แถมไอ้หมอเจี๊ยบ พิธีกรตัวแสบดันเล่นผมซ่ะอีก ดูมันทำที่เยอะแยะไม่ไปยืนพูดเล่นมันหน้าตู้ซ่ะงั้น
อีคิวก็ไม่มีกันหอนก็ไม่มี เอากูแล้ว เรียกมันให้ออกมาจากหน้าตู้ แป๊บเดียวมันก็กลับไปอีกเนื่องจากห้องมันแคบไม่มีที่ยืน งานนี้ต้องขอบคุณตู้แอคทีฟที่มีปุ่มปรับเสียงด้านหลังตู้
ลดแหลมลง ลดเบสลง ลดแหลมลดกลางในไลน์ไมค์ลง ทีนี้สบายเลยจ่อๆยังไม่หอนรอดไปหนึ่งอย่าง
หลังจากแกปัญหาเฉพาะหน้าได้แล้วก็หันไปหาทางแก้ปัญหาเรื่องเสียงร้องบนเวทีที่ไม่มีเนื่องจากนักร้องอยู่หลังตู้ ไม่สามารถยกตู้ไปตั้งหลังเวทีได้ทัน
มองไปมองมาก็เจอตัวช่วย จากที่ผมเคยพูดเสมอๆเรื่องการแก้เสียงก้องว่ามุมตกเท่ากับมุมสะท้อน วันนี้มีกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผม
จอมอนิเตอร์ถูกปรับขาตั้งขึ้นสูงตำแหน่งเดียวกับตู้เสียงกลาง จากนั้นก็ลากขาตั้งจอไปตั้งหน้าตู้เสียงกลางทำอีกหน้าที่หนึ่ง คือทำหน้าที่สะท้อนเสียงจากตู้เสียงกลางกลับไปเวทีให้นักร้องบนเวทีได้ยินเสียงตัวเองบ้างก็ยังดี หลังจากเดินขึ้นไปเช็คเสียงบนเวที.......แหล่มครับ เสียงได้ยินชัดเจนและพอเพียงทุกคนแฮปปี้ผมก็แฮปปี้
จอนี้แหละครับ ปรับขาตั้งให้สูง หันมุมสะท้อนให้ขึ้นเวที แก้ปัญหาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
หลังจากนั้นก็ยาว...
นักร้องที่มีคนจ้างมาได้ร้องคนละสี่เพลง หลังจากนั้นก็ถูกยึดไมค์สบายมันไป สี่ทุ่มหลังจากได้ค่าตัวแล้วหนีกลับเรียบ ไม่มาลากันสักคำ
เหลือแต่ผู้จะเกษียณรองนายแพทย์ สสจ. และเหล่าแด๊นเซอร์ (ผอ.รพ.สต. ซี 7 ทั้งนั้นครับ)
จบงานสบายที่สุดตอนห้าทุ่มแบบแทบไม่ต้องออกแรง เนื่องจากพี่ๆน้องๆสา'สุขช่วยกันหอบหิ้วลำโพง แอมป์คนละชิ้นสองชิ้นมาใส่รถให้ ผมเดินสะพายกระเป๋าโน๊ตบุคใบเดียว
งานนี้ไม่ได้เรียกค่าตัวครับ ให้เท่าไหร่ก็ได้แล้วแต่จะให้ไม่ให้ก็เต็มใจทำ ก็เลยได้ค่าจ้างมาแบบงงๆ หมูทอดกระเทียมพริกไทยเกือบครึ่งโล ทอดมันปลายี่สกอีกถุงใหญ่ เต้าหู้นมสดอีกสิบกว่าถ้วย พร้อมเงินที่เจ้าภาพพับๆแล้วยัดใส่กระเป๋าเสื้อผมมาอีกปึกหนึ่ง.......ซึ่งมันมากกว่าค่าจ้างโอเกะข้างละเซ็ตที่เคยได้มาโขอยู่ครับ