ผมก็อปใว้นานแล้ว เอาไปลองดูครับ
...การปรับแต่ง 990 อย่างง่ายที่สุด...
...ใน บรรดาเอฟเฟกยอดฮิต ในยุคนี้คงไม่มีใครเทียบเจ้า spx-990 ได้รองลงมาก็มีอีกหลายรุ่นในตระกูล SPX ทั้งหลายแต่ก่อนที่เราจะทำการปรับเจ้า 990 ให้ถูกต้องนั้น เราต้องมีความเข้าใจก่อนว่า ในหมวดของ Preset ของมันนั้น ทางผู้ผลิตได้ทำการแต่งเสียงไว้เรียบร้อยแล้วโดยการแต่งเฉพาะเสียง WET ไว้ที่ 100 % (ไม่เข้าใจเสียงเWET หรือ DRY เข้าไปอ่านที่
http://www.tiggersound.com/webboard/index.phptopic=72062.0ห้อง นี้นะครับ) โดยเฉพาะหลายๆคนที่ใช้เอฟเฟกรุ่นนี้ก็ยังคงใช้หลักการต่อขนานกันอยู่เรื่อย ไป ซึ่งผมมองว่าการต่อแบบขนานนั้นไม่เหมาะที่จะใช้กับเอฟเฟกที่ราคาแพงๆ เพราะเราไม่ได้ใช้ประโยชน์ของมันได้เต็มที่นั่นเอง ซึ่งธรรมดาแล้ว เราจะต้องส่งเสียงของนักร้องทั้งหมดให้ประมวลผลเสียงร้องออกมาให้เต็มที่ แต่การต่อขนานนั้น จึงเป็นการต่อที่ไม่ได้เรื่อง แต่ก็ไม่ว่ากันครับเพราะวงดนตรีบ้านเรา ก็ใช้หลักการต่อแบบนี้ทั้งนั้น ฉะนั้นการใช้เอฟเฟกจึงต้องทำความเข้าใจกันใหม่ เราถึงจะได้ประโยชน์ของมันได้เต็มที่ ว่าการต่อแบบขนานใช้งานกับอะไร การต่ออนุกรมใช้กับงานแบบไหน...
...อย่างที่บอกว่าตระกูลนี้มันปล่อยเอฟเฟกหรือเสียง WET ไว้ที่ 100 % แต่เสียง DRY ไม่มีเลยก็คือ 0 % นั่นเอง ฉะนั้นการปรับแต่งเราจะต้องเข้าไปลดเสียง WET ลงไปให้มาก เพื่อเพิ่มเสียง DRY เข้าไปเพราะอย่างที่บอก เอฟเฟกจะทำหน้าที่ประมวลผลของเสียงนักร้องให้ได้ตามที่เราต้องการฉะนั้นเรา จะต้องผสมเสียงระหว่าง WET ที่ปล่อยมา 100 % กับเสียง DRY ที่ 0 % ให้กลมกลืนกันให้ได้เสียงตามที่เราต้องการให้ได้...
...ผมจะเอาเบอร์ที่ผมคิดว่าเสียงดีที่สุดนั่นก็คือเบอร์ที่ 7 ในภาค Preset มาใช้งานครับ( เบอร์ 7 ชื่อBREATHY REVREB )
....ผมจะลองแต่งอย่างเร็วและง่ายที่สุดครับ..
1. เลือกเบอร์ 7 ที่ภาค Preset เลือเบอร์โดยการใช้ปุ่มหมุน DATA (การเลือกภาค preset และ User โดยการกดปุ่ม Memory ซ้ำไปมา)
2. เมื่อตัวเลข 7 กระพริบ มันจะถามเราว่าเราจะเรียกข้อมูลมาใช้งานหรือไม่ ถ้าต้องการก็ให้กดปุ่ม YES เพื่อเรียกข้อมูลในภาค Preset มาใช้งาน
3.เมื่อกด Yes เสร็จแล้ว ตัวเลขก็จะหยุดกระพริบ หน้าจอจะแสดงดังรูป
4. หลังจากนั้นให้กดปุ่ม Edit หน้าจอก็จะเปลี่ยนตามรูป
...ให้ เข้าใจก่อนว่าในฟังชั่น Edit มันจะมีหลายหน้ามาก อย่างเช่นกด Edit ครั้งแรกจะเข้าหน้าที่ 1 เสมอ แต่ละหน้าถ้าจะเปลี่ยนให้กด ปุ่นหัวศรขึ้นลงแต่อย่าไปสนใจหน้าอื่นๆครับ เพราะไม่จำเป็น พารามิเตอร์ ต่างๆในแต่ละโปรแกรม ทางโรงงานเขาทำมาดีอยู่แล้ว เพียงแต่อย่างที่บอก เขาปรุงแต่งมาให้100 % เต็มโดยไม่ผสมเสียง Dry ไว้ให้เท่านั้นเอง..
5. ให้กดปุ่ม MAIN FX ตามลงไปเท่านั้น
6. เมื่อกด MAIN FX เรียบร้อยแล้ว หน้าจอก็จะแสดง พารามิเตอร์ ตามรูปครับ
...ให้เข้าใจกันนิด...ON/OFF...หมายถึงเราจะใช้เอฟเฟกหรือไม่ใช้ ถ้าใช้เลือก ON..
....BALANCE..(100) หมายความว่าจะมีเสียง WET ที่ 100% เสียง DRY ที่ 0 % เราต้องเข้าใจพารามิเตอร์นี้ก่อนนะครับ นั่นก็หมายความว่าถ้าเราต่อเสียงร้องแบบอนุกรมกับเอฟเฟก เสียงร้องจะไม่ออกเลย แต่จะออกเฉพาะเสียง WET หรือเอฟเฟกเท่านั้น แต่ถ้าต่อขนานกับเอฟเฟก เสียงร้องก็ออก 100 %ที่เมนมิกซ์ทำให้เกิดเสียงหว่องๆโหว่งๆอีก เพราะคุณไม่ได้เอาเสียงร้องทั้งหมดให้เอฟเฟกประมวลผลให้เท่านั้นเอง
(ไม่เข้าใจไปอ่านที่นี่ครับ
http://www.tiggersound.com/webboard/index.php?topic=72062.0 )
7. ใช้ปุ่ม BALANCE เพื่อลดค่า WET ให้น้อยลง และเสียง DRY ก็จะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติครับ ผมจะปรับไว้ที่ 25 นั่นหมายความว่า เมื่อเราต่อเอฟเฟกแบบอนุกรม เราจะเอาเสียงร้องที่ทางเอฟเฟกประมวลผมแล้วที่ 75 % (เสียงที่ได้จะนุ่มนวลครับ)และเราจะใช้เอฟเฟกแค่ 25 % เมื่อเอา 2 พารามิเตอร์รวามกัน นั่นคือ 25+75= 100 % นั่นเอง...
...ใน การปรับเสียงที่เราจะผสมระหว่างเสียง WET กับ DRY นั้น บางทีถ้าปรับโดยมีเสียงร้องอย่างเดียว 25 % อาจฟังดูแล้วเหมาะสม แต่บางทีถ้าหากมีเสียงร้อง+ดนตรีบางทีเสียงที่มีเอฟเฟกผสมไปด้วยอาจจะน้อยไป เราอาจจะใช้สัก 30-40 % เท่านี้ ผมก็ว่าเสียงเอฟเฟกก็น่าจะล้นแล้วครับ..
8. เมื่อเราได้เสียงที่เราพอใจแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเก็บไว้ใน USER เพื่อเรียกมาใช้งานได้ภายหลังโดยการกดปุ่ม STORE ไฟจะมาติดที่ MEMORY แทนหลังจากนั้นตัวเลขจะกระพริบ และบอกถึงความจำเก่าที่เรา MEM ไว้ครั้งสุดท้ายขึ้นมา เราก็สามารถหมุนโวลลุ่ม DATA เพื่อเลือกตัวเลขว่าเราจะเอาไปแทนที่ของหมายเลข
ที่เท่าไหร่ เราก็เลือกเอาครับ...
9. เมื่อได้ช่องความจำที่ต้องการแล้ว เราก็กดปุ่ม YES ตามลงไปหน้าจอจะแสดงตามรูปครับ
...เมื่อ ถึงขั้นตอนนี้เราก็เห็นได้ว่าที่หน้าปัดจะแสดงช่องความจำที่เราได้บันทึกไว้ และหลอดไฟก็จะแสดงสถานะที่ USER เท่านั้น นั่นก็ความความว่าในหมวด Presetเราสามารถแก้ไขข้อมูลต่างๆได้ แต่ถ้าจะบันทึก จะถูกให้เก็บที่ USER ก็เป็นมาตรฐานทั่วไปที่เอฟเฟกทุกรุ่นที่ได้ออกแบบมา
...จาก ขั้นตอนต่างๆที่ผมได้อธิบายให้ฟังมาแต่ต้น จะเห็นได้ว่า เอฟเฟกของ 990 มันมากมายด้วยพารามิเตอร์ แต่การที่เราจะเข้าไปแก้ไขพารามิเตอร์ต่างๆนั้น เราก็จะแก้เพียงเท่านี้ ส่วนอย่างอย่างอื่นอย่าไปแก้มันเลยครับ พารามิเตอร์มีเป็นร้อย แค่เสียงร้องมันก็แต่งมาให้เราใช้จนมากมายครับ มันอยู่ที่เราใช้นี่หละ ว่าเราจะมีความเข้าใจ
ในการใช้งานอย่างไร ผมเคยบอกเสมอว่า ซื้อเครื่องมาราคาเป็นหมื่นๆใช้ถึง 10 % กันหรือเปล่า หรือใช้ตามค่านิยม ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว แค่เสียงร้องคุณจะไปเอาอะไรมากกับมันมากครับ เอฟเฟกราคาที่ถูกเสียงที่ใกล้เคียงกับ 990 มีตั้งหลายตัว ราคาถูกกว่ากัน 2-3 เท่าตัว ฉะนั้นมันอยู่ที่เรานี่ล่ะครับ ว่าจะใช้งานได้คุ้มค่ากับที่เราเสียเงิน
ไปหรือเปล่าหรือเสียเงินเพราะค่านิยม สำหรับคนมีตังค์ อย่างนี้เราก็ไม่ว่ากันครับ...
..เทคนิคเล็กๆน้อยๆครับ...
...บาง ท่านเคยถามผมว่า แล้วไอ้ปุ่ม 4 ปุ่ม ภายในขอบสีแดง มันมีเพื่ออะไร ก็ตอบได้เลยครับว่า เมื่อเราอยู่ในหมวดใช้งานปรกติ ปุ่มทั้ง 4 ปุ่ม จะทำหน้าที่เป็นปุ่ม HOT KEYหรือปุ่มเร่งด่วนนั่นเอง เราสามารถบันทึก โปรแกรมที่เราใช้งานบ่อยๆได้ถึง 4 โปรแกรม เพื่อเรียกมาใช้งานได้ทันที นอกเหนือจากการที่เราเลือกโปรแกรมโดยการหมุน DATAเสร็จแล้วเครื่องจะถาม RECCLL อีกที มันก็อาจจะเสียเวลาเร่งด่วนได้ เขาจึงออกแบบปุ่ม HOT KEY ไว้เพื่อเรียกใช้งานได้ทันใจครับ...
...ไม่ว่าเราจะเก็บ โปรแกรมในหมวดของ Preset หรือหมวด User เราสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้ครับ
1. ให้หมุนหรือเลือกโปรแกรมที่เราต้องการใช้งานมาก่อน หน้าจอจะแสดงตามรูป และตัวเลขจะกระพริบ
..ใน จังหวะนั้นเราก็สามารถกดปุ่ม YES เพื่อเรียกข้อมูลมาใช้ก็ได้..แต่ถ้าหากคุณต้องการจะบันทึกไว้ที่ปุ่ม HOT KEY เราก็สามารถกดที่ปุ่ม 1-4 ได้ตามต้องการข้อมูลของโปรแกรมนั้นๆก็จะถูกบันทึก และ สามารถเรียกกลับมาใช้ได้ทันทีเลยครับ
....ฉะนั้น การใช้งานอย่างง่ายๆใน SPX-990 ก็จะมีเท่านี้ล่ะครับ อย่าไปหลงประเด็นอะไรที่มากกว่านี้ครับ การต่อใช้งานเข้ากับมิกซ์ก็มีผลเป็นอย่างมากครับ การใช้ AUX SENT ใช้งานได้ดีเป็นบางอย่างครับ โดยเฉพาะเสียงร้องหลบหลีกได้ก็ดี พยายามหาวิธีที่มีการต่อนอกเหนือกว่าการใช้ AUX SENT ได้ มันจะทำให้การพัฒนาด้านเสียงร้องก้าวหน้าไปอีกไกลหวังว่าคงเป็นประโยชน์ไม่ มากก็น้อยครับ...ขอขอบคุณมาก