0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ไปชะเง้อดูเห็นมีแต่คนแก่ เลยไปซื้อที่ร้านฝั่งตรงข้าม
ร้านฝั่งตรงข้ามที่ท่าน X-men เข้าร้าน สกนธ์ อีเลคทรอนิคส์ บ้านหม้อ
ป๋าแบทฯ ครับ.. พอมีเบอร์เฮียเค้าเปล่าครับ.. อยากได้ไมค์ HTDZ อีกซักตัว ไม่รู้ว่ายังมีอยู่หรือเปล่า...ติดใจครับ.. เสียง Flat ไม่ Boot Bass
เอาไปเลย นี่หละแม่นบ่ 0818284519 ร้านสกน ร้านพรสยาม 0863030388
BALANCE & UNBALANCEโดยทั่งไปการนำสัญญาณในระบบเสียงที่นิยมใช้กันนั้น มี 2 แบบคือ1. BALANCE SIGNAL2. UNBALANCE SIGNALการนำสัญญาณทั้งสองแบบ แตกต่างกันที่ตัวนำที่ใช้นำสัญญาณหรือ สายสัญญาณนั่นเอง สายบาลานซ์จะมีตัวนำ 3 เส้นในการนำสัญญาณส่วน อันบาลานซ์ ใช้แค่ 2 เส้น1. ฺBALANCE แจ็คที่ใช้กับสัญญาณบาลานซ์ ที่นิยม มี 2 แบบ คือ1.1 XLR ( EXTRA LOW RESISTANCE ) ซึ่งหมานถึง สัญญาณที่มีความต้านทานต่ำมาก ( เป็นผลให้สามารถเดินสายสัญญาณได้ไกล ๆ โดยปราศจากสัญญาณรบกวน ) โดยสัญญาณจากขาต่าง ๆ ที่ต่อเป็นมารตฐานสากล คือขาที่ 1 กราวด์ หรือ shieldขาที่ 2 สัญญาณ + หรือ HOT SIGNALขาที่ 3 สัญญาณลบ หรือ COOL SIGNAL2.2 1/4 TRS ( TIP RING SHEEVE ) ซึ่งหมายถึง จุด ต่อสามจุดของแจ็คแบบ TRSโดย TIP จะเปรียบเสมือน ขาที่ 2 ของแจ็ค XLR, RING จะเหมือน ขาที่ 3ของแจ็ค XLR และ S็HEEVE จะเหมือนกับ ขาที่ 1 ของแจ็ค XLR..สายสัญญาณแบบ BALANCE มีการแยกสัญญาณ + และสัญญาณ - ออกจากกันโดยมีสาย Shield เป็นกราวด์ที่เดินคู่ขนานมาเพื่อป้องกันสัญญาณรบการจากภายนอก ทำให้สัญญาณที่ได้มีความสะอาด ใส เสียงสัญญาณรบกวน( NOISE ) น้อย2. UNBALANCE แจ็คที่นิยมใช้ในระบบเสียงสำหรับ UNBALANCE คือแจ็ค PHONO , RCA การต่อสัญญาณแบบนี้จะรวมเอาสัญญาณ -หรือ COOL SIGNAL รวมไว้กับ กราวด์ หรือ SHEEVE ทำให้แทนทีสายกราวด์จะทำหน้าที่ป้องกันเสียงรบกวนอย่างเดียวเหมือน BALANCEต้องมาทำหน้าที่นำสัญญาณด้วย ดังนั้นสัญญาณรบกวน จากสายกราวด์จึงปะปนมากับ สัญญาณ - จึงทำให้การต่อแบบ UNBALANCE จะมีสัญญาณรบกวนมาก ถ้ายิ่งเดินสายไกล ๆการใช้สายแบบ UNBALANCEนั้นจะใช้เฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้สายไม่ยาวมาก เช่น สายแจ็คกีตาร์ สายแจ็คCD, TAPE ส่วนการเดินสายไกล ๆ เช่น สาย มัลติคอร์หรือ สาย CROSSOVERจะนิยมใช้แบบ BALANCE มากกว่า(....)บทความจาก MD.HOUSE และ ท๊อปมิวสิคครับ Tommy tiggersound ขอบคุณครับ ขอบคุณพี่นิมิตรใหม่ ครับผม