ผู้เขียน หัวข้อ: ขอสอบถามการปรับdelay ตู้ลำโพงระหว่างเสียงต่ำ เสียงกลางและเสียงสูง  (อ่าน 83981 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
นึกแล้วเชียว อ่านทีแรกยังด่าในใจ ไปว่าเขาทำไม

อีตานพนี่คนเกลียดแกเยอะก็เพราะตีความหมายแกผิดๆ

ผมเร็วและสั้นไปใช่ไม๊

คนรักคนเกลียดในเวปนี้ ไม่ได้ทำให้ผมมีกินเพิ่มครับ

หมายถึงจนอยู่แบบเดิม

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
อ้างถึง
สามเหลี่ยม ปิธากอรัส ผมเข้าใจดีครับ ผมยังเขียนแนะนำไว้ในหน้าเพจ Fan Club ของผมด้วยซ้ำไป (ลองไปดูในหน้าเพจ Fan Club ของผมก็ได้) ว่าเราต้องนำ
สิ่งนี้มารวมเข้าในตัวแปรในการทำ Alignment ด้วยทุกครั้ง  



แต่อย่าลืมนะครับ กฎ สามเหลี่ยม ปิธากอรัส จะเป็นไปตามรูปได้นั้น ตู้ Cluster ต้องแขวนลอยอยู่เหนือตู้ Subและสูงกว่าระดับหูของเรามาก ๆ เท่านั้น  
แต่ถ้าหากแค่วางตู้ Cluster ซ้อนบนตู้ Sub และตู้ Cluster อยู่สูงพอดีกับระดับหูของเรา อย่างที่สมาชิกหลาย ๆ ท่านใช้วิธีนี้ในการทำงาน  ตัวสามเหลี่ยม
ปิธากอรัส มันจะกลับด้านในทันที  เพราะว่าเราไม่ได้นอนฟังที่พื้นครับ

ถ้าลำโพง full range อยู่ระดับหู แล้ว sub วางพื้น แทบจะไม่มีความแตกของของ Alignment ของ ตู้full range กับ sub เลยครับหากไม่คิดถึงเรื่อง Early Reflection จากพื้นที่ทำให้เกิด Acoustic comb filter แล้วทำให้เกิด cancellation ที่จุดผู้ฟัง



สมมุติว่า ผู้ฟังมีหูอยู่สูงจากพื้น 170 cm ซึ่งอยู่ห่างจากลำโพง full range 20 m โดยอยู่ระดับเดียวกับหูผู้ฟัง ตู้ sub 18 inch  วางอยู่ที่พื้น จุดกึ่งกลางของดอกลำโพงอยู่สูงจากพื้นประมาณ 12 inch(30cm) รวมขอบตู้ลำโพงด้านล่าง จะได้ สามเหลี่ยมมุมฉาก ขนาดดังรูป



คำนวนหามุมระหว่างลำโพง full range กับ sub ณ จุดผู้ฟัง ได้ว่า
tan x = 1.4/20
x = tan-1(1.4/20), x = 4 องศา

ดังนั้น ด้าน c จะคำนวนได้ว่า
a/c = cos x
c = a/cos x
c = 20/cos 4
c = 20.05 m

ขะเห็นว่าระยะ c กับ a ต่างกันเพียง 0.05 m หรือ 5 cm
ซึ่งแทบจะไม่มีความแตกต่างในการทำ Alignment ระหว่าง Sub กับ ลำโพง full range เลย เนื่องจาก ความยาวคลื่นของความถี่ย่านที่จะทำ alignment ยาวมาก เช่น  ที่อุณหภูมิ 25องศา มีความเร็วเสียงในอากาศ 346 m/s
ความถี่ 100 Hz มีความยาวคลื่น 3.46 m

ดังนั้น ระยะห่าง 5 cm เฟสของ ความถี่ 100 Hz จากลำโพงทั้งสอง จะต่างกัน ดังนี้คือ
ถ้า ระยะ 3.46 m เฟสต่าง 360 องศา ระยะ 0.05 m จะมีเฟสต่าง
(360/3.46)x 0.05 = 5.2 องศา

ที่ความถี่ 50 Hz ความยาวคลื่นเป็น 2 เท่าของ 100Hz เฟสต่าง 2.6 องศา
ความถี่ 200 Hz ความยาวคลื่น เป็น 1/2 เท่าของ 100 Hz เฟสต่าง 10.4 องศา

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าถ้าตั้งตู้ full range ระดับหูและตู้ sub ตั้งพื้นในแนวระนาบแนวดิ่งเดียวกัน เฟสของความถี่ crossover ย่านmid-Hi กับ Low ต่างกันน้อยมากเนื่องจากความยาวคลื่นของความถี่ในย่าน crossover ยาวมากจนแทบจะไม่ต้องทำ Alignment ระหว่าง sub กับ fullrange เลย ยิ่งผู้ฟังอยู่ไกลออกไป อัตราส่วนระหว่างด้าน a : c จะเข้าไกล้ 1 มากขึ้น มุมระหว่างลำโพง ก็เข้าไกล้ 0 องศามากขึ้น

ต่างกันกับการทำTime Alignment ระหว่าง ลำโพง Hi กับ Mid ในตู้ full range นะครับ ที่ระยะแตกต่างกันเพียง 5 cm ก็ทำให้เฟสเลื่อนจนเกิด cancellation ได้ เช่น
ที่ความถี่ 2000Hz มีความยาวคลื่น เป็น 1/20 เท่าของ 100 Hz นั้นคือ
3.46/20=0.173 m
ถ้า 0.173 m เฟสต่าง 360 องศา
0.05 m เฟสต่าง (360/0.173)x0.05=104 องศาเลยทีเดียว
acoustic summing จะลดลง ประมาณ 3 dB ที่ความถี่ 2000 Hz


อ้างถึง
อย่าลืมตอบคำถามที่ผมถามด้วยนะครับ ว่าผมควรจะเชื่อในสิ่งไหนดี?  เพราะหากทำตามตำรา แล้วผลลัพธ์มันไม่ใช่ ผมยังควรทำตามตำราอยุ่อีกหรือไม่?
ตอบนะครับ ว่าแล้วแต่ที่เราพอใจครับ หากเราพอใจกับสิ่งที่เราคิดว่ามันตรงกับความต้องการของเรา ก็ไม่ต้องอธิบายมากครับ

การถกในด้านวิชาการผมชอบครับ ไม่รู้ว่าเฮียจะคิดขุ่นใจหรือเปล่า หากเป็นการล่วงเกินก็ขออภัยด้วนนะครับ มิได้มีเจตนาเอาชนะหรือไม่เคารพแต่อย่างใด

งานที่สุพรรณปีที่แล้วผมก็ประทับใจเฮียมากครับ ที่กรุณามาให้ความรู้กับสมาชิก ได้เข้าใจและนําไปใช้ในงานมากขึ้น



Sent from my iPad using Tapatalk
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 กรกฎาคม 2015, 01:55:56 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ AJ-AUDIO

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 997
  • 7EE34218 อภินันทนาการ จาก "หนุ่มเมืองลำดวน"
ถ้าลำโพง full range อยู่ระดับหู แล้ว sub วางพื้น แทบจะไม่มีความแตกของของ Alignment ของ ตู้full range กับ sub เลยครับหากไม่คิดถึงเรื่อง Early Reflection จากพื้นที่ทำให้เกิด Acoustic comb filter แล้วทำให้เกิด cancellation ที่จุดผู้ฟัง

(....)

สมมุติว่า ผู้ฟังมีหูอยู่สูงจากพื้น 170 cm ซึ่งอยู่ห่างจากลำโพง full range 20 m โดยอยู่ระดับเดียวกับหูผู้ฟัง ตู้ sub 18 inch  วางอยู่ที่พื้น จุดกึ่งกลางของดอกลำโพงอยู่สูงจากพื้นประมาณ 12 inch(30cm) รวมขอบตู้ลำโพงด้านล่าง จะได้ สามเหลี่ยมมุมฉาก ขนาดดังรูป

(....)

คำนวนหามุมระหว่างลำโพง full range กับ sub ณ จุดผู้ฟัง ได้ว่า
tan x = 1.4/20
x = tan-1(1.4/20), x = 4 องศา

ดังนั้น ด้าน c จะคำนวนได้ว่า
a/c = cos x
c = a/cos x
c = 20/cos 4
c = 20.05 m

ขะเห็นว่าระยะ c กับ a ต่างกันเพียง 0.05 m หรือ 5 cm
ซึ่งแทบจะไม่มีความแตกต่างในการทำ Alignment ระหว่าง Sub กับ ลำโพง full range เลย เนื่องจาก ความยาวคลื่นของความถี่ย่านที่จะทำ alignment ยาวมาก เช่น  ที่อุณหภูมิ 25องศา มีความเร็วเสียงในอากาศ 346 m/s
ความถี่ 100 Hz มีความยาวคลื่น 3.46 m

ดังนั้น ระยะห่าง 5 cm เฟสของ ความถี่ 100 Hz จากลำโพงทั้งสอง จะต่างกัน ดังนี้คือ
ถ้า ระยะ 3.46 m เฟสต่าง 360 องศา ระยะ 0.05 m จะมีเฟสต่าง
(360/3.46)x 0.05 = 5.2 องศา

ที่ความถี่ 50 Hz ความยาวคลื่นเป็น 2 เท่าของ 100Hz เฟสต่าง 2.6 องศา
ความถี่ 200 Hz ความยาวคลื่น เป็น 1/2 เท่าของ 100 Hz เฟสต่าง 10.4 องศา

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าถ้าตั้งตู้ full range ระดับหูและตู้ sub ตั้งพื้นในแนวระนาบแนวดิ่งเดียวกัน เฟสของความถี่ crossover ย่านmid-Hi กับ Low ต่างกันน้อยมากเนื่องจากความยาวคลื่นของความถี่ในย่าน crossover ยาวมากจนแทบจะไม่ต้องทำ Alignment ระหว่าง sub กับ fullrange เลย ยิ่งผู้ฟังอยู่ไกลออกไป อัตราส่วนระหว่างด้าน a : c จะเข้าไกล้ 1 มากขึ้น มุมระหว่างลำโพง ก็เข้าไกล้ 0 องศามากขึ้น
ตอบนะครับ ว่าแล้วแต่ที่เราพอใจครับ หากเราพอใจกับสิ่งที่เราคิดว่ามันตรงกับความต้องการของเรา ก็ไม่ต้องอธิบายมากครับ

การถกในด้านวิชาการผมชอบครับ ไม่รู้ว่าเฮียจะคิดขุ่นใจหรือเปล่า หากเป็นการล่วงเกินก็ขออภัยด้วนนะครับ มิได้มีเจตนาเอาชนะหรือไม่เคารพแต่อย่างใด

งานที่สุพรรณปีที่แล้วผมก็ประทับใจเฮียมากครับ ที่กรุณามาให้ความรู้กับสมาชิก ได้เข้าใจและนําไปใช้ในงานมากขึ้น

(....)

Sent from my iPad using Tapatalk

หมอแม็คอธิบายได้ชัดเจนดีครับ ทำให้ผมนึกถึงภาพนี้ที่หลายๆ ท่านพยายามหยิบยกมาอธิบาย




ทั้งๆที่ระยะห่างตามลูกศรชี้ ระหว่างสองยูนิตก็ไม่เกิน 5 cm แต่เห็นเอามาอธิบายกันเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต จะต้องทำดีเลย์ให้ดอก woofer ไม่งั้นจะมีปัญหา โน่น นี่ นั่น ซีเรียสมากๆ  แต่หมอแม็คกลับพยายามอธิบายว่าระยะทางที่แตกต่างกันเพียง 5 cm แทบไม่มีความหมายอะไรเลย  น่าสับสนมั้ยครับ

เรื่องความขุ่นข้องหมองใจ ผมไม่มีหรอกครับ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่หมอแม็คอธิบายมาผมก็เก็บมาทบทวน และพยายามวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ ซึ่งพรุ่งนี้ผมจะมีงานเซ็ทอัพ ระบบให้ลูกค้า ผมจะลองไม่ insert delay กับ insert delay แล้วให้ลูกค้าฟัง ว่าชอบแบบไหน?  แล้วผมจะมาเฉลยให้ฟังนะครับว่าลูกค้าเลือกแบบไหนจาก 2 แบบ

 :love2:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 กรกฎาคม 2015, 03:05:00 น. โดย AJ-AUDIO »

ออฟไลน์ ไข่ โคกแร่

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 144
  • 7F616B0F / 576636E8จาก คนคอน
หมอแม็คอธิบายได้ชัดเจนดีครับ ทำให้ผมนึกถึงภาพนี้ที่หลายๆ ท่านพยายามหยิบยกมาอธิบาย




ทั้งๆที่ระยะห่างตามลูกศรชี้ ระหว่างสองยูนิตก็ไม่เกิน 5 cm แต่เห็นเอามาอธิบายกันเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต จะต้องทำดีเลย์ให้ดอก woofer ไม่งั้นจะมีปัญหา โน่น นี่ นั่น ซีเรียสมากๆ  แต่หมอแม็คกลับพยายามอธิบายว่าระยะทางที่แตกต่างกันเพียง 5 cm แทบไม่มีความหมายอะไรเลย  น่าสับสนมั้ยครับ

เรื่องความขุ่นข้องหมองใจ ผมไม่มีหรอกครับ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่หมอแม็คอธิบายมาผมก็เก็บมาทบทวน และพยายามวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ ซึ่งพรุ่งนี้ผมจะมีงานเซ็ทอัพ ระบบให้ลูกค้า ผมจะลองไม่ insert delay กับ insert delay แล้วให้ลูกค้าฟัง ว่าชอบแบบไหน?  แล้วผมจะมาเฉลยให้ฟังนะครับว่าลูกค้าเลือกแบบไหนจาก 2 แบบ

 :love2:



ต้องติดตาม..

ออฟไลน์ LungWATCR

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1296
  • 5DE459CB [ Pog MusicPro]
ตามต่อครับ สุดยอดมาก
 :thank1:

ออฟไลน์ ป็อบอาย Music

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 167
  • HL#4C94399F จาก ครูภูม
โปรดติดตามตอนต่อไปครับ :o^:

ออฟไลน์ เอ็นคอมพ์ มิวสิค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 111
  • 7661DAE9 (ครูภูมิ)
ไม่ได้เข้ามาชมนาน กระทู้ตัวเองตั้งไว้แท้ๆ กลับมาอ่านคราวนี้ยาวเหยียดเลย

ขอบคุณทุกๆท่านมากครับ ขอไล่อ่านก่อนครับ

เขียนต่อกันได้เลยนะครับ อย่าหยุด เพราะเรื่องนี้มันยาวจริงๆครับ เพื่อนสมาชิกหลายคนจะได้รับความรู้เพิ่มขึ้นอีกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 27 กรกฎาคม 2015, 22:07:25 น. โดย เอ็นคอมพ์ มิวสิค »

chacrit

  • บุคคลทั่วไป
ผมจะประมาณคร่าวๆ ระยะความต่างของระยะลำโพงที่ทำการดีเลย์มาถึงจุดทดสอบ ฟุตละ 1ms(ความเร็วเสียงเดินทางในอากาศ)  ปรับแล้วฟังแล้วปรับละเอียดอีกที

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
Digital Crossover

        ปัจจุบัน เทคโนโลยี Digital เข้ามามีบทบาทมากในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน
       ในด้านเครื่องเสียง Digital crossover ก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการจีกการระบบเสียง และมักจะไม่มาเดี่ยวๆ จะมี function อื่นๆ    เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการกับระบบ เช่น Equalizer, Limiter, Delay, Compressor ซึ่ง เราเรียกรวมๆกันว่า Digital Signal Processing (DSP) หรืออาจจะเรียกว่า Loudspeaker management ก็ได้ บางรุ่นสามารถควบคุมโดย Software ในคอมพิวเตอร์ ผ่านการเชื่อมต่อด้วย USB, Serial RS232, RS485, Midi, Ethernet LAN และในปัจจุบัน ในยุคของ Smart phone ใช้นิ้วจิ้มลูกเดียว DSP บางยี่ห้อ ก็ผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับ Application ต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงการควบคุมกันง่ายขึ้น บางรุ่น ควบคุม จาก Applicarion ด้วย ระบบ Wireless

แต่หัวใจหลักของ DSP ก็คือ Crossover เพื่อใช้ในการแบ่งย่านความถี่ไปให้กับ ลำโพงแต่ละย่านตามความสามารถของมัน
สำหรับ Digotal filter ใน Digital crossover ก็มี 2 ประเภทได้แก่ Infinite Impulse Response (IIR) filter และ Finite Impulse Response (FIR) filter

IIR filter
   IIR filter เป็น filter ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายใน Digital crossover หลักการคือ จำลอง Analog filter เช่น Butterworth, Linkwitz-Riley มาใช้เป็นต้นแบบในการสร้าง filter โดยใช้ กระบวนการ Feedback จากสัญญาณOutput บางส่วนกลับเข้ามา เป็นสัญญาณ input เพื่อประมวลผล ดังนั้นการตอบสนองต่อ Impulse หรือสัญญาณ ของ filterชนิดนี้จึงไม่มีทางที่จะเข้าใกล้ศูนย์ได้
ดังนั้น IIR filter จึงมีพฤติกรรมคล้ายกับ Analog filter ที่มีการหน่วงของสัญญาณเมื่อผ่าน filter เกิด phase shift และ Group delay เช่นกัน
สำหรับวงจร Digital ของ IIR filter จะเป็นแบบ biquad ซึ่งใช้ระยะเวลาในการประมวนผลสั้น





block diagram และการทำงานของ IIR filter



แสดง frequency response ของ Equalizer, HPF และ LPF



แสดง Phase response ของ EQ, HPF และ LPF

จากภาพทั้งสอง เมื่อสังเกตจะเห็นว่า ทุกการเปลี่ยนแปลงของ HPF, LPF และ EQ เฟสของสัญญาณจะเลื่อน โดย ทุกๆครั้งที่ Boost EQ มุมเฟสจะเลื่อนมีค่าติดลบมากขึ้น และทุกๆครั้งที่ Cut EQ มุมเฟสจะเลื่อนมาค่าเป็นบวกมากขึ้น แต่ HPF และ LPF มุมเฟสจะเลื่อนติดลบมากขึ้น ดังนั้นเราจึงเรียกลักษณะของระบบที่มีการเลื่อนของมุมเฟสเช่นนี้ว่า Minimum Phase System



แสดง frequency response ของ IIR filter L-R 48dB/oct



แสดง Phase response ของ IIR filter L-R 48dB/oct

FIR filter

Filter ชนิดนี้ หลักการทำงานคือ ประมวลผลสัญญาณไปข้างหน้าด้วย filter เชิงซ้อนจำนวนมากเพื่อให้ได้การตอบสนองที่สมบูรณ์ สามารถเปลี่ยนแปลง magnitude response โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของ Phase response (ไม่มีการเลื่อนของเฟส) แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาการประมวลผลของหน่วยประมวลผลมากขึ้นเมื่อต้องการรายละเอียดที่มากขึ้นด้วย





block diagram และการทำงานของ FIR filter




แสดง Frequency response ของ FIR filter 96dB/oct



แสดง Phase response ของ FIR filter 96dB/oct



แสดง Group response ของ FIR filter 96dB/oct

จากกราฟ จะเห็นว่า FIR filter สามารถสร้างความชันได้ถึง 96dB/oct โดยที่ไม่มีการเลื่อนของ Phase เลย จากคุณสมบัติเช่นนี้จึงเรียก FIR filter ว่า Linear phase crossover การที่สามารถสร้างความชันได้สูงจนแทบจะตั้งฉากได้แบบนี้ คล้ายกับเป็นกำแพงจึงเรียก roll off แบบนี้ว่า Linear Phase Brickwall และข้อดีของการตัด crossover แบบ brickwall ซึ่งทำให้ย่านความถี่ของ crossover ซ้อนทับกันน้อยมากแทบจะตัดขาดออกจากกัน และ การตอบสนองของเฟสที่ราบเรียบระหว่าง Driver HF และ LF จึงทำให้ เกิดการแทรกสอดของย่านความถี่ระหว่าง ลำโพงทั้งสองน้อยมาก Polar response ของ FIR filter จึงไม่เกิด cancellation



เปรียบเทียบ Polar Pattern ของ IIR filter LR24 ที่ 1kHz(รูปซ้าย) Polar response ของ Linear phase brickwall crossover (รูปขวา)



polar response ของ Linkwitz-Riley crossover



Polar response ใน 3 มิติ ของ IIR และ FIR filter

แต่การได้มาซึ่งความชันที่สูงขนาดนี้ก็ต้องแลกมาด้วย ระยะเวลาของการประมวลผลที่มากขึ้น ซึ่งจากกราฟ Group delay response จะพบว่าเป็น Flat GD response คือทุกความถี่มีความหน่วงเท่าๆกัน (ย่าน Low ไม่หน่วงเหมือน IIR filter) แต่ค่า delay มีค่าถึง 20 ms  ยิ่งตัดความถี่ต่ำๆลงไป ต้องใช้ tap delay สูงขึ้นเพื่อให้ได้ resolution ที่ละเอียดของความถี่ต่ำ

ดังนั้นในงาน Live sound อาจจะต้องพิจารณาในการใช้ FIR filter มากขึ้นหน่อย


เปรียบเทียบลักษณะของ IIR และ FIR filter

เปรียบเทียบข้อดีข้อด้อยของ IIR และ FIR filter
IIR filter
ข้อดี

- มี delay น้อย
- ราคาถูก
ข้อเสีย
- มีเฟสเลื่อน ทำให้ polar response มีทั้ง เสริมและหักล้างระหว่างลำโพงย่าน HF และ LF ในย่านความถี่ crossover ที่ซ้อนทับกัน ซึ่งแต่ละความถี่ก็มีระยะ cancellation ต่างกันขึ้นกับ ความยาวคลื่น ถึงแม้ว่าจะทำ Alignmentให้ถูกต้องระหว่าง ลำโพงทั้งสองแล้วก็ตาม
- Group delay ไม่เท่ากัน เสียงย่าน low หรือ เสียงเบส มาช้ากว่าเสียงสูง ใน order ต่ำๆเช่น order 2 หรือ 4 อาจฟังความแตกต่างไม่ได้ แต่ order 8(48dB/oct) อาจได้ยินชัดเจนขึ้น
- เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง magnitude ต้องมีการ เลื่อนเฟสเสมอ

FIR filter
ข้อดี

- แก้ไข Frequency response ของลำโพงได้ละเอียดละถูกต้อง
- Polar respose ระหว่างลำโพง 2 ย่าน ไม่มีcancellation ช่วยทำให้ Beam foaming ของ ลำโพง Line array มีทิศทางที่ดี
- Generate ความชันที่สูงโดยไม่มี phase shift
- ทุกความถี่มี Group delay เท่าๆกัน
ข้อเสีย
-ราคาแพง(มาก)
-มี delay ของระบบ และในการตัดความถี่ต่ำด้วย FIR filter ต้องใช้ Tap delay จำนวนมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 กรกฎาคม 2015, 11:52:11 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ ฉัตรชัย

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 56
  • 12975B29 Noi1960
เข้ามาติดตามรับครับ ถึงจะอ่านไป งงๆ บ้าง

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Digital Crossover

        
FIR filter
ข้อดี

- แก้ไข Frequency response ของลำโพงได้ละเอียดและถูกต้อง
- Polar respose ระหว่างลำโพง 2 ย่าน ไม่มีcancellation ช่วยทำให้ Beam foaming ของ ลำโพง Line array มีทิศทางที่ดี
- Generate ความชันที่สูงโดยไม่มี phase shift
- ทุกความถี่ Group delay เท่าๆกัน
ข้อเสีย
-ราคาแพง(มาก)
-มี delay ของระบบ และในการตัดความถี่ต่ำด้วย FIR filter ต้องใช้ Tap delay จำนวนมาก
[/size][/i][/color]



ข้อดีทุกข้ออันนี้แหละน่าสนใจ  ที่จะเอาไปเป็นคอนเซ็พท์  ในการออกแบบลำโพงใหม่
ตัดปัญหาให้หมดเลย

คุณหมอว่าไหมครับ?

ซึ่งถ้าทำได้  ก็ไม่จำเป็นต้องใช้  Speakers Management  ราคาแพงอีกต่อไป
หรืออาจไม่ใช้เลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 กรกฎาคม 2015, 11:30:21 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ โกวิท ไปนำกันเด้อ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 5506
  • HL#851E9551
สุดยอดครับ

ออฟไลน์ เหยี่ยวเวหา

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 459
  • HL-5764A469
ท่านผู้รู้ทฤษฏีมากจังครับ... :thank1: ขอเนื้อๆว่าใช้อนาล็อคครอสโซเวอร์ จะแก้ปัญหา ดีเลย์ได้อย่างไร ปรับแบบใหน(ใกล้เคียงที่สุด)ไปเปิดเพลงให้คนฟัง ต้องเคลียดก่อนแน่ๆ ขอโทษนะครับผมคนซื่อ..(เรียนอิเล็กทรอนิกส์มา  แค่บัดกรีเป็น ใช้โอมห์มิเตอร์เป็นครับ) :thank1: :flower: :beer: :happy:

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
[/size][/i][/color]



ข้อดีทุกข้ออันนี้แหละน่าสนใจ  ที่จะเอาไปเป็นคอนเซ็พท์  ในการออกแบบลำโพงใหม่
ตัดปัญหาให้หมดเลย

คุณหมอว่าไหมครับ?

ซึ่งถ้าทำได้  ก็ไม่จำเป็นต้องใช้  Speakers Management  ราคาแพงอีกต่อไป
หรืออาจไม่ใช้เลย



สำหรับนัก DIY อย่างป๋ามะละกอ ต้องใช้ตัวนี้เลยครับราคาไม่แพง

http://www.minidsp.com/products/opendrc-series/opendrc-an

ถึงตู้ลำโพงของเราจะเป็น Passive crossover ก็ใช้ FIR filtering แก้ไข Phase และ magnitude ให้เสมือน ใช้ Crossover ที่มี FIR filter ได้ครับ
โดยการวัด Response แล้ว Generate FIR filter ด้วยโปรแกรม rephase(freeware)http://sourceforge.net/projects/rephase/แล้ว Import file เข้าไปในเครื่องก็สามารถใช้ FIR filter ในการแก้ปัญหาที่กล่าวมาได้หมดเลยครับ


spec คร่าวๆ
Hardware

Analog Devices Sharc ADSP21369
32bit Floating point processing
Stereo analog inputs (XLR Neutrik balanced connectors)
Stereo analog output (XLR Neutrik balanced connectors)
Front panel volume control
IR control with learning feature
If you're looking for an all digital version, please check out the OpenDRC-DI here.

Applications

Room correction with FIR filtering
Convolution engine for advanced/Custom filters
2 way advanced filter engine
System equalization
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 กรกฎาคม 2015, 12:13:38 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
สำหรับนัก DIY อย่างป๋ามะละกอ ต้องใช้ตัวนี้เลยครับราคาไม่แพง

http://www.minidsp.com/products/opendrc-series/opendrc-an

ถึงตู้ลำโพงของเราจะเป็น Passive crossover ก็ใช้ FIR filtering แก้ไข Phase และ magnitude ให้เสมือน ใช้ Crossover ที่มี FIR filter ได้ครับ
โดยการวัด Response แล้ว Generate FIR filter ด้วยโปรแกรม rephase(freeware)http://sourceforge.net/projects/rephase/แล้ว Import file เข้าไปในเครื่องก็สามารถใช้ FIR filter ในการแก้ปัญหาที่กล่าวมาได้หมดเลยครับ


spec คร่าวๆ
Hardware

Analog Devices Sharc ADSP21369
32bit Floating point processing
Stereo analog inputs (XLR Neutrik balanced connectors)
Stereo analog output (XLR Neutrik balanced connectors)
Front panel volume control
IR control with learning feature
If you're looking for an all digital version, please check out the OpenDRC-DI here.

Applications

Room correction with FIR filtering
Convolution engine for advanced/Custom filters
2 way advanced filter engine
System equalization


ครับ...ผมก็จ้องมาหลายปีแล้ว  
ที่ยังรออยู่จนบัดนี้ เพราะความไม่ลงตัวเรื่องระบบลำโพงแบบเก่านี่แหละ
หมายถึง เรื่อง Time Alignment และ ฯลฯ





จนไปศึกษาผลงานหนึ่ง  คิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ครับ


http://redspade-audio.blogspot.com/2011/03/diy-synergy-horn.html








คนคิดเขาจดสิทธิบัตรไว้เรียบร้อยแล้ว  แต่ยังให้นัก DIY ได้ลองเล่นกัน
การออกแบบทั้งหมดเพื่องาน PA และรวมถึงใช้ในบ้าน
ข้อดี 4 ข้อที่ว่ามา  ยกมาอยู่ในนี้หมด  ครับ
ผมเริ่มตัดไม้แล้ว  และถ้าเฮงแค่พาสสีพถูกๆ จบเลยครับ


Active Cross  ตัวนี้เป็นงัยครับ ฝรั่งชมกันจัง


Behringer Ultrafrive DCX 2496



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 กรกฎาคม 2015, 13:33:09 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
ท่านผู้รู้ทฤษฏีมากจังครับ... :thank1: ขอเนื้อๆว่าใช้อนาล็อคครอสโซเวอร์ จะแก้ปัญหา ดีเลย์ได้อย่างไร ปรับแบบใหน(ใกล้เคียงที่สุด)ไปเปิดเพลงให้คนฟัง ต้องเคลียดก่อนแน่ๆ ขอโทษนะครับผมคนซื่อ..(เรียนอิเล็กทรอนิกส์มา  แค่บัดกรีเป็น ใช้โอมห์มิเตอร์เป็นครับ) :thank1: :flower: :beer: :happy:

Analog crossover รุ่นที่ทําDelay ได้ เห็นมีแต่ของRane นะครับ
แต่ถ้าตู้กลางแหลมวางอยู่บนตู้sub ก็ไม่จําเป็นต้องทํา Alignment ระหว่าง sub กับ ตู้กลางแหลมหรอกครับ เพราะความยาวคลื่นย่าน Low จะยาวมาก สมมุติว่าตัด crossover ที่100Hz ความยาวคลื่นของ100 Hz ประมาณ3.43เมตร ถ้าเฟสต่างกันไม่ถึง 90 องศาหรือ1/4ของความยาวคลื่น(85ซม.) ถ้าระยะห่างระหว่างดอกลําโพงทั้งสองในแนวราบไม่เกิน85ซม. ความดังจะลดลงไม่เกิน 3 dB ครับ

ที่มีปัญหาเรื่อง Alignment คือ Alignment ระหว่าง mid กับ Hi ยิ่งตัดความถี่สูง ระยะห่างเพียง ไม่กี่ซม. ก็ทําให้เกิด misaligment ได้ครับ ต้องทํา Alignment ด้วย Delay ที่ละเอียดมาก

สำหรับการทำ Alignment ผมได้ โพสไว้ในกระทู้ก่อนหน้านี้แล้ว ลองย้อนไปอ่านดูนะครับ http://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=100685.msg124416461#msg124416461 ซึ่งเป็นวิธีการทำ alignment โดยใช้ Sine wave กับ SPL meter
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 กรกฎาคม 2015, 16:06:02 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897





ตัวนี้ไม่มี FIR filtering นะครับ เป็น IIR filter ทั่วๆไป
รุ่นที่มี FIR จะเป็นรุ่น Open DRC series ครับ

อ้างถึง
Active Cross  ตัวนี้เป็นงัยครับ ฝรั่งชมกันจัง


Behringer Ultrafrive DCX 2496



ตัวนี้ก็ไม่มี FIR ครับ fillter เป็น IIR
แต่จุดเด่นผมว่า น่าจะเป็นเรื่องของ Internal Sample rate ที่ได้ถึง 96kHz และรองรับ Digital input คือ AES/EBU ครับ
function ข้างใน ที่เด่นๆใน DSP ตัวนี้ คือ Dynamic Equalizer ครับ

ซึ่ง function ต่างๆ เทียบเคียงกับ DSP รุ่นใหญ่ ของยี่ห้อดังเมืองผู้ดี รุ่น 366 ที่ผมกำลังลงขายครับ อิอิ
แต่ไส้ในคงมีความแตกต่างกันมากอยู่

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
ขอบคุณครับ

ถ้าเอามาใช้ภายในบ้าน และเอาไว้หาจุดตัดบ้าง
ควรเล่นรุ่น Open DRC  รุ่นไหนดีครับ นอกจากที่บอกมา

ยกตัวอย่าง ผมใช้ตู้ซับข้างละหนึ่งตู่  ใช้ฟูลเร้นจ์ดอกเดียวขนาด 15 นิ้วข้างละดอก ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 กรกฎาคม 2015, 16:57:57 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
ท่านผู้รู้ทฤษฏีมากจังครับ... :thank1:

ขอเนื้อๆว่าใช้อนาล็อคครอสโซเวอร์ จะแก้ปัญหา ดีเลย์ได้อย่างไร ปรับแบizeบใหน(ใกล้เคียงที่สุด)[/s]

ไปเปิดเพลงให้คนฟัง ต้องเคลียดก่อนแน่ๆ ขอโทษนะครับผมคนซื่อ..(เรียนอิเล็กทรอนิกส์มา  แค่บัดกรีเป็น ใช้โอมห์มิเตอร์เป็นครับ) :thank1: :flower: :beer: :happy:


เพิ่มอีกหน่อย  ถ้าไม่ได้ใช้ Active Cross  ยี้ห้อ RANE  มีทางเดียวในการแก้ดีเลย์  คือการแก้ทางกายภาพ
คือจัดการเรื่องของ Time Alignment ระหว่างดอกเสียงแหลม และเสียงทุ้มในตู้

เมื่อแก้ได้แล้ว ให้ตัดซับที่ความถึ่ 100 Hz ลงมาเรื่อยเช่น 90,80,70 จุดไหนที่เสียงเบสหายแกร่งคือนุ่มพอดี
ก็เอาตรงจุดนั้น ครับ

ผมปล่อยช่องว่าง....ให้ถามกลับนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 กรกฎาคม 2015, 17:35:14 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ โกวิท ไปนำกันเด้อ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 5506
  • HL#851E9551
ขอบคุณครับ

ถ้าเอามาใช้ภายในบ้าน และเอาไว้หาจุดตัดบ้าง
ควรเล่นรุ่น Open DRC  รุ่นไหนดีครับ นอกจากที่บอกมา

ยกตัวอย่าง ผมใช้ตู้ซับข้างละหนึ่งตู่  ใช้ฟูลเร้นจ์ดอกเดียวขนาด 15 นิ้วข้างละดอก ครับ
ใช้งานแบบสองทางหรือสามทางครับ

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
อ้างจาก: โกวิท ไปนำกันเด้อ link=t
opic=100685.msg124417661#msg124417661 date=1438172383
ใช้งานแบบสองทางหรือสามทางครับ


สองทาง
ที่ผมเข้าใจตามแบบผมคือ ลำโพงหนึ่งตู้ มีดอกลำโพง 2 ดอก เช่น  15 นิ้วกับทวีทเตอร์ 1 ตัว

ส่วน สามทาง ก็เพิ่ม  ดอกเสียงกลางอีกหนึ่งดอก (15 + 6-8 นิ้ว + ทวีทเตอร์)


อีกแบบคือ ไแอมป์ กับ ไทรแอมป์

ถ้าแบบหลังนี่  คือโจทย์ที่บอกตอนต้นคือ
มีตู้ลำโพงฟูลเร้นจ์ดอกเดียว 8 นิ้ว ข้างละดอก (ตอบสนองความถี่  70-15000 Hz)
มีตู้ซับขนาด 15 นิ้ว ตู้ละดอก ต่อข้าง
ใช้ Active Cross  สเตอริโอหนึ่งตัว  พาวเวอร์แอมป์ 2 ตัวครับ

นั่นหมายถึง  ถ้าผมจะใช้  Mini DSP  ก็ต้องหารุ่นที่มี  Input 2/ Output 4  เป็นอย่างน้อย
และผมเข้าใจว่ามันเรียกว่าไบแอมป์


กลับไปที่เบสิก  หน้า 1,2 อีกที


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 กรกฎาคม 2015, 20:05:55 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ โกวิท ไปนำกันเด้อ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 5506
  • HL#851E9551

สองทาง
ที่ผมเข้าใจตามแบบผมคือ ลำโพงหนึ่งตู้ มีดอกลำโพง 2 ดอก เช่น  15 นิ้วกับทวีทเตอร์ 1 ตัว

ส่วน สามทาง ก็เพิ่ม  ดอกเสียงกลางอีกหนึ่งดอก (15 + 6-8 นิ้ว + ทวีทเตอร์)


อีกแบบคือ ไแอมป์ กับ ไทรแอมป์

ถ้าแบบหลังนี่  คือโจทย์ที่บอกตอนต้นคือ
มีตู้ลำโพงฟูลเร้นจ์ดอกเดียว 8 นิ้ว ข้างละดอก (ตอบสนองความถี่  70-15000 Hz)
มีตู้ซับขนาด 15 นิ้ว ตู้ละดอก ต่อข้าง
ใช้ Active Cross  สเตอริโอหนึ่งตัว  พาวเวอร์แอมป์ 2 ตัวครับ

นั่นหมายถึง  ถ้าผมจะใช้  Mini DSP  ก็ต้องหารุ่นที่มี  Input 2/ Output 4  เป็นอย่างน้อย
และผมเข้าใจว่ามันเรียกว่าไบแอมป์

ตู้8นิ้วมีดอกเสียงแหลมไม๊ครับป๋า
ถ้ามีป๋าแก้ปัญหาการดีเลย์ระหว่างกลางแหลมอย่างไรครับ
ตอนนี้ผมมีปัญหากับตู้ผมมากตู้ตีเองนะครับ
ดอกมาจากที่หนึ่ง เนทเวอร์กมาจากอีกที่หนึ่ง
หาอะไรไปขั้นได้ไม๊ครับ

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
ตามที่บอกนะครับ

ตู้ 8 นิ้ว มีดอกเดียว  คือผมแก้ที่ต้นเหตุ
ไม่มีเรื่องของเฟส หมายถึง เวลาที่เสียงที่ออกจากจุดกำเนิด เดินทางมาถึงหูเราไม่เท่ากัน

ในกรณีย ที่มีทวีทเตอร์ หรือ ยูนิตเสียงแหลมเข้ามา
ผมแก้ที่ตำแหน่งที่ตั้งดอกลำโพง แก้อย่างไรต้องดูที่ดอกลำโพงครับ

ยกตัวอย่างมาเลย เดี๋ยวแก้ผ้าให้ดู






ก่อนอื่นต้องเข้าใจที่มาที่ไปบ้างครับ

ลำโพงดอกเดียว จุดกำเนิดเสียงมาจากที่เดียวเท่านั้น
เสียงจะเคลื่อนที่ แนวเส้นกึ่งกลางจากปากลำโพง ไปยังหูคนฟัง  เรียกว่า  On-Axis
พื้นที่ที่อยู่ใน 60 องศา  จะได้ยินเสียงชัดเจนที่สุด


ถ้ามีลำโพง 2 ดอกในตู้เดียวกัน  ดูผลที่ตามมา

ภาพบน  ดูที่เส้นประ  จุดกำเนิดเสียงอยู่ในระนาบเดียวกัน (ผมกะว่า อยู่ตรงก้นโคนกรวยกระดาษที่ติดกับสไปเดอร์)
เสียงที่ออกมาให้ความถูกต้อง  ถ้าเล่นไวโอลินกับเชลโล ซึ่งเป็นเครื่องสีด้วยตัวโน๊ตเดียวกัน
ผู้ฟังจะสามารถแยกออกได้ง่ายว่า ไวโอลิน หรือ เชลโล ที่อยู่ซ้ายมือ หน้าหรือหลัง
มันหมายถึงเสียงที่ถูกต้องจะให้ Sound Stage ที่ถูกต้องสมจริง ครับ





ส่วนภาพล่าง  ดูเส้นประ  ผมคงไม่อธิบายต่อนะครับ

ชีวิตจริงการลองและเล่นเรื่องลำโพงของผมมากว่า 40 ปี (ขอคุยหน่อย)
เมื่อเรียนจักตัวเอง เปรียบเสมือน รับรู้รสหวานของสับประรดภูแล
และต่อมา รับรู้อีกว่า ภูแลมีกลายพันธ์ หวานน้อยลง ไม่กรอบนุ่มเหมือนเดิม
ผมก็กินมันได้

ผมฟังเพลงและรู้ว่าตู้นีมันเจ๋งทุกอย่าง มันแพงเหมือนสับประรดภูแล
แต่เมื่อผมไปยั่งฟังวงคาราโอเกะที่เพื่อนผมจ้างมาเล่นงานปรใหม่บริษัท
ผมก็ฟังได้ว่า กำลังกินสับประรดภูแลกลายพันธ์
ผมก็ยังเอ็นจอยแฮปปี้ไปกับเสียงดนตรีคาราโอเกะที่กลายพันธ์ได้

เพราะด้วยวิถีทางแห่งเสียงเพลงเสียงดนตรี
ไม่ว่าจะอย่างไร มันเป็นภาษาสากล
ฟังแล้วเข้าใจ  ผมพอใจครับ





ของแถมดูเพลินๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 กรกฎาคม 2015, 21:13:20 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ โกวิท ไปนำกันเด้อ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 5506
  • HL#851E9551
ตามที่บอกนะครับ

ตู้ 8 นิ้ว มีดอกเดียว  คือผมแก้ที่ต้นเหตุ
ไม่มีเรื่องของเฟส หมายถึง เวลาที่เสียงที่ออกจากจุดกำเนิด เดินทางมาถึงหูเราไม่เท่ากัน

ในกรณีย ที่มีทวีทเตอร์ หรือ ยูนิตเสียงแหลมเข้ามา
ผมแก้ที่ตำแหน่งที่ตั้งดอกลำโพง แก้อย่างไรต้องดูที่ดอกลำโพงครับ

ยกตัวอย่างมาเลย เดี๋ยวแก้ผ้าให้ดู


ป๋าหมายถึงขยับตำแหน่งยึดติดตั้งดอกใช่ไหมครับ
ถ้าใช่...งานเข้าผมแน่เพราะดอกไม่ได้คำนวนเรื่องพวกนี้ไว้ลาย
ใครว่าตู้สูตรไหนดีก็ทำไปเรื่อยเปื่อย
สรุปคือต้องแก้ที่ตำแหน่งการยึดดอกอย่างเดียว

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
ป๋าหมายถึงขยับตำแหน่งยึดติดตั้งดอกใช่ไหมครับ
ถ้าใช่...งานเข้าผมแน่เพราะดอกไม่ได้คำนวนเรื่องพวกนี้ไว้ลาย
ใครว่าตู้สูตรไหนดีก็ทำไปเรื่อยเปื่อย
สรุปคือต้องแก้ที่ตำแหน่งการยึดดอกอย่างเดียว

ไม่ต้องแก้ที่ตู้.  แต่แก้ที่ไดรว์แร็คโดยการเปลี่ยนไปเล่นสามทางแยก ซับ กลาง แหลม แล้วจะหน่วงหรือกลับเฟสตัวใหนก็เลือกเอา