ส่วนตรงนี้ท่าน pitak5 ได้ไปโพสต์ไว้ที่เว็บของผมครับ
http://www.cybermusic-it.com/karaoke/index.php?topic=2248.msg17228#msg17228-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พอเข้าใจมั๊ยครับ
อะไรคือ ดนตรีกรรม
อะไรคือ สิ่งบันทึกเสียง
อะไรคือ ทำซ้ำ ดัดแปลง
ผม ต้องยกตัวอย่างโปรแกรมนิค...เพราะมันเล่นไฟล์เสียงกับภาพไม่ได้นะครับ...ถ้า เราใช้ไฟล์เสียงและหรือภาพของต้นฉบับมีความผิดแน่นอน แต่ถ้าใช้ Midi file ผมยังมองไม่เห็นว่าจะมีความผิดตรงใหน
ใน พรบ.ลิขสิทธิ์ 2537 ทั้งฉบับ ไม่มีคำว่า "เนื้อร้อง" นะครับ มีแต่คำว่า "คำร้อง และ ทำนอง"
คำร้อง คือ คำที่ออกจากปากนะครับ
ทำนอง คือ ระดับเสียง สูงและต่ำที่ทำให้เกิดเป็นทำนองขึ้นมา
คนที่ผิดจริงๆ คือ...นักร้อง...ครับ แต่พวกมันเสือกมาจับคนกดคอม...
จริงๆแล้วพวกมันมั่วมาทั้งหมดเลยเวลามาจับ MIDI FILE เน้นนะครับ MIDI FILE
การแจ้งความร้องทุกข์ มันจะต้องเอาต้นฉบับมาด้วยนะว่า....เพลงชื่ออะไร...ใครร้อง...อยู่ในชุดใหน...
...แล้วมันเหมือนกับ...Nick Karaoke ตรงใหนวะ...มันตอบไม่ได้...
MIDI ไม่ใช่ สิ่งบันทึกเสียง และ โสตทัศนะวัสดุ หรือตามกฎหมายใหม่ที่เรียกว่า วิดิทัศน์
...........ลองมาถกเถียงหาบทสรุปกันนะครับ.............
มาตรา 1 ในประมวลกฎหมายนี้ ถ้าคำใดมีคำอธิบายไว้แล้วให้ถือตาม ความหมายดั่งได้อธิบายไว้ เว้นแต่ข้อความในตัวบทจะขัดกับคำอธิบายนั้น
มาตรา 2 ในประมวลกฎหมายนี้
(4) "ผู้เสียหาย" หมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหาย เนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจ จัดการแทนได้ดั่งบัญญัติไว้ใน มาตรา 4 , 5 และ 6
(7) "คำร้องทุกข์" หมายความถึงการที่ “ผู้เสียหาย” ได้กล่าวหาต่อ เจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่า มีผู้กระทำความผิดขึ้น จะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม ซึ่งกระทำให้เกิดความ เสียหายแก่ผู้เสียหายและการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนา จะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ
.....การที่มันจะมาจับกุมได้จะต้อง....
มีความผิดเกิดขึ้นก่อนนะครับ แล้วจะต้องไปแจ้งความร้องทุกข์ บรรยายความเสียหายที่เกิดขึ้นให้ตำรวจฟัง เสียหายอะไร มูลค่าเท่าใด...
ไม่ใช่ไปแจ้งความร้องทุกข์ก่อนเกิดเหตุนะครับ...เคยด่ามัน...
...คือมันมาจะจับตอนสี่ทุ่ม...ก็ถามมันว่า...แจ้งความร้องทุกข์หรือยัง...เพลงอะไร(ถามล่อหลอกมัน)...
...พวกควายมันตกหลุมพราง...มันบอกว่าแจ้งความแล้วตอน สองทุ่ม...เพลงชู้...ของ หลง ลงลาย...
ผมย้อนมันต่อหน้าตำรวจว่า...เฮ้ย พวกคุณเป็นเทวดารึไง ถึงรู้อนาคตล่วงหน้าตอนสองทุ่มว่า...เวลาสี่ทุ่มที่ร้านนี้จะมีการร้องเพลงชู้.......มันอึ้งครับหน้าแหกไปเลย...
...และยังแกล้งพูดดังๆๆๆๆๆอีกว่า...พวกนายน่ะน่าจะโดนข้อหา...แจ้งความเท็จว่ะ...โกหกตำรวจตอนสองทุ่มไง....
เรื่องพวกนี้เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่สำคัญนะครับ....อย่าลืม...และอย่าตกใจเวลามันมา...
...พวกมันจะเอาอะไรจากร้านเราไปก็ต้องทำหลักฐานด้วยนะ...อย่าให้มันเอาไป ง่ายๆ...พนักงานสอบสวนต้องมาในเครื่องแบบนะจ๊ะ...ถ่ายรูปตรวจสอบสถานที่เกิด เหตุ...แหม..ขนาดรถเฉี่ยวกันตำรวจยังต้องไปทำแผนที่เลยอ่ะ...อิอิอิ
บันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุคดีอาญา
สถานที่บันทึก……………..
วันที่……….เดือน…………………….พ.ศ………….
เจ้าพนักงานได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุในคดีนี้ ปรากฏรายละเอียด ดังนี้
ข้อ 1 ผู้ตรวจสถานที่เกิดเหตุ…………………………………..ตำแหน่ง…………………………
……………………………………………………………………………………………
ข้อ 2 ผู้กล่าวหา……………………………………………..…………………………………….
ข้อ 3 ผู้ต้องหา..………………..………………………………………………………………….
ข้อ 4 ข้อหา……………………………………………………………………………………….
ข้อ 5 วัน เวลา เกิดเหตุ วันที่……..เดือน…………………พ.ศ………..….เวลา…………… น.
ข้อ 6 วัน เวลา ตรวจสถานที่เกิดเหตุ วันที่………. เดือน…………………พ.ศ……….……….
เวลาระหว่าง………………….. น. ถึง …………………..น.
ข้อ 7 สถานที่เกิดเหตุ………………......................หมู่ที่……………ตรอก/ซอย………………..
ถนน………………………....................ตำบล/แขวง………………………………...……
อำเภอ/เขต……………………………..จังหวัด……………..…………………………….
ข้อ 8 สภาพที่เกิดเหตุ และร่องรอยหลักฐานที่พบในสถานที่เกิดเหตุ
8.1 สภาพ ทั่วไป (ให้ปรากฏรายละเอียดส่วนสำคัญ เช่น ระยะ ขนาด ทิศทาง ของสถานที่เกิดเหตุ ดวงไฟให้แสงสว่างในเวลากลางคืน รั่ว บ้านใกล้เคียงเป็นใคร)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………….…………
….……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………............................................................................... ร่องรอยหลักฐาน ให้ปรากฏ (เช่น ร่องรอยงัดแงะเส้นทางเข้าออก ลายนิ้วมือแฝง รอยมือ
รอยเท้า คราบหรือหยดเลือด เส้นผม เส้นใย เส้นขน อาวุธ เครื่องมือ ฯลฯ)
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
ข้อ 9 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยสังเขป….………………………………………………….
…………………………………………………………………………………….………
…….………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………….……………………………
………………………………………………………….…………………………………
………………………………………………………………………………….…………
ข้อ 10 ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน ที่เกิดขึ้น…………………………….
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
ข้อ 11 สิ่งของที่ยึดได้จากเกิดเหตุ (อธิบายให้ชัดเจนว่า สิ่งของชิ้นใด ยึดมาจากที่ใด แยกเป็นข้อย่อยแต่ละชิ้นเพื่อมิให้สับสน)……………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
ข้อ 12. ผลการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น………………………………………………….……
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
ใน การตรวจสถานที่เกิดเหตุนี้ ข้าฯ ได้ถ่ายภาพ ทำแผนสังเขป และเก็บยึดสิ่งของกลางไว้เป็นหลักฐานด้วย พร้อมกับจัดทำบันทึกนี้ขึ้นไว้ต่อหน้าพยาน อ่านให้พยานฟังแล้วรับว่าถูกต้อง จึงให้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน
ลงชื่อ……………………………………พนักงานสอบสวน/บันทึก
ลงชื่อ……………………………………พยาน
ลงชื่อ……………………………………พยาน
ไม่ง่ายนะ ถ้าจะมาเอาของพวกเราไปได้...พวกมันไม่มีสิทธิ์...เอาเข้าจริงพอท้ามันไม่ เห็นมีตำรวจมาสักคน ตำรวจเผ่นก่อนเลยครับ..............
หลักเกณฑ์ทั่วไปในการยึดของกลาง
1) ของกลางบางชนิดเป็นทรัพย์สินซึ่งบุคคลมีกรรมสิทธิ์อยู่ การยึดเอาทรัพย์สินนั้นมา ย่อมเป็น การแย่งการครอบครองทรัพย์สินนั้น จึงต้องระมัดระวังว่า ต้องมีเหตุผลสมควรตามกฎหมาย จึงจะยึดของกลางนั้นไว้ได้ มิฉะนั้น ผู้ยึดโดยมิชอบ อาจจะถูกฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญาได้
2) ของกลางประเภทที่ยึดมาเพื่อจะริบเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ซึ่งได้แก่ ทรัพย์สินที่ผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิด ตาม ป.อาญา มาตรา 32 เช่น ยาเสพติด ปืนเถื่อน นั้น เป็นสิ่งของที่บุคคลไม่อาจมีไว้ในความครอบครองได้ และต้องริบไว้เป็นของแผ่นดิน จึงชอบที่จะยึดได้เสมอ
3) ของกลางประเภทที่ยึดมาเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีนั้นควรใช้เป็นหลักเกณฑ์
ดังต่อไปนี้ประกอบการยึดด้วย คือ
- เป็นการยึดมาเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีเท่านั้น ถ้าไม่เกี่ยวกับประเด็นในคดี หรือ
ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีก็ไม่ควรยึดไว้
- มีเหตุสมควรที่จะยึดไว้ มิฉะนั้นอาจเสียหายแก่คดี
- ของกลางบางอย่าง บุคคลอาจมีกรรมสิทธิ์ได้ เช่น ปืนมีทะเบียน ยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำผิด จึงต้องพิจารณาด้วยว่า เจ้าของทรัพย์สินอันแท้จริงมีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วยหรือไม่ ถ้าเจ้าของที่แท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด ก็จะต้องยึดถือหลักที่ว่า “ยึดไว้เพื่อจะคืนให้เจ้าของ” ฉะนั้น ถ้าหมดความจำเป็นในคดีแล้ว ก็ควร เสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อขออนุมัติคืนให้แก่เจ้าของ
4) ของกลางที่มีข้อตกลงในการยึดหรือการเก็บรักษาระหว่างส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นกรณี
พิเศษ ต้องถือปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อกฎหมาย แห่งความผิดนั้น ๆ โดยเคร่งครัด เช่น วิทยุเถื่อน แร่เถื่อน ไม้เถื่อน ยาเสพติด เป็นต้น
ของกลางกับสำนวนการสอบสวน
(ต้อง ดูให้ชัดเจน เชิญพนักงานสอบสวนมาสถานที่เกิดเหตุ ต้องลงบันทึกให้แน่นอน ไม่อย่างนั้นอาจจะถูก เปลี่ยน ยัดเยียด เพิ่มเติม ของกลางได้)
1) ยึดของกลางได้จากตัวบุคคลใด เป็นของกลางอะไร ให้ทำบันทึก (บันทึกการตรวจค้น) ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ต้องบันทึกว่าก่อนลงมือค้นเพื่อพบของกลางนั้น เจ้าพนักงานผู้ค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ก่อนค้นได้ค้นต่อหน้าผู้ครอบครองสถาน ที่หรือบุคคลในครอบครัวของผู้นั้นหรือต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน (- ป.วิอาญา มาตรา 102 , ป.เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 15 บทที่ 1 ข้อ 418 )
2) ของกลางที่ยึดได้ต้องให้ผู้ครอบครองสถานที่ บุคคลในครอบครัวผู้ต้องหา ผู้แทนหรือพยานดู เพื่อให้รับรองว่าถูกต้อง ถ้าบุคคลดังกล่าวนั้นรับรองหรือไม่รับรองก็ให้บันทึกไว้
3) การค้นของกลาง ผู้ค้นต้องบันทึกรายละเอียดของการค้นและทำบัญชีรายละเอียดสิ่งของที่ค้นได้ ไว้ด้วย บันทึกการค้น และบัญชีสิ่งของกลางนั้น ให้อ่านให้ผู้ครอบครองสถานที่ บุคคลในครอบครัว ผู้ต้องหา จำเลย ผู้แทน หรือพยานฟังแล้วแต่กรณี และให้ผู้นั้นลงลายมือชื่อรับรองไว้
4) เมื่อนำของกลางไปถึงที่ทำการของ พงส.ให้จดรูปพรรณสิ่งของกลางลงในรายงาน ปจว.และสมุดยึดทรัพย์และของกลาง แล้วเขียนเลขกำกับที่ยึดทรัพย์ติดไว้กับสิ่งของนั้นให้มั่นคง อย่าให้หลุดมือหรือสูญหายได้ แล้วเก็บรักษาไว้ตามระเบียบ (- ข้อบังคับการเก็บรักษาของกลาง กระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2480)
5) ของกลางใดที่จะต้องส่งตรวจพิสูจน์ พึงดำเนินการให้ถูกต้องตามวิธีการหรือระเบียบในส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ถ้าจะส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ กองพิสูจน์หลักฐานฯ ก็ควรปฏิบัติตามเอกสารคู่มือของกองพิสูจน์หลักฐานฯ เรื่องคำแนะนำในการเก็บรักษาและจัดส่งเอกสารหรือวัตถุของกลางไปตรวจพิสูจน์ เป็นต้น
ของกลางที่จะส่งไปตรวจพิสูจน์จะต้องให้ผู้ต้องหาลงชื่อกำกับ*Censor*บห่อและบันทึกไว้ด้วย
เมื่อได้รับผลการตรวจพิสูจน์แล้วให้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบ ถ้าผู้ต้องหารับรองผลก็ให้สอบสวนเพิ่มเติมไว้ เพราะถ้าในชั้นพิจารณาผู้ต้องหายังรับรองผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว ก็อาจจะไม่ต้องนำผู้ตรวจพิสูจน์มาเบิกความต่อศาลอีก
ต้องสอบสวนผู้ตรวจพิสูจน์ แล้วทำรายงานผลการตรวจพิสูจน์ไว้เป็นพยานด้วย
6) ในชั้นสอบสวน ถ้ามีของกลางอย่างใด ๆ จะต้องจัดทำบัญชีของกลางประกอบสำนวนการสอบสวนไว้ (- ป.วิอาญา มาตรา 139 วรรคสอง)
วิธีจัดทำบัญชีของกลางนั้น ให้ดำเนินการดังนี้
- ในการลงรายละเอียดสิ่งของกลางในบัญชีนั้น ให้ตรวจสิ่งของให้ถูกต้องกับสมุดยึดทรัพย์ของกลาง รายงานประจำวัน และคำให้การ จำนวนห่อ จำนวนสิ่งของ ให้ถูกต้องตรงกัน อย่าให้คลาดเคลื่อน ประการที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่ควรมีการขีดฆ่าหรือแก้ไขเพิ่มเติม เพราะจะทำให้เกิดการสงสัย ถ้าจำเป็นก็ให้ขีดฆ่าและลงนามกำกับไว้ ห้ามขูดลบเป็นอันขาด
- สิ่งของกลางอย่างอื่นอย่างใดที่ค้นได้จากผู้ต้องหาหรือบุคคลผู้ครอบครองสิ่ง ของนั้น ต้องให้ผู้ต้องหาหรือบุคคลนั้น ลงนามกำกับไว้ในบัญชีของกลางนั้นด้วย
- เอกสารพยานที่ค้นได้ ให้ พงส.จดลงบัญชีของกลางเช่นเดียวกัน เว้นแต่ช่องราคา ไม่ต้องใส่ ถ้ามีการคืนเอกสารหรือส่งเอกสารไปที่ใด ให้หมายเหตุไว้ในช่องหมายนั้นด้วย ( - ป.เกี่ยวกับคดี ลักษณะ 15 บทที่ 5 ข้อ 432 )
7) ในคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ เช่น ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ฉ้อโกงทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ หรือรับของโจร ถ้าทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายมีหลายราคา และมีทั้งที่ได้คืนและไม่ได้คืน ให้เป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนหากสามารถบันทึกไว้ในแบบพิมพ์บัญชีเดียว กัน (ใช้แบบพิมพ์ บัญชีทรัพย์ถูกประทุษร้าย/ได้คืน/ไม่ได้คืน) แต่ถ้าบันทึกรวมไว้ในแบบพิมพ์บัญชีเดียวกันไม่ได้ก็ให้แยกบันทึก เช่น กรณีได้ทรัพย์คืน ขณะสำนวนอยู่ในระหว่างการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาระดับ บก.,บช. หรือ ตร. รวมทั้งในชั้นพนักงานอัยการ ให้ทำบัญชีทรัพย์ถูกประทุษร้ายได้คืน แยกจากบัญชีทรัพย์ถูกประทุษร้าย เป็นต้น ทั้งนี้ ให้ผู้ต้องหา ผู้เสียหาย พนักงานสอบสวน และผู้ที่เกี่ยวข้องแต่ละรายการลงชื่อรับรองไว้ เพื่อประโยชน์ในการที่พนักงานอัยการจะใช้บรรยายฟ้อง และขอเรียกทรัพย์สินหรือราคาแทนผู้เสียหายไปในคำฟ้องนั้น(-ป.วิอาญา มาตรา 43, หนังสือ คด.ตร.ที่ 0004.6/10940 ลง 3 ก.ย.2545 เรื่องแนวทางปฏิบัติในการทำสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติม)
เคยเจอครั้งนึง ผมเป็นคนทำครื่องเสียงและ Computer ให้เช่า (แต่เป็นมิดี้ ล้วนๆนะครับ)
ผมเอาคอมไว้ข้างบน(เป็นห้องนอนเจ้าของร้าน) ผมบอกตำรวจให้ขึ้นไปเอาเอง ตำรวจบอกว่า...ไม่เอาไม่อยากเสี่ยง...
แล้วพวกมันก็กลับกันไปบอกว่า...ฝากไว้ก่อน อย่าเผลอแล้วกัน...
... แต่ก็ไม่ดีเท่าไรนะ...หลังจากนั้นหนึ่งเดือน...เจ้าของร้านเลิกเช่าครับ ซื้อเองแต่เอาวิธีของผมไปใช้...ซวยเลยเครื่องตกงาน..เฮ้อๆๆๆๆๆๆๆ ไม่น่าเผยความลับเลย...เพื่อนๆเอาไปใช้ได้เลยวิธีนี้ปลอยภัย 100% ฟันธง