ผู้เขียน หัวข้อ: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง  (อ่าน 24827 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

somjainuk74

  • บุคคลทั่วไป
มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« เมื่อ: วันที่ 6 กรกฎาคม 2009, 10:45:56 น. »
สัญญาณไฟฟ้าที่ส่งไปที่ลำโพงเพื่อแปลงเป็นเสียง
เป็นสัญญาณไฟสลับ คือไฟฟ้าที่เราใช้ตามบ้านเรานี่แหละ
แอมป์ที่ส่งไฟฟ้าไปให้ลำโพงแปลงเป็นเสียง จะส่งไฟฟ้าตั้งแต่ 0 V -90 V AC
หากเราเดินสายลำโพง ไม่เกิน 100 เมตร จะไม่มีผลต่อเสียงครับ
หากกระแสไฟตรง หมายถึงมีไฟแบตเตอรี่รถยนต์ และถ่ายไฟฉาย มีขั้วบวกขั้วลบ ตายตัวเรียกว่าไฟ DC
หากใช้สายยาวมากมีผลลบ
แต่ถ้าที่ใช้เพื่อเชื่อมเหล็กไม่มีผล เพราะเครื่องแปลงไฟ AC เป็นไฟ DC สามารถเร่งไฟได้

ออฟไลน์ ทินกรณ์แมน

  • คณะก่อการ
  • ระดับ 5
  • ***
  • กระทู้: 1797
  • HL#440A42CE(wolverine)
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันที่ 6 กรกฎาคม 2009, 11:04:54 น. »
ขอบคุณครับ
 :devil: :devil:

ออฟไลน์ พี่ตุ้ม

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 2684
  • พี่ตุ้มคนเดิม 8D1C1118
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันที่ 6 กรกฎาคม 2009, 13:40:00 น. »
สัญญาณไฟฟ้าที่ส่งไปที่ลำโพงเพื่อแปลงเป็นเสียง
เป็นสัญญาณไฟสลับ คือไฟฟ้าที่เราใช้ตามบ้านเรานี่แหละ
แอมป์ที่ส่งไฟฟ้าไปให้ลำโพงแปลงเป็นเสียง จะส่งไฟฟ้าตั้งแต่ 0 V -90 V AC
หากเราเดินสายลำโพง ไม่เกิน 100 เมตร จะไม่มีผลต่อเสียงครับ
หากกระแสไฟตรง หมายถึงมีไฟแบตเตอรี่รถยนต์ และถ่ายไฟฉาย มีขั้วบวกขั้วลบ ตายตัวเรียกว่าไฟ DC
หากใช้สายยาวมากมีผลลบ
แต่ถ้าที่ใช้เพื่อเชื่อมเหล็กไม่มีผล เพราะเครื่องแปลงไฟ AC เป็นไฟ DC สามารถเร่งไฟได้

ป๋า  ผมอ่านยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่อ่ะ  ตอนท้ายๆน่ะ  ช่วยบ้องหูให้ผมสว่างขึ้นหน่อยสิครับ  ผมก็มีปัญหากับสายลำโพง  วันก่อนเห็นของตาไท พัทยาเค้าใช้สายไฟอ่อนแทนสายลำโพง ยังงงอยู่เลย

somjainuk74

  • บุคคลทั่วไป
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันที่ 6 กรกฎาคม 2009, 15:07:33 น. »
ป๋า  ผมอ่านยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่อ่ะ  ตอนท้ายๆน่ะ  ช่วยบ้องหูให้ผมสว่างขึ้นหน่อยสิครับ  ผมก็มีปัญหากับสายลำโพง  วันก่อนเห็นของตาไท พัทยาเค้าใช้สายไฟอ่อนแทนสายลำโพง ยังงงอยู่เลย
ไฟ AC ก็คือไฟที่มากันสาย 2 เส้น แต่ไฟจะวิ่งสลับกันไปมา ทั้ง 2 เส้นเป็นทั้งบวกและลบสลับไปอยู่ตลอดเวลา
ไฟ DC ก็คือไฟที่มากันสาย 2 เส้น แต่ไฟขั้วบวกจะวิ่งไปเฉพาะขั้วบวกเส้นเดียวเท่านั้น ส่วนเส้นลบก็จะวิ่งไปเฉพาะเส้นลบเท่านั้น

ออฟไลน์ JIAMBOND

  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 124
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันที่ 8 กรกฎาคม 2009, 08:06:59 น. »
AC -1.  Hotline สายไฟ สลับขั้ว + - ตลอดเวลา ในป.ไทย มีความถี่ 50 HZ
      2. Netrul    สายนิวตรัล  ไม่มีกระแสไฟครับ
DC- 1. +  ไฟบวก 
       2. -   ไฟลบ

ออฟไลน์ สุระชาติ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 2943
  • 7485360D,9660E447,5D12658A(เด็กชายเคยโสด)
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 15:16:28 น. »
ขนาดของสายมีผลอะไรกับเสียงไหมอาจารย์

somjainuk74

  • บุคคลทั่วไป
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 15:56:35 น. »
ขนาดของสายมีผลอะไรกับเสียงไหมอาจารย์
ระยะไม่ถึง 100 เมตร สายเบอร์ 2.5 สำหรับเบส สายอื่นก็ลดเบอร์ลงมาน่าจะเหลือเฟือ

ออฟไลน์ จิตกร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4577
  • รักและเคารพเพื่อนๆทุกคน
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 16:24:25 น. »
ระยะไม่ถึง 100 เมตร สายเบอร์ 2.5 สำหรับเบส สายอื่นก็ลดเบอร์ลงมาน่าจะเหลือเฟือ
ป๋า สายยาวมีผลเรื่อง ดีเลย์หรือไม่ครับ คือเวลาพูดใส่ไมค์ อะไรประมานนี้น่ะ มีผลมั๊ยครับ

somjainuk74

  • บุคคลทั่วไป
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 17:05:12 น. »
ป๋า สายยาวมีผลเรื่อง ดีเลย์หรือไม่ครับ คือเวลาพูดใส่ไมค์ อะไรประมานนี้น่ะ มีผลมั๊ยครับ
ไม่มีครับ เพราะลำโพงอยู่ใกล้กับนักร้องหรือไมค์ ถ้าลำโพงอยู่ไกลจากนักร้องครับ เสียงที่ร้องออกลำโพงตามปกติจริง แต่เสียงที่จะเดินทางจากลำโพง มาหานักร้องต้องใช้เวลา ลองทดสอบกับเครื่องไฟที่เล่นตามงานดูซิ ตู้อยู่ไกลคนพูด พูดไปแล้วเสียงเพิ่งจะออก เพราะเหตุเสียงเดินทางมาที่เรามีระยะทางไกล

ออฟไลน์ อู๊ด โคจร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 6838
  • You'll never drunk alone
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 17:54:37 น. »
ป๋า สายยาวมีผลเรื่อง ดีเลย์หรือไม่ครับ คือเวลาพูดใส่ไมค์ อะไรประมานนี้น่ะ มีผลมั๊ยครับ

แทบไม่รู้สึกครับพี่จิตกร เพราะสัญญาณทางไฟฟ้าเดินทางด้วยความเร็วเท่ากับแสง ประมาณ 300ล้านเมตร ต่อวินาทีครับ

ขนาดของสายมีผลอะไรกับเสียงไหมอาจารย์

ขนาดของสายย่อมมีผลครับเพราะหากมองแล้วสายก็เป็นตัวต้านทานตัวหนึ่ง ที่จะลดทอน (Attenuate) เสียงลงไป

จึงจำเป็นต้องใช้สายที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่พอเหมาะครับ อ้างอิงจากสมการ
R=ค่าสัมประสิทธิ์ของโลหะ
L=ความยาว(หน่วยเป็นเมตร)
A= ขนาดพื้นที่หน้าตัดของตัวนำมีหน่วยเป็น ตรม.

และอีกสูตรครับ เป็นเปอร์เซนต์การสูญเสียในสายครับ

%e = 100 x Lx N /
Kx S x U²

K= 56 For Cu ค่าสัมประสิทธิ์ของสายทองแดง
K= 35 For Al  ค่าสัมประสิทธิ์ขางสายอลูมินั่ม
U= Voltage volt แรงดัน
N= power kW  กำลัง
S= crosssection of the cable mm²  ขนาดพื้นที่หน้าตัดของตัวนำ
L= length of the cable or wire mt    ความยาวของตัวนำ


ยังมีปัจจัยอื่นอีกเล็กน้อยนะครับเช่น อุณหภูมิ ที่มีผลต่สัญญาณไฟฟ้าครับ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ รอท่านอื่นมาเพิ่มเติมครับ

เด็กวัดขอไปล้างกระโถนให้หลวงตาก่อนครับผม

ออฟไลน์ จิตกร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4577
  • รักและเคารพเพื่อนๆทุกคน
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 21:01:07 น. »
ไม่มีครับ เพราะลำโพงอยู่ใกล้กับนักร้องหรือไมค์ ถ้าลำโพงอยู่ไกลจากนักร้องครับ เสียงที่ร้องออกลำโพงตามปกติจริง แต่เสียงที่จะเดินทางจากลำโพง มาหานักร้องต้องใช้เวลา ลองทดสอบกับเครื่องไฟที่เล่นตามงานดูซิ ตู้อยู่ไกลคนพูด พูดไปแล้วเสียงเพิ่งจะออก เพราะเหตุเสียงเดินทางมาที่เรามีระยะทางไกล
แทบไม่รู้สึกครับพี่จิตกร เพราะสัญญาณทางไฟฟ้าเดินทางด้วยความเร็วเท่ากับแสง ประมาณ 300ล้านเมตร ต่อวินาทีครับ

ขนาดของสายย่อมมีผลครับเพราะหากมองแล้วสายก็เป็นตัวต้านทานตัวหนึ่ง ที่จะลดทอน (Attenuate) เสียงลงไป

จึงจำเป็นต้องใช้สายที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่พอเหมาะครับ อ้างอิงจากสมการ (....)
R=ค่าสัมประสิทธิ์ของโลหะ
L=ความยาว(หน่วยเป็นเมตร)
A= ขนาดพื้นที่หน้าตัดของตัวนำมีหน่วยเป็น ตรม.

และอีกสูตรครับ เป็นเปอร์เซนต์การสูญเสียในสายครับ

%e = 100 x Lx N /
Kx S x U²

K= 56 For Cu ค่าสัมประสิทธิ์ของสายทองแดง
K= 35 For Al  ค่าสัมประสิทธิ์ขางสายอลูมินั่ม
U= Voltage volt แรงดัน
N= power kW  กำลัง
S= crosssection of the cable mm²  ขนาดพื้นที่หน้าตัดของตัวนำ
L= length of the cable or wire mt    ความยาวของตัวนำ


ยังมีปัจจัยอื่นอีกเล็กน้อยนะครับเช่น อุณหภูมิ ที่มีผลต่สัญญาณไฟฟ้าครับ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ รอท่านอื่นมาเพิ่มเติมครับ

เด็กวัดขอไปล้างกระโถนให้หลวงตาก่อนครับผม
:happy: :thank1: งั้นถามต่อครับ ทำไมวงดนตรีที่มิกหน้าเวที ถึงบอกว่าจะต้องเอา power Amp ไว้ใกล้กับลำโพงล่ะครับ สายต่อลำโพงจะต้องยาวไม่เกิน10 เมตร ยิ่งสั้นเท่าไรยิ่งดี ทฤษฎีนี้เป็นการเข้าใจผิดถูกต้องมั๊ยครับ 5555+

ออฟไลน์ อู๊ด โคจร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 6838
  • You'll never drunk alone
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 21:30:20 น. »
:happy: :thank1: งั้นถามต่อครับ ทำไมวงดนตรีที่มิกหน้าเวที ถึงบอกว่าจะต้องเอา power Amp ไว้ใกล้กับลำโพงล่ะครับ สายต่อลำโพงจะต้องยาวไม่เกิน10 เมตร ยิ่งสั้นเท่าไรยิ่งดี ทฤษฎีนี้เป็นการเข้าใจผิดถูกต้องมั๊ยครับ 5555+

พี่ต้องกลับไปดูที่คำถามที่พี่ถามใหม่นะคร้าบบบ  พี่ถามว่ามันดีเลย์หรือไม่ครับผม ผมตอบว่าไม่ดีเลย์ครับ

แต่สายยาวนี่สูญเสียแน่นอนครับ  เสียงมันจะเบาลงครับ แต่ดีเลย์คืดค่าความหน่วงหรือความช้านั่นแหละครับผม  ;D ;D ;D

keenew

  • บุคคลทั่วไป
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 21:33:03 น. »
พี่ต้องกลับไปดูที่คำถามที่พี่ถามใหม่นะคร้าบบบ  พี่ถามว่ามันดีเลย์หรือไม่ครับผม ผมตอบว่าไม่ดีเลย์ครับ

แต่สายยาวนี่สูญเสียแน่นอนครับ  เสียงมันจะเบาลงครับ แต่ดีเลย์คืดค่าความหน่วงหรือความช้านั่นแหละครับผม  ;D ;D ;D
ตามที่พี่อู๊ดว่าเลยครับพี่จิตรกร

ออฟไลน์ จิตกร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4577
  • รักและเคารพเพื่อนๆทุกคน
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 21:36:52 น. »
พี่ต้องกลับไปดูที่คำถามที่พี่ถามใหม่นะคร้าบบบ  พี่ถามว่ามันดีเลย์หรือไม่ครับผม ผมตอบว่าไม่ดีเลย์ครับ

แต่สายยาวนี่สูญเสียแน่นอนครับ  เสียงมันจะเบาลงครับ แต่ดีเลย์คืดค่าความหน่วงหรือความช้านั่นแหละครับผม  ;D ;D ;D
ตามที่พี่อู๊ดว่าเลยครับพี่จิตรกร
อื่อ...อ่า....ขออีกนิดครับจะได้หมดความแครงใจ สมมุติสายลำโพงขนาดหน้าตัดได้ ความดังยังลดมั๊ยครับ อิอิอิ..หมดคำถามและ....

ออฟไลน์ อู๊ด โคจร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 6838
  • You'll never drunk alone
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 21:47:40 น. »
อื่อ...อ่า....ขออีกนิดครับจะได้หมดความแครงใจ สมมุติสายลำโพงขนาดหน้าตัดได้ ความดังยังลดมั๊ยครับ อิอิอิ..หมดคำถามและ....


ลดครับยังไงก็ลดครับ แต่ว่าเรารู้สึกได้หรือไม่นั่นอีกเรื่องหนึ่งครับพี่ พูดง่ายๆว่า ถ้ายสายขนาดได้ คุณภาพของตัวนำได้

เราแทบจะไม่รับรู้ถึงความสูญเสีย ต้องใช้เครื่องมือวัดละเอียดถึงจะทราบครับ   ขรับผ๊ม   ;D ;D ;D

ออฟไลน์ นายเปี๊ยก !!

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 3896
  • ....2C8DA523....
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 22:06:51 น. »
แจ๋มด้วยคน
ถามว่า พวกมิกซ์หน้า ทำไมต้องเอาแอมป์ไปไว้ใกล้ลำโพง   เพราะ ประหยัดสาย ได้เท่นิดหน่อย
ถามว่า ความสั้นยาวของสาย และความเล็กความใหญ่ของสาย มีผลกับเสียบหรือไม่ ตอบว่ามีแน่นอน แต่....
ยาวขนาดไหน ถึงจะเห็นผล...10 เมตร 20 เมตร หรือ 100 เมตร   ต้องคำนวน   ได้ตัวเลขแล้ว  หูฟังออกหรือเปล่า ต้องลอง
สายเล็กหรือใหญ่  อันนี้อาจเห็นผล จับต้องได้ มากกว่ายาวหรือสั้น
ทิศทางของสายลำโพง มีผลหรือเปล่า   ตอบว่า มีและมากด้วย    ฟังออกหรือเปล่า แล้วแต่หูครับ ถ้าหูหาเรื่องก็..........
สำหรับงาน PA  เรื่องพวกนี้ ไม่ใช้เรื่องใหญ่มากจนถึงกันกินไม่ได้นอนไม่หลับ .........หูฟังอยู่ ตาเห็นหางเครื่องกะเด็ง 2 ที
หูก็แตกแล้วครับ   แต่   ถ้าเป็นเครื่องเสียงในบ้าน.......เรื่องสายสัญญาน สายไฟ เป็นเรื่องระดับงานสุรินทร์เลยครับ  :thank2:

ออฟไลน์ จิตกร

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4577
  • รักและเคารพเพื่อนๆทุกคน
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 22:11:04 น. »
แจ๋มด้วยคน
ถามว่า พวกมิกซ์หน้า ทำไมต้องเอาแอมป์ไปไว้ใกล้ลำโพง   เพราะ ประหยัดสาย ได้เท่นิดหน่อย
ถามว่า ความสั้นยาวของสาย และความเล็กความใหญ่ของสาย มีผลกับเสียบหรือไม่ ตอบว่ามีแน่นอน แต่....
ยาวขนาดไหน ถึงจะเห็นผล...10 เมตร 20 เมตร หรือ 100 เมตร   ต้องคำนวน   ได้ตัวเลขแล้ว  หูฟังออกหรือเปล่า ต้องลอง
สายเล็กหรือใหญ่  อันนี้อาจเห็นผล จับต้องได้ มากกว่ายาวหรือสั้น
ทิศทางของสายลำโพง มีผลหรือเปล่า   ตอบว่า มีและมากด้วย    ฟังออกหรือเปล่า แล้วแต่หูครับ ถ้าหูหาเรื่องก็..........
สำหรับงาน PA  เรื่องพวกนี้ ไม่ใช้เรื่องใหญ่มากจนถึงกันกินไม่ได้นอนไม่หลับ .........หูฟังอยู่ ตาเห็นหางเครื่องกะเด็ง 2 ที
หูก็แตกแล้วครับ   แต่   ถ้าเป็นเครื่องเสียงในบ้าน.......เรื่องสายสัญญาน สายไฟ เป็นเรื่องระดับงานสุรินทร์เลยครับ  :thank2:

ลดครับยังไงก็ลดครับ แต่ว่าเรารู้สึกได้หรือไม่นั่นอีกเรื่องหนึ่งครับพี่ พูดง่ายๆว่า ถ้ายสายขนาดได้ คุณภาพของตัวนำได้

เราแทบจะไม่รับรู้ถึงความสูญเสีย ต้องใช้เครื่องมือวัดละเอียดถึงจะทราบครับ   ขรับผ๊ม   ;D ;D ;D
ขอบคุณครับเสี่ยอู๊ด ป๋าสจน.และก็ผู้พันด้วยครับ งานนี้ทำให้ผมคิดได้ความรู้มากๆทีเดียวครับผม :thank1: :thank1: :thank1:

keenew

  • บุคคลทั่วไป
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 22:39:14 น. »
ยิ่งสั้นยิ่งดีครับ  :th2:

nrswdt

  • บุคคลทั่วไป
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2009, 23:58:38 น. »
ยิ่งสั้นยิ่งดีครับ  :th2:
จริงอย่างท่านนักรบกีนิวว่าครับ  ยิ่งสั้นยิ่งดีและต้องใหญ่ด้วยครับจะได้เพิ่มคุณภาพเสียง

 

ออฟไลน์ Amorn Pattaya

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • **
  • กระทู้: 8394
  • HL#4C89B630 , 6EE74894,789AC331 ( X-men )
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2009, 03:50:35 น. »
สายสัญญาณต่างๆ ไม่ว่าไฟ หรือลำโพง มันก็เปรียบได้เหมือนท่อน้ำนั่นแหละครับ ...คิดเอาแล้วกัน..ว่า..อะไรต่างๆจะมีผล
หรือไม่อย่างไร...

james-giggs

  • บุคคลทั่วไป
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2009, 05:12:36 น. »
แจ๋มด้วยคน
ถามว่า พวกมิกซ์หน้า ทำไมต้องเอาแอมป์ไปไว้ใกล้ลำโพง   เพราะ ประหยัดสาย ได้เท่นิดหน่อย
ถามว่า ความสั้นยาวของสาย และความเล็กความใหญ่ของสาย มีผลกับเสียบหรือไม่ ตอบว่ามีแน่นอน แต่....
ยาวขนาดไหน ถึงจะเห็นผล...10 เมตร 20 เมตร หรือ 100 เมตร   ต้องคำนวน   ได้ตัวเลขแล้ว  หูฟังออกหรือเปล่า ต้องลอง
สายเล็กหรือใหญ่  อันนี้อาจเห็นผล จับต้องได้ มากกว่ายาวหรือสั้น
ทิศทางของสายลำโพง มีผลหรือเปล่า   ตอบว่า มีและมากด้วย    ฟังออกหรือเปล่า แล้วแต่หูครับ ถ้าหูหาเรื่องก็..........
สำหรับงาน PA  เรื่องพวกนี้ ไม่ใช้เรื่องใหญ่มากจนถึงกันกินไม่ได้นอนไม่หลับ .........หูฟังอยู่ ตาเห็นหางเครื่องกะเด็ง 2 ที
หูก็แตกแล้วครับ   แต่   ถ้าเป็นเครื่องเสียงในบ้าน.......เรื่องสายสัญญาน สายไฟ เป็นเรื่องระดับงานสุรินทร์เลยครับ  :thank2:
งานบ้านพ๊มเยย..555 :happy: ;D

james-giggs

  • บุคคลทั่วไป
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2009, 05:13:45 น. »
ไม่ใช่สายไฟ ครับพี่ตุ้ม เป็นสายลำโพง ยี้ห้อ JBL ครับ ราคาแพงเอาการ แต่เหมือนสายไฟ ครับผม เหอๆๆๆๆ :mad245: :mad245:
:th2:

james-giggs

  • บุคคลทั่วไป
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2009, 05:14:35 น. »
สายสัญญาณต่างๆ ไม่ว่าไฟ หรือลำโพง มันก็เปรียบได้เหมือนท่อน้ำนั่นแหละครับ ...คิดเอาแล้วกัน..ว่า..อะไรต่างๆจะมีผล
หรือไม่อย่างไร...
:happy: :happy: :happy: :zzz:

james-giggs

  • บุคคลทั่วไป
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2009, 05:15:38 น. »

m sound

  • บุคคลทั่วไป
Re: มาทำความเข้าใจกับสายลำโพง
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2009, 05:29:21 น. »
ไม่ใช่สายไฟ ครับพี่ตุ้ม เป็นสายลำโพง ยี้ห้อ JBL ครับ ราคาแพงเอาการ แต่เหมือนสายไฟ ครับผม เหอๆๆๆๆ :mad245: :mad245:
ผมยังว่าอยู่ ระดับ ไท พัทยา เครื่อง แบรนด์เนมทั้งนั้น จะยังใช้สายไฟอ่อน แทนสายลำโพงอยู่อีกหรือ.ทีนี้ บาง อ้อ แล้วครับ เจบีแอล ซะงั้น หุหุหุ ;D ;D ;D