ผู้เขียน หัวข้อ: คอมเพรสเซอร์ BEHRINGER MDX2600  (อ่าน 1426 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ จุมพล ระยอง

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 206
  • 870C918B Music Creator
คอมเพรสเซอร์ BEHRINGER MDX2600
« เมื่อ: วันที่ 1 สิงหาคม 2020, 16:42:52 น. »
ท่านใดเคยใช้คอมเพรสเซอร์รุ่นนี้ ขอคำแนะนำการปรับตั้งค่าควรใช้ตำแหน่งไหน ได้รับของมาใหม่ลองแล้วยังไม่เข้าใจครับ
 (ขอโทษครับหาแนบรูปไม่ได้)

ออฟไลน์ Sumatethep

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 2476
  • 6E664E4B ซื้อจาก ชัยสแตมป์ ลำปาง
คอมเพรสเซอร์ BEHRINGER MDX2600
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันที่ 4 สิงหาคม 2020, 14:20:39 น. »
เคยใช้รุ่นอื่น การใช้น่าจะเหมือนๆกันนะครับ

อยากให้มาฟังความเห็นจากสมาชิกก่อนในนี้
https://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=83394.msg124586847#top
 :95:

ออฟไลน์ กุ้งดีโฟร์ดี(Kungd4d)

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 8708
  • HL#6C88488C : 7D2D1563 จอมยุทธเอ็กซ์

ออฟไลน์ จุมพล ระยอง

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 206
  • 870C918B Music Creator
คอมเพรสเซอร์ BEHRINGER MDX2600
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันที่ 5 สิงหาคม 2020, 17:16:15 น. »
 :thank1:
เคยใช้รุ่นอื่น การใช้น่าจะเหมือนๆกันนะครับ

อยากให้มาฟังความเห็นจากสมาชิกก่อนในนี้
https://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=83394.msg124586847#top
 :95:


ออฟไลน์ จุมพล ระยอง

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 206
  • 870C918B Music Creator
คอมเพรสเซอร์ BEHRINGER MDX2600
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันที่ 5 สิงหาคม 2020, 18:13:55 น. »
ของส่งมาแล้วครับ
มิกส์ยามาฮ่า MG10XU ถ้าไม่ต่อตรงจาก OUT ของมิกส์ จะต่อกับช่องไหนได้บ้างครับเห็นมี
มีแต่ช่อง FX Send  ไมีมีช่อง Send Ret.ครับ


ออฟไลน์ มานพ

  • ผู้ดูแลระบบ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 123098
  • 9664E44E,11D88A55,7C1132A8
คอมเพรสเซอร์ BEHRINGER MDX2600
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: วันที่ 5 สิงหาคม 2020, 18:53:34 น. »


การต่อใช้กับไมค์ 1 ตัว

ออฟไลน์ จุมพล ระยอง

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 206
  • 870C918B Music Creator
คอมเพรสเซอร์ BEHRINGER MDX2600
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: วันที่ 5 สิงหาคม 2020, 19:17:54 น. »
(....)

การต่อใช้กับไมค์ 1 ตัว
มิกส์ ไม่มีช่อง Insert ครับ


ออฟไลน์ มานพ

  • ผู้ดูแลระบบ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 123098
  • 9664E44E,11D88A55,7C1132A8
คอมเพรสเซอร์ BEHRINGER MDX2600
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: วันที่ 5 สิงหาคม 2020, 19:52:22 น. »
เอาเข้า line input ก็ได้ ปรับเสียงจากปุ่มได้ด้วย

ไม่มีคู่มือหรือไงครับ ทั้ง 2 ชิ้นเลย ควรศึกษาจากคู่มือจะได้ประโยชน์มากครับ


ออฟไลน์ จุมพล ระยอง

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 206
  • 870C918B Music Creator
คอมเพรสเซอร์ BEHRINGER MDX2600
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: วันที่ 5 สิงหาคม 2020, 21:45:52 น. »
เอาเข้า line input ก็ได้ ปรับเสียงจากปุ่มได้ด้วย

ไม่มีคู่มือหรือไงครับ ทั้ง 2 ชิ้นเลย ควรศึกษาจากคู่มือจะได้ประโยชน์มากครับ


ขอบคุณครับ คอมเพรสเซอร์ มีเอกสารบอกแต่สเป็ค คู่มือวิธีการต่อไม่มี ตอนนี้อาศัยศึกษาจากเวฟต่างๆอีกทางครับ

ออฟไลน์ Sumatethep

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 2476
  • 6E664E4B ซื้อจาก ชัยสแตมป์ ลำปาง
คอมเพรสเซอร์ BEHRINGER MDX2600
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: วันที่ 6 สิงหาคม 2020, 10:07:17 น. »
 :30:
มีคลิปให้ศึกษามากมาย ตงกระจ่างดีนะครับ

ลองอ่าน "หน้าที่และการใช้ Compressor" เพิ่มเติมจากกระทู้ของปรมาจารย์ในนี้ ครับ
http://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=10640.0


        COMPRESSOR/LIMITER
        COMPRESSOR/LIMITER  เป็น อุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมระดับความดังของเสียง ไม่ให้สัญญาณเสียงที่ออกไปมีความแรงมากเกินไป รวมทั้งทำหน้าที่อื่นๆด้วย ซึ่งหน้าที่การทำงานภายในเครื่องจะประกอบด้วยหน้าที่การทำงานหลัก 3 ส่วน ดังนี้

1. EXPANDER/GATE
        ทำหน้าที่ขยายและเปิดประตู[GATE] ให้สัญญาณเข้ามาในเครื่องตามความต้องการของผู้ใช้ ว่าจะให้สัญญาณที่มีระดับความแรงมากน้อยเท่าไรที่จะให้เครื่องเริ่มทำงาน โดยมีปุ่มปรับต่างๆในส่วนนี้คือ
        1.1 ปุ่ม THRESHOLD เป็นปุ่มปรับเพื่อให้เครื่องเริ่มทำงานและหยุดทำงาน หน่วยที่ปรับมีค่าเป็น dB เช่นเราปรับตั้งค่าไว้ที่ -45 dB หมายความว่า สัญญาณเสียงที่มีระดับสัญญาณต่ำกว่า -45dB เครื่องจะไม่ทำงาน ซึ่งจะทำให้ไม่มีสัญญาณใดๆผ่านเครื่องออกไปได้ และเครื่องจะเริ่มทำงานเมื่อระดับสัญญาณมีค่าสูงกว่า -45 dB ค่าที่เราตั้งเพื่อให้เครื่องเริ่มทำงานนี้เรียกว่า "ค่าเทรชโฮลด์"
        อย่าง ไรก็ตามถ้าเราปรับไว้ที่ตำแหน่งต่ำสุดหรือ OFF หมายความว่า สัญญาณที่มีระดับสุดแค่ไหนก็ตามก็สามารถผ่านเข้าไปในเครื่องได้ นั่นคือสัญญาณจะผ่านเข้าไปได้ทั้งหมดตลอดเวลานั่นเอง
        การจะตั้งค่าเทรชโฮลด์เป็นเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้เครื่องนี้ควบคุมเสียงอะไร เช่น ถ้าต้องการควบคุมเสียงสำหรับไมค์นักร้อง หรือควบคุมเสียงทั้งระบบ ให้ตั้งค่านี้ที่จุดต่ำกว่า -45 dB เพราะต้องให้ระดับเสียงเบาๆออกไปได้ แต่ถ้าควบคุมเสียงของไมค์กลองกระเดื่อง กลองสแนร์ หรือไฮแฮต ก็ให้ตั้งค่าที่สูงกว่า -45 dB ซึ่งมีค่าไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความดังของกลองหรือเครื่องดนตรีชิ้นนั้นๆ
        1.2 ปุ่ม RELEASE เป็นปุ่มสำหรับหน่วงเวลา คือหลังจากที่ประตู[GATE] เปิดให้สัญญาณเข้ามาในเครื่องแล้ว ถ้าไม่มีสัญญาณใดๆเข้ามาอีกหรือสัญญาณมีค่าต่ำกว่าค่าเทรชโฮลด์ที่ตั้งไว้ เกทก็จะปิด ส่วนอื่นๆของเครื่องก็ไม่ทำงาน ระยะเวลาที่ใช้ในการปิดเกทอีกครั้งหลังจากไม่มีสัญญาณเข้ามาแล้วนั้นเรา เรียกระยะเวลานี้ว่า "Release Time" ปุ่มที่ทำหน้าที่ปรับระยะเวลานี้คือปุ่ม RELEASE ค่าที่บอกไว้ที่เครื่องคือ Fast หมายความว่าเกทจะปิดอย่างรวดเร็วหลังจากหมดสัญญาณ และ Slow หมายความว่า เกทจะหน่วงเวลาไว้ระยะหนึ่งจึงค่อยปิด ระยะเวลาเร็วหรือช้าแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเราที่จะปรับตั้งค่าไว้
        ค่า Release Time ของเกทนี้จะตั้งเป็นเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับเสียงที่เราใช้งาน เช่นไมค์สำหรับเสียงพูดหรือเสียงนักร้อง ให้ปรับไว้ที่ประมาณบ่ายสองโมง [Slow] เพราะเสียงคนเราจะมีปลายหางเสียงเช่น เสียงตัว สิ. ,สี่.. ,ซิ... ,ซี...เอส....เฮช....ทู...ฯลฯ.. เป็นต้น ปลายหางเสียงเหล่านี้จะได้ไม่ขาดหายไป  ส่วนการปรับเสียงจากเครื่องดนตรี เช่นเสียงกลองกระเดื่อง ถ้าเราไม่ต้องการเสียงกระพือหลังจากที่เราที่เหยียบลงไปที่หน้ากลองลูกแรก ก็ให้เวลาในการปิดเกทเร็วขึ้น[Fast] หรือเสียงไฮแฮตถ้าเราไม่ต้องการให้มีปลายหางเสียงมากเกินไป ให้เสียงซิบๆๆ..ซี่ๆๆ..ซิบๆๆ...ดีขึ้นก็ให้ปิดเกทให้เร็วขึ้นเพื่อปลายหาง เสียงที่เบาๆจะได้ถูกตัดออกไป
        **อย่างไรก็ตามปุ่มRELEASE ในส่วนของภาคEXPANDER/GATE นี้ ในเครื่องบางรุ่นอาจจะไม่มี และบางรุ่นทำเป็นสวิทช์กดให้เลือก**
        1.3 ปุ่ม RATIO เป็นปุ่มทำหน้าที่ปรับลดระดับเสียงลงเป็นอัตราส่วนของ dB เมื่อเทียบค่ากับ 1 เช่น 1:1หมายความว่าสัญญาณจะไม่ถูกลดระดับเลย , 2:1หมายความว่าสัญญาณที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าไหร่ก็ตามจะถูกทำให้ลดลงสอง เท่า
        **อย่างไรก็ตามปุ่ม RATIO นี้ในส่วนของภาคEXPANDER/GATE ในเครื่องบางรุ่นอาจจะไม่มี**

2. COMPRESSOR
        ทำ หน้าที่กดระดับสัญญาณให้ลดลงในอัตราส่วนตามค่าที่เราได้ปรับตั้งไว้ หน้าที่การทำงานของปุ่มปรับต่างๆในส่วนของภาคคอมเพรสเซอร์นี้มีดังนี้
        2.1 ปุ่ม THRESHOLD เป็นปุ่มสำหรับตั้งค่าจุดเริ่มการกดสัญญาณ(จุดเทรชโฮลด์) เช่นเราตั้งค่าไว้ที่ 0 dB สัญญาณจะเริ่มลดลงที่ 0 dB และถ้าปรับตั้งไว้ที่ -10 dB ก็หมายความว่าสัญญาณเสียงจะเริ่มลดลงที่จุด -10 dB (ค่าติดลบมากเสียงจะลดลงมาก)  การลดลงของสัญญาณเสียงที่จุดเทรชโฮลด์นี้ ถ้าเป็นการลดลงอย่างรวดเร็วทันทีทันใด เราเรียกว่า ฮาร์ดนี[Hard-Knee] และถ้าให้เสียงที่ถูกกด[Compress] ค่อยๆลดลงเพื่อให้เสียงฟังดูนุ่มขึ้นเราเรียกว่า ซอฟต์นี[Soft-Knee] ซึ่งมีปุ่มให้กดเลือกใช้งานได้ แต่ปุ่มนี้จะมีชื่อเรียกทางการค้าที่แตกต่างกันไป เช่น
        ยี่ห้อ dbx เรียกปุ่มนี้ว่า Over Easy   ยี่ห้อ Behringer เรียกปุ่มนี้ว่า Interactive Knee
        การตั้งค่า THRESHOLD
        เสียงดนตรี เสียงพูด และเสียงร้องเพลงทั่วๆไป จะตั้งค่าไว้ที่ 0 dB
        เสียง ร้องเพลงประเภท เฮฟวี่ ร็อค ฮิปพอฟ หรือเพลงวัยรุ่นประเภท แหกปากตะโกนร้อง ก็ตั้งไว้ที่ -10 dB ถึง -20 dB ให้ปรับหมุนฟังดูค่าที่เหมาะสมไม่ดังหรือค่อยจนเกินไป
        2.2 RATIO เป็นปุ่มสำหรับทำหน้าที่ปรับลดระดับเสียงลงมีค่าเป็นอัตราส่วนจำนวนเท่าต่อ 1 ซึ่งจะทำงานสัมพันธ์กับค่าเทรชโฮลด์ที่ตั้งไว้คือ
                [1] เมื่อตั้งค่าอัตราส่วนไว้ที่ 1:1 สัญญาณด้านออกจะไม่ถูกกดลงเลย
                [2] เมื่อตั้งค่าอัตราส่วนไว้ที่ 2:1 สัญญาณออกจะถูกกดให้ลดลง 2เท่า เมื่อสัญญาณเข้าเพิ่มขึ้น 1dB เช่นสัญญาณเข้า +20dB สัญญาณออกจะถูกกดให้ลดลงเหลือ +10dB
                [3] เมื่อตั้งค่าอัตราส่วนไว้ที่ 4:1 สัญญาณออกจะถูกกดให้ลดลง 4เท่า เมื่อสัญญาณเข้าเพิ่มขึ้น 1dB เช่นสัญญาณเข้า +20dB สัญญาณออกจะถูกกดให้ลดลงเหลือ +5dB
                [4] Infinite (หมุนตามเข็มนาฬิกาสุด) สัญญาณด้านออกจะถูกกดให้ลดลงเท่ากับค่าเทรชโฮลด์ที่ตั้งไว้
        การตั้งค่า RATIO
        เสียง พูด เสียงร้องเพลงทุกแบบ เสียงเครื่องดนตรีทั่วไป ปรับตั้งไว้ที่ 2:1 ถ้าตั้งให้ลดมากไปจะทำให้เหมือนเสียงเกิดอาการวูบวาบกระโดดไม่คงที่
        2.3 ATTACT เป็นปุ่มสำหรับปรับตั้งค่าหน่วงเวลาของการเริ่มต้นกดสัญญาณ[compress] จะช่วยทำให้เสียงมีความหนักแน่นดีขึ้น มีหน่วยเวลาเป็น มิลลิวินาที[mSEC] เสียงพูด เสียงเพลงดนตรีทั่วไป ให้ตั้งค่าไว้ที่ประมาณ 40-50 mSEC เพลงคลาสสิค หรือเพลงที่มีความฉับไวของดนตรี ให้ตั้งไว้ที่ประมาณ 25-30 mSEC
        2.4 RELEASE เป็นปุ่มสำหรับปรับตั้งค่าหน่วงเวลาช่วงหยุดการกดสัญญาณ จะทำให้น้ำเสียงนุ่มน่าฟังขึ้น มีหน่วยเวลาเป็นวินาที [SEC] เสียงพูด เสียงดนตรีทั่วไปให้ตั้งไว้ที่ 1.5-2 SEC
        2.5 OUTPUT GAIN เป็นปุ่มปรับลดหรือเพิ่มระดับความแรงของสัญญาณด้านขาออกของเครื่องให้มีค่า ลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้ โดยมีค่าปรับได้ตั้งแต่ -20dB ถึง +20dB ในการใช้งานปกติให้ปรับค่าไว้ที่ 0 dB

3. LIMITER
        ลิมิตเตอร์ทำ หน้าที่รักษาระดับสัญญาณด้านขาออกของเครื่องให้มีความแรงสูงสุดได้ไม่เกิน ค่าที่ตั้งไว้ เช่นตั้งไว้ที่ 0dB สัญญาณขาออกก็จะออกได้สูงสุดไม่เกิน 0dB หรือตั้งไว้ที่ +5dB สัญญาณขาออกก็จะออกได้สูงสุดไม่เกิน +5dB เป็นต้น
        การตั้งค่าLIMITER
            เสียงพูด เสียงร้องเพลงทุกประเภท ให้ตั้งค่าไว้ที่ 0dB
            เสียงดนตรี กลองกระเดื่อง กีต้าร์เบส ให้ตั้งค่าไว้ที่ +5dB ถึง +10dB
            เสียงเครื่องดนตรีอื่นๆ ตั้งค่าไว้ที่ 0dB

การต่อใช้งานเครื่อง COMPRESSOR
        การต่อใช้งานเครื่องคอมเพรสเซอร์สามารถต่อใช้งาน ตามลักษณะประเภทของงานและตามความต้องการของผู้ใช้ได้ 4 แบบ ดังนี้
        1. การต่อแบบ Channel Insert
            การ ต่อแบบนี้เป็นการต่อใช้งานที่ดีที่สุด เพราะจะทำให้เราสามารถปรับแต่งเสียงของคอมเพรสเซอร์ แต่ละแชลแนลได้อย่างอิสระ ทั้งเสียงจากไมโครโฟนสำหรับนักร้อง และเสียงจากเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นที่แยกจากกัน
        2. การต่อแบบ Group Insert
            การ ต่อแบบนี้จะใช้คอมเพรสเซอร์ จำนวน 2 เครื่อง [4Ch] ในกรณีที่มิกเซอร์มี 4 กรุ๊ป คือ Group 1-2-3-4 ก็ให้เราจัดกรุ๊ป 1-2 เป็น ไมค์เสียงร้องทั้งหมด และกรุ๊ป 3-4 เป็นเสียงดนตรีทั้งหมด
        3. การต่อแบบ Mix Insert
            การ ต่อแบบนี้ใช้คอมเพรสเซอร์ 1เครื่อง [2Ch] ต่อที่ตำแหน่ง Mix Insert ของเครื่องมิกเซอร์ เป็นการต่อใช้งานเพื่อควบคุมเสียงทั้งหมดที่ถูกต่อเข้าที่มิกซ์ การปรับแต่งเสียงก็จะปรับโดยรวมๆกลางๆ
        4. การต่อแบบ MIXER to COMPRESSOR
            การ ต่อแบบนี้เป็นการต่อแบบที่ง่าย สะดวก และประหยัดที่สุด เพราะเป็นการต่อที่นำเอาสัญญาณเอาท์พุทจากมิกเซอร์มาเข้าอินพุทของเครื่อง คอมเพรสเซอร์ และออกจากคอมเพรสเซอร์ไปเข้าเครื่องอีควอไลเซอร์
            การปรับแต่งเสียงก็เป็นการปรับแบบรวมๆกลางๆ เพราะทุกเสียงผ่านคอมเพรสเซอร์ทั้งหมด
                                                                                           (ที่มา : A.T.Audio )
 :95:

ออฟไลน์ จุมพล ระยอง

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 206
  • 870C918B Music Creator
คอมเพรสเซอร์ BEHRINGER MDX2600
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: วันที่ 6 สิงหาคม 2020, 15:16:08 น. »
ขอบคุณทุกท่านครับ ได้แนวทาง ต้องเรียนรู้จากการใช้งานจริง เบอริงเจอร์ มีปุ่มกดหลายๆปุ่ม มากกว่า dbx ต้องเรียนรู้จากการใช้งานครับ