ผู้เขียน หัวข้อ: ใครใช้ไมโครเวิป 4 บ้าง ของผมมีปัญหา  (อ่าน 2044 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

charn

  • บุคคลทั่วไป
ใครใช้ไมโครเวิป 4 บ้าง ของผมมีปัญหา
« เมื่อ: วันที่ 4 ธันวาคม 2011, 14:03:21 น. »
 ;D อาการออกแปลก ๆ บ้างครั้งเอฟเฟคมีทั้ง 2 ข้าง..บ้างครั้งมีข้างเดียว..ทั้งที่สัญญาณเอ้าพุตมีทั้งซ้ายและขวา..หรือว่าเป็นที่สายสัญญาณ..ยังแก้ปัญหาไม่ได้..ช่วยด้วยครับ  ;D

sahapon-01

  • บุคคลทั่วไป
Re: ใครใช้ไมโครเวิป 4 บ้าง ของผมมีปัญหา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันที่ 4 ธันวาคม 2011, 22:21:22 น. »
เช็คสายครับ

ออฟไลน์ ธนรรค์

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 628
  • HL#:: 4C9EB9AC ซื้อจาก ครูภูม
Re: ใครใช้ไมโครเวิป 4 บ้าง ของผมมีปัญหา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันที่ 5 ธันวาคม 2011, 08:47:14 น. »


...ครับ มันเป็นเอฟเฟกยอดฮิตราคาถูก เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย(เตือนยังกะดูภาพยนตร์) ราคามือ 2 มีตั้งแต่ 4000-5000 บาทครับ กับคุณภาพเสียงที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเอฟเฟกราคาเป็นหมื่นๆเลยครับ ถ้าหากคุณเข้าใจในการใช้งานที่ถูกต้อง บางท่านอาจว่าเสียงสู้รุ่นใหญ่ๆไม่ได้ ผมก็ไม่เถียงครับ แต่ถ้าเทียบคุณภาพกับราคา บางทีตัวใหญ่ราคาเป็นหมื่นสองหมื่นมีใช้แล้วปรับไม่เป็น ต่อไม่เป็น ผมว่าคุณก็กลับมาเล่นตัวละ 4-5 พันก็มีค่าเท่ากัน ปรับก็ง่ายเล่นก็ง่าย จริงไหมครับ....
...ผมจะอธิบายโดยรวมๆและให้คุณผู้อ่านปรับแต่งที่หน้า เครื่องตามไปด้วย ก็จะเป็นการดีครับ เพราะจะได้เรียนรู้เทคนิคการปรับหรือการผสมเสียงต่างๆที่มีอยู่ในตัวเครื่อง ได้เต็มประสิทธิภาพครับ....
... มีปุ่มอะไรบ้างและแต่ละปุ่มมีความสำคัญอย่างไร..
1. โวลลุ่ม INPUT ปรับอัตราขยายสัญณาณขาเข้าให้พอดี โดยดูจาก LED ที่หน้าปัด แต่อย่าให้ CLIP นะครับเสียงจะแตกพล่าได้
2. โวลลุ่ม MIX      ปรับเพื่อผสมเสียงระหว่างเสียงของเอฟเฟกกับเสียงร้องเข้าด้วยกัน
                      TIP: จำไว้ให้ดี เสียงเอฟเฟก มันจะแทนคำพูดที่เป็นภาษากลางมาตรฐาน เราก็จะเรียกว่าเสียง WET ส่วนเสียงร้อง เราจะแทนคำว่าเสียง DRY   ฉะนั้นเราก็จะต้องจำไว้อีก 2 คำนั่นคือ เสียงเอฟเฟกหรือ WET ส่วนเสียงร้องหรือเสียง DRY เมื่อเราเริ่มทำความรู้จักกับเอฟเฟก เราก็จะเจอคำ 2  คำนี้ตลอดไปและมันจะอยู่ในโวลุ่มของเอฟเฟกที่ชื่อ MIX ตลอดไปโดยกำหนดให้ทางขวาเป็นเสียง DRY และทางขวาเป็นเสียง WET
3. โวลุ่ม OUTPUT เป็นปุ่มปรับอัตราขยายขาออก เช่นเดียวกันครับ เราก็ปรับตามความเหมาะสม ไม่เบาไปไม่แรงไป ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับหน้างานนะครับ
4. ปุ่ม STORE เป็นปุ่มกดเพื่อเก็บข้อมูลจากภาค PRESET เข้าสู่ภาค USER หรือจาก USER เก็บที่ USER ก็ได้เช่นกันแต่เราไม่สามารถแก้ไขข้อมูลที่ ภาค PRESET ได้ครับ
5. ปุ่ม BANK/MIDI เป็นปุ่มเพื่อเลือกระหว่าง PRESET กับ USER ครับ ถ้ากดค้าง 2 วินาทีจะเข้าหมวด MIDI และต้องกดค้างเพื่อเปลี่ยนช่องของ MIDI ได้ โดยการหมุนปุ่ม DIAL ควบคู่กันไปด้วย (อย่าไปสนใจเลยครับ น่าปวดหัว)
6. ปุ่ม DIAL หมุนเพื่อเปลี่ยนโปแกรมต่างๆที่มีอยู่ในตัวเครื่องเพิ่มหรือลดลงในหมวดของ PRESET/USER
7. โวลลุ่ม EDIT A เป็นปุ่มปรับพารามิเตอร์ A หรือเสียงเอฟเฟกพวก DECAY ให้ยาวหรือสั้นลงในแต่ละหมวด
8. โวลลุ่ม EDIT B เป็นปุ่มปรับพารามิเตอร์ B หรือปรับเพื่อเพิ่มเสียงของ EDIT A อีกที นั่นหมายความว่าเมื่อเราปรับ EDIT A เราก็จะปรับ EDIT B ควบคู่กัน ไปด้วยเพื่อให้เกิดเสียงสมดุลตามที่เราต้องการ
...ส่วนด้าน หลังผมก็จะไม่อธิบายมากครับ เพราะมันก็เป็นการต่อแบบพื้นๆไม่มีอะไรมากครับ ส่วนทางด้านอินพุทที่เป็นขาเข้า เราจะเข้าแบบ ST หรือเข้าแบบ MONOมันก็อยู่ที่มิกซ์ของเราด้วยนะครับว่ามันจะมีเอ้าพุทตัวช่วยอะไรบ้าง หรือมิกซ์เรามีลูกเล่นอะไรบ้างนั่นเอง...
...หลายท่านบอกเอฟเฟกรุ่นนี้ มันเล็กเกินไปเสียงก็บางไม่หนาและไม่นุ่ม ผมไม่รู้ว่าถ้าท่านใดคิดแบบนี้ผมว่าท่านคิดผิดครับ ผมอยากจะให้ทุกท่านที่ใช้เจ้า ไมโครเวิบ ตัวนี้ลองใช้ให้มันเต็มประสิทธิภาพดูกันก่อนครับโดยการต่อแบบอนุกรมนะ ครับ...
...คำสั่งของสัญณาณขาออกเราจะใช้ AUX SENT หรือ กรุ๊ฟก็ได้นะครับ แต่ถ้าใช้ AUX SENT ผมอยากให้ท่านใช้ตำแหน่ง AUX เป็นแบบ POST เท่านั้นครับท่านจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน...
...เรามาดู โปรแกรมและการทำงานกันดีกว่าครับ เนื่องจากเอฟเฟกรุ่นนี้ทำโปรแกรมสำเร็จมา อย่างละ 100 โปรแกรมครับ โดยแบ่งหมวดหมู่ตามที่ได้ติดเอาไว้ที่หน้าปัดทางขวามืออยู่แล้ว จำไว้นะครับว่าข้อกำหนดของ ไมโครเวิบ คือถ้ามีการบันทึกโปรแกรมที่แต่งแล้วมันจะส่งเข้าบันทึกที่ USER อัตโนมัติ เมื่อเราทำการกดปุ่ม STORE 2 ครั้ง โดยการสังเกตว่าเมื่อใดมีตัวเลขนำหน้าคือเลข 1 แล้วตามด้วยตัวเลขอีก 2 หลักนั่นคือ USER ครับ แต่ถ้าเป็นตัวเลขแค่ 2 หลัก นั่นคือหมวด PRESET ครับเป็นโปรแกรมมาจากโรงงานนะครับ.....
                                            TIP: ในขณะที่เราเรียกค่าโรงงาน มาใช้งาน ค่าพารามิเตอร์ต่างๆที่บรรจุหรือตกแต่งไว้แล้วในโปรแกรม มันจะถูกดึงมาใช้จนหมดและไม่สนใจว่าโวลุ่ม EDITA/B จะอยู่ที่ตำแหน่งไหน แต่เมื่อคุณไปหมุน EDIT A/B เมื่อไหร่ ค่าต่างๆมันจะถูกยกเลิกและเข้าสู่ตำแหน่งของ EDIT A/B ทันทีตามตำแหน่งที่โวลุ่มถูกหมุนไป
...ใช้งานอย่างไรกับโปรแกรมโรง งาน?...ท่านจำไว้เสมอนะครับว่าในหมวด USER ท่านสามารถใช้โวลุ่มเพียงตัวเดียวคือตัว MIX นะครับเป็นการฟังเสียงจาก โปรแกรมโรงงานนั่นเอง ส่วนโวลุ่ม EDIT A/B อย่าเพิ่งไปหมุนเล่นนะครับ เราจะหมุนก็ต่อเมื่อเราจะเปลี่ยนค่าโรงงานแล้วจะเก็บบันทึกเท่านั้น โปรแกรมที่น่าเล่นก็จะเป็น PLATE ที่ 20-29 ก็เท่ากับว่าในหมวด PLATE ท่านสามารถบันทึกได้ถึง 10 โปรแกรม แค่นี้ก็เหลือแล้วครับเพราะอย่างมากเราก็ใช้กันเต็มที่ก็ 1-2โปรแกรมเท่านั้นครับ และโปรแกรม คิดว่าน่าจะเหมาะที่สุดก็จะเป็น 22/26/27 ที่น่าใช้ครับ เอาเท่าที่ผมได้ลองแล้วกัน ส่วนท่านใดที่มีความเห็นต่างก็ไม่ว่ากันครับ
...มาลองเล่นกันดูเลยดีกว่าครับ...
...เริ่มนะครับ...
1. ขั้นตอนแรกก็คือนำสายโฟนโมโน 1 เส้นหัวท้าย เสียบที่ AUX SENT ที่ 1 ก็ได้ครับ เข้าที่ INPUT ของเอฟเฟกที่ด้าน L/MONO ครับ
2. นำสายโฟนอีก 2 เส้นเสียบที่ OUTPUT ของเอฟเฟกส่วนอีก 2 ปลายที่เหลือเข้ามาเสียบที่ RETURN ของมิกซ์ครับ เลือกที่ RETURN 1 ก็ได้ครับ
3.ในการใช้ AUX SENT ท่านก็ลองทดสอบเสียงเหมือนที่ท่านต่อตามปรกติของท่านก็ได้นะครับ หรือบางท่านก็บอกว่า ผมก็ใช้หลักการต่อแบบนี้หละ ไม่เห็นแตกต่าง ครับถูกต้องไม่แตกต่างหรอกครับ ก็เพๆราะตั้งแต่ข้อ 1- 3 มันก็หลักการเดียวกันกับที่ท่านต่อนั่นหละ
4. ลองเทสสัญณาณดูครับว่ามันมีเสียงออกตามปรกติเหมือนที่ท่านใช้หรือเปล่าโดยส่วนมากท่านจะปรับตามนี้กันครับ
   4.1 โวลุ่ม INPUT ปรับไม่เกินบ่าย 2 หรือบ่าย 3 แน่นอน
   4.2 โวลุ่ม MIX บางท่านปรับมาทางซ้ายสุดเช่นเคย
   4.3 โวลุ่ม OUTPUT ปรับไม่เกินบ่าย 2 หรือ บ่าย 3 ก็ประมาณนี้
   ส่วนโปรแกรมที่ท่านใช้ก็แนะนำว่าใช้โปรแกรม PLATE ก็ได้ครับเบอร์ที่แนะนำก็คือ 22/26/27 ผมว่า 3 เบอร์นี้ก็พอ แต่ก็แล้วแต่ท่านนะครับจะใช้เบอร์อะไร และการต่อแบบเดิมๆที่ท่านใช้นั่นก็คือใช้โวลุ่ม AUX SENT ทาง POST แน่นอนครับ เพราะหลายท่านก็ใช้อย่างนี้ครับ เพราะมันเป็นมาตรฐานในการต่อใช้เอฟเฟกนั่นเองแต่ผลที่ได้นั้นท่านเคยสังเกต หรือเปล่าว่า ทำไมเสียงที่โวลุ่ม MIX มันมีแต่เสียงเอฟเฟกอย่างเดียว แต่เสียงร้องก็ยังดังโด่ๆเด่ไม่ลงเลย แน่นอนครับ เพราะการต่อแบบนี้มันเป็นการต่อขนานนั่นเองครับ เพราะสัญณาณ DRY จะวิ่งไปเมนมิกซ์โดนตรงเมื่อคุณเร่งสไลท์ขึ้น ความดังก็จะมากขึ้นสัญญาณแรงขึ้น และ วิ่งไป 2 ทิศทางอย่างที่บอก...
...คราวนี้เราจะมาลองกันใหม่นะครับ(ค่อยๆอ่านแล้วทำตามที่ผมบอกครับ)...
ทำ ตามข้อ 1-4 เหมือนเดิมครับ แต่เปลี่ยนจาก AUX POST มาเป็น AUX PRE ครับ ส่วนโวลุ่ม MIX บิดทวนเข็มจนสุดครับ (ปิดเสียง WET แต่เปิดเสียง DRY 100%) และก็สไลท์มิกซ์ในช่องนั้นไม่ต้องใช้นะครับ ห้ามดันสไลท์มิกซ์ของช่องสำหรับไมค์นี้ขึ้นเด็จขาดก็คือไม่ใช้เลยนั่นเอง หรือ กดมาให้ต่ำสุดเหมือนไม่ได้เปิด แล้วค่อยๆปรับโวลุ่ม AUX SENT (ตำแหน่ง PRE) ทดลองพูดแล้วสังเกตที่ไฟวิ่งของเอฟเฟกอย่าให้ CLIP นะครับ แล้วดูว่ามีเสียงพูดออกหรือไม่แต่โวลุ่มมิกซ์ยังอยู่ทางขวาสุดเหมือนเดิมนะ ครับ ในช่วงที่ทดลองนี้ แน่นอนครับ เสียงเอฟเฟกจะไม่ออก แต่เสียงพูดน่าจะออกบ้างนะครับ และโปรแกรมที่ใช้ ลองใช้โปรแกรมที่ 26 หรือ 27 ก็ได้ครับทดลองเร่งโวลุ่ม MIX ดูครับ เสียงเอฟเฟกก็จะเริ่มปล่อยออกมาครับ (EDITA/B ไม่ต้องสนใจนะครับ มันอยู่ตำแหน่งอะไรก็ช่างมันครับ)....
...ในช่วงที่เร่งโวลุ่มมิกซ์เพื่อ ปล่อยเสียงเอฟเฟกออกมานั้น สัญญาณ DRY ที่เราส่งเข้ามาที่ เอฟเฟก โดยตรงจะเริ่มถูกบั่นทอนออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ครับ ท่านสังเกตฟังเสียงดีๆเสียงที่ได้จะนุ่มและลึก โวลุ่ม MIX ตัวนี้ผมเคยปรับจริงไม่เกิน เที่ยงครับ มากกว่านี้เสียงจะนุ่มลึกเกินไป และผลที่ได้จากการต่อแบบการใช้ AUX SENT แบบ PREก็คือ หน้าลำโพงจะหอนน้อยลง ท่านลองพูดใกล้ๆลำโพงก็ได้ครับ ผมรับรองว่าถ้าท่านต่อถูกต้องไมค์ท่านหอนน้อยลงอย่างแน่นอนครับ..
...เป็น อย่างไรบ้างครับ ท่านที่ใช้เจ้าเอฟเฟกรุ่นนี้ เสียงร้องท่านดีขึ้นหรือไม่ครับ การหอนน้อยลงไปหรือเปล่า เสียงนุ่มลึกดีหรือไม่ เมื่อท่านใช้จนชินแล้วหรืออยากได้เอฟเฟกมากหรือน้อยแต่ในขณะเดียวกัน เสียงร้องก็ต้องนุ่มด้วย ท่านก็สามารถปรับโวลุ่ม EDIT A/B ช่วยอีกทางก็เป็นไปได้ครับ เมื่อท่านเข้าใจที่ดีพอ อยากจะบันทึก ก็กดปุ่ม STORE 2 ครั้ง ข้อมูลก็จะถูกบันทึกในเบอร์เดิมแต่มีเลข 1 ข้างหน้าเรียบร้อยครับ..
...สรุปอีกทีนะครับ ในการต่อแบบนี้ โดยการใช้ AUX  ในตำแหน่ง PRE..
1. โวลลุ่มสไลท์ในช่องมิกซ์ห้ามใช้ครับ ไมค์แต่ละตัวปรับความดังด้วยโวลลุ่ม AUX เท่านั้น
2. ตำแหน่ง โวลลุ่ม AUX ต้องใช้ที่ตำแหน่ง PRE อย่างเดียว
3. ความดังของไมค์ทุกตัวที่ใช้อยู่จะถูกควบคุมด้วยโวลลุ่ม RETURN เท่านั้น แต่ถ้าไมค์แต่ละตัวดังไม่เท่ากันให้ปรับที่โวลลุ่ม AUX แทนนะครับ
...ใน การต่อแบบ AUX SENT แบบอนุกรมที่ผ่านมาบางท่านบอกดูแล้วทะแม่งยังไงไม่รู้เพราะมีช่องสไลท์มิกซ์ ก็ไม่ได้ใช้ ก็แน่นอนล่ะครับ ถ้าท่านใช้เมื่อไหร่ก็จะเป็นการส่งสัญญาณ DRY ออกที่เมนมิกซ์เหมือนเดิมก็เหมือนการต่อขนานนั่นเองผมถึงบอกห้ามใช้ไงครับ เมื่อดันมากไมค์ก็จะหอนอีกครับ ในเมื่อคิดว่าการต่อแบบ AUX และดูเหมือนวุ่นวาย ก็จะมีอีกวิธีนึงก็คือการต่อแบบใช้กรุ๊ฟครับ และนิยมมากครับในบรรดาห้องอัดก็จะต่อเอฟเฟกแบบนี้ทั้งนั้นครับ มาลองต่อแบบอนุกรมโดยการใช้กรุ๊ฟกันต่อครับ...
1. ใช้สายโฟนโมโนทั้งหมด 4 เส้นครับ 2 เส้นแรกให้เสียบที่กรุ๊ฟเอ้า 1/2 (GROUP OUT 1/2)..
2. ใช้สายโฟนอีก 2 เส้นที่เหลือต่อตามเดิมโดยออกจากเอฟเฟก มาเข้าที่ RETURN 1
3. กดปุ่ม GROUP 1/2 ที่ใกล้ๆสไลท์มิกซ์ครับ
4. ห้ามกดปุ่ม MAIN หรือ ปุ่ม L/R ที่ใกล้สไลท์มิกซ์
5. โวลลุ่ม AUX ไม่ต้องใช้ครับเราจะไม่มองมันเลย
6. เอฟเฟกตั้งเหมือนเดิม
7. ที่โวลลุ่มของ MAIN GROUP เราเลือกใช้งานที่โวลลุ่มกรุ๊ฟ 1/2 เพื่อส่งสัญญาณไมค์ไปออกที่กรุ๊ฟเอ้า
8. สามารถใช้โวลลุ่มสไลท์มิกซ์ต่อช่องได้เหมือนเดิมเพื่อปรับความแรงของไมค์แต่ละตัว
9. จะใช้ไมค์กี่ตัวให้กดกรุ๊ฟ 1/2 หรือที่ต้องการควบคุมทุกตัว
10. สวิทช์ที่สำหรับเลือกว่าจะให้กรุ๊ฟที่เราเลือกจะให้ออกช่องซ้ายหรือช่องขวา ไม่ต้องกดนะครับ เพราะสัญญาณไมค์มันไปรออยู่แล้วที่กรุ๊ฟเอ้าอยู่แล้ว ถ้ากดจะเป็นการต่อแบบ
ขนานทันที
...ก็เหมือนเดิมครับ ลองทดสอบเรื่องเสียงดูว่ามีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า ถ้าถูกต้องก็ต้องมีเสียงออกครับ แล้วปรับเอฟเฟกโดยการหมุนโวลลุ่ม MIX เพื่อผสมเสียง DRY กับ WETเข้าด้วยกัน ให้เหมาะสมท่านก็จะได้เสียงที่สมบูรณ์นุ่มและลึกกว่าที่ท่านเคยต่ออยู่แบบ เดิมๆอย่างแน่นอน...
...สุดท้ายของเรื่องนี้ ในการต่อเอฟเฟกแบบนี้ เพียงแต่ขอให้ท่านเข้าใจถึงทางเดินสัญญานของมิกซ์บ้าง เรียนรู้ให้เป็น ปรับแต่งเอฟเฟกได้ถูกต้อง เรียนรู้แต่ละปุ่มแต่ละพารามิเตอร์ให้เข้าใจ และสุดท้ายก็คือการต่อเอฟเฟกให้ถูกต้อง อย่ายึดติดกับค่าเดิมๆ ใครต่อยังไงเราก็ต่อยังงั้น ลองเปลี่ยนทัศนคติดูบ้าง อย่างน้อยก็มีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้น ก็อาจจะทำให้อะไร
บางอย่างดีขึ้น ก็เท่านั้นเองครับ...ขอขอบคุณเพื่อนๆมากครับ ที่ให้ความสนใจ อย่าลืมนะครับ ไม่เข้าการต่อใช้งานเรื่องเอฟเฟก โทรหาได้ตลอดเวลาครับ ไม่เกินเที่ยงคืนของทุกวันครับ

บทความจาก
K-One Music tiggersound
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 5 ธันวาคม 2011, 09:28:46 น. โดย ธนรรค์ »

charn

  • บุคคลทั่วไป
Re: ใครใช้ไมโครเวิป 4 บ้าง ของผมมีปัญหา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันที่ 5 ธันวาคม 2011, 16:07:07 น. »
เช็คสายครับ
ขอบคุณครับ...เดี๋ยวลองเปลี่ยนทั้งสองเส้นดูใหม่..

charn

  • บุคคลทั่วไป
Re: ใครใช้ไมโครเวิป 4 บ้าง ของผมมีปัญหา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันที่ 9 ธันวาคม 2011, 09:17:10 น. »
;D อาการออกแปลก ๆ บ้างครั้งเอฟเฟคมีทั้ง 2 ข้าง..บ้างครั้งมีข้างเดียว..ทั้งที่สัญญาณเอ้าพุตมีทั้งซ้ายและขวา..หรือว่าเป็นที่สายสัญญาณ..ยังแก้ปัญหาไม่ได้..ช่วยด้วยครับ  ;D
พบปัญหาแล้วครับ..วอลลุ่มสไลด์มิกซ์มันบอดไปหนึ่งข้าง...เปลี่ยนใช้ช่องสเตอร์อึกช่องเสียงใสเหมือนเดิม...ขอบคุณครับสำหรับคำตอบทุกท่าน...โดยเฉพาะท่านธนรรค์ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นมากครับ... :thank1: