ผู้เขียน หัวข้อ: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ  (อ่าน 5032 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มานพ

  • ผู้ดูแลระบบ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 123095
  • 9664E44E,11D88A55,7C1132A8
สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 15:07:01 น. »
    ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่ามีผลต่อระบบภาพและเสียง
เพราะทะนงตนว่าเราก็เรียนช่างไฟฟ้ามา ไปเจอมาด้วยตัวเองครับ
เมื่อเราป้อนไฟฟ้าที่ไหลได้สะดวก ให้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น LCD
ดูภาพจะมีรายละเอียดของสีอิ่มขึ้น หรือลำโพงแบบ active, Amplifier
หรือเครื่องเสียงต่างๆ เสียงที่ได้ฟังดีขึ้นมากครับ รายละเอียดและอุปกรณ์
ของถามพี่มะละกอดูครับ อาจได้ของดีราคาไม่แพง
   และสำหรับท่านที่รับงานดนตรีหรือฟังเพลงตามบ้าน ใส่ใจสายนำสัญญาณ
สักนิดก็ดีครับ ง่ายๆ ไม่แพงลองหาสาย CAT5e มาถักทำสายลำโพง
หรือ interconnect ระหว่างเครื่องเสียง รับรองเสียงดีกว่าสายที่ซื้อมา
ไม่กี่ตังค์แน่ครับ ว่างๆ ก็เลยไปเดินบ้านหม้อได้ของมาทำเล่น ในภาพ
ต่อจาก DAC ไปเข้า Amplifier คุณภาพเสียงโอเคเลยครับ

    มีหลายๆ เจ้าใน internet ที่ใช้สายและหัวแพงๆ มาทำเช่น Kimbler ,Furutech
หรือ web นี้ครับสายเทพ http://www.zecable.com

แต่ควรเป็นสิ่งสุดท้ายสำหรับการลงทุน  ;D






ปลั๊กไฟที่เลือกใช้นั้นมีผลต่อคุณภาพเสียงอย่างแน่นอน ตรงนี้สามารถยืนยันฟันธงกันได้ 100% เมื่อเป็นการเปรียบเทียบระหว่างปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานกับที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่หากเป็นการเปรียบเทียบปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานด้วยกันแล้วก็คงต้องยกให้เป็นเรื่องความรู้สึกคิดเห็นของแต่ละบุคคลนั่นล่ะครับ ทั้งนี้ก็เพราะว่า

1. ระดับของความแตกต่างทางเสียงที่ได้รับเพียงเล็กน้อยไม่คุ้มค่าสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง อาจจะถูกมองว่ามากและคุ้มค่าสุดๆ สำหรับคนอีกกลุ่มหนึ่ง

2. กรณีเปลี่ยนไปใช้ปลั๊กไฟที่มียี่ห้อและราคาสูงแล้วฟังความแตกต่างไม่ได้เลย คนกลุ่มหนึ่งก็จะบอกว่า "ฟังไม่ออก-ก็คือฟังไม่ออก" หมายถึงว่าน่าจะถึงจุดสูงสุดที่พวกเขาจะสามารถดำเนินการได้กับตรงส่วนนี้ของระบบแล้ว...และก็ไม่ต้องไปวุ่นวายอะไรกับจุดนี้อีกต่อไป (หรืออาจจะขายทิ้งแล้วกลับไปใช้ปลั๊กไฟอันเดิมที่ราคาประหยัดกว่า) ในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งจะยังเฝ้าอดทนพยายามฟังความแตกต่างของเสียงให้ออก...ให้จงได้ ซึ่งก็จะมีเรื่อง "เบิร์น-อิน" ซึ่งถูกถือให้เป็น "เทศวลี" ยอดฮิตสำหรับผ่องถ่ายคลายความกังวลของผู้ใช้งานในระยะทำใจ...ว่ามันไม่เวิร์คแล้วล่ะโยม

อันที่จริงแล้วยังมีอีกหลายส่วนในเรื่องของการเสริมคุณภาพไฟฟ้าที่จะป้อนเข้าสู่ระบบเครื่องเสียง เช่นคุณภาพของเบรคเกอร์, คัตเอาท์, สายไฟที่เดินมาจากแผงไฟ, การแยกกราวด์, การเลือกใช้ท่อร้อยสายไฟ ไปถึงการใช้อุปกรณ์รักษาระดับแรงดันไฟฟ้าและกรองสัญญาณรบกวนในกระแสไฟฟ้าต่างๆ

เมื่อมองถึงตรงนี้แล้วจะเห็นว่า ปลั๊กไฟนั้นเป็นเพียงจุดเล็กๆ ในกระบวนการส่งจ่ายไฟฟ้า ทั้งนี้ก็มิได้หมายถึงว่าปลั๊กไฟไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่ประเด็นที่น่าตกอกตกใจแก่ผู้ได้ไปพบ-ได้ไปเห็นก็คือบางนักเล่นที่ใช้ปลั๊กไฟราคาสูงๆ นั้นยังใช้สายไฟก่อนเข้าปลั๊กคุณภาพไม่ต่างจากที่ใช้ในห้องแถว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใฝ่ทดลองเล่นอุปกรณ์ในเชิงนี้ด้วยแล้วยิ่งดูไม่เหมาะสมกับการไปวิเคราะห์อภิปรายคุณลักษณะผลลัพธ์ด้านต่างๆ ที่พึงจะได้ภายใต้สภาวะแวดล้อมในการทดสอบที่เป็นตัวแปรเชิงด้อยที่สุดของระบบ..! เพราะเชื่อว่าผู้ที่สนใจเกือบทั้งหมดนั้นจะต้องการทราบผลลัพธ์ที่ได้ในสภาวะแวดล้อมของการทดสอบที่ดีที่สุด...ใกล้เคียงจุดสูงสุดของคุณภาพที่ปลั๊กไฟ หรืออุปกรณ์ทดสอบต่างๆ เหล่านั้นพึงจะให้ออกมาได้

มีข้อควรพิจารณาจากเพื่อนๆ นักเล่นรุ่นใหญ่เกี่ยวกับเรื่องปลั๊กไฟ (ซึ่งผมเองก็เห็นด้วย) ดังนี้ครับ

1. เรื่องปลั๊กไฟนั้น ควรจะเป็นประเด็นสุดท้ายในการลงทุนกับระบบเครื่องเสียง...โดยเฉพาะผู้ที่มีงบประมาณจำกัด จำเขี่ย...แต่ก็ต้องจัดระบบไฟฟ้าให้ได้มาตรฐานด้วยเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

2. หากคุณกำลังจะทำห้องฟังขึ้นมาใหม่ ก็แนะนำให้เลือกใช้ปลั๊กไฟและสายไฟที่ดีที่สุดเท่าที่จะจัดหาได้ในงบประมาณขณะนั้น...อย่างน้อยๆ ก็ต้องได้ระดับมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งนี้เพราะการจะไปปรับเปลี่ยนในภายหลังจะมีความยุ่งยากและกระทบต่อตัวห้องได้

3. "ไม่ควรคิด" แก้ปัญหาความไม่เข้ากันหรือไปกันไม่ได้ (แมทชิ่ง - Matching) ของชุดเครื่องเสียงหลัก (แอมป์ - ลำโพง - เครื่องเล่น) ด้วยปลั๊กไฟ หรือสายไฟ เช่นอาการเสียงกลางโด่งมาก แหลมกัดหู เสียงทุ้มบวมหรือลงได้ไม่ลึก เพราะถึงแม้อุปกรณ์เหล่านี้อาจให้ผลแตกต่างทางน้ำเสียงได้บ้าง แต่ก็จะ "ไม่มากพอ" ที่จะชดเชยปัญหาความไม่เข้ากันของอุปกรณ์ในส่วนเครื่องเสียงหลักได้เลย

4. มิติเวทีเสียงที่จะได้ยินนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดวางตำแหน่งลำโพง, จุดนั่งฟังและสภาพทางอคุสติคภายในห้องฟังที่จะต้องเหมาะสมลงตัว ซึ่งปัญหานี้เป็นเรื่องเชิงอคุสติคที่จะต้องแก้ไขด้วยวิถีทางอคุสติค...ไม่ใช่แก้ไขด้วยการเปลี่ยนปลั๊กไฟ แต่หากการปรับเซ็ตต่างๆ มีความเหมาะสมแล้ว ปลั๊กไฟที่ดีก็มีแนวโน้มที่จะช่วยให้ความชัดเจนของมิติเสียงดีขึ้นได้เหมือนกัน

5. ลักษณะจุดตำแหน่งของเสียงในเวทีหรือที่มักเรียกกันว่า "รูปวง" นั้นเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้โดยผู้ทำการบันทึก-ผสมเสียง หรือ ซาวด์เอ็นจิเนียร์ ซึ่งสามารถฟังเปรียบเทียบตำแหน่งโดยรวมได้จากเฮดโฟน โดยไม่ควรเปลี่ยนแปรวูบวาบไปมาจากการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ส่วนที่ส่งจ่ายไฟฟ้าให้กับระบบเครื่องเสียง.

.... การต่อผ่าน เซฟทีคัต  กับต่อตรง  การต่อผ่านเซฟทีคัตช่วยในแง่ของความปลอดภัยจากการช๊อตครับ  ซึ่งแน่นอนมีผลต่อเสียงด้วย  จะฟังออกหรือไม่ขึ้นอยู่กับเครื่องเสียงที่ใช้ว่าดีเพียงใด  ในส่วนของการต่อตรงผมว่าต่อผ่านเบรคเกอร์แอมป์สูงๆหรือใช้สะพานไฟแบบโบราณประมาณนี้น่าจะเพียงพอแล้วและได้คุณภาพเสียงดีกว่าต่อผ่านเซฟทีคัตด้วยในขณะที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง

.... เรื่องสายไฟที่เดินมาเข้าปลั๊กไฟคุณภาพสูงในความเห็นของผมตรงช่วงนี้ใช้สายหน้าตัดใหญ่หน่อย  สี่สแควร์มิลมาก็เพียงพอแล้ว2.5เล็กไปหน่อย   เดินมาสองเส้นแยกระหว่างดิจิตอล  อนาล็อก  ทำกราวด์ดีๆ   สายไฟที่เดินมาจากเบรคเกอร์ผมมองว่าเดินมาโดยไม่มีการตัดต่อสายระหว่างทาง  ไม่มีอะไรมาแบ่งระหว่างทางก็เพียงพอแล้ว  หากลงทุนเดินสายดีๆแพงๆมาแม้มีผลกับเสียงแต่น่าจะใช้งบประมาณมากไปทั้งสายไฟดังกล่าวจะกำหนดลักษณะเสียงของทั้งระบบซิสเต็ม  สู้เราเอามาทุ่มทุนตรงปลายทางกับสายไฟดีๆก่อนเข้าเครื่อง   เครื่องกรองไฟดีๆประมาณนี้แล้วแยกใช้สายไฟดีๆให้เหมาะสมกับแต่ละเครื่องดีกว่าครับ  จากประสบการณ์ของผมสายไฟบางเส้นดีกับเพาเวอร์แอมป์แต่กับซีดีฟังแล้วพิกลๆก็มีทั้งที่ราคาต่อเมตรไม่ใช่ถูกๆ

......เรื่องการเบริน์อิน  ผมยังคงยืนยันครับว่าจำเป็นแม้กับสายไฟปลั๊กไฟเรื่องเสียบแล้วสรุปเลยไม่สามารถกระทำได้ครับเว้นแต่ burn  in มาเข้าที่แล้วแบบนี้พอไหวครับ
 
......ที่ผมตอบมาอย่าเพิ่งด่วนเชื่อนะครับ เพราะที่จะแน่ใจได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อได้ลองด้วยตัวเอง  แต่สำหรับผมแล้วจากที่ได้ลองมาสายไฟปลั๊กไฟเป็นส่วนที่สำคัญในระบบเครื่องเสียงด้วย  แค่รางปลั๊กที่ขายทั่วไปกับรางปลั๊กดีๆที่เราทำขึ้นยังฟังออกว่าดี  ดังนั้นหากเป็นไปได้ลงทุนอย่างน้อยกับการเดินสายมาใหม่ แบบไม่ตัดต่อระหว่างทางสักสี่สแควร์มิลและเต้ารับไฟที่ดีพอควรเช่นเนชั่นแนลแท้  ระบบกราวด์ที่ดีแบบนี้ก็แจ่มแล้ว  (ตรงนี้คุมช่างไฟให้ดีบางคนมักจะประหยัดต้นทุน  เอาสายไฟที่มีอยู่เดิมมาต่อกันระหว่างทาง จะได้ไม่ต้องไปซื้อมาใหม่   ทั้งๆที่ค่าสายไฟถูกกว่าค่าแรงแยะครับ)

......หากทำตามที่ว่าแล้วทีนี้ลองครับสลับกันฟังกับที่เคยเสียบไว้เดิมจะคิดว่ารู้งี้ทำนานแล้วครับ  เพราะสายไฟ  ที่เดินมาไม่ดีมีการตัดต่อระหว่างทางและ  เต้ารับไฟไม่ดีพวกเต้ารับปลอม  รวมทั้งรางปลั๊กที่ไม่ดี  มีส่วนในการทำให้เครื่องเสียงของเราแสดงศักยภาพไม่ได้เต็มที่ครับ

*จาก http://www.wijitboonchoo.com และดัดแปลงแก้ไขเพิ่มเติมโดย Headphoneguru

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 15:35:54 น. โดย มานพ »

ออฟไลน์ อ๊อด ลำพูน

  • คณะก่อการ
  • ระดับ 5
  • ***
  • กระทู้: 1281
  • HL#> 740EB29E
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 16:33:32 น. »
ขอบคุณครับอ้าย แต่ที่เชียงใหม่หายากจริงๆครับกับอุปกรณ์ที่ว่านี่ หรือเราไม่รู้จัก อิ อิ
ตอนนี้กำลังทดลองทำสาย mini to imin อยู่ ยากจริงๆ แต่ก็มันดีครับ นั่งอ่านจากบทความ
หลายๆที่แล้ว ทำให้เกิดความอยากครับ :thank1:


ไปซื้อร้านขายเครื่องไฟฟ้าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 17:56:39 น. โดย มานพ »

ออฟไลน์ อู๊ด โคจร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 6842
  • You'll never drunk alone
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 16:53:42 น. »
 :thank1: :thank1: :thank1: :thank1:

แหะๆ ตัวกรองไฟผมก็มีขายนะครับ เป็น EMI filter ต่อใช้งานแบบอนุกรม(series)  ;D ;D ;D ;D ;D

ประมาณนี้ครับ ใหญ่กว่านี้ก็มี  ;D ;D ;D




m sound

  • บุคคลทั่วไป
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2010, 16:54:07 น. »
ขอบคุณครับอ้าย แต่ที่เชียงใหม่หายากจริงๆครับกับอุปกรณ์ที่ว่านี่ หรือเราไม่รู้จัก อิ อิ
ตอนนี้กำลังทดลองทำสาย mini to imin อยู่ ยากจริงๆ แต่ก็มันดีครับ นั่งอ่านจากบทความ
หลายๆที่แล้ว ทำให้เกิดความอยากครับ :thank1:
เห็นสายเ AC เพาเวอร์แอมป์ยี่ห้อดังๆ หรือแม้แต่ไม่ดังในปัจจุบัน เดี๋ยวนี้ มาตรฐานมากครับ (เช่น Fine&Fine) เห็นแล้วอุ่นใจครับ..(ทั้งขนาดและปลั๊ก) ที่ไหนก็เถอะครับ.(ยกเว้นกรุงเทพ.ฯ) สายพร้อม/หัวปลั๊กไฟ AC อย่างที่ในภาพ.หาไม่ได้หรอกครับ...ปลั๊กไฟ AC เข้า เพาเวอร์แอมป์(แบบเดียวกับที่ใช้กับเครื่อง PC ไปเลาะหาดู มีแต่แบบอ่อน ๆ คาดว่าสายในคงเล็ก ๆ ไม่เหมาะเป็นสายไฟเข้า เพาเวอร์แอมป์เป็นแน่ พยายามหาซื้อตัวปลั๊ก+สาย 2.5 มาประกอบเอง สุดยากเย็นแสนเข็ญครับ...ได้แต่ไม่ถูกใจครับ....ทั้งปลั๊กตัวผู้+ปลั๊กตัวเมีย(แบบเดียวกับท้ายเครื่อง PC+สาย แหล่งขายสายไฟ AC ดั่งในภาพ หรือเป็นอุปกรณ์แยกชิ้นก็ได้ครับ อยู่ที่ไหน ท่านใดทราบบ้างครับ.... :ho: :ho: :ho:

ออฟไลน์ เด็กชายเคยโสด

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 20083
  • 6E65CE52,7309F48F,48B54692,6E674E74,1E001EF5
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 07:31:29 น. »
ยี่ห้อนี้ดีไหมครับ   มีผู้ใหญ่ใจดีให้มาครับ   cooper


ออฟไลน์ นายเอ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 4504
  • 748A44D7(X-WIN)
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 07:38:45 น. »
ผมใช้เต้ารับ ไม้ และ ปลักไฟของ Eagle และ Cooperเสียบแน่นหนาดี สายไฟเป็นแกนเดียว หัวท้ายของ Pass&seymour จากร้าน HIfi Hut

สายลำโพง ของชุดฟังเพลงใช้ Monster สายทองแดง  และ ของ QAD สายเงิน  
          สายMonster เด่นย่านเบส เสียงอิ่มหนา
          สาย Qad      เด่นกลาง แหลม รายละเอียดดี มิติชัด

สายสัญญาณของ Amphenol หัว RCA หรูๆ ที่ณัฐพงษ์ก็เพียงพอ

และเท่าที่ลองเล่นสาย ซื้อบางยืมมาลองบ้าง มีผลกับเครื่องเสียงมากจริงๆ   :th2:

แม้แต่งาน พีเอ สายเล็กไป เบสก็เล็กตามไปด้วย อันนี้ลุงหมอพ่อน้องโอ๊ต เคยเจอมาจริงๆ

ออฟไลน์ นายเอ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 4504
  • 748A44D7(X-WIN)
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 07:40:09 น. »
ยี่ห้อนี้ดีไหมครับ   มีผู้ใหญ่ใจดีให้มาครับ   cooper

ผมใช้อยู่ครับ  :th2: ไงก็ดีกว่าปลั๊กสามคาทั่วไปอยู่โขครับ

m sound

  • บุคคลทั่วไป
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 07:55:06 น. »
ผมใช้อยู่ครับ  :th2: ไงก็ดีกว่าปลั๊กสามคาทั่วไปอยู่โขครับ
แบบสามขาทั่วไป (ซื้อที่โกลบอลเฮ้าส์.ดีที่สุดที่จะหาได้)นำมาประกอบเองยังไม่ได้ดั่งใจเลยครับ..บางช่องบางตัวมี หลวม โยก ไม่แน่น เสี่ยงต่อการ สปาร์ค ร้อน สุดท้าย ไหม้เลยครับ..ถ้าเป็นดั่งในภาพในนี้..โอกาส หลวม โยก แทบไม่มี..การสปริงตัว.เสถียรกว่า ด้วยเหตุ.ใช้วัสดุเกรดสูงกว่าทั่ว ๆไปครับ... :th1: :th1: :th1:

ออฟไลน์ เด็กชายเคยโสด

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 20083
  • 6E65CE52,7309F48F,48B54692,6E674E74,1E001EF5
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 08:09:55 น. »
ผมใช้อยู่ครับ  :th2: ไงก็ดีกว่าปลั๊กสามคาทั่วไปอยู่โขครับ

แล้วสายไฟล่ะครับ  วานชี้แนะทีครับท่านกูรู

ออฟไลน์ มานพ

  • ผู้ดูแลระบบ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 123095
  • 9664E44E,11D88A55,7C1132A8
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 08:19:18 น. »
แล้วสายไฟล่ะครับ  วานชี้แนะทีครับท่านกูรู

ติดต่อพี่มะละกอเลยครับเผื่อเหลือ จากกระทู้นี้
http://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=30750

เต้ารับควรจะเป็นทองแดงล้วนๆ เป็นของจีนที่บ้านหม้อก็มี
วันนี้ถ้าว่างผมว่าจะไปเยาวราช พี่ที่เอา hardlock ไปให้
เขาจะสอนถักสายสัญญาณแบบสี่เส้นให้  แต่กลัวม็อบวันนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 08:23:26 น. โดย มานพ »

ออฟไลน์ นายเอ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 4504
  • 748A44D7(X-WIN)
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 08:24:41 น. »
แล้วสายไฟล่ะครับ  วานชี้แนะทีครับท่านกูรู
ใช้กับพาวเวอร์ก็ใหญ่ๆ หน่อย ใช้กับเครื่องอื่น ๆ ซีดี ปรีแอมป์ ก็ลดขนาดลงมา ใหญ่ไปก็ไม่ดี
ที่นี่ดูที่ทองแดง ชนวน ดูดีมีมาตรฐานหรือเปล่า ก็น่าจะพอใช้แล้วนะ  ผมซื้อสายของ USA แท้ๆ ราคาต่อเมตรแพงมาก เลยซื้อแค่ ครึ่งเมตร  :hap3:

ออฟไลน์ สไปเดอร์แมน

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 4755
  • HL#648948B1 (x-men)
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 08:41:10 น. »
ไปดูที่นี่อีกที่ครับ.... ;D

http://www.avbestbuy.com/catalog/index.php?cPath=90

ออฟไลน์ กฤษฎานคร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4504
  • HL#-- 4C9C3998 [หมอโป่งจัดให้]
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 09:57:37 น. »
ควรเป็นสิ่งสุดท้าย ใช่ครับ

เพราะสิ่งแรก ๆ มีหลายอันกว่านี้ ครับ

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 10:12:47 น. »
พาวเวอร์แอมของไทย  เมกาเทค  ใช้สายไฟแบบสายคอมพิวเตอร์นี่แหละ  แต่เป็นขนาด  1.5x3 เส้นเบ้อเร้อ  ไม่รู้ซื้อจากใหน  เดี๋ยวว่างๆต้องถาม

m sound

  • บุคคลทั่วไป
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 10:18:02 น. »
พาวเวอร์แอมของไทย  เมกาเทค  ใช้สายไฟแบบสายคอมพิวเตอร์นี่แหละ  แต่เป็นขนาด  1.5x3 เส้นเบ้อเร้อ  ไม่รู้ซื้อจากใหน  เดี๋ยวว่างๆต้องถาม
  นี่แหละครับ..ที่ผมพยายามหาแล้ว ไม่เจอ..ต้องทำเอง..หาซื้อสาย+ปลั๊ก หัว ท้าย มาทำเอง ก็ไม่ได้อย่างใจครับ....ถ้าได้ผลประการใด..แจ้งด้วยนะครับ.. :thank1:

ออฟไลน์ นายเอ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 4504
  • 748A44D7(X-WIN)
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 10:21:36 น. »
พาวเวอร์แอมของไทย  เมกาเทค  ใช้สายไฟแบบสายคอมพิวเตอร์นี่แหละ  แต่เป็นขนาด  1.5x3 เส้นเบ้อเร้อ  ไม่รู้ซื้อจากใหน  เดี๋ยวว่างๆต้องถาม
ได้มาเส้นละ 50 บาท แต่ก็ไม่เท่าของเขาเหมือนกัน  ส่วนที่ใช้กับคอมแบบ เสียบ1 ออก 2 ได้ทั้งจอกับเคส ประหยัดไป1ช่อง

ออฟไลน์ อ๊อด ลำพูน

  • คณะก่อการ
  • ระดับ 5
  • ***
  • กระทู้: 1281
  • HL#> 740EB29E
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 11:49:09 น. »
ไปอ่านเจอบางเว็ป เห็นเขาบอกแม้แต่การใช้ฟิวล์ ก็มีผลต่อเสียงเหมือนกัน
หากได้ฟิวล์ดีๆแต่แพงหน่อย เสียงก็จะเปลี่ยนไปด้วย แต่ผลก็ยังไม่เคยลอง
เพราะยังไม่มีเครื่องเสียงดีๆให้ลอง

ออฟไลน์ Amorn Pattaya

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • **
  • กระทู้: 8396
  • HL#4C89B630 , 6EE74894,789AC331 ( X-men )
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 12:12:05 น. »
ไปอ่านเจอบางเว็ป เห็นเขาบอกแม้แต่การใช้ฟิวล์ ก็มีผลต่อเสียงเหมือนกัน
หากได้ฟิวล์ดีๆแต่แพงหน่อย เสียงก็จะเปลี่ยนไปด้วย แต่ผลก็ยังไม่เคยลอง
เพราะยังไม่มีเครื่องเสียงดีๆให้ลอง
ถูกต้องครับ แม้กระทั่งทิศทาง ของสาย กลับ ทิศคนละด้าน ยังมีผลเลยครับ แต่เครื่องเสียงกลางแจ้ง มันดังเกินกว่าเราจะแยกแยะออกครับ แต่ถ้า เป็นเครื่องบ้าน หรือ รถยนต์ จะเห็นผลต่างครับไม่มากแต่หูเราจับได้ครับ ความสด ความเนียน ความละเอียด หยุมหยิม  แม้แต่การบัดกรี ต่อสายต่างๆ ก็มีผลครับ แต่อย่าง
เราๆ ไม่ต้องลงลึกขนาดนั้นหรอกครับ เอากลางๆ ก็พอ  ที่ลึกๆ เอาไว้ให้ผู้ที่เขามีทรัพย์ เหลือล้น แล้วหาสิ่งดีๆใส่ตัวเอง เขาเถอะครับ  ถ้าผมมีเงิน ผมก็ใฝ่ฝัน
อยากมีของดีๆเหมือนกันครับ
  ที่ว่า ฟิวส์ดีๆ มีผลจริงครับ ลองไปถามร้านเครื่องเสียงติดรถยนต์ชั้นนำดูเลยครับ ตัวละ  เป็นพันครับ ผมเคยใช้รถคันเก่าที่ผมขายไป ผมติดตัวละ 1500 บาท
นี่แบบกลางๆ นะครับ :thank1:

ออฟไลน์ อู๊ด โคจร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 6842
  • You'll never drunk alone
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 12:23:49 น. »
ไปอ่านเจอบางเว็ป เห็นเขาบอกแม้แต่การใช้ฟิวล์ ก็มีผลต่อเสียงเหมือนกัน
หากได้ฟิวล์ดีๆแต่แพงหน่อย เสียงก็จะเปลี่ยนไปด้วย แต่ผลก็ยังไม่เคยลอง
เพราะยังไม่มีเครื่องเสียงดีๆให้ลอง


ออฟไลน์ อ๊อด ลำพูน

  • คณะก่อการ
  • ระดับ 5
  • ***
  • กระทู้: 1281
  • HL#> 740EB29E
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 12:37:05 น. »
(....)

ท่านอู๊ดจะขายหรือครับนั้น ถ้ามีเสาอากาศเพิ่มมาอีกอัน ละใช่เลย ของแพงนะนั้น ;D

ออฟไลน์ อ๊อด ลำพูน

  • คณะก่อการ
  • ระดับ 5
  • ***
  • กระทู้: 1281
  • HL#> 740EB29E
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010, 12:41:45 น. »
ถูกต้องครับ แม้กระทั่งทิศทาง ของสาย กลับ ทิศคนละด้าน ยังมีผลเลยครับ แต่เครื่องเสียงกลางแจ้ง มันดังเกินกว่าเราจะแยกแยะออกครับ แต่ถ้า เป็นเครื่องบ้าน หรือ รถยนต์ จะเห็นผลต่างครับไม่มากแต่หูเราจับได้ครับ ความสด ความเนียน ความละเอียด หยุมหยิม  แม้แต่การบัดกรี ต่อสายต่างๆ ก็มีผลครับ แต่อย่าง
เราๆ ไม่ต้องลงลึกขนาดนั้นหรอกครับ เอากลางๆ ก็พอ  ที่ลึกๆ เอาไว้ให้ผู้ที่เขามีทรัพย์ เหลือล้น แล้วหาสิ่งดีๆใส่ตัวเอง เขาเถอะครับ  ถ้าผมมีเงิน ผมก็ใฝ่ฝัน
อยากมีของดีๆเหมือนกันครับ
  ที่ว่า ฟิวส์ดีๆ มีผลจริงครับ ลองไปถามร้านเครื่องเสียงติดรถยนต์ชั้นนำดูเลยครับ ตัวละ  เป็นพันครับ ผมเคยใช้รถคันเก่าที่ผมขายไป ผมติดตัวละ 1500 บาท
นี่แบบกลางๆ นะครับ :thank1:

ขอบคุณครับพี่ ลืมไปครับ เดี๋ยวจะหาโอกาสลองเปลี่ยนฟิวส์ในรถยนต์ดู บ้าง ผมใช้ฟิวส์ในรถราคาประมาณ 300 บาท ก็คิดว่ามันแพงแล้วนะนั้น
เมื่อก่อนก็ไม่คิดว่าจะมีผลจริงๆ เวลาไปเห็นฟิวส์แพงๆยังคิดอยู่เลยว่า เขาใส่ตัวแพงๆไปทำไมกัน ;D

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: สายไฟ A.C. และสายนำสัญญาณใครว่าไม่สำคัญ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: วันที่ 2 มีนาคม 2010, 08:04:34 น. »
:thank1: :thank1: :thank1: :thank1:

แหะๆ ตัวกรองไฟผมก็มีขายนะครับ เป็น EMI filter ต่อใช้งานแบบอนุกรม(series)  ;D ;D ;D ;D ;D

ประมาณนี้ครับ ใหญ่กว่านี้ก็มี  ;D ;D ;D

(....)



เมดอินเยอรมันใช่ไหมครับ ขอรายละเอียดนิดหนึ่ง ขอบคุณ

ออฟไลน์ มานพ

  • ผู้ดูแลระบบ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 123095
  • 9664E44E,11D88A55,7C1132A8