ผู้เขียน หัวข้อ: ขอสอบถามการปรับdelay ตู้ลำโพงระหว่างเสียงต่ำ เสียงกลางและเสียงสูง  (อ่าน 84079 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
8) ไม่จำเป็นต้องชดเชย delay ย่าน HF ด้วยการใส่ delay หรือ เลื่อนตำแหน่งตู้ Sub woofer  เพราะจะทำให้ GD ไม่เท่ากันทำให้เกิด misalignment ได้

ขออนุญาตหมอแม็คครับ

ข้อนี้ผมเห็นต่างโดยสิ้นเชิงนะครับ หมอแม็ค  เพราะจากการทดสอบด้วยการทำงานในสนามจริงมาตลอดระยะเวลาเกือบสิบปี
หากไม่ทำดีเลย์ชดเชยย่าน HF ให้กับ LF  เสียงที่ออกมาสามารถฟังออกได้เลยครับว่ามันไม่ใช่  และหลายท่านก็เคยพิสูจน์ใน
เรื่องนี้กันมาแล้ว

เรื่องเสียงนั้น ผมเชื่อในสิ่งที่ผมได้ยิน  มากกว่า เชื่อในสิ่งที่ตาเห็นนะครับ

ใครจะเชื่อในสิ่งไหนก็ตาม   สุดท้ายคุณภาพเสียงที่ออกมาเป็นตัวชี้วัดครับว่าอะไร ใช่ หรือ ไม่ใช่

 :thank1:
ผมขอชี้แจงตรงนี้นะครับ เฮีย
สัญญาณที่ ออกจาก Output ของcrossover ที่ผมวัดแล้วมานำเสนอนั้น ดิบๆเลยยังไม่ออกไปที่แอมป์และลำโพง จะพบว่าที่ย่านความถี่ระหว่างจุดตัด เฟสจะเลื่อนไปพร้อมๆกันทั้งย่าน Loและ Hi ค่าdelay จึงมีค่าเท่ากันตลอดย่านความถี่ที่ซ้อนทับกันระหว่างLoและHi
แต่เมื่อพ้นจากย่านความถี่ที่ซ้อนทับกัน ในย่าน Lo จะมีdelay มากกว่า Hi แต่ไม่จำเป็นต้องไปแก้ไข Delay ย่าน Hi ให้เท่าๆกับLo แต่ประการใด เพราะถ้าdelay Hi Alignmentก็จะไม่ตรงกัน เมื่อสัญญาณออกมาที่ลำโพง ถ้าDriver unit หรือจุดกำเนิดเสียงอยู่ในระนาบเดียวกัน ก็เปรียบเสมือนสัญญาณที่ออกจาก crossover
แต่ถ้าตั้งตู้ไม่ตรงกันในระนาบแนวดิ่ง เช่น ตู้Low ตั้งเยื้องมาด้านหน้าก็ต้อง ทำ Time alignment โดย delay ย่านLow ให้เปรียบเสมือนย้ายมาอยู่ในระนาบเดียวกันกับMidhi
ที่ผมเขียนมานี้ไม่ได้คิดไปเองแต่ประการใด มีwebsite อ้างอิงของ rane ที่ได้วางไว้ตั้งแต่ต้น

เรื่องเสียงเป็นวิทยาศาสตร์ สามารถทดลองได้พิสูจน์ได้
การได้ยอนของคนเรานั้นมี Bias ตามแต่ปัจเจกบุคคล ในทางการแพทย์หูของแต่ละคนรับรู้ความถี่ และ Time แตกต่างกัน เราใช้เครื่องมือวัดออกมาได้ ฉะนั้น ที่ที่เราได้ยินอาจจะไม่เหมือนกับที่คนอื่นได้ยินครับ ดังนั้นเราต้องใช้เครื่องมือที่มาตรฐานและเป็นGoal standard ในการวัดในเรื่องของเสียงเช่นกัน

ปัญหาคือความสามารถในการแยกแยะเสียงที่มันดีเลย์กัน  

ผมเจอปัญหาค่อนข้างเยอะในการทำดีเลย์   เนื่องจากงานที่ทำเป็นงานที่ค่อนข้างจะมีเวลาจำกัดไม่มีเวลาเตรียมงานเยอะหรือเครื่องมือที่ดีอะไรนัก

ที่ผ่านมาก็ใช้วิธีกะๆเอา บางทีก็แค่ถีบตู้ไปข้างหน้า ถ้างานที่วางตู้ซ้อนกันก็กะๆเอาถือคติที่ว่าทำดีกว่าไม่ทำ  

เลยอยากจะขอวิธีและอุปกรณ์ที่จำเป็นรวมทั้งไฟล์เสียงโปรแกรมที่ใช้ในการเช็คค่าความดีเลย์ของเสียง ในแบบที่คนทั่วไปที่หูไม่ตึงและพอจะงมๆซาวด์ทำได้   (เอาจริงน่ะเฮีย)  :thank1:

น้านพก็มีปัญหาเรื่องหูเหมือนกับผมเลยครับ ผมขอแนะนำ การทำ Time Alignment อย่างง่าย และได้ผล โดยใช้ Sinewave ในgenterator ของ mixer (คิดว่าน้านพคงมีนะครับใน digital mixer) ร่วมกับ SPL meter จะใช้ application ใน Android หรือ Iphone ก็ได้ครับ

[flash=640,400]http://youtu.be/A-uh0hwtspE[/flash]

ในคลิปอธิบายได้คร่าวๆดังนี้ครับ
เขามีลำโพง mid-hiที่ติดตั้งอยู่ด้านบน มีตู้Subwoofer ตั้งอยู่ข้างล่างล้ำมาด้านหน้า โดย จุดตัดcrossover ใช้ LR 48dB/oct ตัดที่ 100Hz  เขาจะทำ Alignment ของ Midhiกับ Sub ดังนี้ครับ
-เปิด sine wave 80Hz(ความถี่ทีตู้ลำโพงทั้งสองมี ที่เขาเลือกใช้เพราะมันไม่ค่อยน่ารำคาญ) เปิดทีละย่าน
-เปิด Sine wave 80Hz ที่ตู้sub วัดความดัง ที่จุดconsole ได้80dB
-เปิด Sine wave 80Hz ที่ตู้ midhi เร่งเสียงขึ้นจนวัด SPL ได้80dB
-เปิดเสียง Sine wave ที่ลำโพงทั้งสองพร้อมกัน จะเห็นว่า วัดได้ไม่ถึง86 dB(ถ้าสัญญาณเฟสตรงกัน2แหล่งจะวีดรวมไก้เพิ่มขึ้น 6dB)
-จากนั้นกลับเฟส ลำโพงย่านใดย่านหนึ่ง เพื่อจะหาจุดที่ เฟสหักล้างกันมากที่สุด
-เขา Delay Sub ที่อยู่ด้านหน้าไปเรื่อยๆ จนความดังลดลงมากที่สุด เพื่อหาจุดหักล้างของเฟส (out of phase)
-จากนั้น กลับเฟสที่ลำโพงทีได้กลับไว้ก่อนหน้านี้ สังเกตว่าที่ SPL meter จะอ่านค่าได้ 86dB
เป็นอันจบการทำ Time alignmentอย่างง่ายครับ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที

วิธีทำอย่างนี้เขาใช้กันในเมืองนอกกันมานานแล้วนะครับ มีการ ตีพิมพ์ใน Magazine FOH Online ด้วย
http://www.fohonline.com/current-issue/28-theory-and-practice/3256-a-realistic-approach-to-subwoofer-time-alignment.html
ในบทความเขาตัดความถี่ sunwoofer 100Hz และใช้ Sinewave ในการทดสอบทำเหมือนในclip ครับ
และมีแถมท้าย การทำ Alignment เสียง kick เมื่อ ผู้ฟังอยู่ห่างจากเวทีไม่มาก และสมารถได้ยินทั้ง PA และ Stage monitor จาก kick บนเวที โดยที่ kick อยู่หลังเวทีลึกลงไป 5 ฟุตห่างจาก ลำโพงPA
เขาจะdelay PA ไป 5 ฟุต เพื่อที่จะให้ เสียงkick จาก PA มาพร้อมๆ กับ kick monitorและเสียงKickสด จะทำให้ผู้ฟังแถวหน้าได้ ยินเสียง Kick เป็นเสียงเดียวและได้ Tone ของ kickที่เต็มอิ่ม

นั่นคือสัจจะธรรมครับ ป๋ามะละกอ

พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่าอย่าเชื่ออะไร โดยที่ไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง แม้แต่คำสอนของพระพุทธองค์เอง

สำหรับผม ผมก็แค่เอาประสบการณ์ที่ผมได้เก็บเกี่ยวมาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ มาลองผิด ลองถูก และทดสอบ
อย่างจริงจัง  มาเหลาให้ฟังแค่นั้นครับ  ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่?  ก็อย่างที่บอก ผลงานจากการกระทำมันจะเป็น
เครื่องพิสูจน์ทราบเองครับ  เพราะเรื่องเสียงมันเป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์ทราบได้ ไม่ได้ยากเย็นแต่ประการใด

 :thank1:



สำหรับคลิปที่ป๋าให้ชม ผมกล่าวได้เลยครับ ว่าเบสิกมาก ๆ ในเรื่องการทำดีเลย์ให้ตู้ลำโพงต่อระยะ ซึ่งไม่เกี่ยว
กับการทำ Time Alignment ระหว่างตู้ลำโพงในแต่ละย่าน แต่ประการใด

บทความที่น่าอ่านมาก ๆ ที่ผมเคยอ่านมานานมากแล้ว แล้วหมอแม็ค เอาลิงค์มาวางให้อ่านอีกครั้ง  ลองอ่านกันดูครับ

http://www.prosoundtraining.com/site/articles/subwoofer-alignment-with-full-range-system/



บทความตรงนี้ เฮียยังอาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่บ้างนะครับ
setting คือ ลำโพง Cluster midhi แขวนล้ำหน้า subwoofer มานะครับ ทำให้วัด ได้ sub delay กว่า Midhi
ตอนแรกเขาทดสอบAlignmentโดยใช้การ วัดค่า จาก Peak ของ ETC (Energy Time Curve)ของ Cluster กับ Sub ว่า delay ต่างกันเท่าไร แล้วนำค่าผลต่างที่ได้ไปใส่ค่า delay ลำโพง midhi ผลปรากฏว่า magnitude ไม่ flat
หลังจากนั้น เขาก็วัดใหม่โดย เลือกเอาค่าความต่างของ Time Arrival ของ ETC (ฐานด้านซ้ายของ ETC)ทั้งสองย่านมาทำ alignment ปรากฎว่า mignitude response ก็ไม่ Flat อีกเช่นเดิม
ที่เป็นเช่นนี้เพราะ มันมีการเลื่อนของ เฟสเมื่อใช้ filter ทำให้เกิด Group delay เกิดขึ้น เขาจึงมา ใช้ Transfer function เพื่อดู ค่า Group delay ใน frequency domain จึงพบว่า Group delay มันขนานกันในช่วงความถี่ที่มันซ้อนทับกันของ crossover จึงใช้ค่าความต่างของ Group delay ในการทำ Alignment ผลปรากฏว่า Magnitude response flat พอดี



รูปที่ 4 ETC สีแดงของ cluster สีน้ำเงินของ sub ถ้าวัด peak ของ สีแดงไป น้ำเงิน จะได้ 14.7ms และถ้าวัด Time arrival (ขอบฐานของETCที่มาถึงก่อน)สีแดงไปน้ำเงิน จะได้ประมาณ 10ms
รูปที่ 5 คือ magnitude เมื่อ ใส่delay 14.7ms ที่cluster(สีน้ำเงิน) และใส่ 10msทีcluster (สีแดง) จะเห็นว่ามัน dipลงไป
รูปที่ 6 ETC สีแดงคือ ผลรวมของ ETCในรูปที่4 เมื่อใส่ delay 10ms ETCสีน้ำเงินคือ ผลรวมของETC รูปที่4 โดยใส่delay cluster 14.7ms



รูปที่ 7 คือ ใช้TF วัด Groupdelay ของ sub(น้ำเงิน) กับ cluster(แดง)
 ดูที่ความถี่ 300Hz  Subมีdelay 11ms cluster มีdelay 3.9 ดังนั้น GD ทั้ง2ย่านจึงต่างกัน 7.1ms



รูปที่ 8 คือ magnitude รวม เมื่อใส่ delay cluster 7.1ms



รูปที่ 9 คือ ผลรวมของ ETC เมื่อใส่ delay 7.1 ms ที่cluster (สีดำ)


ตอนท้ายเขาอธิบายว่า Peak ของ ETC เมื่อตัดความถี่ ต่ำลงเรื่อยๆ peak ของมันจะมี delay เพิ่มขึ้น



รูปที่ 10 แสดง ETCย่าน Low เมื่อตัดความถี่ต่ำลงเรื่อยๆ จะเห็นว่า Peak ของ ETC มันห่างออกเรื่อยๆ (delay เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ)


รูป 11 แสดง IR เมื่อตัดความถี่ตำ่ลงเรื่อยๆ

ปล.อธิบาย ETC ง่ายๆคือ เมื่อความถี่ ปล่อย impulse(มีทุกความถี่และ แต่ละความถี่พลังงานเท่ากัน) แล้ววัดค่า ออกมา คิดตามนะครับ คลื่นเสียงตั้งแต่ 20-20KHz เริ่มต้นปล่อยออกมาพร้อมกันจากลำโพง Peak ของความถี่สูงๆจะเรียงกันใกล้กันมาก พลังงานที่เฉลี่ยรวมกันที่การกระจัดสูงสุดของแต่ละความถี่จะสูงขึ้นมากเป็นยอดภูเขา และจะต่ำลงเรื่อยๆ เมื่อความถี่ต่ำลง เพราะความยาวคลื่นของความถี่ต่ำขยายอยู่ห่างกันมากขึ้น
ดังนั้นเมื่อใช้ crossover ตัดความถี่ต่ำกับความถี่สูงออกจากกัน ค่าpeakย่าน low จึง delay มากกว่า ย่าน Hi
แต่บทความนี้เขาแนะนำให้ใช้ Groupdelay ในการทำ Alignment
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กรกฎาคม 2015, 01:25:28 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men



(ผมดูป้ายแล้วน่าสงสารคนทำป้ายจัง
ไว้ตอนท้ายจะอธิบายให้ฟังครับ)


อันที่จริงหันมาถกเรื่องนี้บ้างจะดีกว่า

เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ  
เขาว่ากันอย่างนั้น แต่หลายคนทั้งปีไม่เคยไปวัดเลย
ฝรั่งนั้นจะมากน้อย เขาไปวัดทุกวันอาทิตย์

คนไทยยังเข้าใจในเรื่อง  
ศาสนาพุทธ  กับ  พุทธปรัชญา คลาดเคลื่อน
สิ่งที่ตามมาคือ การสื่อเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจ ไม่เข้าเป้า


ธรรม  อ่านว่า ทัม_มะ   ผมคิดเอง เออเอง มันคือ   ธรรมชาติ
ธรรมชาติ สามารถพิสูจน์ให้เห็นจริงได้  
ทุกวันนี้สิ่งที่พิสูจน์เรายอมรับว่า ต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์ เป็นเครื่องพิสูจน์

ผมกลับด้วยสายตาตัวเองว่า  แหงมละ  ก็  ธรรมชาติ กับ วิทยาศาสตร์  มันเป็นเรื่องเดียวกันนี่นา

กลับมาที่ป้ายข้างบน  แม้ว่าจะสื่อถึง  การปฎิบัติมาก
ปฏิบัติโดยใช้สติคอนโทรล  จะเกิดสมาธิ ตามมาด้วยปัญญา
ถ้าถามว่า  อะไรทำให้เกิดสมาธิ  
เมื่อมีสมาธิแล้ว  อะไรทำให้เกิดปัญญา
เกิดปัญญาขึ้นมาแล้ว  จะทำอย่างไรต่อไป...

จากป้าย...  สมาธิ คือ ปัญญา
นี่เข้าข่ายโฆษณาชวนเชื่อแล้วครับ

(ขออนุญาตพักครึ่งเวลา  ปวดข้อศอกยันหัวไหล่ครับ)




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กรกฎาคม 2015, 06:49:32 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
การโต้แย้งด้วยสาระคนอ่านก็จะได้สาระตามไปด้วย. ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการปฏิบัติและการแยกแยะสาระจากทุกๆฝ่าย


ชอบครับ  :th2:


ส่วนวิธีการของหมอแม็ค.  งานวันที่ 28 นี้ จะลองให้เห็นแจ้งครับ.  เพราะปกติถ้าไม่มีงานผมจะไม่ยกเครื่องเสียงมาเปิดเล่นเด็ดขาด

ขี้เกียจครับ  :thank1:

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men

พุทธปรัชญา  เกิดก่อน  พุทธศาสนา
พุทธปรัชญา เป็นทฤษฎี เป็นความคิด  ที่คิดนับเนื่องมาจากความสงสัย

ปรัชญา  อาจหมายถึง  ความรักในความรู้
คนที่รักในความรู้  จะขี้สงสัย  และคิดหาวิธีแก้ความสงสัยด้วยเหตุและผล

ตัวอย่างเช่น สงสัยในเรื่องของ การเกิด แก่ เจ็บ และตาย

พุทธศาสนา  เป็นภาคปฏิบัติ ลงมือทำ เพื่อให้หายสงสัย นะครับ


มาว่ากันตามป้ายบ้าง  คือเรื่องของการปฏิบัติ

พุทธศานา  ต้องลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง

พุทธปรัชญา  ไม่ต้องปฏิบัติ  ย้ำนะครับว่า ไม่ต้องปฏิบัติ ก็สามารถเชื่อได้
เพียงแต่ก่อนเชื่อ ต้องตรวจสอบให้ถูกต้องตามหลักเหตุผล เหตุแห่งปัจจัย

ในเรื่องของการดำเนินชีวิต หรือการพัฒนาคุณภาพของการดำเนินชีวิต
พระพุทธเจ้า ได้แสดงทางสายกลางเอาไว้คือ  ศีล สมาธิ ปัญญา

ทางสายกลางนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนทำตามได้ เนื่องจากเป็นหลักของปรัชญาสายตะวันออก

พูดถึงเรื่องนี้  ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ฟิสิก ก็สงสัย เพียงแต่ความสงสัยเป็นแบบปรัชญาตะวันตก
ปรัชญาตะวันตก ต่างจากปรัชญาตะวันออกครับ
สิ่งที่สงสัย ไอน์สไตน์คิดกว่า 30 ปี ก็คจนสิ้นลมบนเตียง บนอก มีหนังสือธรรมของศาสนาพุทธ
น่าเสียดายที่สุดครับ
เพราะสิ่งที่ไอน์สไตน์คิดไม่ออก  พระพุทธเจ้า ตรัสรู้มานานกว่า 2500 ปี

ป.ล.  ผมเริ่มเรียนรู้เรื่องพวกนี้  ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ  
ตอนนั้นปิดเทอมใหญ่ วันๆ ผมจะอยู่ที่ห้องสมุด
อ่านหนังสือของหลวงวิจิตรวาทการ ซึ่งส่วนใหญ่เขียนในแนว จิตวิทยา ชื่อหนังสือ  "จิตรานุภาพ"

อ่านแล้วถึงกับลุ่มหลง และชอบอ่านเรื่องพวกนี้
จิตวิทยา  ศาสนาเปรียบเทียบ  ตรรก(Logic)  ปรัชญา  มันไปด้วยกันและนำมาสังเคราะห์ได้
อ่านแล้วลืม ลืมแล้วอ่านใหม่ พอเข้าใจเอามาใช้ในการดำเนินชีวิตได้นิดเดียว
ทั้งนี้เพราะกิเลสมันเยอะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กรกฎาคม 2015, 07:57:55 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ LungWATCR

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1296
  • 5DE459CB [ Pog MusicPro]
สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงย้ำ ถึงเรื่องสติ และสมาธิ เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้เห็น และรู้ทุกข์ เหตุเกิดแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และหนทางแห่งความดับทุกข์
และหนทางดับทุกข์ หรือแนวทางปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ที่เรียกว่ามรรคมีองค์ 8 ก็มีองค์ประกอบสำคัญ คือ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ ด้วยครับ
แม้จะมีสติ ระลึกรู้ แต่ไม่มีสมาธิที่เป็นปัญญาก็มิอาจเข้าใจชัดแจ้งได้ว่าสิ่งที่ระลึกรู้เป็นสิ่งใด อันเป็นแนวทางปฏิบัติทำให้เกิดวิปัสสนาญาณ
ปล.ผมอธิบายได้ไม่เก่งครับ แต่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช บรรยายได้ดีมาก
เป็นกระทู้ธรรมซะละ

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงย้ำ ถึงเรื่องสติ และสมาธิ เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้เห็น และรู้ทุกข์ เหตุเกิดแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และหนทางแห่งความดับทุกข์
และหนทางดับทุกข์ หรือแนวทางปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ที่เรียกว่ามรรคมีองค์ 8 ก็มีองค์ประกอบสำคัญ คือ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ ด้วยครับ
แม้จะมีสติ ระลึกรู้ แต่ไม่มีสมาธิที่เป็นปัญญาก็มิอาจเข้าใจชัดแจ้งได้ว่าสิ่งที่ระลึกรู้เป็นสิ่งใด อันเป็นแนวทางปฏิบัติทำให้เกิดวิปัสสนาญาณ
ปล.ผมอธิบายได้ไม่เก่งครับ แต่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช บรรยายได้ดีมาก
เป็นกระทู้ธรรมซะละ


อั้นแน่  ....รู้ว่าชอบทางนี้

อธิบายแบบมะละกอ ครับ

ศีล  แนะให้ประพฤติดี ทำแต่สิ่งที่ดีๆ  เมื่อทำแล้วย่อมหมดกังวลในทุกเรื่อง
ยกตัวอย่างประพฤติ ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่เป็นหนี  จิตใจย่อมสบาย
เมื่อไม่ต้องกังวล มีเรื่องคิดหลายเรื่อง การโน้มนำจิตให้เกิดสมาธิย่อมรวดเร็ว

สมาธิ  เกิดขึ้นได้ด้วย สติ คือความระลึกได้ สติจะประคองจิตให้อยู่ในเรื่องของปัจจุบันขณะ  ไม่ฟุ้งถึงอดีต และอนาคต

ปัญญาเกิดตามมาจริงหรือ  ถ้าจริง เอาปัญญาไปใช้งานอย่างไร?
ตัวอย่างเช่น เอาปัญญาที่เกิดขึ้นไปใช้งานในการติดตั้งระบบเสียงให้ถูกต้อง
คนๆ นั้นต้องมีความรู้ในเรื่องการติดตั้งระบบเสียง เสียก่อน

มิใช่เกิดปัญญาแล้วจะรู้ทุกเรื่องครอบจักรวาล โดยไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นเลย ครับ

ออฟไลน์ AJ-AUDIO

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 997
  • 7EE34218 อภินันทนาการ จาก "หนุ่มเมืองลำดวน"
555  เวลาที่คนเราอ่านข้อความเดียวกัน แต่มักจะตีความหมายออกไปแตกต่างกัน

ส่วนตัว อ่านแล้วเข้าใจว่า ข้อความนี้ มุ่งเน้นให้เกิดการปฎิบัติ ไม่ใช่เพียงแต่ท่องตำรา หรือ เอาแต่พร่ำภาวนา

ก็อย่างที่ผมบอกไว้ข้างบน  หากคนเราเอาแค่ศึกษาหาความรู้ อ่านแต่ในเพียงตำรา
โดยที่ไม่เคยปฎิบัติอย่างจริงจัง จะรู้ซึ้งถึงแก่นแท้ได้อย่างไร?

ยิ่งอ่านมาก ก็ยิ่งสงสัยมาก ยกเว้นแต่ว่าอ่านอย่างไม่มีสติ เชื่อในสิ่งที่อ่านทุกสิ่งอย่าง

หากเราเฝ้าเพียรศึกษาพระธรรม คำสอนของพระพุทธองค์ โดยไม่ได้ลงมือปฎิบัติ อย่างมีสติให้เห็นแจ้ง
จนเกิดสมาธิ  ปัญญาจะเกิดได้อย่างไร?  และปัญญาที่เกิด ก็เกิดจากการฝึกปฎิบัติในสิ่งนั้น ๆ  

หาใช่ศึกษาพระธรรม ปฎิบัติตามพระธรรม แล้วจะเกิดปัญญาไปรู้เรื่องเครื่องเสียงแต่อย่างใด ไม่

คนไทยที่บอกว่าเป็นชาวพุทธ แต่ไม่เคยเข้าวัดปฎิบัติธรรม  ก็เหมือนคนที่บอกว่ารู้เรื่องเครื่องเสียงกลางแจ้ง
แต่ไม่เคยไปทำงานเครื่องเสียงกลางแจ้ง จริง ๆ เลยสักครั้ง

ต้องขออภัยหากความคิดเห็นนี้ไปก้าวล่วงถูกผู้ใด ด้วยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กรกฎาคม 2015, 14:58:45 น. โดย AJ-AUDIO »

ออฟไลน์ AJ-AUDIO

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 997
  • 7EE34218 อภินันทนาการ จาก "หนุ่มเมืองลำดวน"
ผมก็พยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่หมอแม็ค อธิบายมานะครับ แต่ในการทำงานจริงมันไม่ได้ผลลัพธ์เช่นนั้น 
ตลอดเวลาที่ผมทดลองทำการเซ็ทอัพระบบเสียงกลางแจ้งมาหลาย ๆ ปี ไม่เคยเลยสักครั้งที่วางตู้ลำโพงใน
แนวระนาบเดียวกัน โดยไม่ต้องดึง Delay ให้ตู้มิด ไฮ แล้วเสียงจะออกมาดีได้เลยสักครั้ง 

หมอแม็คจะอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างไร? จะให้ผมเชื่อในสิ่งที่ผู้อื่นอธิบายไว้ แต่ปฎิบัติจริงไม่ได้ผลงั้นหรือ?

จากคลิปของหมอแม็ค ในเมื่อจุดตัดของฟิลเตอร์อยู่ที่ 100Hz  ทำไมไม่วัด Sine wave ที่ 100Hz หล่ะครับ
ทำไมไปวัดที่ 80Hz หมอแม็ค ไม่สงสัยหรือครับ?

อย่าว่าผมนะครับ เพราะผมเป็นคนขี้สงสัย เพราะถ้าไม่ทำ ดีเลย์แล้วเฟสตรงกัน ที่ 100Hz เปิดพร้อมกันต้องดังกว่า
เปิดทีละย่าน  แล้วอีกอย่าง ระยะทางจากหน้าตู้ไปยังจุดที่ใช้ Spl meter วัดความดัง ก็มีผลด้วยนะครับ เพราะ
มันอาจจะเป็นจุดที่เกิด Cancellation ของความถี่ 80Hz พอดีก็ได้

สำหรับการวัด Delay Time ใน Time Domain เป็นการวัดเปรียบเทียบระหว่างสัญญาณ Ref กับ Mea  ซึ่งแน่นอนว่า Peak ของ ความถี่ต่ำมันยาวกว่าความถี่สูง
แต่มันก็เทียบกับสัญญาณ Ref ที่ความถี่เดียวกันที่มีความยาวคลื่นเท่ากัน ไม่ใช่หรือ?  ถ้ามันจะดีเลย์ มันก็ดีเลย์พอ ๆ กันทั้งสองสัญญาณ เนื่องจากเป็นความถี่
เดียวกัน  อันนี้เป็นความเข้าใจของผมเองนะครับ (ในเมื่อโปรแกรมสามารถเทียบ Amplitude ในทุกความถี่ได้ ทำไมจะเทียบ Delay ในทุกความถี่ไม่ได้)

ซึ่งในการเขียนโปรแกรม ผมก็ไม่ทราบว่า  การเทียบ Delay Time ใน Time Domain  ผู้ออกแบบโปรแกรมเค้าเขียนให้โปรแกรมเทียบสัญญาณ Ref กับ Mea ไว้อย่างไร?

และในบทความ ผมก็อ่านไม่เจอว่าเค้าบอกไว้ตรงไหนว่าแขวน Cluster ไว้ล้ำหน้าตู้ Sub อาจจะเพราะผมอ่อนภาษาปะกิต ก็เป็นได้ครับ ต้องขออภัย

We will add a subwoofer that is physically displaced from the full range cluster.

แต่ว่าบทสรุปในบทความก็คือต้องทำ Delay ให้ Cluster ที่  7.1ms ซึ่งผมคงเข้าใจไม่ผิดใช่ไหมครับ หมอแม็ค

ปล. มีอีกเรื่องที่คนทำซาวด์ผมเค้าบอกมา  ว่าทำไมเสียงขลุ่ยอยู่ตรงกลางเวที ทั้ง ๆ ที่คนเป่าอยู่ด้านซ้ายของเวที เหตุผลคือ ซาวด์แมน จะไม่ Pan เสียงเครื่องดนตรี
ที่เป็นเสียง Solo นำ  ไปด้านใดด้านหนึ่งของเวที ไม่ว่าผู้เล่นเครื่องดนตรีชิ้นนั้น จะยืนอยู่ตรงจุดไหนของเวทีก็ตาม  เฉกเช่นนักร้องนำ ไม่เช่นนั้นเวลานักร้องนำ เดิน
ไปมาบนเวที จากขวาไปซ้าย จากซ้ายไปขวา มิต้อง Pan สัญญาณตามตำแหน่งของนักร้องหรอกหรือ?  เสียงดนตรี เสียงร้อง ไม่ใช่เสียงในภาพยนต์ที่ต้องอยู่ตาม
ตำแหน่งของแหล่งกำเนิดเสียงเสมอไป  แต่เหตุผลหลักก็คือที่ผมแจ้ง ว่าไมค์มันอัดมาแบบโมโนนั่นเอง

 :thank1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กรกฎาคม 2015, 16:10:58 น. โดย AJ-AUDIO »

ออฟไลน์ LungWATCR

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1296
  • 5DE459CB [ Pog MusicPro]
ลึกซึ้งและกินใจ เป็นจริงดังท่านมะละกอ และท่านสมโภชน์ว่า
ปัญญา ตรงข้ามกับ อวิชชา
เมื่อนำมาใช้ในระดับโลกิยวิสัย
ปัญญา คือ ความรู้ (ในเรื่องต่าง ๆ เช่น เครื่องเสียง เป็นต้น)
อวิชชา คือ ความไม่รู้
เมื่อเราระลึกรู้และเข้าใจในสิ่งที่เราทำอย่างถ่องแท้ ย่อมเกิดประสิทธิผล และประสิทธิภาพ
นั่นคือ ทำลายอวิชชา (ในทางโลก) ลงเสียได้

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
ลึกซึ้งและกินใจ เป็นจริงดังท่านมะละกอ และท่านสมโภชน์ว่า

ปัญญา ตรงข้ามกับ อวิชชา


เมื่อนำมาใช้ในระดับโลกิยวิสัย

ปัญญา คือ ความรู้ (ในเรื่องต่าง ๆ เช่น เครื่องเสียง เป็นต้น)
อวิชชา คือ ความไม่รู้
เมื่อเราระลึกรู้และเข้าใจในสิ่งที่เราทำอย่างถ่องแท้ ย่อมเกิดประสิทธิผล และประสิทธิภาพ
นั่นคือ ทำลายอวิชชา (ในทางโลก) ลงเสียได้


หลังมื้อเที่ยงผมก็นอนเพื่อสุขภาพหลับสนิทฝันดี ตะหาก
ตื่นมารีบเข้าเว็บตามปรกติ

ปัญญา ตรงข้ามกับ อวิชา  ผมว่ามันทะแม่งๆ นา

ที่ผมเคยเขียนมาหลายครั้งคือ

ความรู้   =   วิชา   =    ศาสตร์
อวิชา    =  ไม่รู้

ความรู้คือวิชา   ปัญญาคืออาวุธ


ปัญญา  น. ความรอบรู้ ความรู้ทั่ว ความฉลาดเกิดแต่เรียนและคิด เช่น คนมีปัญญา หมดปัญญา. (ป.).


งง ไหมครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กรกฎาคม 2015, 16:16:14 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ หนุ่มเมืองนคร (ไทย)

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 9607
  • HL4C9D39B0(X-men)
ปัญญา คู่กับ เรณู
มานะ คู่กับ มานี
 ;D ;D ;D

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
555  เวลาที่คนเราอ่านข้อความเดียวกัน แต่มักจะตีความหมายออกไปแตกต่างกัน

ส่วนตัว อ่านแล้วเข้าใจว่า ข้อความนี้ มุ่งเน้นให้เกิดการปฎิบัติ ไม่ใช่เพียงแต่ท่องตำรา หรือ เอาแต่พร่ำภาวนา

ก็อย่างที่ผมบอกไว้ข้างบน  หากคนเราเอาแค่ศึกษาหาความรู้ อ่านแต่ในเพียงตำรา
โดยที่ไม่เคยปฎิบัติอย่างจริงจัง จะรู้ซึ้งถึงแก่นแท้ได้อย่างไร?

ยิ่งอ่านมาก ก็ยิ่งสงสัยมาก ยกเว้นแต่ว่าอ่านอย่างไม่มีสติ เชื่อในสิ่งที่อ่านทุกสิ่งอย่าง

หากเราเฝ้าเพียรศึกษาพระธรรม คำสอนของพระพุทธองค์ โดยไม่ได้ลงมือปฎิบัติ อย่างมีสติให้เห็นแจ้ง
จนเกิดสมาธิ  ปัญญาจะเกิดได้อย่างไร?  และปัญญาที่เกิด ก็เกิดจากการฝึกปฎิบัติในสิ่งนั้น ๆ  

หาใช่ศึกษาพระธรรม ปฎิบัติตามพระธรรม แล้วจะเกิดปัญญาไปรู้เรื่องเครื่องเสียงแต่อย่างใด ไม่

คนไทยที่บอกว่าเป็นชาวพุทธ แต่ไม่เคยเข้าวัดปฎิบัติธรรม  ก็เหมือนคนที่บอกว่ารู้เรื่องเครื่องเสียงกลางแจ้ง
แต่ไม่เคยไปทำงานเครื่องเสียงกลางแจ้ง จริง ๆ เลยสักครั้ง

ต้องขออภัยหากความคิดเห็นนี้ไปก้าวล่วงถูกผู้ใด ด้วยครับ



เรื่องป้าย   ผมคิดแบบนี้ครับ


พุทธศาสนาในเมืองไทย  เน้นเรื่องพิธีกรรม  ไม่ได้เน้นเรื่องปฏิบัติ
เรื่องแบบนี้ เป็นช่องว่างให้พ่อค้าเข้ามาแสวงหาผลกำไร
จนกลายเป็น พุทธพานิช

การทำป้ายติดต้นไม้ภายในวัด ถ้าจะมองว่าเป็นเครื่องเตือนสติ
สำหรับผมมองดูว่า มันเหมือน โฆษณาชวนเชื่อ
และกลายเป็นแฟชั่นที่วัด ทั้งหลายติดป้ายกัน
วัดไหนคนขึ้นมาก วัดนั้นรวย
ยิ่งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ  คนแห่เข้าวัดล้นหลาม
เช่ารถตู้ข้ามจังหวัดกันมา เพราะข่าวว่า  ทำบุญกะวัดนี้แล้วถูกหวย


คนที่เข้าวัดด้วยความศรัทธา  
เมื่อรู้จริงเห็นแจ้งในระดับที่ชาวบ้านทั่วไปรู้เพื่อดำเนินชีวิต
ย่อมมีสติ  ระลึกได้ในสิ่งที่ตนกระทำ
ผมมองว่า  ไม่จำเป็นต้อง เขียนป้ายเตือน ครับ

ส่วนเรื่องเข้าวัดปฎิบัติธรรม  กับ งานปฏิบัติทำเครื่องเสียงกลางแจ้ง
ผมว่ามันคนละเรื่องนะครับ
แหม ท่าน AJ AUDIO  ก็ ช่างแกล้งใสซื่อบริสุทธิ จริงๆ

พี่สาว น้องสาว แฟนผม  นุ่งขาวห่มขาวเดินทางไปวัดป่าไกลๆ
วัดไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีเครื่องอำนวยความสุข
ญาติผมไปวัดปฏิบัติธรรมเพราะความศรัทธา
ทั้งๆ ที่การปฏิบัติธรรมนั้น ทำที่บ้านก็ได้

งานทำเครื่องเสียงกลางแจ้ง  มันทำเพราะเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเอง
ทำมาก ทำบ่อย จะเกิดทักษะ ในหลายเรื่อง
ทักษะมีประโยชน์มากนั่นคือข้อจริง ครับ
ทักษะช่วยให้การติดตั้งได้รวดเร็วขึ้น ถูกต้องแม่นยำขึ้น

ส่วนความรู้ในเรื่องงานกลางแจ้งที่อ่านเอานั้น มันเป็นความรู้ในเรื่องวิชาการ
เป็นหลักวิชาที่ต้องเรียนรู้ก่อนลงมือทำ
ถ้าผมอ่านแล้วไม่ลงมือทำงาน  ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กรกฎาคม 2015, 16:31:01 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ AJ-AUDIO

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 997
  • 7EE34218 อภินันทนาการ จาก "หนุ่มเมืองลำดวน"
555  ผมไม่ได้แกล้งใสซื่อ หรอกครับ ป๋ามะละกอ เพียงแต่ผมพยายามทำความเข้าใจในประโยค ข้างล่างนี้ตะหาก

สมาธิ  เกิดขึ้นได้ด้วย สติ คือความระลึกได้ สติจะประคองจิตให้อยู่ในเรื่องของปัจจุบันขณะ  ไม่ฟุ้งถึงอดีต และอนาคต

ปัญญาเกิดตามมาจริงหรือ  ถ้าจริง เอาปัญญาไปใช้งานอย่างไร?
ตัวอย่างเช่น เอาปัญญาที่เกิดขึ้นไปใช้งานในการติดตั้งระบบเสียงให้ถูกต้อง
คนๆ นั้นต้องมีความรู้ในเรื่องการติดตั้งระบบเสียง เสียก่อน

มิใช่เกิดปัญญาแล้วจะรู้ทุกเรื่องครอบจักรวาล โดยไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นเลย ครับ


 :thank1:

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
ผมว่าพักเรื่องธรรมมะ.  มาเข้าเรื่องเสียงกันต่อดีกว่าครับ.  ใกล้บรรลุเข้าไปทุกทีแล้ว

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
555  ผมไม่ได้แกล้งใสซื่อ หรอกครับ ป๋ามะละกอ เพียงแต่ผมพยายามทำความเข้าใจในประโยค ข้างล่างนี้ตะหาก

สมาธิ  เกิดขึ้นได้ด้วย สติ คือความระลึกได้ สติจะประคองจิตให้อยู่ในเรื่องของปัจจุบันขณะ  ไม่ฟุ้งถึงอดีต และอนาคต

ปัญญาเกิดตามมาจริงหรือ  ถ้าจริง เอาปัญญาไปใช้งานอย่างไร?
ตัวอย่างเช่น เอาปัญญาที่เกิดขึ้นไปใช้งานในการติดตั้งระบบเสียงให้ถูกต้อง
คนๆ นั้นต้องมีความรู้ในเรื่องการติดตั้งระบบเสียง เสียก่อน

มิใช่เกิดปัญญาแล้วจะรู้ทุกเรื่องครอบจักรวาล โดยไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นเลย ครับ


 :thank1:


ขออีกหน่อย

ผมเก็บเกี่ยวมาจากที่ท่าน พุทธทาส  เขียนไว้ครับ
อีกท่านคือ  ท่านติช นัท ฮันห์ 
ทั้งสองท่านโลกยกย่องในฐานะปรมาจารย์เซน 
เน้นในเรื่องการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ไม่คิดถึง อดีต และอนาคต ครับ

ขออนุญาตหยุดเรื่องศาสนาตามคำขอครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กรกฎาคม 2015, 16:39:41 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ โกวิท ไปนำกันเด้อ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 5506
  • HL#851E9551
ผมว่าพักเรื่องธรรมมะ.  มาเข้าเรื่องเสียงกันต่อดีกว่าครับ.  ใกล้บรรลุเข้าไปทุกทีแล้ว
เห็นควรด้วย

ออฟไลน์ AJ-AUDIO

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 997
  • 7EE34218 อภินันทนาการ จาก "หนุ่มเมืองลำดวน"
เอาเป็นว่าผมขอยุติ การแสดงความเห็นในเรื่องการทำ Time Alignment ระหว่างตู้ลำโพงในแต่ละย่านไว้เพียงเท่านี้นะครับ หากเห็นว่ามีประโยชน์ก็ลองไปทดสอบกันดู แต่หากเห็นว่าไม่มีประโยชน์ก็อ่านข้ามๆ ไปครับ อย่าเก็บเอามาเป็นอารมณ์ให้ขุ่นข้องใจไปเลย

 :thank1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กรกฎาคม 2015, 20:11:14 น. โดย AJ-AUDIO »

ออฟไลน์ หนุ่มเมืองนคร (ไทย)

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 9607
  • HL4C9D39B0(X-men)
เอาเป็นว่าผมขอยุติ การแสดงความเห็นในเรื่องการทำ Time Alignment ระหง่างตู้ลำโพงในแต่ละย่านไว้เพียงเท่านี้นะครับ หากเห็นว่ามีประโยชน์ก็ลองไปทดสอบกันดู แต่หากเห็นว่าไม่มีประโยชน์ก็อ่านข้ามๆ ไปครับ อย่าเก็บเอามาเป็นอารมณ์ให้ขุ่นข้องใจไปเลย

 :thank1:
ยาวไปเรื่อยๆครับ พวกกระผมได้รับผลานิสงจากกุศลนี้อีกนับจำนวนมิได้ :mad244: :mad244:

ออฟไลน์ LungWATCR

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1296
  • 5DE459CB [ Pog MusicPro]
ว่าจะเก็บความรู้ต่อเรื่อง Time Alignment เฮียแซมยุติซะละ
ช่วง หลายเดือนหลายวันมานี่ ผมพยายามงมกับ Dx260 ของผมอยู่ครับ
 :thank1:

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
หัวข้อเครื่องเสียงกลางแจ้งครับ.  การโต้แย้งหากเป็นเรื่องเครื่องเสียง สมาชิกที่อ่านแล้วลองทำด้วยตัวเองได้ประโยชน์เต็มๆ

จะใช่หรือไม่ใช่คนที่เอาไปทำเท่านั้นที่รู้ได้  ส่วนเรื่องประเด็นอื่นๆบ้างนิดหน่อยไม่ว่ากันครับสร้างสีสันพอหอมปากหอมคอ

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
ผมก็พยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่หมอแม็ค อธิบายมานะครับ แต่ในการทำงานจริงมันไม่ได้ผลลัพธ์เช่นนั้น 
ตลอดเวลาที่ผมทดลองทำการเซ็ทอัพระบบเสียงกลางแจ้งมาหลาย ๆ ปี ไม่เคยเลยสักครั้งที่วางตู้ลำโพงใน
แนวระนาบเดียวกัน โดยไม่ต้องดึง Delay ให้ตู้มิด ไฮ แล้วเสียงจะออกมาดีได้เลยสักครั้ง 

หมอแม็คจะอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างไร? จะให้ผมเชื่อในสิ่งที่ผู้อื่นอธิบายไว้ แต่ปฎิบัติจริงไม่ได้ผลงั้นหรือ?

จากคลิปของหมอแม็ค ในเมื่อจุดตัดของฟิลเตอร์อยู่ที่ 100Hz  ทำไมไม่วัด Sine wave ที่ 100Hz หล่ะครับ
ทำไมไปวัดที่ 80Hz หมอแม็ค ไม่สงสัยหรือครับ?

อย่าว่าผมนะครับ เพราะผมเป็นคนขี้สงสัย เพราะถ้าไม่ทำ ดีเลย์แล้วเฟสตรงกัน ที่ 100Hz เปิดพร้อมกันต้องดังกว่า
เปิดทีละย่าน  แล้วอีกอย่าง ระยะทางจากหน้าตู้ไปยังจุดที่ใช้ Spl meter วัดความดัง ก็มีผลด้วยนะครับ เพราะ
มันอาจจะเป็นจุดที่เกิด Cancellation ของความถี่ 80Hz พอดีก็ได้

สำหรับการวัด Delay Time ใน Time Domain เป็นการวัดเปรียบเทียบระหว่างสัญญาณ Ref กับ Mea  ซึ่งแน่นอนว่า Peak ของ ความถี่ต่ำมันยาวกว่าความถี่สูง
แต่มันก็เทียบกับสัญญาณ Ref ที่ความถี่เดียวกันที่มีความยาวคลื่นเท่ากัน ไม่ใช่หรือ?  ถ้ามันจะดีเลย์ มันก็ดีเลย์พอ ๆ กันทั้งสองสัญญาณ เนื่องจากเป็นความถี่
เดียวกัน  อันนี้เป็นความเข้าใจของผมเองนะครับ (ในเมื่อโปรแกรมสามารถเทียบ Amplitude ในทุกความถี่ได้ ทำไมจะเทียบ Delay ในทุกความถี่ไม่ได้)

ซึ่งในการเขียนโปรแกรม ผมก็ไม่ทราบว่า  การเทียบ Delay Time ใน Time Domain  ผู้ออกแบบโปรแกรมเค้าเขียนให้โปรแกรมเทียบสัญญาณ Ref กับ Mea ไว้อย่างไร?

และในบทความ ผมก็อ่านไม่เจอว่าเค้าบอกไว้ตรงไหนว่าแขวน Cluster ไว้ล้ำหน้าตู้ Sub อาจจะเพราะผมอ่อนภาษาปะกิต ก็เป็นได้ครับ ต้องขออภัย

We will add a subwoofer that is physically displaced from the full range cluster.

แต่ว่าบทสรุปในบทความก็คือต้องทำ Delay ให้ Cluster ที่  7.1ms ซึ่งผมคงเข้าใจไม่ผิดใช่ไหมครับ หมอแม็ค

ปล. มีอีกเรื่องที่คนทำซาวด์ผมเค้าบอกมา  ว่าทำไมเสียงขลุ่ยอยู่ตรงกลางเวที ทั้ง ๆ ที่คนเป่าอยู่ด้านซ้ายของเวที เหตุผลคือ ซาวด์แมน จะไม่ Pan เสียงเครื่องดนตรี
ที่เป็นเสียง Solo นำ  ไปด้านใดด้านหนึ่งของเวที ไม่ว่าผู้เล่นเครื่องดนตรีชิ้นนั้น จะยืนอยู่ตรงจุดไหนของเวทีก็ตาม  เฉกเช่นนักร้องนำ ไม่เช่นนั้นเวลานักร้องนำ เดิน
ไปมาบนเวที จากขวาไปซ้าย จากซ้ายไปขวา มิต้อง Pan สัญญาณตามตำแหน่งของนักร้องหรอกหรือ?  เสียงดนตรี เสียงร้อง ไม่ใช่เสียงในภาพยนต์ที่ต้องอยู่ตาม
ตำแหน่งของแหล่งกำเนิดเสียงเสมอไป  แต่เหตุผลหลักก็คือที่ผมแจ้ง ว่าไมค์มันอัดมาแบบโมโนนั่นเอง

 :thank1:


จากคลิป ตัด 100Hz แต่ใช้ 80 Hz วัดได้ครับ เพราะ Crossover region นั้น roll off ของทั้ง 2 filter จะเริ่มตั้งแต่ sub octave หรือความถี่ที่เป็นครึ่งหนึ่งของ crossover frequency จนถึง 2 เท่าของ crossover frequency ดังนั้น ถ้าตัดความถี่ที่ 100 Hz rolloff ของ LPF จะเริ่มตั้งแต่ 50Hz จนถึง HPF ของย่าน mid hi ที่ 200 Hz ดังนั้น 80 Hz จึงอยู่ใน Crossover region สามารถ เป็นตัวแทนในการทำ delayได้
อย่าลืมว่า Group delay ใน ช่วง rolloff ของ Crossover region จะเท่ากัน ทั้ง ย่าน LF และ HF ถ้าใช้ filter ตัวเดียวกัน ถ้าไม่มีการเลื่อนทางกายภาพของตู้ลำโพง HF และ LF เฟสและ group delay จะตรงกันทั้ง 2 ย่าน กราฟ GD จะซ้อนทับกันพอดี



 แต่เมื่อใดที่ มีการเลื่อนทางกายภาพ ของลำโพงทั้ง 2 ย่านไม่ให้อยู่ในระนาบเดียวกัน ก็จะเกิดผลต่างระหว่าง Group Delay ของทั้ง 2 ย่าน เป็นเส้นขนาน จากรูป วัดGD จาก output crossover โดยให้ ใส่ค่า delay ให้กับ ย่าน HF กราฟ GD ของ HF จึงช้ากว่า LF และกราฟ GD จะขนานกัน



เหมือนกับการวัด GD ในบทความที่พูดถึง จะเห็นว่า กราฟ GD เป็นเส้นขนานกัน ระหว่างลำโพง cluster กับ ลำโพง sub โดยผลต่าง ของ กราฟ GD มีค่า เท่ากับ 7.1 ms ไม่ว่าจะวัดผลต่างที่ความถี่ใด ในช่วง rolloff ที่มีความถี่ซ้อนทับกันของลำโพงทั้ง2ย่าน



ดังนั้นไม่ว่าจะใช้ความถี่ใดในการทำ Alignment ก็จะได้ค่า delay เท่ากันคครับ
แต่ถ้าผมวัดแบบในคลิป โดยส่วนตัวถ้าใช้ความถี่ไหนตัด crossover ก็จะใช้ความถี่นั้นทำ Alignment ครับ
สำหรับระยะที่เกิด cancellation นั้น ถ้าเราเปิดฟังทีละ ตู้ย่อมไม่มี cancellation เพราะเฟสของสัญญาณมีการเปลี่ยนแปลงผ่านจุดนั้นตลอดเวลา ยกเว้น เกิด Reflect จากผนังใกล้ๆ มาทำให้เกิดcancellation ดังนั้น ผู้วัดก็ควรอยู่ห่างจากผนังเพื่อลด cancellation แต่ถ้าเราเปิดลำโพงพร้อมกัน จุดที่เราวัดเกิด cancelltion เราก็ทำDelay เพื่อทำ Alignment อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเกิด cancellation ที่จุดที่เราอยู่ จุดนั้นเมื่อเราทำ Aligment เสร็จก็จะกลายเป็นจุดที่ เฟสตรงกัน

ส่วนการวัด delay ใน Time Domain นั้น โปรแกมเขาวัดจาก Peak ของ ETC ครับ ซึ่งจากบทความ เขาก็ทดลอง ใช้ ค่าความต่าง ของ Peak ETC ของลำโพงทั้งสองย่านมาทำ Alignment และใช้ Time Arrival มาทำ Alignment แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาจึงเปลี่ยนมาใช้ การวัด กราฟ Group delay ใน Frequency Domain ซึ่งแม่นยำกว่า ซึ่งเราจะเห็นว่าความถี่ไหน Delay เท่าไร

We will add a subwoofer that is physically displaced from the full range cluster

เราจะเพิ่ม Subwoofer ซึ่ง มีการเลื่อนทางกายภาพจาก ลำโพง Full range cluster ซึ่งหมายความว่า ลำโพงทั้งสองชุดไม่ได้อยู่ในแนวเดียวกันอาจเป็น sub อยูหน้าต่อ Full range หรือ อยู่หลังต่อ Full range ครับ แต่จากการวัดค่า Time Arrival ซึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Time domain ETC ของ fullrange ก็มาก่อน Sub และใน Frequency domain ดูgroup delay Fullrange ก็มาก่อน sub ดังนั้นฟันธงได้เลยว่า ลำโพง fullrange อยู่หน้าต่อ Sub ครับ ซึ่งถ้า Sub อยู่หน้า  fullrange วัด Group delay ออกมาก็จะเห็น กราฟ GD ของ Sub มาเร็วกว่า Fullrange
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 กรกฎาคม 2015, 11:06:32 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ AJ-AUDIO

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 997
  • 7EE34218 อภินันทนาการ จาก "หนุ่มเมืองลำดวน"
ผมว่าหมอแม็ค มองข้ามไปเรื่องหนึ่งนะครับ กราฟทั้งหมดที่แสดงในบทความไม่ได้วัดจากตู้ลำโพงจริงๆ ทำไมผมถึงกล่าวเช่นนั้น หมอแม็คลองคิดทบทวนดูนะครับ

สรุปว่าที่หมอแม็คบอกว่าตู้ cluster อยู่หน้าตู้ Sub เป็นสิ่งที่หมอแม็คอนุมานเอาเองนะครับ โดยดูจากผลลัพธ์ที่ได้จากการวัด ซึ่งหมอแม็คปักธงไว้ในใจแล้วว่า ถ้าอยู่แนวเดียวกันมันจะต้องมาพร้อมกันเท่านั้น ดังนั้นหากวัดแล้วตู้ cluster มาเร็วกว่าก็หมายความว่าตู้ Cluster ต้องอยู่มาด้านหน้าตู้ Sub เท่านั้น

แล้วถ้าตู้ทั้งสองอยู่ต่างที่กันทางกายภาพ Physically displaced โดยตู้ Sub ตั้งอยู่ที่พื้น และตู้ Cluster แขวนลอยอยู่เหนือตู้ Sub แต่อยู่ในระนาบแนวดิ่งเดียวกันหล่ะครับ ผลการวัดที่ออกมามันจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่หมอแม็คเข้าใจทั้งหมดทันทีรึเปล่า? ลองคิดดูเล่นๆ นะครับ

ซึ่งประเด็นนี้ผมมีข้อสนับสนุนความคิดของผมจากกราฟที่ใช้ประกอบบทความ เพราะกราฟทั้งหมดวัดจาก output ของ cross โดยตรง ไม่ได้วัดจากตู้ลำโพงจริง ๆ แต่อย่างใด ผมจึงอนุมานว่า ตู้ทั้งสองใบอยู่ในระนาบแนวดิ่งเดียวกัน เฉกเช่นเดียวกันกับการวัดจาก Output ของ Cross โดยตรงเช่นกันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 กรกฎาคม 2015, 04:33:50 น. โดย AJ-AUDIO »

ออฟไลน์ AJ-AUDIO

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 997
  • 7EE34218 อภินันทนาการ จาก "หนุ่มเมืองลำดวน"
ผมว่าประเด็นที่ผมกับหมอแม็คเห็นแย้งกัน มันลงลึกมากเกินกว่าสมาชิกที่ไม่เคยใช้เครื่องมือวัดจะทำความเข้าใจตามได้ และหมอแม็คก็ไม่ได้ตอบคำถามที่ผมถามว่า

หากว่าผมไม่ insert delay ตู้มิด ไฮ แล้วเสียงที่ได้ออกมา มันสู้ insert delay ไม่ได้ ผมยังควรเชื่อในสิ่งที่หมอแม็คเข้าใจ และพยายามอธิบายอยู่อีกหรือไม่?

ผมว่าตรงนี้มันสำคัญว่า รายละเอียดที่เราพยายามยกขึ้นมาโต้แย้งซะอีกนะครับ

เพราะหากว่าสิ่งที่ผมเข้าใจและใช้ทำงาน มันให้ผลลัพธ์ออกมาดีกว่า ต่อให้มันผิดในความคิดของคนอื่น ผมก็คงไม่แคร์ ตราบใดที่ลูกค้ายังพึงพอใจในสิ่งที่ผมทำ เพราะลูกค้าไม่เคยถามว่าผมทำดีเลย์ตู้ใบไหน เค้าสนเพียงว่าเสียงที่ออกมาเป็นเช่นไรเท่านั้น

ผมจะไม่ให้ความเห็นเพิ่มอีกแล้วนะครับ เพราะมันเหมือนพายเรือในอ่าง

ขอบคุณทุกท่านที่อดทน ติดตามอ่านมาตลอด

 :thank1:

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men

ท่าน AJ AUDIO  ตื่นเช้าแบบนี้ทุกวัน  หรือว่า ยังไม่นอน ครับ

แสดงว่าสุขภาพแข็งแรงดีมากเลย
ผมนอนแต่หัวค่ำ บางวันก่อนทุ่ม ตื่นเช้ายังรู้สึกอยากนอนต่อ

การทำบุญด้วยการให้ทานกับผู้ที่ควรให้ ถือว่าได้บุญสูงสุด
การให้ทานความรู้ (วิทยาทาน)  ให้ไปเรื่อยๆ เถอะครับ
การให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน  ผลที่ได้มากยิ่งนัก

ในขณะที่คนทั้งโลกโดยเฉพาะ พระ ซึ่งยุคนั้นมีอำนาจมากที่สุด
บอกว่าโลกแบน มีคนๆ หนึ่งบอกว่าโลกกลม ยืนยันต่อหน้าลูกศิษย์และสาธารณะชน
ที่สุดพระ ตัดสินจำคุก กระทั่งยอมสารภาพว่า โลกแบบ ถึงมีอิสระ

เรื่องของเสียง  วันนี้เป็นแบบนี้  วันข้างหน้าเป็นอีกแบบจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ครับ

เทคโนโลยี่ก้าวหน้ารวดเร็วมากครับ
Hardware & Software  ถูกสร้างขึ้นมาจากความรู้ของคน
ความรู้ที่เก็บสถิติจาก ทางกายภาพ หรือทางฟิสิกส์ เริ่มจากต้นทางของเสียง
ซอร์ฟแวร์ที่เขียนขึ้นขับเคลื่อนฮาร์ดแวร์ มีไว้เพื่อลดข้อจำกัดในการทำงาน(หมายถึงเวลาในการปฏิบัติ)
และมีไว้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างงาน และหรือใช้งานตามจินตนาการของคนใช้

Hardware & Software  ไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง ถ้าขาดซึ่งจินตนาการมนุษย์

เอา Hardware & Software  ด้านเสียงที่ดีที่สุดในโลก  ตั้งไว้บนโต๊ะ
เอา Sound Engineer  เรียนห้องเดียวกัน ฝึกเอียร์เทรนนิ่งและสอบผ่านทุกขั้นตอน
ฝึกปฏิบัติการใช้งานทั้งนอกและในห้องสตูดิโออย่างโชกโชนตามหลักสูตร
จบพร้อมกัน มาทำงาน
เชื่อเถอะ  ผลงานออกมาไม่เหมือนกัน ครับ






ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
สิ่งที่คุณหมอแม๊ค  เรียบเรียงจากการแปล และหรือผสมผสานนั้น
ผมถือว่า  เป็นความรู้ที่หายากในเมืองไทย
 ทั้งนี้เนื่องจากตำราด้านนี้แทบไม่มีภาษาไทย
 อ่านจากหนังสือ ภาษาประกิด  อ่านเป็นสิบเที่ยวก็ยังเข้าใจคลาดเคลื่อน

บทความเชิงวิชาการแบบนี้ถึอว่าเป็น ไก๊ด์ไลน์
เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจนำไปต่อยอดด้วยตัวเอง
หลายเรื่องผมมาถึงบางอ้อ ก็จากการอ่านที่คุณหมอแปล เรียบเรียง

เอาเป็นว่าผมชอบอ่านแบบนี้ละกัน
อ่านแล้ว เอามาผสานกับความคิดตัวเองบ้าง
ใช้งาน ดีเลว ถูกต้องประการ แย่อย่างไร 
มีเรี่ยวแรงผมจะนำมาเขียนเล่าให้ฟัง ครับ