ต่ออีกนิดครับ ถ้าเรายอมมันง่าย มัีนก็จะคิดถึงเรา โดยการมาหาเราบ่อย อย่ายอมง่ายๆครับ
ลองดูหมายศาลาหมายค้นให้ดี บางที่พวกนี้มันไม่มีจริงหรือหมดอายุ รู้กันกับตำรวจท้องที่บางคน
ลองดูเว็ปนี้ครับ http://ict.in.th/ พวกนี้เค้าโดนจนชิน รู้ทางกันหมดแล้ว
...สู้ถึงที่สุด โดยยอมขึ้นศาลตามที่ว่ามามันก็ได้ ถ้าเป็นครั้งแรกศาลอาจจะเห็นใจศาลอาจจะตัดสินให้เสียค่าเสียหายแก่ตัวแทนลิขสิทธิ์ตามสมควร ตามเหมาะสม..แต่นั่นหมายถึงท่านจะมีประวัติเป็นผู้มีความผิดคดีละเมิดลิขสิทธิ์จริง โดนศาลลงโทษปรับมาแล้ว..หลังจากนั้นถ้าท่านยังทำร้านอยู่แล้วยอมซื้อลิขสิทธิ์ถูกกฎหมายก็จบ....แต่ถ้าท่านยังไม่ยอมซื้อยังละเมิดลิขสิทธิ์อีก มันก็จะมาราวีท่านไม่เลิก กลับมาจับท่านอีก ทีนี้กระบวนการที่มันจะทำในทางกฎหมาย ทางคดีมันจะรัดกุม หนักหนาขึ้น ...และเมื่อถ้ามีการเจรจาตกลงกันก่อนดำเนินคดี มันจะเรียกมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าเป็นคดีถึงศาลอีกท่านจะถูกศาลลงโทษอย่างหนัก เพราะโดนครั้งที่ 2 ถือว่าไม่หลาบจำ ไม่เกรงกลัว เคารพศาล ไม่เคารพกฎหมายลิขสิทธิ์
..ดังนั้นผมจึงยอมมัน และจ่ายให้มันเอาเข้ากระเป๋าไปโดยเจรจาตกลงว่าไม่ให้มันมายุ่งกับผมอีกแม้ผมจะไม่ซื้อลิขสิทธิ์ของมันก็ตาม มันเป็นวิธีการเอาตัวรอดที่สมประโยชน์ ไม่ก่อความขัดแย้งเกลี่ยดชังกัน กลายเป็นคนรู้จักคุ้นเคยกันไปครับ
.. คนทำร้านทำมาค้าขาย ต้องพึงสังวรว่าการไม่ควรกระทำการใดให้ผิดกฎหมาย หรือประพฤติ กระทำการใดๆให้เกิดศัตรู ความเกลียดชัง ความไม่ชอบ โดยเฉพาะพวกลิขสิทธิ์ ตำรวจ นักการเมือง ฝ่ายปกครอง แม้แต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อพปร. อาสาสมัคร ฯลฯ ที่อยู่ในพื้นที่ มันจะประเสริฐสุดแล้วครับ..อย่างผมบางครั้งก็ต้องให้เด็กเอาเครื่องดื่ม มิกเซอร์ อาหารเล็กๆ น้อยๆนานๆครั้ง ไปให้ จนท. หลายฝ่ายที่มาตั้งด่าน ตรวจที่ถนนใหญ่ใกล้ร้านเป็นการแสดงน้ำใจ ผูกไมตรี ซึ่งมันก็ได้ผลดี เกืดความคุ้นเคยกัน เป็นมิตรกัน เมื่อเวลามีการเข้มงวดช่วงได มีผู้ใหญ่ ฝ่ายไหนมาตรวจอะไร ( ซึ่งแถวนิคมอุตสาหกรรมลำพูนจะทำกันเป็นประจำ เพราะเป็นย่านบันเทิงใหญ่) เขาก็จะมาบอกผมล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง