..ผมเห็นสมาชิกหลายท่านตั้งกระทู้เรื่องการใช้ Passive crossover network .ในระบบ 2 ทาง ( Bi-amp.) และ 3ทาง ( Tri-amp.) พอดีผมศึกษาเรียนรู้ สอบถามจากผู้รู้+ทดลองทำเรื่องเหล่านี้มานาน จนคิดว่าลงตัวแล้วจึงขอเอาประสบการมาให้ท่านทั้งหลายนำไปใช้+ต่อยอดให้เกิดประโยชน์....
...ผมมีเครื่องปรุง แร็คเกียร์ 2 ชุด ชุดใหญ่สำหรับออกงานสนามใหญ่เป็นระบบ 3 (Triamp ) และชุดเล็กเป็นระบบ 2 ทาง ( Bi-amp.) สำหรับงานเล็กๆ
เครื่องปรุงแร็คเกียร์ชุดเล็กระบบ 2 ทาง ใช้ Electronic crossover 2 ทาง dbx ซื้อของมือ 2 มาราคา 2800 ครับ แอมป์ QSC ใช้ขับกลาง-แหลม
เครื่องปรุ้งแร็คเกียร์ชุดใหญ่ ใช้ Electronic crossover 2 ตัว 2 ยี่ห้อแยกทำหน้าที่ตามคุณสมบัติจุดเด่นของแต่ละยี่ห้อ ใช้ 3 ทาง dbx ขับ Low ใช้ Rane ac 23 ขับกลาง-แหลม
ตัวนี้ใช้ขับ Low
กลางแหลมสูตร PS 15 + X-TWO
กลางแหลมสูตร PS 15 + W
.....มาพูดกันถึงเรื่อง ระบบ 2 ทาง ( Bi-amp.) ก่อน ...ผมเห็นหลายๆท่านเอา Electronic crossover แบบ 3 ทางมาเล่นแบบ 2 ทาง..ซึ่งมันก็ทำได้ แต่มันจะยุ่งยากมาก ต้องใช้สาย Y ถ้าไม่เข้าใจ และทำไม่ถูกเสียงจะแย่มากๆ และอีกอย่างมันเป็นการสิ้นเปลืองเงินมากในการไปซื้อ Electronic crossover แบบ 3 ทางมาเล่น 2 เพราะ 3 ทางมันแพงกว่า 2 ทางหลายพันบาท...ทำไมไม่ซื้อ Electronic crossover แบบ 2 ทางมาเล่น ง่ายกว่า ประหยัดกว่าอีก..แต่ถ้ามีแบบ 3 ทางแล้วอยากเอามาเล่น 2 ทางก็แล้วไป
...เอ้ามาเข้าเรื่องต่อ...มาพูดถึงว่าเวลาเล่น 2 ทางแล้วจำเป็นที่จะต้องใช้ Passive crossover ( ที่เป็นแผ่นวงจร+ขดลวด+C+R ) กลางแหลมในตู้อีกไหม.. บางคนก็บอกว่าเสียงแหลมต้องใช้ แต่เสียงกลางไม่ต้อง ปล่อยตรงๆเลย....แต่จากที่ผมได้ทดลองทำด้วยตัวเอง โดยการตั้งระบบเปิดเครื่องและทดลองเล่นแบบต่อ และไม่ต่อ พร้อมกับโทรปรึกษาผู้รู้ ระดับเซียนไปด้วย..ผลจากที่ผมได้ทดลองตรงๆหลายครั้งสลับไปมา.ขอบอกแบบฟันธงว่า เวลาเล่นระบบ 2 ทาง ต้องใช้ Passive crossover 2 ทางทั้งกลาง+แหลม เพราะจะให้เสียงที่ดีกว่าใช้เฉพาะเสียงแหลม..
......ที่นี้มาพูดถึงระบบ 3 ทาง ( Tri-amp.) ระบบนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะมันต่อตรงๆ ...แต่ระบบ 3 ทางก็ต้องใช้และมี Passive crossover เสียงแหลมในตู้ ส่วนเสียงกลางไม่ต้องปล่อยตรงๆได้เลย...
...ลองเอาไปทำกันดูนะครับ...