มีพาดพิงถึง บอกตามตรง ดิจิตอลมิกซ์ไม่เคยลองเล่นครับ
คำศัพท์บางตัว บางทีเรียกใช้เฉพาะเครื่องใครเครื่องมัน
ผู้ที่เอ็กสะเปิดน่าจะเป็นคุณหมอแม๊ค นะครับ
ทีแรกผมก็คิดว่าใช้แบบเดียวกับ Sub group แต่ในคลิปนี้ทำให้รู้ว่าไม่ใช่ มันส่งสัญญาณให้ซับกรุ๊ปไป DSP
ขณะที่ซับกรุ๊ปแค่เพิ่มระดับสัญเสียง แต่ไม่ผ่าน DSP จากผลแบบในคลิปนี้ทำให้เรามีเสียงกลองที่ต่างกัน2ชุด
ยังไม่มีมิกซ์ดิจิตอลตัวไหนมีแน่นอน VCA หมายถึง Voltage Controled Amplifier ผมว่าต้องให้ท่าน มะละกอ
มาช่วยอธิบายทางเทคนิคให้พวกเราหน่อย จะได้ใช้กันเป็น ผมอ่านคู่มือหลายรอบแล้วไม่เข้าใจ แต่ได้ดูคลิปนี้
ถึงพอเข้าใจว่าใช้งานอย่างไร แต่ที่มาของมันต้องรบกวนท่าน มะละกอ แหละครับ
เปิดผ่านๆมา เห็นถูกพาดพิงถึง เลยขออนุญาตอธิบายพอสังเขปนะครับ
การทำงาน ระหว่าง Group กับ VCAs คล้ายๆกัน แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างในรายละเอียดครับ
Group หรือ Sub group การทำงานคือ ใช้เป็น output mix bus ของ mixer โดยรับสัญญาณมาจาก
Post Fader ของ input ยกตัวอย่าง Group ที่เราใช้กันประจำคือ Main L/R ของ mixer นั่นเอง
-Sub group สามารถส่งสัญญาณ ออกจาก mixer ไปให้ ชุดลำโพงต่างๆได้โดยไม่ต้องผ่าน Main L/R หรือถ้าเราต้องการ สางสัญญาณ sub group ไปออกที่ main ก็ได้
-Sub group มีให้เราเลือก ได้ทั้งระบบ Mono และ Stereo
-การประยุกต์ใช้งาน Sub group ที่มักใช้กันบ่อยๆคือ จัดกลุ่มของเครื่องดนตรี หรือ ไมค์ ที่มีวัตถุประสงค์คล้ายๆกันให้มาอยู่ในกลุ่มเดียวกันเพื่อที่จะควบคุมระดับความดัง หรือใส่ EQ/Effect/Compressor ให้กับเครื่องดนตรีกลุ่มนั้น เช่น กลองชุด ไมค์คอรัส ชุดเครื่องเป่า
-แต่ก็อาจมีข้อจำกัด เวลาที่ mute group หรือลด Group Fader สัญญาณที่ไม่ผ่าน Channel Fader เราก็จะได้ยิน เช่นเสียง Effect/Aux monitor ที่ผ่านช่อง Aux (Pre/Post Fader)
VCAs (Voltage Controlled Amplifier) หลักการทำงานสั้นๆก็คือ ใช้เป็น Remote Control กลุ่มของ Input Channel Fader เมื่อเราเพิ่มลด VCA fader ก็เหมือนกับเราเพิ่มลด Channel Fader ไปพร้อมๆกัน
- VCA group มีใช้ทั้งใน Analog mixer (รุ่นใหญ่ๆ) และ Digital mixer
Digital mixer บางยี่ห้ออาจ เรียกว่า
DCAs (Digital Controlled Amplifier) ซึ่งก็คือ VCAs ใน Digital board mixer นั่นเอง
รูป VCA group ใน Analog mixer
-ใช้สำหรับควบคุมระดับของสัญญาณกลุ่มของเครื่องดนตรี หรือ ไมค์ ให้ขึ้นลงไปพร้อมๆกัน เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการควบคุมระดับความดัง ยกตัวอย่างการใช้งาน เช่น VCA กลองชุด เพื่อ mix balance ระหว่างเสียงกลองกับ เสียงนักร้อง หรือ VCA กลอง + เบส เพื่อควบคุมให้เสียงเบสขึ้นลงไปพร้อมๆกับชุดกลอง
จากรูป CH1 Assign ให้อยู่ใน VCA1 รูปซ้ายมือ ตำแหน่ง Fader CH1 =0dB, VCA1= -10dB สัญญาณขาออกที่ VCA1 จะเท่ากับ -10dB
รูปขวามือ ตำแหน่ง Fader CH1=-10dB, VCA1=-10dB VCA gain จะเท่ากับ -20dB
- ข้อดีของ VCA ก็คือใช้ Fader เพียงอันเดียวในการควบคุม ไม่ว่าจะเป็น ระบบ mono หรือ stereo แต่ Sub group เราต้องใช้ 2 Sub group เพื่อใช้ควบคุมในระบบ stereo
- สามารถใช้ควบคู่กับ Sub group เพื่อควบคุมระดับสัญญาณ post fader ของ input ก่อนที่จะไปเข้า sub group เช่น ตัวอย่างใน คลิปที่น้าป้อม เอามาให้ศึกษา คือ ใช้ Drum set VCA เพิ่มลดสัญญาณ ก่อนที่จะเข้า สู่ compressor ใน Drum sub group จะเห็นว่าเมื่อเพิ่ม VCA fader gain reduction ของ sub group compressor จะทำงาน แต่ถ้าเพิ่ม sub group fader ความดังจะเพิ่มแต่ compressor ไม่ทำงาน เพราะไปเพิ่มสัญญาณที่ออกจาก compressor มาแล้ว เสียงที่ได้จึงไม่มี dynamic เหมือนที่ผ่าน compressor
- สามารถลด ระดับเสียงของกลุ่มเครื่องดนตรีได้ทุก mix bus ในการควบคุมที่ VCA fader เพียงครั้งเดียว เช่น ในการทำ ลำโพง delay รอบงานใช้ sub group 4 ชุด mainL/R เมื่อเราต้องการลดเสียงของชุดกลอง VCA ก็ลดที่ VCA fader เพียงตัวเดียวก็ลดได้หมด
- ข้อดีอีกอย่างคือเรื่องเสียง effect ไมค์ ที่ใช้ post fader aux เวลาลด VCA กลุ่มไมค์ลง ก็เหมือนกับลด input channel fader ของกลุ่มไมค์ลง เสียง effect ก็จะลดลงสัมพันธ์กับ VCA fader ด้วย
- ข้อควรระวังของการใช้ VCA group คือ เมื่อเรา assign เครื่องดนตรี เช่น กลองไว้หลายๆ VCA group ถ้าเราลด fader ลงทั้ง 2 VCA gain จะลดลงเป็นลำดับ เช่น
CH1 ลด fader ลง 5dB, VCA1 ลด 2dB, VCA2 ลด 5dB Gain ที่จะออกไป mix bus จะลดลงเหลือ -12dB