เป็นไปตามกลไกและกระบวนการทางธรรมชาติครับ
เครื่องเสียงแถวๆ บ้านผมตกงานกันเพียบ รวมทั้งคาราโอเละของผมด้วย อิๆ
เพราะตอนนี้แถวๆ บ้านผม เขามีเครื่องเสียงประจำหมู่บ้านกันทุกหมู่เลยครับ
ส่วนค่าบริการเครื่องเสียงประจำหมู่บ้านก็แล้วแต่เจ้าภาพจะอภินันทนาการ มากน้อยไม่ว่ากัน
เพราะเครื่องเสียงที่ซื้อมาใช้ เป็นงบประจำหมู่บ้าน ฮ่าๆ
ส่วนเครื่องเสียงเอกชนซื้อมาแพงๆ เสียงดีๆ ตกงานกันระนาว ฮิๆๆ
แม้เครื่องเสียงเอกชนเสียงดีๆ ใช้แต่ของดีๆ ก็ตามแต่ แต่ค่าจ้างก็ไม่ได้แพงตามราคาเครื่องเสียงเลยครับ เซ็ง ฮิๆๆ
แถวๆ บ้านผมเป็นจั่งซี่ซั่นดอกว้า ฮิๆิ
นี่แหละกระป๋อง ที่พี่มะละกอ แชร์ประสบการณ์มา
"วงการดนตรีคาราโอเกะในบ้านเรา จะเดินหน้าหรือถอยหลัง
ผมว่าขึ้นอยู่กับพวกเราในทุกวันนี้ไม่มากก็น้อยละครับ ว่าเราจะพากันเดินอย่างไรกัน"
พวกเรา รวมกลุ่มกันไม่ได้ ตัดราคากันเองซะส่วนใหญ่
และชอบอวดกันว่าระบบกรูดีกว่าของมรึง
สุดท้ายกอดคอกันตาย
ผมเองแถวบ้าน ดอนเมืองแทบไม่มีงานเกะเลย
โดนวงมักง่าย ตัดหน้าหมด
แต่ผมสามารถ หาลูกค้ากลุ่มอื่น
ในละแวกใกล้เคียงได้
แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมอยู่ กทม. ตัวเลือกเยอะ
โอกาสมีมากกว่า อยู่ ตจว.
วันที่ 11 นี้เจ้าภาพบังอาจหาผมไปแทน วงเจ้าถิ่นที่ผูกขาด
ใน ม.เกษตรศาตร์ บางเขน
ไม่รู้ว่าหมู่หรือจ่า
แต่ผมผูกใจเจ้าภาพไว้แล้วคือ
ผมลงทุนทำเพลง ที่ร้องในงาน
1.พระราชนิพนธ์เกษตรศาสตร์ (NCN มีอยู่แล้วแต่ไม่เหมือนต้นฉบับ ผมเลยสั่งทำใหม่)
2.สดุดีพระเกียรติ (NCN ยังไม่มี)
3.ส.ม.ก. (NCN ยังไม่มี)
งานแรกอาจจะไม่คุ้ม หรือกำไรน้อย
แต่ไว้กินระยะยาว
งานมีทุกเดือน เดือนละ 2 ครั้ง
คุ้มแน่นอน
หรืออย่างงานสมาคมชาวตรัง ผมก็เอา MP3 เพลงมาร์ชสมาคมชาวตรัง มาปาดเนื้อ
เวลาคณะกรรมการขึ้นเวทีร้องเพลงนี้ ก็ไม่ต้องถือเน้อร้องคนละแผ่น ดูจอมอนิเตอร์ คาราโอเกะได้เลย
งานนี้ผมเล่นมา 6 ปีแล้ว
เจ้าภาพยังไม่เปลี่ยนใจ
เพลงอีกหลายๆเพลงที่เราต้องเอา MP3 Karaoke มาปาดเนื้อไว้
คอยปิด - เปิดเสียงร้องช่วย กรณีแขกร้องไม่ได้ หรือหลงเสียง หรือ ร้องเพี้ยน
เช่น
- สดุดีมหาราชา
- สรรเสริญพระบารมี
- เพลงชาติไทย
เพลงพิธีการต่างๆ ก็ต้องมี และซาวต้องดีกว่าของคนอื่น
เช่น เพลงมหาฤกษ์ ,มหาชัย ฯลฯ
และเราต้องรู้กาละเทศะ ในการเปิด ว่าแต่ละเพลง
เขาใช้เปิิดกันอย่างไร
ซาวเอฟเฟ็ค ก็มีความจำเป็น
ทั้งซาวขึ้น - ลงเวที
ซาวส่งมุก
ฯลฯ
ซาวประกอบการร้องบางเพลง ก็จำเป็นต้องมี เพื่อประกอบเพลงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เช่นถ้าแขกร้องเพลง
อุ้มลูกน้อยตามเมีย -> ศรเพชร ศรสุพรรณ
ผมก็จะเปิดเสียงเด็กร้องไห้ ในท่อนโซโล ดนตรี ทุกครั้งไป
ซาวประกอบการแสดง พื้นฐานต่างๆ
ก็ต้องมีติดเครื่องไว้
เพื่อช่วยแขก เวลาแขกทำการแสดงและต้องการความช่วยเหลือ
เครื่องเสียงก็มีความจำเป็น
ต้อง
ฟังสบาย ทั่วถึง
ไม่ดังแต่ด้านหน้า จนประธานที่นั่งหน้าเวทีหรือสว. หรือเจ้าภาพ สั่งให้หรี่เสียง
ไม่ปล่อยให้ไมค์หอน วี้ดว้าด พร่ำเพรื่อ
เว้นแต่เหตุสุดวิสัย ก็ต้องมีหอนบ้าง
ช่วงพิธีการ ไมค์ต้องเน้นดังเป็นพิเศษ
ฯลฯ
สุดท้าย การเอนเตอร์เทนหน้าเวที
และการเลือกเพลงที่จะเล่นหน้าเวที
ตามแขกชอบ (ต้องหาข้อมูลในแต่ละงาน หรือแหย่เพลงแต่ละแนวออกไป เพื่อดูอาการแขกว่าโดนหรือไม่อย่าไร)
ต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าภาพ
เลิกเร้ว - ช้า นิดๆหน่อยๆ ก็หยวนๆกัน
ทังหลายทั้งปวง มันคือศาสตร์ และศิลป
ในการทำวง สมัยนี้ทั้งนั้นเรยยยยย
แค่นี้ก็มีชัย ไปกว่าครึ่ง นะผมว่า
ไม่มีไรมากครับ เป็นแค่แชร์ประสบการณ์ กัน