หัวข้อ: ถามเรื่องคอมเพรสเซอร์คุมไมค์ครับ

[pompattaya]

ผมเคยโม้ๆงานมี๊ตติ้งที่นครสวรรค์สองชั่วโมง  สุดท้ายคนฟังก็ไม่ได้อะไร

เปิดอีกรอบ ที่ห้องเครื่องเสียงกลางแจ้ง ผมว่าเป็นวิทยาทานที่น่าเชิดชูแน่ๆ พอให้เป็นพื้นฐาณของคนเครื่องเสียง

เพราะว่าตอนนี้มันมีอยู่แทบทุกอุปกรณ์ ในมิกเซอร์ดิจิตอลก็มีทุกแชนแนล ทุกAUX และสุดท้ายที่เมนเอาท์ก็มีให้อีก

พวก Speaker Management System หรือที่เรามักเรียกกันว่า ไดรว์แร็ค ก็มีให้ ผมว่ามันมีความจำเป็นต้องรู้กันแล้ว

ทำเครื่องเสียง สมัยก่อนก็แค่ปรับ ทุ้มแหลม ต่อมามีอีคิว 15แบนด์ 31แบนด์ มาให้คัดความถี่ พวกเครื่องเสียงก็ศึกษา

หาความรู้เพื่อคัดความถี่ที่ต้องการบูธเพิ่มหรือลดลง แต่ตอนนี่เป็นยุค DSP (ดิจิตอล ซิกแนล โปรเซสซิ่ง) มันไม่น่าจะยากเกิน

เอาหน่อย เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยเสริม ผมเชื่อคราวนี้แฟนคลับตรึมแน่ เพราะมันมีความจำเป็นต้องใช้กันแล้ว

[Nineyod]

เปิดอีกรอบ ที่ห้องเครื่องเสียงกลางแจ้ง ผมว่าเป็นวิทยาทานที่น่าเชิดชูแน่ๆ พอให้เป็นพื้นฐาณของคนเครื่องเสียง

เพราะว่าตอนนี้มันมีอยู่แทบทุกอุปกรณ์ ในมิกเซอร์ดิจิตอลก็มีทุกแชนแนล ทุกAUX และสุดท้ายที่เมนเอาท์ก็มีให้อีก

พวก Speaker Management System หรือที่เรามักเรียกกันว่า ไดรว์แร็ค ก็มีให้ ผมว่ามันมีความจำเป็นต้องรู้กันแล้ว

ทำเครื่องเสียง สมัยก่อนก็แค่ปรับ ทุ้มแหลม ต่อมามีอีคิว 15แบนด์ 31แบนด์ มาให้คัดความถี่ พวกเครื่องเสียงก็ศึกษา

หาความรู้เพื่อคัดความถี่ที่ต้องการบูธเพิ่มหรือลดลง แต่ตอนนี่เป็นยุค DSP (ดิจิตอล ซิกแนล โปรเซสซิ่ง) มันไม่น่าจะยากเกิน

เอาหน่อย เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยเสริม ผมเชื่อคราวนี้แฟนคลับตรึมแน่ เพราะมันมีความจำเป็นต้องใช้กันแล้ว

อากู๋ มีเยอะแล้วพี่ป้อม...

ไอ้ครั้นจะมีใครมาบอกให้อ่านกันมันก็ยากที่จะเข้าใจนะเรื่องนี้...

เรื่องนี้มันต้อง learning by doing ครับ(ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ มั่วอีกต่างหาก 555)

[pompattaya]

อากู๋ มีเยอะแล้วพี่ป้อม...

ไอ้ครั้นจะมีใครมาบอกให้อ่านกันมันก็ยากที่จะเข้าใจนะเรื่องนี้...

เรื่องนี้มันต้อง learning by doing ครับ(ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ มั่วอีกต่างหาก 555)

นั่นนะซิ เห็นจัดเวิร์คช็อป แต่ละครั้ง มีคนกระหล๋อมกระแหล๋ม ผมก็แค่อยากให้คนใช้งานกันเป็นเยอะๆ เพราะของมันน่าใช้

[นพ สุพรรณ]

เปิดอีกรอบ ที่ห้องเครื่องเสียงกลางแจ้ง ผมว่าเป็นวิทยาทานที่น่าเชิดชูแน่ๆ พอให้เป็นพื้นฐาณของคนเครื่องเสียง

เพราะว่าตอนนี้มันมีอยู่แทบทุกอุปกรณ์ ในมิกเซอร์ดิจิตอลก็มีทุกแชนแนล ทุกAUX และสุดท้ายที่เมนเอาท์ก็มีให้อีก

พวก Speaker Management System หรือที่เรามักเรียกกันว่า ไดรว์แร็ค ก็มีให้ ผมว่ามันมีความจำเป็นต้องรู้กันแล้ว

ทำเครื่องเสียง สมัยก่อนก็แค่ปรับ ทุ้มแหลม ต่อมามีอีคิว 15แบนด์ 31แบนด์ มาให้คัดความถี่ พวกเครื่องเสียงก็ศึกษา

หาความรู้เพื่อคัดความถี่ที่ต้องการบูธเพิ่มหรือลดลง แต่ตอนนี่เป็นยุค DSP (ดิจิตอล ซิกแนล โปรเซสซิ่ง) มันไม่น่าจะยากเกิน

เอาหน่อย เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยเสริม ผมเชื่อคราวนี้แฟนคลับตรึมแน่ เพราะมันมีความจำเป็นต้องใช้กันแล้ว

จั๊กแหล่ว

[แบงค์นาเซ็ง]

ตามๆๆๆ

[อนันตชัย ระยอง]

Gate ไม่เคยใช้ ผมว่ามันไม่จำเป็นสำหรับไมค์ร้อง
แต่ Compressor ต้องใช้ คนแต่ละคน ร้องเสียงดังไม้เท่ากัน

ใน DL1608 ทำได้ง่ายมาก ๆ

[แบงค์นาเซ็ง]

สอนให้หน่อยครับอาจารย์ ถ้าไม่สอน แล้วมาเยี่ยมผมเอาเครื่องผมไปใช้แล้วเสียงนักร้องไม่เพราะ อย่ามาโทษว่าเครื่องผมไม่ดีนะต้องโทษนักร้องเองนะจะบอกให้ เอิ๊กกกกก

[ครูนันต์ หนองบัว]

นั่นแหละ ถ้าเข้าใจแล้วไม่ยาก ไอ้ที่ลำบากทุกวันนี้เวลาไปเจอคนมีใช้แต่ไม่เข้าใจใช้ ถึงอยากให้มีคนสอนการใช้

หรือถ้าไม่แน่ใจก็ทำอย่างเจ้าอ๊อฟมันว่า ปล่อยไฟวิ่งผ่านเฉยๆดีกว่า ทรมานนะน้านพ ทำเสียงแล้วการแสดงคุมคนไม่อยู่

เพราะต้องวิ่งผ่านไอ้เจ้าตัวเนี้ยตัวเดียว เสียงวูบๆวาบๆ เจ้าของเครื่องก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไปวานคนอื่นเขาเซทมาให้

เกทผมไม่ใช้ เพราะการแสดงมันมีอารมณ์ ทั้งเบาทั้งหนัก ความกว้าง ความมากน้อยของจำนวนผู้ชม อารมณ์จุดนั้นมันต้อง

ตะโกนกับคนดูร้อยสองร้อย หรือ พันสองพัน เคยทำพอมันตะโกนแรงกว่าที่คิด สัญญานมันใหญ่เกินเกทที่เปิดไว้ เสียงวูบเลย ซาวด์โดนด่าซิครับ

มีอบรมที่ไหน ผมก็จะไปครับ บอกไหนหน่อยเถอะ  อยากทำเป็นจริงๆ เรื่อง เครื่องปรุง เนี่ย   ผมสนับสนุนให้จัดอบรมให้หน่อยครับ ผมว่ามีคนต้องการเรียนรู้อีกเยอะคับผม

[ปานชนกมิวสิค]

มีอบรมที่ไหน ผมก็จะไปครับ บอกไหนหน่อยเถอะ  อยากทำเป็นจริงๆ เรื่อง เครื่องปรุง เนี่ย   ผมสนับสนุนให้จัดอบรมให้หน่อยครับ ผมว่ามีคนต้องการเรียนรู้อีกเยอะคับผม

ด้วยคน ครับผม
อยากใช้ให้เป็น จริงๆ ครับ
 

นั่นแหละ ถ้าเข้าใจแล้วไม่ยาก ไอ้ที่ลำบากทุกวันนี้เวลาไปเจอคนมีใช้แต่ไม่เข้าใจใช้ ถึงอยากให้มีคนสอนการใช้

หรือถ้าไม่แน่ใจก็ทำอย่างเจ้าอ๊อฟมันว่า ปล่อยไฟวิ่งผ่านเฉยๆดีกว่า ทรมานนะน้านพ ทำเสียงแล้วการแสดงคุมคนไม่อยู่

เพราะต้องวิ่งผ่านไอ้เจ้าตัวเนี้ยตัวเดียว เสียงวูบๆวาบๆ เจ้าของเครื่องก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไปวานคนอื่นเขาเซทมาให้

เกทผมไม่ใช้ เพราะการแสดงมันมีอารมณ์ ทั้งเบาทั้งหนัก ความกว้าง ความมากน้อยของจำนวนผู้ชม อารมณ์จุดนั้นมันต้อง

ตะโกนกับคนดูร้อยสองร้อย หรือ พันสองพัน เคยทำพอมันตะโกนแรงกว่าที่คิด สัญญานมันใหญ่เกินเกทที่เปิดไว้ เสียงวูบเลย ซาวด์โดนด่าซิครับ

ครับ...เมื่อปีใหม่ที่ผ่านมามีโอกาสได้ใช้ เสียงวูปๆๆ เลย ครับ ด้วยความที่ปรับไม่เป็น
และไม่รู้ จริง
            ร้องเล่นกันเองในบ้าน คนไหนร้องเสียงคงที่หน่อยก็นิ่ง ไม่วูป
คนไหนตะโกน ตะเบ็งเสียง วูปทันหูฟัง
 

[แบงค์นาเซ็ง]

มีอบรมที่ไหน ผมก็จะไปครับ บอกไหนหน่อยเถอะ  อยากทำเป็นจริงๆ เรื่อง เครื่องปรุง เนี่ย   ผมสนับสนุนให้จัดอบรมให้หน่อยครับ ผมว่ามีคนต้องการเรียนรู้อีกเยอะคับผม

จะมีไหมครับบบบบ

[tornadonaja]

 

[Sumatethep]

     
ดีใจที่มีท่านมากด้วยประสบการณ์คอยชี้แนะและให้ความรู้อยู่ในนี้ตลอดเวลา

 
ผมว่านอกจากคอมเพรสเซอร์จะคอยควบคุมไมค์แล้ว  ฟังก์ชั่น Threshold ที่มีทั้งในกลุ่ม Expander/Gate และกลุ่ม Compressor จะคอยควบคุมให้สัญญาณเสียงดนตรีแต่ละไลน์ที่เข้ามาให้มีระดับดังเท่าๆกันก่อนส่งไปสู่เครื่องขยายและออกลำโพงต่อไป

 
ขอบคุณ สมาชิกรุ่นพี่ทุกท่านที่คอยให้ความรู้แก่รุ่นน้องเสมอมา ครับ

[Sumatethep]

จากหัวเรื่องของกระทู้ ผมคิดตามหลักการง่ายๆเลย ตามที่มีอุปกรณ์ไม่มากมายซับซ้อนนัก
       
        คิดตามท่านปรมาจารย์นพ(ผมเลือกมาหนึ่งอย่าง)  คือเอาไมโครโฟนเสียบเข้าช่องInput หลังเครื่องCompressor แล้วต่อOutput ออกไปยังMixer เลย ไปเข้าช่องไหนดีหละ ต้องดูเหตุผลหลักวิชาการออกแบบมิกเซอร์อีก

        ครูภาษาไทยอย่างผมก็ใช้ทักษะ"หัวใจนักปราชญ"  ฟัง คิด อ่าน ถาม(พูด) และเขียนบันทึกจากท่านผู้รู้
        ถ้าท่านมีมิกเซอร์ระดับห้องบันทึกเสียงท่านย่อมรู้ดีว่าเข้าช่องใดดี แต่คนมือสมัครเล่นอย่างผมมิกเซอร์ผมมี 12 Line ไม่มีช่อง Insert เลยแม้แต่ช่องเดียว มีช่อง Aux (Send) แค่ 1 ช่อง(โมโน สะด้วย) ช่อง Effect มี1 ช่อง และช่อง Return  อีก 1 ช่อง

         ช่องซับกรุปอะไร ไม่มีเลย  แค่นี้นอกนั้นก็มีปุ่มเร่ง Aux  เร่ง Effect และเร่ง Return 3ปุ่มหลัก
         
         8  Lineผมใช้รับซาวด์eXtme แยกแบบครูภูมิ  เหลือ 4  Line น่าจะใช้เสียบไมค์ที่ต่อมาจากหลังCompressor ได้  ผมเลือกเสียบลง Line (ถ้าไม่อยากแย่งไมค์ก็ต่อไมค์ลอยเพิ่มที่ต้นทางเอานะครับ)
        ส่วนช่อง Aux  ผมสงวนไว้ต่อเข้า Effect (หรือ Compressor ที่เหลืออีกแชนแชล ไว้ใช้คุมซาวด์ดนตรี ซึ่งทำได้ครับ เซทเอาเฉพาะเสียงจากAux ทุกLine (สัญญาณPre)

        เวลาเล่นจริง Compressor แชนแนลซ้าย คุมไมโครโฟน  แชนแนลขวาคุมซาวด์ดนตรี ปล่อยแเสียงออกจากMainOut L/R ของMixer ไปยังเครื่องขยายเสียงต่อไป ไมโครโฟนไม่ไปแทรกดนตรีให้วูบวาบเลยครับ

      ขอขอบคุณสมาชิกชั้นครูที่ให้ความรู้ครับ 
           

[นพ สุพรรณ]

จากหัวเรื่องของกระทู้ ผมคิดตามหลักการง่ายๆเลย ตามที่มีอุปกรณ์ไม่มากมายซับซ้อนนัก
       
        คิดตามท่านปรมาจารย์นพ(ผมเลือกมาหนึ่งอย่าง)  คือเอาไมโครโฟนเสียบเข้าช่องInput หลังเครื่องCompressor แล้วต่อOutput ออกไปยังMixer เลย ไปเข้าช่องไหนดีหละ ต้องดูเหตุผลหลักวิชาการออกแบบมิกเซอร์อีก

        ครูภาษาไทยอย่างผมก็ใช้ทักษะ"หัวใจนักปราชญ"  ฟัง คิด อ่าน ถาม(พูด) และเขียนบันทึกจากท่านผู้รู้
        ถ้าท่านมีมิกเซอร์ระดับห้องบันทึกเสียงท่านย่อมรู้ดีว่าเข้าช่องใดดี แต่คนมือสมัครเล่นอย่างผมมิกเซอร์ผมมี 12 Line ไม่มีช่อง Insert เลยแม้แต่ช่องเดียว มีช่อง Aux (Send) แค่ 1 ช่อง(โมโน สะด้วย) ช่อง Effect มี1 ช่อง และช่อง Return  อีก 1 ช่อง

         ช่องซับกรุปอะไร ไม่มีเลย  แค่นี้นอกนั้นก็มีปุ่มเร่ง Aux  เร่ง Effect และเร่ง Return 3ปุ่มหลัก
         
         8  Lineผมใช้รับซาวด์eXtme แยกแบบครูภูมิ  เหลือ 4  Line น่าจะใช้เสียบไมค์ที่ต่อมาจากหลังCompressor ได้  ผมเลือกเสียบลง Line (ถ้าไม่อยากแย่งไมค์ก็ต่อไมค์ลอยเพิ่มที่ต้นทางเอานะครับ)
        ส่วนช่อง Aux  ผมสงวนไว้ต่อเข้า Effect (หรือ Compressor ที่เหลืออีกแชนแชล ไว้ใช้คุมซาวด์ดนตรี ซึ่งทำได้ครับ เซทเอาเฉพาะเสียงจากAux ทุกLine (สัญญาณPre)

        เวลาเล่นจริง Compressor แชนแนลซ้าย คุมไมโครโฟน  แชนแนลขวาคุมซาวด์ดนตรี ปล่อยแเสียงออกจากMainOut L/R ของMixer ไปยังเครื่องขยายเสียงต่อไป ไมโครโฟนไม่ไปแทรกดนตรีให้วูบวาบเลยครับ

      ขอขอบคุณสมาชิกชั้นครูที่ให้ความรู้ครับ 
           

ยินดีด้วยครับครูที่ผลงานออกมาพอใจ. แม้จะใช้งานผิดชาวบ้านชาวเมืองเข้าไปบ้าง. แต่ก็เป็นไปตามข้อจำกัดของอุปกรณ์ที่มี

สิ่งที่จะพูดถึงก็คือ. โดยปกติแล้วซาวด์ดนตรีผมไม่ต่อผ่านคอมเพรสเซอร์.  และคิดว่าอีกหลายๆคนก็น่าจะเช่นกัน. เพราะมันจะทำให้เสียงดนตรีขาดไดนามิค. หรือขาดความหนักเบากระแทกกระทั้นของเสียง

สิ่งที่จะพูดต่อไปจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้สุดแล้วแต่ครู
เก็บคอมเพรสเซอร์สองช่องไว้ใช้กับไมค์ร้องสองตัวแยกกันดีกว่าครับ. สายที่ออกจากไมค์เอาเข้าคอมเพรสเซอร์ตัวละช่อง. ออกจากคอมเพรสเซอร์เข้ามิกซ์ที่ช่องไมค์สองช่อง. ช่องละตัว. ไลน์ดนตรีเสียบเข้าที่ไลน์อินตามปกติ.
สัญญาณออกจากมิกซ์ไปเข้าอีคิว เข้าครอส เข้าแอมป์ต่อไป. เป็นการต่อที่คนส่วนใหญ่เข้าทำกันและเครื่องครูที่มีอยู่ทำได้แน่นอน

มีที่อยากจะพูดเท่านี้แหละครับ. นอนแล้ว

[ปานชนกมิวสิค]

จากหัวเรื่องของกระทู้ ผมคิดตามหลักการง่ายๆเลย ตามที่มีอุปกรณ์ไม่มากมายซับซ้อนนัก
        
        คิดตามท่านปรมาจารย์นพ(ผมเลือกมาหนึ่งอย่าง)  คือเอาไมโครโฟนเสียบเข้าช่องInput หลังเครื่องCompressor แล้วต่อOutput ออกไปยังMixer เลย ไปเข้าช่องไหนดีหละ ต้องดูเหตุผลหลักวิชาการออกแบบมิกเซอร์อีก

        ครูภาษาไทยอย่างผมก็ใช้ทักษะ"หัวใจนักปราชญ"  ฟัง คิด อ่าน ถาม(พูด) และเขียนบันทึกจากท่านผู้รู้
        ถ้าท่านมีมิกเซอร์ระดับห้องบันทึกเสียงท่านย่อมรู้ดีว่าเข้าช่องใดดี แต่คนมือสมัครเล่นอย่างผมมิกเซอร์ผมมี 12 Line ไม่มีช่อง Insert เลยแม้แต่ช่องเดียว มีช่อง Aux (Send) แค่ 1 ช่อง(โมโน สะด้วย) ช่อง Effect มี1 ช่อง และช่อง Return  อีก 1 ช่อง

         ช่องซับกรุปอะไร ไม่มีเลย  แค่นี้นอกนั้นก็มีปุ่มเร่ง Aux  เร่ง Effect และเร่ง Return 3ปุ่มหลัก
        
         8  Lineผมใช้รับซาวด์eXtme แยกแบบครูภูมิ  เหลือ 4  Line น่าจะใช้เสียบไมค์ที่ต่อมาจากหลังCompressor ได้  ผมเลือกเสียบลง Line (ถ้าไม่อยากแย่งไมค์ก็ต่อไมค์ลอยเพิ่มที่ต้นทางเอานะครับ)
        ส่วนช่อง Aux  ผมสงวนไว้ต่อเข้า Effect (หรือ Compressor ที่เหลืออีกแชนแชล ไว้ใช้คุมซาวด์ดนตรี ซึ่งทำได้ครับ เซทเอาเฉพาะเสียงจากAux ทุกLine (สัญญาณPre)

        เวลาเล่นจริง Compressor แชนแนลซ้าย คุมไมโครโฟน  แชนแนลขวาคุมซาวด์ดนตรี ปล่อยแเสียงออกจากMainOut L/R ของMixer ไปยังเครื่องขยายเสียงต่อไป ไมโครโฟนไม่ไปแทรกดนตรีให้วูบวาบเลยครับ

      ขอขอบคุณสมาชิกชั้นครูที่ให้ความรู้ครับ  
          

ขอเก็บความรู้ ของครู ไว้เป็นประสบการณ์ ครับ

ยินดีด้วยครับครูที่ผลงานออกมาพอใจ. แม้จะใช้งานผิดชาวบ้านชาวเมืองเข้าไปบ้าง. แต่ก็เป็นไปตามข้อจำกัดของอุปกรณ์ที่มี

สิ่งที่จะพูดถึงก็คือ. โดยปกติแล้วซาวด์ดนตรีผมไม่ต่อผ่านคอมเพรสเซอร์.  และคิดว่าอีกหลายๆคนก็น่าจะเช่นกัน. เพราะมันจะทำให้เสียงดนตรีขาดไดนามิค. หรือขาดความหนักเบากระแทกกระทั้นของเสียง

สิ่งที่จะพูดต่อไปจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้สุดแล้วแต่ครู
เก็บคอมเพรสเซอร์สองช่องไว้ใช้กับไมค์ร้องสองตัวแยกกันดีกว่าครับ. สายที่ออกจากไมค์เอาเข้าคอมเพรสเซอร์ตัวละช่อง. ออกจากคอมเพรสเซอร์เข้ามิกซ์ที่ช่องไมค์สองช่อง. ช่องละตัว. ไลน์ดนตรีเสียบเข้าที่ไลน์อินตามปกติ.
สัญญาณออกจากมิกซ์ไปเข้าอีคิว เข้าครอส เข้าแอมป์ต่อไป. เป็นการต่อที่คนส่วนใหญ่เข้าทำกันและเครื่องครูที่มีอยู่ทำได้แน่นอน

มีที่อยากจะพูดเท่านี้แหละครับ. นอนแล้ว

ขอเก็บคำแนะนำประสบการณ์ ของ "น้านพ"  ไว้เป็นความรู้ ด้วยครับ
 

[tapepagon]

 
    เท่าที่อ่านมา แต่ละท่านที่ช่วยกันแสดงความคิดเห็น ผมเห็นว่าก็ถูกของท่านน๊ะครับ  โดยเหตุและผลของการใช้งานคอมเพล....มีไว้เพื่อป้องกันลำโพงไม่ให้ขาด  เพราะการการบันทึกเสียงเพลงของแต่ละค่าย แต่ละเพลง ความดังไม่เท่ากัน การศึกษาการใช้งานอย่างถูกวิธี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ท่านจะใช้มันอย่างคุ้มค่า  เพียงเราให้เวลากับความที่เรายังไม่รู้ไปที่ google และพิมพ์คำว่า "วิธีการใช้งานคอมเพรสเซอร์ยี่ห้อ.... " ท่านอาจได้รับคำตอบที่ถูกต้องและโล่งอกครับ
 
 

[เจตน์ หมื่นจิตร]

 Compressor ที่อยู่ใน Mix Alto Live ผมยังใช้ไม่เป็นเลย ปรับไปงั้นๆมากบ้างน้อยบ้าง ลดสุดบ้าง บางครั้งก็เห็นไฟคอมเพลสเซอร์ติดบ้างดับบ้าง ฟังไม่ออกครับ มั่วอย่างเดียว อยากให้อาจารย์แนะนำครับ   

[มานพ]

Compressor ที่อยู่ใน Mix Alto Live ผมยังใช้ไม่เป็นเลย ปรับไปงั้นๆมากบ้างน้อยบ้าง ลดสุดบ้าง บางครั้งก็เห็นไฟคอมเพลสเซอร์ติดบ้างดับบ้าง ฟังไม่ออกครับ มั่วอย่างเดียว อยากให้อาจารย์แนะนำครับ   

มีศัพท์ไม่กี่คำเบื้องต้นลองหาดูครับหมายความอย่างไร แล้วจะเป็นพื้นต่อยอดได้
threshold คืออะไร ระดับสัญญาณเกินที่เราตั้งจะเป็นอย่างไร
ratio ถ้าสัญญาณเกิน threshold สมมติเราตั้งไว้ 2:1 เมื่อเกินจุดนั้น สมมติสัญญาณเกิน 10 มันจะปล่อยมา 5
ตัวอย่างจราจรกำหนดความเร็วรถไว้ให้ขับ 90 กม แต่เราวิ่ง 100 จราจรจะบอกถ้าวิ่ง 95 หยวนๆ (2:1)
Attack คือ
release คือ
hard knee คือ?
soft knee คือ? เหมาะกับเสียงร้อง
gain

compressor ไม่ได้ใช้เพื่อจำกัดเสียงอย่างเดียว ยังช่วยทำให้เครื่องดนตรีบางอย่างน่าฟังขึ้นเช่นสแนร์

[แบงค์นาเซ็ง]

ยินดีด้วยครับครูที่ผลงานออกมาพอใจ. แม้จะใช้งานผิดชาวบ้านชาวเมืองเข้าไปบ้าง. แต่ก็เป็นไปตามข้อจำกัดของอุปกรณ์ที่มี

สิ่งที่จะพูดถึงก็คือ. โดยปกติแล้วซาวด์ดนตรีผมไม่ต่อผ่านคอมเพรสเซอร์.  และคิดว่าอีกหลายๆคนก็น่าจะเช่นกัน. เพราะมันจะทำให้เสียงดนตรีขาดไดนามิค. หรือขาดความหนักเบากระแทกกระทั้นของเสียง

สิ่งที่จะพูดต่อไปจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้สุดแล้วแต่ครู
เก็บคอมเพรสเซอร์สองช่องไว้ใช้กับไมค์ร้องสองตัวแยกกันดีกว่าครับ. สายที่ออกจากไมค์เอาเข้าคอมเพรสเซอร์ตัวละช่อง. ออกจากคอมเพรสเซอร์เข้ามิกซ์ที่ช่องไมค์สองช่อง. ช่องละตัว. ไลน์ดนตรีเสียบเข้าที่ไลน์อินตามปกติ.
สัญญาณออกจากมิกซ์ไปเข้าอีคิว เข้าครอส เข้าแอมป์ต่อไป. เป็นการต่อที่คนส่วนใหญ่เข้าทำกันและเครื่องครูที่มีอยู่ทำได้แน่นอน

มีที่อยากจะพูดเท่านี้แหละครับ. นอนแล้ว

ไมค์-คอมเพรสเซอร์-มิกซ์ ก็ใช้ Line 2 ช่อง ถ้ามีEffect นอกก็ออกจาก Aux 1 ไป Effect แล้วกลับมาเข้า Line อีก2 ช่องเราต้องใช้ช่องLine 4 ช่องถูกต้องไหมครับ

[Sumatethep]

ต่อไมโครโฟนเข้าคอมเพรสเซอร์ ออกจากคอมเพรสเซอร์เข้าLineในมิกเซอร์  ----------ผมว่าถูกแล้วครับ(ในมิกเซอร์ที่ไม่มีช่อง Insert)

แต่ ต่อAuxเข้ามายังเอฟเฟคแล้ว-น่าจะเข้า Return ตามวงจรนะครับ เพราะสัญญาณ AUX เขาออกแบบอย่างนั้น เวลาคุมสะดวกกว่าครับ (ผมได้ความรู้จากท่านนิมิตใหม่นะครับ ซึ่งท่านได้มาจาก K-One Music อีกต่อหนึ่ง ครับ)

... ขอขอบคุณท่าน K-ONE Music : http://www.tiggersound.com/webboard/index.php?topic=18846.msg177361#msg177361

http://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=42870.msg526768#msg526768

[เจตน์ หมื่นจิตร]

มีศัพท์ไม่กี่คำเบื้องต้นลองหาดูครับหมายความอย่างไร แล้วจะเป็นพื้นต่อยอดได้
threshold คืออะไร ระดับสัญญาณเกินที่เราตั้งจะเป็นอย่างไร
ratio ถ้าสัญญาณเกิน threshold สมมติเราตั้งไว้ 2:1 เมื่อเกินจุดนั้น สมมติสัญญาณเกิน 10 มันจะปล่อยมา 5
ตัวอย่างจราจรกำหนดความเร็วรถไว้ให้ขับ 90 กม แต่เราวิ่ง 100 จราจรจะบอกถ้าวิ่ง 95 หยวนๆ (2:1)
Attack คือ
release คือ
hard knee คือ?
soft knee คือ? เหมาะกับเสียงร้อง
gain

compressor ไม่ได้ใช้เพื่อจำกัดเสียงอย่างเดียว ยังช่วยทำให้เครื่องดนตรีบางอย่างน่าฟังขึ้นเช่นสแนร์

   ขอบคุณครับพี่ ผมจะศึกษาดูครับแต่ยังไม่มีเครื่องตอนนี้ครับ มิกซ์ที่มีก็มีปุ่มปรับคอมเพรสเซอร์แค่ปุ่มเดียวหมุนขึ้นกับลง