ! ! ฝากไว้เป็นข้อคิดนิดหนึ่ง... ไม่มีเครื่องมือใดๆๆๆๆ ที่ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลง
นอกจาก...1.ไม่เปิดไฟทิ้งไว้ เมื่อไม่มีคนใช้ไฟ
                 ยกเว้น...เปิดไฟป็นยามเฝ้าบ้าน  แต่..เปลี่ยนเป็นหลอดประหยัดไฟแบบอิเลคทรอนิก
           ... 2. ทีวี(โทรทัศน์) ปัจจุบันใช้รีโมท...ท่าอย่าปิดทีวีโดยใช้รีโมท  หากจำเป็นใช้รีโมท  ปิด ทีวี
                  ต้องปิดสวิชที่ทีวีด้วยทุกครั้ง ๆๆ   และหากไม่ขี้เกียจ  ให้ดึงปลั้กจากเต้ารับด้วยทุกครั้ง
                  เผื่อ  วันหนึ่งวันใด  นางฟ้าขว้างขวาน (ฟ้าผ่า) หรือไฟเกิน ทีวีที่รักของท่าน อาจจะเป็นขี้เถ้า
ฝากอีกนิดหนึ่ง  สำหรับบุตรหลานของท่าน  หรือตัวท่านเอง  ที่ชอบทำตัวให้ทีวีกล่อมให้หลับหน้าทีวี  หรือตั้งเวลาให้ทีวี
                    มันดับไปเอง   เพราะว่าการปิดทีวีด้วยรีโมท  มันปิดเฉพาะหน้าจอและเสียง  แต่ระบบอื่นๆ มันยังทำเหมือนเดิม
                    มันก็เลยเป็นหน่วยสะสมทุกเดือน
อันนี้แหละ !!! ที่ใครต่อใครบอกว่า มีอุปกรณ์เท่ากับบ้านตัวเอง  แต่ค่าไฟแพงมาก
ขอบคุณพี่บ่าวฐมที่อ่านแล้วเข้าใจและรู้เรื่อง อิอิ...

ออฟไลน์ phisit

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 103
  • 97606B02 จากกุ้งดีโฟร์ดี
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2010, 18:16:30 น. »
สายรูที่สามของปลั๊กก็คือสายสีเขียวใช่ไม๊ครับ  ผมไม่ได้เอาไปเข้าที่เมนสวิทช์ผมต่อลงมาที่ปลั๊กที่มีสามรูเลย  ไฟที่เคยรั่วก็ไม่เห็นดูดอีกเลย  ใช้ได้ไหมครับ

ใช้ได้ครับท่านพี่ตุ้ม เรียกว่าเป็นกราวด์เฉพาะอุปกรณ์ตัวใดตัวนึง ที่ผมเขียนถึงนั้นเป็นกราวด์ของระบบครับ ทั้งระบบมีกราวด์จุดเดียว จริงๆแล้วแบบของท่านพี่ตุ้มไม่อยากแนะนำครับจะมีปัญหาคือ
ถ้ามีอุปกรณ์ที่ต้องต่อลงกราวด์หลายตัวก็จะทำให้เปลืองแท่งกราวด์รอดครับ
อีกอย่างนึงข้อนี้สำคัญ พวกอุปกรณ์ตัดไฟรั่วทั้งหลายมันจะมีวงจรคอยตรวจสอบกระแสและแรงดันความหมายคือเช็คทั้งขาไปและขากลับ จ่ายออกไปเท่าไหร่ ขากลับเข้ามาเท่าไหร่ โดยเทียบกับกราวด์ของระบบคือกราวด์รวม แต่ถ้าทำแบบท่านพี่ตุ้มเครื่องมันไม่รู้ครับ มันรู้แค่ไฟไปเท่าไหร่แค่นั้นเองครับ
สรุปครับ ใช้ได้นะครับท่านพี่ตุ้ม อิอิ...

ออฟไลน์ phisit

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 103
  • 97606B02 จากกุ้งดีโฟร์ดี
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: วันที่ 24 ธันวาคม 2010, 18:29:16 น. »
ต่อเครื่องเสียง ต่อแบบนี้ครับ

http://img576.imageshack.us/content_round.php?page=done&l=img576/4562/groundsystem111.jpg

ออฟไลน์ phisit

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 103
  • 97606B02 จากกุ้งดีโฟร์ดี
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: วันที่ 24 ธันวาคม 2010, 20:00:36 น. »
เดินในบ้านก็อีกแบบนึง รายละเอียดเยอะมากขึ้น แต่โดยหลักการเหมือนกัน

ออฟไลน์ phisit

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 103
  • 97606B02 จากกุ้งดีโฟร์ดี
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: วันที่ 24 ธันวาคม 2010, 20:01:40 น. »
เดินในบ้านก็อีกแบบนึง รายละเอียดเยอะมากขึ้น แต่โดยหลักการเหมือนกัน

http://img815.imageshack.us/img815/1098/systemground1.jpg

ออฟไลน์ พี่ตุ้ม

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2686
  • พี่ตุ้มคนเดิม 8D1C1118
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: วันที่ 24 ธันวาคม 2010, 22:11:00 น. »

ออฟไลน์ phisit

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 103
  • 97606B02 จากกุ้งดีโฟร์ดี
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: วันที่ 27 ธันวาคม 2010, 12:28:45 น. »
ต่อเครื่องเสียง ต่อแบบนี้ครับ เอาใหม่

http://img213.imageshack.us/content_round.php?page=done&l=img213/4052/groundsystem1.jpg

ออฟไลน์ ละอ่อนเจียงดาว

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 289
  • NO.4C95B99F
Re: การเดินสายดิน
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: วันที่ 14 มกราคม 2011, 12:15:37 น. »
อย่าลืมต่อ กราวด์กับ  Neutral ตาม
มาตรฐานการติดตั้งของวิศวกรรมสถาน

ระบบ 1 เฟส 2 สาย (Line,Neutral) ต้องต่อ Neutral ลงดินที่บริภัณฑ์ประธาน(ตู้เมน)

ตู้ Square D เข้าอาคารก็ต้องต่อตามนั้นครับ ยกเว้นห้องชุดที่มี  แยกตามห้อง ตู้ในแต่ละห้องไม่ต้องต่อ Neutral กับสายดิน

เพราะในอาคารต้องมีจุดต่อลงดินแค่จุดเดียวเท่านั้น เพราะเห็นบางบ้านมีแต่ไม่ต่อครับ  ถามว่าต่อทำไม
มาดูข้อดีของมันดีกว่าครับ
 การต่อจุดนิวตรอนเข้ากับกราวด์บาร์ที่ MDB  มีจุดประสงค์เพื่อ
1.คงสภาพให้จุดนิวตรอนเป็นศูนย์โวลท์
2.เพื่อให้อุปกรณ์ป้องกันการลัดวงจรลงกราวด์ทำงานได้แม่นยำ
3.เนื่องจากโหลดในโรงงานมีประเภท 1.เฟสรวมอยู่ด้วยถ้าไม่มีการต่อจุดนิวตรอนเข้ากับกราวด์บาร์ที่MDBและถ้าจุดนิวตรอนที่หม้อแปลงหลุดออกจากระบบจะทำให้เกิดสภาวะไม่สมดุลย์ในระบบทำให้โหลดประเภท1เฟสเสียหาย
หมายเหตุ
1.การต่อถึงกันระหว่างสายนิวตรอนกับกราวด์บาร์กระทำได้จุดเดียวเท่านั้นที่ MDB บ้านเราก็จะเป็น Square D หรือ (ตู้โหลดเซ็นเตอร์)  นั่นเองครับ
2.มาตรฐานอ้างอิง NEC และ IEC 60364-4-410
3.DCSอาจทำให้เกิดฮาร์มอมิกในระบบและอาจทำให้สายนิวตรอนมีกระแสไหลจำนวนมาก
 บ้านของเราจะมีตู้ Square D (ตู้โหลดเซ็นเตอร์)เป็น บริภัณฑ์ประธานหรือ(ตู้เมน)นั่นเองครับ
  




[ ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 14 มกราคม 2011, 12:21:33 น. โดย ละอ่อนเจียงดาว »