eXtreme Karaoke
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: ทิวปาร์ตี้มิวสิค ที่ วันที่ 17 มกราคม 2015, 15:24:47 น.
-
คือว่าผมมีคอมเพรสเซอร์อยู่ 1 เครื่อง มี ไลน์อิน = 2 รู ไลน์เอ๊าท์= 2 รู
ถ้าผมจะเอาคอมเพรสเซอร์คุมไมค์ร้อง ผมสามารถใช้คุมไมค์ร้องได้กี่ตัวครับ
หรือว่ามันใช้คุมไมค์ได้แค่เท่าจำนวน รู ไลน์อิน ขอบคุณครับ
-
ได้หลายครับใช้ subgroup เป็นตัวช่วย
-
ได้หลายครับใช้ subgroup เป็นตัวช่วย
ขอบคุณครับ ถ้าในกรณีมิกซ์ผมไม่มี subgroup ก็ได้แค่ 2 ตัวใช่ไหมครับ
-
ขอบคุณครับ ถ้าในกรณีมิกซ์ผมไม่มี subgroup ก็ได้แค่ 2 ตัวใช่ไหมครับ
ด้วยคน ครับ..สงสัยเหมือนกัน
ขอสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเสียงที่ออกมา มันคล้ายกับว่าเสียงออกมาวูปๆๆ เป็นบางช่วง ครับ
ที่ผมลองต่อ คือ mic > mix > compressor > controller > cross > power amp
ไม่แน่ใจว่าการต่อใช้งาน ถูกต้องหรือไม่ ครับ หรือท่านใดเคยเจอ อาการเสียงวูปๆๆ คล้ายกัน
มีวิธีการ แก้ไขมั้ย ครับ และขอทราบวิธีการต่อ อะไรก่อน อะไรหลัง ครับ
ขอบคุณ ครับผม
-
อยากรู้เหมือนกันครับ ติดแร็คใว้ใช้ประโยชน์ไม่คุ้มเลย
(http://upic.me/i/cg/uiaqq.jpg) (http://upic.me/show/54297126)
-
เข้ามาเก็บข้อมูล :flower:
-
การทำงานคอม 166XL ครับ ช่วงท้ายๆทั้งตะโกนทั้งแหกปากเอาอยู่สบายๆครับ
อ้อร้อได้ถ้วย
[flash=200,200]http://youtu.be/IAnIKMArIQM[/flash]
งานกลางแจ้งก็เอาอยู่ครับ
[flash=200,200]http://youtu.be/wEjSNJNToK0[/flash]
แหกปากร้องแบบนี้ก็เอาอยู่ครับสบายๆ
[flash=200,200]http://youtu.be/BrwB7GvidNo[/flash]
ก่อนใช้งานต้องรู้ก่อนว่าปุ่มไหนทำหน้าที่อะไรรับลองใช้เป็นทุกคนครับ
-
ขออนุญาตตอบไม่ตรงคำถามนะครับ
เนื่องจากการ ไม่มีการตะโกนหรือการเพิ่มระดับเสียงอย่างกระทันหัน ก็ไม่สำควรใช้ครับ
เพราะว่าคำร้องบางคำที่มีความซอฟลงไป อาจจะทำให้เกตไม่เปิดให้เสียงผ่านไปได้ครับ เสียงจึงขาดหายๆ
เปลี่ยนถ่านไมค์ใหม่ก็ไม่หาย แล้วคราวนี้หาปัญหาไม่เจอแล้วละครับ ไมค์ไม่ดีเสียงขาดหาย
ส่วนใหญ่ที่ผมก็ก็แค่ให้ไฟมันวิ่งผ่านครับ สวยดี แต่ก็บายพาสเอาไว้ครับ
-
:thank1: :thank1: :thank1:
-
:happy:
-
ขออนุญาตตอบไม่ตรงคำถามนะครับ
เนื่องจากการ ไม่มีการตะโกนหรือการเพิ่มระดับเสียงอย่างกระทันหัน ก็ไม่สำควรใช้ครับ
เพราะว่าคำร้องบางคำที่มีความซอฟลงไป อาจจะทำให้เกตไม่เปิดให้เสียงผ่านไปได้ครับ เสียงจึงขาดหายๆ
เปลี่ยนถ่านไมค์ใหม่ก็ไม่หาย แล้วคราวนี้หาปัญหาไม่เจอแล้วละครับ ไมค์ไม่ดีเสียงขาดหาย
ส่วนใหญ่ที่ผมก็ก็แค่ให้ไฟมันวิ่งผ่านครับ สวยดี แต่ก็บายพาสเอาไว้ครับ
ก็คิดอย่าง..อ๊อฟ เหมือนกัน ให้ไฟวิ่งผ่านเล่น by pass ไว้ สวยดี
แต่ก็อยากใช้มันให้เป็น
ตรงนี้เจอเต็มๆ.... เสียงบางช่วงลองเปิดเบาๆ ทำให้เกตไม่เปิดให้เสียงผ่านไป เสียงขาดหายๆ วูปๆ
ลงไปจริงๆ
พยายามศึกษา เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ
อีกสักตั้ง
:thank1:
-
การทำงานคอม 166XL ครับ ช่วงท้ายๆทั้งตะโกนทั้งแหกปากเอาอยู่สบายๆครับ
อ้อร้อได้ถ้วย
[flash=200,200]http://youtu.be/IAnIKMArIQM[/flash]
งานกลางแจ้งก็เอาอยู่ครับ
[flash=200,200]http://youtu.be/wEjSNJNToK0[/flash]
แหกปากร้องแบบนี้ก็เอาอยู่ครับสบายๆ
[flash=200,200]http://youtu.be/BrwB7GvidNo[/flash]
ก่อนใช้งานต้องรู้ก่อนว่าปุ่มไหนทำหน้าที่อะไรรับลองใช้เป็นทุกคนครับ
ถามพี่... สุภชัย อีกนิด เอาต่อเข้าก่อน มิกซ์ หรือหลัง ครับ
หรือเข้าไหน ไปไหน
:thank1:
-
อินเสิร์ทใช้งานเฉพาะช่องที่จำเป็นช่วยได้ตรงจุดกว่าครับ
-
ด้วยคน ครับ..สงสัยเหมือนกัน
ขอสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเสียงที่ออกมา มันคล้ายกับว่าเสียงออกมาวูปๆๆ เป็นบางช่วง ครับ
ที่ผมลองต่อ คือ mic > mix > compressor > controller > cross > power amp
ไม่แน่ใจว่าการต่อใช้งาน ถูกต้องหรือไม่ ครับ หรือท่านใดเคยเจอ อาการเสียงวูปๆๆ คล้ายกัน
มีวิธีการ แก้ไขมั้ย ครับ และขอทราบวิธีการต่อ อะไรก่อน อะไรหลัง ครับ
ขอบคุณ ครับผม
ปรับไม่เป็นนิ
-
ถามพี่... สุภชัย อีกนิด เอาต่อเข้าก่อน มิกซ์ หรือหลัง ครับ
หรือเข้าไหน ไปไหน
:thank1:
insert
-
ขออนุญาตตอบไม่ตรงคำถามนะครับ
เนื่องจากการ ไม่มีการตะโกนหรือการเพิ่มระดับเสียงอย่างกระทันหัน ก็ไม่สำควรใช้ครับ
เพราะว่าคำร้องบางคำที่มีความซอฟลงไป อาจจะทำให้เกตไม่เปิดให้เสียงผ่านไปได้ครับ เสียงจึงขาดหายๆ
เปลี่ยนถ่านไมค์ใหม่ก็ไม่หาย แล้วคราวนี้หาปัญหาไม่เจอแล้วละครับ ไมค์ไม่ดีเสียงขาดหาย
ส่วนใหญ่ที่ผมก็ก็แค่ให้ไฟมันวิ่งผ่านครับ สวยดี แต่ก็บายพาสเอาไว้ครับ
เห็นด้วยเป็นอย่างยื่ง ในงานที่ต้องตามศิลปิน ผมต้องเจอเครื่องเสียงหลากหลายมาก อาทิตย์หนึ่งก็เจอสองสามราย
บางวันเจอรอบบ่ายรอบค่ำ คนละเจ้า ซึ่งเสียงที่ออกมาแตกต่างกันราวกับฟ้ากับเหวเลย ด้วยว่าเครื่องปรุงแบบนี้มีให้หามาใช้ไม่ยาก
หลากหลายยี่ห้อ ราคาถูกกว่าสมัยก่อนมากมาย ทำให้มีใช้กันแทบจะทุกเจ้า แต่ผมว่าหลายๆท่านมีไว้เพื่อให้ครบ
แต่การปรับแต่งคงไม่เก่ง บางเจ้างูๆปลาๆซะอีก จากจะดีเลยเป็นผลเสียต่อระบบ
เจ้าที่ใช้งานเป็น เวลาผมไปเจอจะทำงานสบายมาก เสียงออกมาชัดเจนมีน้ำหนัก พุ่งกระจายครอบคลุมพื้นที่ ศิลปินจะถูกใจ
เราแทบไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเลย ปรับกลางก็ออกมาดีเลย คอยแต่แค่บาลานซ์
ไปเจอบางเจ้า เราขืนแล้วขืนอีก บางที่ก็เอาอยู่ บางที่ก็ต้องไปขอร้องบอกช่วยบายพาสให้ ฟังดูได้ไม่ยาก เจ้าไหนลำโพงก็ยี่ห้อดี
แอมป์ดี มิกซ์ดี แต่เสียงออกมาไม่ทึบ ก็หนีบๆ ไม่พุ่งไม่กระจาย ไมค์หอนง่าย พอมันดังไม่ครอบคลุม เราเร่งก็ว๊องๆ ไปซะอีก
ผมจะขอให้เขาบายพาสให้ก่อนเป็นอันดับแรก ตอนนี้แทบจะระบุยี่ห้อมิกซ์ดิจิตอลที่เจอแล้วเป็นแบบนี้ได้เลยเชียว เจอทีไรต้องขอบายพาส
คอมเพลสเซอร์ การตั้งค่าต้องมีเปลี่ยนแปลงตามอคูสติกของสถานที่ เรื่องแรกก็เป็นขนาด ตำแหน่งของเวที ตรงนี้เราปรับแต่งค่า Threshold
ในส่วนของสถานที่ เป็นกลางแจ้ง อินดอร์ ขนาดความกว้างใหญ่ ก็แต่งค่า Range และบีบอัด Ratio ต่อไปก็ดูคนที่ใช้ไมค์ว่าแบบไหน นุ่มๆ หรือตะโกน
ก็ลองเลือกว่าจะเป็น Sofe Knee หรือ Hard Knee สำหรับค่า Attack กับ Release ผมไม่ค่อยได้ยุ่งกับมันนัก แค่สามอย่างที่บอกก็เอาจะไม่อยู่แล้ว
เวลายุ่งๆก็บายพาส แล้วไปแต่งอีคิวเอาง่ายกว่า แต่ไม่หนึบไม่เหนียวเท่าแค่นั้นเอง
-
ถามพี่... สุภชัย อีกนิด เอาต่อเข้าก่อน มิกซ์ หรือหลัง ครับ
หรือเข้าไหน ไปไหน
:thank1:
ต่อที่ช่อง insert ครับ
ผมก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมายครับแต่ก็แนะนำมือไหม่ได้ครับไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับแล้วคุณจะติดใจครับ
จำเป็นมากครับกับงานคาราโอเกะแบบผมเพราะแขกที่มาร้อง ร้อยพ่อ พันแม่ ครับ ถ้างานเวทีที่มีนักร้องไม่ใช้ก็ได้(ถ้าปรับไม่เป็น)ครับ เพราะเขาคงไม่แหกปากร้องเหมือนแขกตามงานคาราโอเกะบ้านๆแบบผมครับ ถ้าไม่ดี มิกดิจิตอล เขาคงไม่ใส่มาให้หลอกครับ จริงไม
-
ต่อที่ช่อง insert ครับ
ผมก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมายครับแต่ก็แนะนำมือไหม่ได้ครับไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับแล้วคุณจะติดใจครับ โทร:086-6916122 (ฟรี)
จำเป็นมากครับกับงานคาราโอเกะแบบผมเพราะแขกที่มาร้อง ร้อยพ่อ พันแม่ ครับ ถ้างานเวทีที่มีนักร้องประจำไม่ใช้ก็ได้(ถ้าปรับไม่เป็น)ครับ เพราะเขาคงไม่แหกปากร้องเหมือนแขกตามงานคาราโอเกะบ้านๆแบบผมครับ ถ้าไม่ดี มิกดิจิตอล เขาคงไม่ใส่มาให้หลอกครับ จริงไม
นักร้องอาชีพก็ใช้ได้ครับ มันช่วยคุมระดับความหนักเบาของเสียงให้สม่ำเสมอได้ เบาไปมันยกขึ้นแรงไปมันกด อยู่ที่มือเราแต่งครับ
-
นักร้องอาชีพก็ใช้ได้ครับ มันช่วยคุมระดับความหนักเบาของเสียงให้สม่ำเสมอได้ เบาไปมันยกขึ้นแรงไปมันกด อยู่ที่มือเราแต่งครับ
ใช่แล้วครับน้านพ อิอิ ถ้ามาเช่าเครื่องผม ผมใช้ทุกคนครับทั้งนักร้องมืออาชีพ ทั้งนักร้องบ้านๆ ทั้งนักร้องขี้เมาครับ 555
-
นักร้องอาชีพก็ใช้ได้ครับ มันช่วยคุมระดับความหนักเบาของเสียงให้สม่ำเสมอได้ เบาไปมันยกขึ้นแรงไปมันกด อยู่ที่มือเราแต่งครับ
นักร้องอาชีพ เรียกว่า เสพติด ทีเดียว วันไหนไม่มีหรือปรับไม่ดีบ่นอุบ จะบอกไมค์หนัก ตอนนี้เรามีของเราติดไปตลอด
แต่ไปเจอขาออกของระบบที่เราไปต่อแล้วเขาปรับไม่ดี วันนั้นก็ลำบากหน่อย ทำได้ดีที่สุดก็คือในช่วงของเราขอเขาบายพาส
บางที่ก็ไม่ประสพความสำเร็จ ก็ยอมๆกันไป แค่แอบมาบ่นกันเครื่องเสียงเจ้านี้ไม่ดีนะ ทั้งที่อุปกรณ์ก็ดูดีอยู่
พวกเครื่องที่มีประสพการณ์ ทำงานอีเวนท์ใหญ่ เขาจะไปติดตั้งล่วงหน้า จะซาวด์เช็คระบบจนดี พอเราไปต่อพ่วงก็ไม่ยากแล้ว
แต่ก็มีหลายๆเจ้า เราต้องไปรอ พอเขามาถึงเวลาไม่พอ รีบต่อรีบเสียบ เอาแค่เสียงดัง เจอบ่อยเวลาไปงานตามต่างจังหวัด
แบบนี้อุปกรณ์ดีแค่ไหนก็ไม่ได้ใช้ประโยขน์อย่างเต็มที่ เสียดายแทน คอมเพรสเซอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง
ผมว่าในกระทู้เครื่องเสียงกลางแจ้งของเวปนี้น่าจะมีกูรู ผู้ใช้จริง มาแชร์ มารีวิว หรือมาเขียนบทความ แจกๆความรู้กันบ้าง น่าจะดี
-
นักร้องอาชีพก็ใช้ได้ครับ มันช่วยคุมระดับความหนักเบาของเสียงให้สม่ำเสมอได้ เบาไปมันยกขึ้นแรงไปมันกด อยู่ที่มือเราแต่งครับ
เบาไปมันยกขึ้นแรงไปมันกด ตรงนี้แหละครับที่จุดเซทค่า Threshold ให้เบาแค่ไหนมันยก แรงแค่ไหนมันกด
และที่ผมกล่าวถึงขนาดของเวที และตำแหน่ง ตัวอย่างบางงานเวทีซักกะติ๊ด ยังมีมอนิเตอร์วางอย่างใกล้ ลำโพงพีเอก็อยู่ซะติดเวที
ห้องงานก็แคบๆ เราก็ต้องเซทค่าให้เขาใช้ไมค์ได้สบายแบบไม่ต้องแหกปาก แล้วถ้าเขาเผลอแหกปาก ก็ไม่ออกมาแสบหูคนฟัง
-
ค่า Ratio(อัตราส่วน) ของการคอมเพรส(บีบที่มันเกิน) ว่าจะขนาดไหน ผมใช้จากที่เคยอ่านจากกระทู้เจ้าออฟ คลองสามวา ที่อธิบายไว้ว่า
ถ้าอัตราส่วน 1:1 เท่ากับไม่มีการคอมเพรส อัตรส่วน2:1 ก็คอมเพรสจาก2เป็น1 ไม่น่าเชื่อบางงานผมใช้ 20:1(Mackie DL1608)
ค่าการตั้งต่างๆ มันก็อยู่กับงาน ความชอบส่วนตัว ไม่เจาะจงตายตัวครับ แต่ถ้าตั้งออกมาดีก็ดี ถ้าไม่ดีก็ลองใหม่
-
เบาไปมันยกขึ้นแรงไปมันกด ตรงนี้แหละครับที่จุดเซทค่า Threshold ให้เบาแค่ไหนมันยก แรงแค่ไหนมันกด
และที่ผมกล่าวถึงขนาดของเวที และตำแหน่ง ตัวอย่างบางงานเวทีซักกะติ๊ด ยังมีมอนิเตอร์วางอย่างใกล้ ลำโพงพีเอก็อยู่ซะติดเวที
ห้องงานก็แคบๆ เราก็ต้องเซทค่าให้เขาใช้ไมค์ได้สบายแบบไม่ต้องแหกปาก แล้วถ้าเขาเผลอแหกปาก ก็ไม่ออกมาแสบหูคนฟัง
คอมเพรสเซอร์ทั่วไปแบบที่ผมใช้มีอุปกรณ์สี่อย่างอยู่ในตัวเดียว เกท คอมเพรสเซอร์ เอ๊กเพนเดอร์ และลิมิตเตอร์ ถ้าเข้าใจสี่ตัวนี้และเข้าใจว่าอะไรควรใช้ตอนใหนก็ไม่นากครับพี่ ผมไม่ค่อยได้ใช้แต่ก็พอใช้ได้
-
คอมเพรสเซอร์ทั่วไปแบบที่ผมใช้มีอุปกรณ์สี่อย่างอยู่ในตัวเดียว เกท คอมเพรสเซอร์ เอ๊กเพนเดอร์ และลิมิตเตอร์ ถ้าเข้าใจสี่ตัวนี้และเข้าใจว่าอะไรควรใช้ตอนใหนก็ไม่นากครับพี่ ผมไม่ค่อยได้ใช้แต่ก็พอใช้ได้
นั่นแหละ ถ้าเข้าใจแล้วไม่ยาก ไอ้ที่ลำบากทุกวันนี้เวลาไปเจอคนมีใช้แต่ไม่เข้าใจใช้ ถึงอยากให้มีคนสอนการใช้
หรือถ้าไม่แน่ใจก็ทำอย่างเจ้าอ๊อฟมันว่า ปล่อยไฟวิ่งผ่านเฉยๆดีกว่า ทรมานนะน้านพ ทำเสียงแล้วการแสดงคุมคนไม่อยู่
เพราะต้องวิ่งผ่านไอ้เจ้าตัวเนี้ยตัวเดียว เสียงวูบๆวาบๆ เจ้าของเครื่องก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไปวานคนอื่นเขาเซทมาให้
เกทผมไม่ใช้ เพราะการแสดงมันมีอารมณ์ ทั้งเบาทั้งหนัก ความกว้าง ความมากน้อยของจำนวนผู้ชม อารมณ์จุดนั้นมันต้อง
ตะโกนกับคนดูร้อยสองร้อย หรือ พันสองพัน เคยทำพอมันตะโกนแรงกว่าที่คิด สัญญานมันใหญ่เกินเกทที่เปิดไว้ เสียงวูบเลย ซาวด์โดนด่าซิครับ
-
นั่นแหละ ถ้าเข้าใจแล้วไม่ยาก ไอ้ที่ลำบากทุกวันนี้เวลาไปเจอคนมีใช้แต่ไม่เข้าใจใช้ ถึงอยากให้มีคนสอนการใช้
หรือถ้าไม่แน่ใจก็ทำอย่างเจ้าอ๊อฟมันว่า ปล่อยไฟวิ่งผ่านเฉยๆดีกว่า ทรมานนะน้านพ ทำเสียงแล้วการแสดงคุมคนไม่อยู่
เพราะต้องวิ่งผ่านไอ้เจ้าตัวเนี้ยตัวเดียว เสียงวูบๆวาบๆ เจ้าของเครื่องก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไปวานคนอื่นเขาเซทมาให้
เกทผมไม่ใช้ เพราะการแสดงมันมีอารมณ์ ทั้งเบาทั้งหนัก ความกว้าง ความมากน้อยของจำนวนผู้ชม อารมณ์จุดนั้นมันต้อง
ตะโกนกับคนดูร้อยสองร้อย หรือ พันสองพัน เคยทำพอมันตะโกนแรงกว่าที่คิด สัญญานมันใหญ่เกินเกทที่เปิดไว้ เสียงวูบเลย ซาวด์โดนด่าซิครับ
ผมเคยโม้ๆงานมี๊ตติ้งที่นครสวรรค์สองชั่วโมง สุดท้ายคนฟังก็ไม่ได้อะไร
-
ผมเคยโม้ๆงานมี๊ตติ้งที่นครสวรรค์สองชั่วโมง สุดท้ายคนฟังก็ไม่ได้อะไร
เปิดอีกรอบ ที่ห้องเครื่องเสียงกลางแจ้ง ผมว่าเป็นวิทยาทานที่น่าเชิดชูแน่ๆ พอให้เป็นพื้นฐาณของคนเครื่องเสียง
เพราะว่าตอนนี้มันมีอยู่แทบทุกอุปกรณ์ ในมิกเซอร์ดิจิตอลก็มีทุกแชนแนล ทุกAUX และสุดท้ายที่เมนเอาท์ก็มีให้อีก
พวก Speaker Management System หรือที่เรามักเรียกกันว่า ไดรว์แร็ค ก็มีให้ ผมว่ามันมีความจำเป็นต้องรู้กันแล้ว
ทำเครื่องเสียง สมัยก่อนก็แค่ปรับ ทุ้มแหลม ต่อมามีอีคิว 15แบนด์ 31แบนด์ มาให้คัดความถี่ พวกเครื่องเสียงก็ศึกษา
หาความรู้เพื่อคัดความถี่ที่ต้องการบูธเพิ่มหรือลดลง แต่ตอนนี่เป็นยุค DSP (ดิจิตอล ซิกแนล โปรเซสซิ่ง) มันไม่น่าจะยากเกิน
เอาหน่อย เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยเสริม ผมเชื่อคราวนี้แฟนคลับตรึมแน่ เพราะมันมีความจำเป็นต้องใช้กันแล้ว
-
เปิดอีกรอบ ที่ห้องเครื่องเสียงกลางแจ้ง ผมว่าเป็นวิทยาทานที่น่าเชิดชูแน่ๆ พอให้เป็นพื้นฐาณของคนเครื่องเสียง
เพราะว่าตอนนี้มันมีอยู่แทบทุกอุปกรณ์ ในมิกเซอร์ดิจิตอลก็มีทุกแชนแนล ทุกAUX และสุดท้ายที่เมนเอาท์ก็มีให้อีก
พวก Speaker Management System หรือที่เรามักเรียกกันว่า ไดรว์แร็ค ก็มีให้ ผมว่ามันมีความจำเป็นต้องรู้กันแล้ว
ทำเครื่องเสียง สมัยก่อนก็แค่ปรับ ทุ้มแหลม ต่อมามีอีคิว 15แบนด์ 31แบนด์ มาให้คัดความถี่ พวกเครื่องเสียงก็ศึกษา
หาความรู้เพื่อคัดความถี่ที่ต้องการบูธเพิ่มหรือลดลง แต่ตอนนี่เป็นยุค DSP (ดิจิตอล ซิกแนล โปรเซสซิ่ง) มันไม่น่าจะยากเกิน
เอาหน่อย เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยเสริม ผมเชื่อคราวนี้แฟนคลับตรึมแน่ เพราะมันมีความจำเป็นต้องใช้กันแล้ว
อากู๋ มีเยอะแล้วพี่ป้อม...
ไอ้ครั้นจะมีใครมาบอกให้อ่านกันมันก็ยากที่จะเข้าใจนะเรื่องนี้...
เรื่องนี้มันต้อง learning by doing ครับ(ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ มั่วอีกต่างหาก 555)
-
อากู๋ มีเยอะแล้วพี่ป้อม...
ไอ้ครั้นจะมีใครมาบอกให้อ่านกันมันก็ยากที่จะเข้าใจนะเรื่องนี้...
เรื่องนี้มันต้อง learning by doing ครับ(ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ มั่วอีกต่างหาก 555)
นั่นนะซิ เห็นจัดเวิร์คช็อป แต่ละครั้ง มีคนกระหล๋อมกระแหล๋ม ผมก็แค่อยากให้คนใช้งานกันเป็นเยอะๆ เพราะของมันน่าใช้
-
เปิดอีกรอบ ที่ห้องเครื่องเสียงกลางแจ้ง ผมว่าเป็นวิทยาทานที่น่าเชิดชูแน่ๆ พอให้เป็นพื้นฐาณของคนเครื่องเสียง
เพราะว่าตอนนี้มันมีอยู่แทบทุกอุปกรณ์ ในมิกเซอร์ดิจิตอลก็มีทุกแชนแนล ทุกAUX และสุดท้ายที่เมนเอาท์ก็มีให้อีก
พวก Speaker Management System หรือที่เรามักเรียกกันว่า ไดรว์แร็ค ก็มีให้ ผมว่ามันมีความจำเป็นต้องรู้กันแล้ว
ทำเครื่องเสียง สมัยก่อนก็แค่ปรับ ทุ้มแหลม ต่อมามีอีคิว 15แบนด์ 31แบนด์ มาให้คัดความถี่ พวกเครื่องเสียงก็ศึกษา
หาความรู้เพื่อคัดความถี่ที่ต้องการบูธเพิ่มหรือลดลง แต่ตอนนี่เป็นยุค DSP (ดิจิตอล ซิกแนล โปรเซสซิ่ง) มันไม่น่าจะยากเกิน
เอาหน่อย เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยเสริม ผมเชื่อคราวนี้แฟนคลับตรึมแน่ เพราะมันมีความจำเป็นต้องใช้กันแล้ว
จั๊กแหล่ว
-
ตามๆๆๆ :thank1: :thank1:
-
Gate ไม่เคยใช้ ผมว่ามันไม่จำเป็นสำหรับไมค์ร้อง
แต่ Compressor ต้องใช้ คนแต่ละคน ร้องเสียงดังไม้เท่ากัน
ใน DL1608 ทำได้ง่ายมาก ๆ
-
สอนให้หน่อยครับอาจารย์ ถ้าไม่สอน แล้วมาเยี่ยมผมเอาเครื่องผมไปใช้แล้วเสียงนักร้องไม่เพราะ อย่ามาโทษว่าเครื่องผมไม่ดีนะต้องโทษนักร้องเองนะจะบอกให้ เอิ๊กกกกก :thank1: :thank1:
-
นั่นแหละ ถ้าเข้าใจแล้วไม่ยาก ไอ้ที่ลำบากทุกวันนี้เวลาไปเจอคนมีใช้แต่ไม่เข้าใจใช้ ถึงอยากให้มีคนสอนการใช้
หรือถ้าไม่แน่ใจก็ทำอย่างเจ้าอ๊อฟมันว่า ปล่อยไฟวิ่งผ่านเฉยๆดีกว่า ทรมานนะน้านพ ทำเสียงแล้วการแสดงคุมคนไม่อยู่
เพราะต้องวิ่งผ่านไอ้เจ้าตัวเนี้ยตัวเดียว เสียงวูบๆวาบๆ เจ้าของเครื่องก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไปวานคนอื่นเขาเซทมาให้
เกทผมไม่ใช้ เพราะการแสดงมันมีอารมณ์ ทั้งเบาทั้งหนัก ความกว้าง ความมากน้อยของจำนวนผู้ชม อารมณ์จุดนั้นมันต้อง
ตะโกนกับคนดูร้อยสองร้อย หรือ พันสองพัน เคยทำพอมันตะโกนแรงกว่าที่คิด สัญญานมันใหญ่เกินเกทที่เปิดไว้ เสียงวูบเลย ซาวด์โดนด่าซิครับ
มีอบรมที่ไหน ผมก็จะไปครับ บอกไหนหน่อยเถอะ อยากทำเป็นจริงๆ เรื่อง เครื่องปรุง เนี่ย ผมสนับสนุนให้จัดอบรมให้หน่อยครับ ผมว่ามีคนต้องการเรียนรู้อีกเยอะคับผม
-
มีอบรมที่ไหน ผมก็จะไปครับ บอกไหนหน่อยเถอะ อยากทำเป็นจริงๆ เรื่อง เครื่องปรุง เนี่ย ผมสนับสนุนให้จัดอบรมให้หน่อยครับ ผมว่ามีคนต้องการเรียนรู้อีกเยอะคับผม
ด้วยคน ครับผม
อยากใช้ให้เป็น จริงๆ ครับ
:thank1:นั่นแหละ ถ้าเข้าใจแล้วไม่ยาก ไอ้ที่ลำบากทุกวันนี้เวลาไปเจอคนมีใช้แต่ไม่เข้าใจใช้ ถึงอยากให้มีคนสอนการใช้
หรือถ้าไม่แน่ใจก็ทำอย่างเจ้าอ๊อฟมันว่า ปล่อยไฟวิ่งผ่านเฉยๆดีกว่า ทรมานนะน้านพ ทำเสียงแล้วการแสดงคุมคนไม่อยู่
เพราะต้องวิ่งผ่านไอ้เจ้าตัวเนี้ยตัวเดียว เสียงวูบๆวาบๆ เจ้าของเครื่องก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไปวานคนอื่นเขาเซทมาให้
เกทผมไม่ใช้ เพราะการแสดงมันมีอารมณ์ ทั้งเบาทั้งหนัก ความกว้าง ความมากน้อยของจำนวนผู้ชม อารมณ์จุดนั้นมันต้อง
ตะโกนกับคนดูร้อยสองร้อย หรือ พันสองพัน เคยทำพอมันตะโกนแรงกว่าที่คิด สัญญานมันใหญ่เกินเกทที่เปิดไว้ เสียงวูบเลย ซาวด์โดนด่าซิครับ
ครับ...เมื่อปีใหม่ที่ผ่านมามีโอกาสได้ใช้ เสียงวูปๆๆ เลย ครับ ด้วยความที่ปรับไม่เป็น
และไม่รู้ จริง
ร้องเล่นกันเองในบ้าน คนไหนร้องเสียงคงที่หน่อยก็นิ่ง ไม่วูป
คนไหนตะโกน ตะเบ็งเสียง วูปทันหูฟัง
:thank1:
-
มีอบรมที่ไหน ผมก็จะไปครับ บอกไหนหน่อยเถอะ อยากทำเป็นจริงๆ เรื่อง เครื่องปรุง เนี่ย ผมสนับสนุนให้จัดอบรมให้หน่อยครับ ผมว่ามีคนต้องการเรียนรู้อีกเยอะคับผม
จะมีไหมครับบบบบ
-
:happy: :happy: :happy:
-
:happy: :happy:
ดีใจที่มีท่านมากด้วยประสบการณ์คอยชี้แนะและให้ความรู้อยู่ในนี้ตลอดเวลา
:love2:
ผมว่านอกจากคอมเพรสเซอร์จะคอยควบคุมไมค์แล้ว ฟังก์ชั่น Threshold ที่มีทั้งในกลุ่ม Expander/Gate และกลุ่ม Compressor จะคอยควบคุมให้สัญญาณเสียงดนตรีแต่ละไลน์ที่เข้ามาให้มีระดับดังเท่าๆกันก่อนส่งไปสู่เครื่องขยายและออกลำโพงต่อไป
:flower:
ขอบคุณ สมาชิกรุ่นพี่ทุกท่านที่คอยให้ความรู้แก่รุ่นน้องเสมอมา ครับ (http://upic.me/i/n1/dsc_0083small.jpg) (http://upic.me/show/54932684)
-
จากหัวเรื่องของกระทู้ ผมคิดตามหลักการง่ายๆเลย ตามที่มีอุปกรณ์ไม่มากมายซับซ้อนนัก
คิดตามท่านปรมาจารย์นพ(ผมเลือกมาหนึ่งอย่าง) คือเอาไมโครโฟนเสียบเข้าช่องInput หลังเครื่องCompressor แล้วต่อOutput ออกไปยังMixer เลย ไปเข้าช่องไหนดีหละ ต้องดูเหตุผลหลักวิชาการออกแบบมิกเซอร์อีก
ครูภาษาไทยอย่างผมก็ใช้ทักษะ"หัวใจนักปราชญ" ฟัง คิด อ่าน ถาม(พูด) และเขียนบันทึกจากท่านผู้รู้
ถ้าท่านมีมิกเซอร์ระดับห้องบันทึกเสียงท่านย่อมรู้ดีว่าเข้าช่องใดดี แต่คนมือสมัครเล่นอย่างผมมิกเซอร์ผมมี 12 Line ไม่มีช่อง Insert เลยแม้แต่ช่องเดียว มีช่อง Aux (Send) แค่ 1 ช่อง(โมโน สะด้วย) ช่อง Effect มี1 ช่อง และช่อง Return อีก 1 ช่อง
ช่องซับกรุปอะไร ไม่มีเลย แค่นี้นอกนั้นก็มีปุ่มเร่ง Aux เร่ง Effect และเร่ง Return 3ปุ่มหลัก
8 Lineผมใช้รับซาวด์eXtme แยกแบบครูภูมิ เหลือ 4 Line น่าจะใช้เสียบไมค์ที่ต่อมาจากหลังCompressor ได้ ผมเลือกเสียบลง Line (ถ้าไม่อยากแย่งไมค์ก็ต่อไมค์ลอยเพิ่มที่ต้นทางเอานะครับ)
ส่วนช่อง Aux ผมสงวนไว้ต่อเข้า Effect (หรือ Compressor ที่เหลืออีกแชนแชล ไว้ใช้คุมซาวด์ดนตรี ซึ่งทำได้ครับ เซทเอาเฉพาะเสียงจากAux ทุกLine (สัญญาณPre)
เวลาเล่นจริง Compressor แชนแนลซ้าย คุมไมโครโฟน แชนแนลขวาคุมซาวด์ดนตรี ปล่อยแเสียงออกจากMainOut L/R ของMixer ไปยังเครื่องขยายเสียงต่อไป ไมโครโฟนไม่ไปแทรกดนตรีให้วูบวาบเลยครับ
:love2: ขอขอบคุณสมาชิกชั้นครูที่ให้ความรู้ครับ
-
จากหัวเรื่องของกระทู้ ผมคิดตามหลักการง่ายๆเลย ตามที่มีอุปกรณ์ไม่มากมายซับซ้อนนัก
คิดตามท่านปรมาจารย์นพ(ผมเลือกมาหนึ่งอย่าง) คือเอาไมโครโฟนเสียบเข้าช่องInput หลังเครื่องCompressor แล้วต่อOutput ออกไปยังMixer เลย ไปเข้าช่องไหนดีหละ ต้องดูเหตุผลหลักวิชาการออกแบบมิกเซอร์อีก
ครูภาษาไทยอย่างผมก็ใช้ทักษะ"หัวใจนักปราชญ" ฟัง คิด อ่าน ถาม(พูด) และเขียนบันทึกจากท่านผู้รู้
ถ้าท่านมีมิกเซอร์ระดับห้องบันทึกเสียงท่านย่อมรู้ดีว่าเข้าช่องใดดี แต่คนมือสมัครเล่นอย่างผมมิกเซอร์ผมมี 12 Line ไม่มีช่อง Insert เลยแม้แต่ช่องเดียว มีช่อง Aux (Send) แค่ 1 ช่อง(โมโน สะด้วย) ช่อง Effect มี1 ช่อง และช่อง Return อีก 1 ช่อง
ช่องซับกรุปอะไร ไม่มีเลย แค่นี้นอกนั้นก็มีปุ่มเร่ง Aux เร่ง Effect และเร่ง Return 3ปุ่มหลัก
8 Lineผมใช้รับซาวด์eXtme แยกแบบครูภูมิ เหลือ 4 Line น่าจะใช้เสียบไมค์ที่ต่อมาจากหลังCompressor ได้ ผมเลือกเสียบลง Line (ถ้าไม่อยากแย่งไมค์ก็ต่อไมค์ลอยเพิ่มที่ต้นทางเอานะครับ)
ส่วนช่อง Aux ผมสงวนไว้ต่อเข้า Effect (หรือ Compressor ที่เหลืออีกแชนแชล ไว้ใช้คุมซาวด์ดนตรี ซึ่งทำได้ครับ เซทเอาเฉพาะเสียงจากAux ทุกLine (สัญญาณPre)
เวลาเล่นจริง Compressor แชนแนลซ้าย คุมไมโครโฟน แชนแนลขวาคุมซาวด์ดนตรี ปล่อยแเสียงออกจากMainOut L/R ของMixer ไปยังเครื่องขยายเสียงต่อไป ไมโครโฟนไม่ไปแทรกดนตรีให้วูบวาบเลยครับ
:love2: ขอขอบคุณสมาชิกชั้นครูที่ให้ความรู้ครับ
ยินดีด้วยครับครูที่ผลงานออกมาพอใจ. แม้จะใช้งานผิดชาวบ้านชาวเมืองเข้าไปบ้าง. แต่ก็เป็นไปตามข้อจำกัดของอุปกรณ์ที่มี
สิ่งที่จะพูดถึงก็คือ. โดยปกติแล้วซาวด์ดนตรีผมไม่ต่อผ่านคอมเพรสเซอร์. และคิดว่าอีกหลายๆคนก็น่าจะเช่นกัน. เพราะมันจะทำให้เสียงดนตรีขาดไดนามิค. หรือขาดความหนักเบากระแทกกระทั้นของเสียง
สิ่งที่จะพูดต่อไปจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้สุดแล้วแต่ครู
เก็บคอมเพรสเซอร์สองช่องไว้ใช้กับไมค์ร้องสองตัวแยกกันดีกว่าครับ. สายที่ออกจากไมค์เอาเข้าคอมเพรสเซอร์ตัวละช่อง. ออกจากคอมเพรสเซอร์เข้ามิกซ์ที่ช่องไมค์สองช่อง. ช่องละตัว. ไลน์ดนตรีเสียบเข้าที่ไลน์อินตามปกติ.
สัญญาณออกจากมิกซ์ไปเข้าอีคิว เข้าครอส เข้าแอมป์ต่อไป. เป็นการต่อที่คนส่วนใหญ่เข้าทำกันและเครื่องครูที่มีอยู่ทำได้แน่นอน
มีที่อยากจะพูดเท่านี้แหละครับ. นอนแล้ว
-
จากหัวเรื่องของกระทู้ ผมคิดตามหลักการง่ายๆเลย ตามที่มีอุปกรณ์ไม่มากมายซับซ้อนนัก
คิดตามท่านปรมาจารย์นพ(ผมเลือกมาหนึ่งอย่าง) คือเอาไมโครโฟนเสียบเข้าช่องInput หลังเครื่องCompressor แล้วต่อOutput ออกไปยังMixer เลย ไปเข้าช่องไหนดีหละ ต้องดูเหตุผลหลักวิชาการออกแบบมิกเซอร์อีก
ครูภาษาไทยอย่างผมก็ใช้ทักษะ"หัวใจนักปราชญ" ฟัง คิด อ่าน ถาม(พูด) และเขียนบันทึกจากท่านผู้รู้
ถ้าท่านมีมิกเซอร์ระดับห้องบันทึกเสียงท่านย่อมรู้ดีว่าเข้าช่องใดดี แต่คนมือสมัครเล่นอย่างผมมิกเซอร์ผมมี 12 Line ไม่มีช่อง Insert เลยแม้แต่ช่องเดียว มีช่อง Aux (Send) แค่ 1 ช่อง(โมโน สะด้วย) ช่อง Effect มี1 ช่อง และช่อง Return อีก 1 ช่อง
ช่องซับกรุปอะไร ไม่มีเลย แค่นี้นอกนั้นก็มีปุ่มเร่ง Aux เร่ง Effect และเร่ง Return 3ปุ่มหลัก
8 Lineผมใช้รับซาวด์eXtme แยกแบบครูภูมิ เหลือ 4 Line น่าจะใช้เสียบไมค์ที่ต่อมาจากหลังCompressor ได้ ผมเลือกเสียบลง Line (ถ้าไม่อยากแย่งไมค์ก็ต่อไมค์ลอยเพิ่มที่ต้นทางเอานะครับ)
ส่วนช่อง Aux ผมสงวนไว้ต่อเข้า Effect (หรือ Compressor ที่เหลืออีกแชนแชล ไว้ใช้คุมซาวด์ดนตรี ซึ่งทำได้ครับ เซทเอาเฉพาะเสียงจากAux ทุกLine (สัญญาณPre)
เวลาเล่นจริง Compressor แชนแนลซ้าย คุมไมโครโฟน แชนแนลขวาคุมซาวด์ดนตรี ปล่อยแเสียงออกจากMainOut L/R ของMixer ไปยังเครื่องขยายเสียงต่อไป ไมโครโฟนไม่ไปแทรกดนตรีให้วูบวาบเลยครับ
:love2: ขอขอบคุณสมาชิกชั้นครูที่ให้ความรู้ครับ
ขอเก็บความรู้ ของครู ไว้เป็นประสบการณ์ ครับ
ยินดีด้วยครับครูที่ผลงานออกมาพอใจ. แม้จะใช้งานผิดชาวบ้านชาวเมืองเข้าไปบ้าง. แต่ก็เป็นไปตามข้อจำกัดของอุปกรณ์ที่มี
สิ่งที่จะพูดถึงก็คือ. โดยปกติแล้วซาวด์ดนตรีผมไม่ต่อผ่านคอมเพรสเซอร์. และคิดว่าอีกหลายๆคนก็น่าจะเช่นกัน. เพราะมันจะทำให้เสียงดนตรีขาดไดนามิค. หรือขาดความหนักเบากระแทกกระทั้นของเสียง
สิ่งที่จะพูดต่อไปจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้สุดแล้วแต่ครู
เก็บคอมเพรสเซอร์สองช่องไว้ใช้กับไมค์ร้องสองตัวแยกกันดีกว่าครับ. สายที่ออกจากไมค์เอาเข้าคอมเพรสเซอร์ตัวละช่อง. ออกจากคอมเพรสเซอร์เข้ามิกซ์ที่ช่องไมค์สองช่อง. ช่องละตัว. ไลน์ดนตรีเสียบเข้าที่ไลน์อินตามปกติ.
สัญญาณออกจากมิกซ์ไปเข้าอีคิว เข้าครอส เข้าแอมป์ต่อไป. เป็นการต่อที่คนส่วนใหญ่เข้าทำกันและเครื่องครูที่มีอยู่ทำได้แน่นอน
มีที่อยากจะพูดเท่านี้แหละครับ. นอนแล้ว
ขอเก็บคำแนะนำประสบการณ์ ของ "น้านพ" ไว้เป็นความรู้ ด้วยครับ
:thank1:
-
เท่าที่อ่านมา แต่ละท่านที่ช่วยกันแสดงความคิดเห็น ผมเห็นว่าก็ถูกของท่านน๊ะครับ โดยเหตุและผลของการใช้งานคอมเพล....มีไว้เพื่อป้องกันลำโพงไม่ให้ขาด เพราะการการบันทึกเสียงเพลงของแต่ละค่าย แต่ละเพลง ความดังไม่เท่ากัน การศึกษาการใช้งานอย่างถูกวิธี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ท่านจะใช้มันอย่างคุ้มค่า เพียงเราให้เวลากับความที่เรายังไม่รู้ไปที่ google และพิมพ์คำว่า "วิธีการใช้งานคอมเพรสเซอร์ยี่ห้อ.... " ท่านอาจได้รับคำตอบที่ถูกต้องและโล่งอกครับ
-
Compressor ที่อยู่ใน Mix Alto Live ผมยังใช้ไม่เป็นเลย ปรับไปงั้นๆมากบ้างน้อยบ้าง ลดสุดบ้าง บางครั้งก็เห็นไฟคอมเพลสเซอร์ติดบ้างดับบ้าง ฟังไม่ออกครับ มั่วอย่างเดียว อยากให้อาจารย์แนะนำครับ
-
Compressor ที่อยู่ใน Mix Alto Live ผมยังใช้ไม่เป็นเลย ปรับไปงั้นๆมากบ้างน้อยบ้าง ลดสุดบ้าง บางครั้งก็เห็นไฟคอมเพลสเซอร์ติดบ้างดับบ้าง ฟังไม่ออกครับ มั่วอย่างเดียว อยากให้อาจารย์แนะนำครับ
มีศัพท์ไม่กี่คำเบื้องต้นลองหาดูครับหมายความอย่างไร แล้วจะเป็นพื้นต่อยอดได้
threshold คืออะไร ระดับสัญญาณเกินที่เราตั้งจะเป็นอย่างไร
ratio ถ้าสัญญาณเกิน threshold สมมติเราตั้งไว้ 2:1 เมื่อเกินจุดนั้น สมมติสัญญาณเกิน 10 มันจะปล่อยมา 5
ตัวอย่างจราจรกำหนดความเร็วรถไว้ให้ขับ 90 กม แต่เราวิ่ง 100 จราจรจะบอกถ้าวิ่ง 95 หยวนๆ (2:1)
Attack คือ
release คือ
hard knee คือ?
soft knee คือ? เหมาะกับเสียงร้อง
gain
compressor ไม่ได้ใช้เพื่อจำกัดเสียงอย่างเดียว ยังช่วยทำให้เครื่องดนตรีบางอย่างน่าฟังขึ้นเช่นสแนร์
-
ยินดีด้วยครับครูที่ผลงานออกมาพอใจ. แม้จะใช้งานผิดชาวบ้านชาวเมืองเข้าไปบ้าง. แต่ก็เป็นไปตามข้อจำกัดของอุปกรณ์ที่มี
สิ่งที่จะพูดถึงก็คือ. โดยปกติแล้วซาวด์ดนตรีผมไม่ต่อผ่านคอมเพรสเซอร์. และคิดว่าอีกหลายๆคนก็น่าจะเช่นกัน. เพราะมันจะทำให้เสียงดนตรีขาดไดนามิค. หรือขาดความหนักเบากระแทกกระทั้นของเสียง
สิ่งที่จะพูดต่อไปจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้สุดแล้วแต่ครู
เก็บคอมเพรสเซอร์สองช่องไว้ใช้กับไมค์ร้องสองตัวแยกกันดีกว่าครับ. สายที่ออกจากไมค์เอาเข้าคอมเพรสเซอร์ตัวละช่อง. ออกจากคอมเพรสเซอร์เข้ามิกซ์ที่ช่องไมค์สองช่อง. ช่องละตัว. ไลน์ดนตรีเสียบเข้าที่ไลน์อินตามปกติ.
สัญญาณออกจากมิกซ์ไปเข้าอีคิว เข้าครอส เข้าแอมป์ต่อไป. เป็นการต่อที่คนส่วนใหญ่เข้าทำกันและเครื่องครูที่มีอยู่ทำได้แน่นอน
มีที่อยากจะพูดเท่านี้แหละครับ. นอนแล้ว
ไมค์-คอมเพรสเซอร์-มิกซ์ ก็ใช้ Line 2 ช่อง ถ้ามีEffect นอกก็ออกจาก Aux 1 ไป Effect แล้วกลับมาเข้า Line อีก2 ช่องเราต้องใช้ช่องLine 4 ช่องถูกต้องไหมครับ :thank1:
-
ต่อไมโครโฟนเข้าคอมเพรสเซอร์ ออกจากคอมเพรสเซอร์เข้าLineในมิกเซอร์ ----------ผมว่าถูกแล้วครับ(ในมิกเซอร์ที่ไม่มีช่อง Insert)
แต่ ต่อAuxเข้ามายังเอฟเฟคแล้ว-น่าจะเข้า Return ตามวงจรนะครับ เพราะสัญญาณ AUX เขาออกแบบอย่างนั้น เวลาคุมสะดวกกว่าครับ (ผมได้ความรู้จากท่านนิมิตใหม่นะครับ ซึ่งท่านได้มาจาก K-One Music อีกต่อหนึ่ง ครับ)
... ขอขอบคุณท่าน K-ONE Music : http://www.tiggersound.com/webboard/index.php?topic=18846.msg177361#msg177361
http://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=42870.msg526768#msg526768 (http://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=42870.msg526768#msg526768) :flower:
-
มีศัพท์ไม่กี่คำเบื้องต้นลองหาดูครับหมายความอย่างไร แล้วจะเป็นพื้นต่อยอดได้
threshold คืออะไร ระดับสัญญาณเกินที่เราตั้งจะเป็นอย่างไร
ratio ถ้าสัญญาณเกิน threshold สมมติเราตั้งไว้ 2:1 เมื่อเกินจุดนั้น สมมติสัญญาณเกิน 10 มันจะปล่อยมา 5
ตัวอย่างจราจรกำหนดความเร็วรถไว้ให้ขับ 90 กม แต่เราวิ่ง 100 จราจรจะบอกถ้าวิ่ง 95 หยวนๆ (2:1)
Attack คือ
release คือ
hard knee คือ?
soft knee คือ? เหมาะกับเสียงร้อง
gain
compressor ไม่ได้ใช้เพื่อจำกัดเสียงอย่างเดียว ยังช่วยทำให้เครื่องดนตรีบางอย่างน่าฟังขึ้นเช่นสแนร์
ขอบคุณครับพี่ ผมจะศึกษาดูครับแต่ยังไม่มีเครื่องตอนนี้ครับ มิกซ์ที่มีก็มีปุ่มปรับคอมเพรสเซอร์แค่ปุ่มเดียวหมุนขึ้นกับลง