ผู้เขียน หัวข้อ: การต่อลำโพงครับ  (อ่าน 21505 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ seven

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 2
  • *
  • กระทู้: 45
  • 76E4C89D หนึ่งซาวด์โปร
การต่อลำโพงครับ
« เมื่อ: วันที่ 15 พฤษภาคม 2013, 13:59:46 น. »
สอบถามการต่อลำโพงครับ งานคาราโอเกะ ส่วนใหญ่ต่อกันแบบไหนครับ
กลาง-แหลม ข้างละ3ครับ ซับข้างละ2ครับ

ออฟไลน์ เด็กชายเคยโสด

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 20090
  • 6E65CE52,7309F48F,48B54692,6E674E74,1E001EF5
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันที่ 15 พฤษภาคม 2013, 14:03:06 น. »
ขนานครับ

ออฟไลน์ seven

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 2
  • *
  • กระทู้: 45
  • 76E4C89D หนึ่งซาวด์โปร
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันที่ 15 พฤษภาคม 2013, 14:06:19 น. »
 :thank1:

ออฟไลน์ Sumatethep

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 2476
  • 6E664E4B ซื้อจาก ชัยสแตมป์ ลำปาง
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันที่ 2 ตุลาคม 2015, 15:03:17 น. »
ขนานครับ

ตอบสั้นจัง     คนใหม่ในวงการจะรู้ได้ไงครับ

 :happy:

แค่คำว่า "ขนาน"  ก็มีรายละเอียดมาดเหลือเกิน 

1. โหมดStereo  ก็ต่อแบบขนานได้ไหม
2. โหมด Parallel ก็ต่อแบบขนานได้ ไหม
3. โหมด Bridge ก็ต่อแบบขนานได้ ไหม


ผมอยากทราบ ข้อ 2  มากๆ เลยครับ   ขอวอนท่านผูรู้ช่วยอธิบายด้วยครับ   :thank1:

ออฟไลน์ Aod-nares

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 2
  • *
  • กระทู้: 47
  • 7EE2AD56
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันที่ 2 ตุลาคม 2015, 18:19:55 น. »
** 2. โหมด Parallel ก็ต่อแบบขนานได้ ไหม**

เป็นการเชื่อมต่อ in put A link เข้าขา in put B แทนใช้สายเชื่อมต่อภายนอก


ส่วน out put ของเครื่องขยายจะต่อ อนุกรม หรือ ขนาน ก้อได้ ตามความเหมาะสม
ของเครื่องขยายกับลำโพง

---- มือใหม่เหมือนกันครับ----

ออฟไลน์ rungps

  • ระดับ 4
  • **
  • กระทู้: 402
  • 5DE6ED47 ขาย น้านพ สุพรรณ
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันที่ 2 ตุลาคม 2015, 21:06:47 น. »


ออฟไลน์ Sumatethep

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 2476
  • 6E664E4B ซื้อจาก ชัยสแตมป์ ลำปาง
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: วันที่ 2 ตุลาคม 2015, 21:16:35 น. »
** 2. โหมด Parallel ก็ต่อแบบขนานได้ ไหม**

เป็นการเชื่อมต่อ in put A link เข้าขา in put B แทนใช้สายเชื่อมต่อภายนอก


ส่วน out put ของเครื่องขยายจะต่อ อนุกรม หรือ ขนาน ก้อได้ ตามความเหมาะสม
ของเครื่องขยายกับลำโพง

---- มือใหม่เหมือนกันครับ----
:happy:
เก่าจากไหนมาใหม่แถวนี้ ครับ   :D

ยังไงครูก็ขอขอบคุณนะครับ        จริงๆครูอยากจะเปรียบเทียบความสะดวกเรื่องการต่อ"แบบขนาน"นะครับ

คือโหมด Parallel มีInput  เข้า A ทางเดียว แล้วOutput ออก 2 ทาง ทาง A และ B แต่เป็นสัญญาณเดียวกัน

เปรียบเทียบกับ โหมด Stereo  มี Input เข้า 2 ทาง A และ B  ออก Output 2 ทาง A และ B เช่นกัน

ถ้าครูมีแอมป์ 1 แท่น มีลำโพง 4 ดอก 600 Watts 8 โอห์ม เท่ากันหมด ครูจะต่อแบบขนานในโหมดสเตอริโอ หรือจะต่อแบบขนานในโหมดParallel(ขนานInput) ดี เพราะอะไร   และ วัตต์ กับ โอห์ม จะหักล้างกันเหลือเท่าไร ครูต้องหาแอมป์เพิ่มเพื่อแยกสัญญาณ B มาต่อขนานเพิ่มอีกไหม ครับ แอมป์นั้นต้องระบุจำนวน Watts /ข้าง  4 โอห์ม  เท่าไร  

ขอบคุณล่วงหน้าที่จะตอบครับ  :hap3:

 

ออฟไลน์ rungps

  • ระดับ 4
  • **
  • กระทู้: 402
  • 5DE6ED47 ขาย น้านพ สุพรรณ
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: วันที่ 2 ตุลาคม 2015, 21:25:06 น. »


ยกตัวอย่างการภาพการต่อ ของแอมป์ tafn ครับ ขับเบส ต่อขนาน ข้างละ 4 ส่วนจะต่อสัญญานเข้าแอมป์แบบไหนก็เลือกเองครับ

อ่านละทำความเข้าใจดูครับ ไม่น่าจะยากครับ

Stereo  mode  หมายถึง  การป้อนสัญญาณเข้าสู่ช่อง INPUT ที่แอมป์ในรูปแบบสัญญาณสเตอริโอโดยส่งสัญญาณ L – R  เข้าสู่แชนแนลที่เครื่องขยายเสียงทำให้ได้สัญญาณเสียงขยายออกมาในรูปแบบสเตอริโอ  ซึ่งกำลังขยายขาออกก็จะให้กำลังวัตต์เท่าเดิมเท่าที่สเปคเครื่องขยายเสียงออกแบบมา  เช่น กำลังวัตต์ต่อแชนแนลที่ 500 วัตต์  ก็จะได้ 500 วัตต์ ต่อแชนแนล

Bridge  หมายถึง  การรวมสัญญาณขาออกจากเครื่องขยายเสียงเพื่อเพิ่มกำลังขยายสูงสุดโดยการต่อเชื่อมที่ขั้วลำโพงที่เครื่องขยายเสียง  เช่น  กำลังวัตต์ต่อแชนแนลที่ 500 วัตต์ x 2 ก็จะได้ 1,000 วัตต์  ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องเคร่งครัดต่อการต่อขั้วลำโพงตามสเปคที่กำหนดเอาไว้เพื่อป้องกันความเสียหาย

Parallel  mono หมายถึงการเชื่อมต่อสัญญาณในส่วนของ INPUT   1 + 2  ของเครื่องขยายเสียง  โดยป้อนสัญญาณเข้าสู่ช่อง INPUT เพียงช่องเดียวก็จะทำให้ช่องสัญญาณอีกช่องได้รับสัญญาณเข้ามาด้วยพร้อมๆกันในรูปแบบโมโน  ซึ่งกำลังขยายขาออกก็จะให้กำลังวัตต์เท่าเดิมเท่าที่สเปคของเครื่องขยายเสียงออกแบบมา  เช่น  กำลังวัตต์ต่อแชนแนลที่ 500 วัตต์  ก็จะได้ 500 วัตต์ ต่อแชนแนล

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 2 ตุลาคม 2015, 21:30:15 น. โดย พรประสิทธิ์ »

ออฟไลน์ Aod-nares

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 2
  • *
  • กระทู้: 47
  • 7EE2AD56
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: วันที่ 3 ตุลาคม 2015, 00:12:04 น. »
ตามเงื่อนไขของครูข้างบน ให้ต่อลำโง ขนาน ข้างละสองดอก
และใช้อินพุทแบบ สเตอริโครับ

ถ้าครูใช้ mode input แบบ parallel มันจะเป็น mono ครับ
** เฉพาะเงื่อนไขนี้นะ**

ออฟไลน์ Sumatethep

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 2476
  • 6E664E4B ซื้อจาก ชัยสแตมป์ ลำปาง
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: วันที่ 3 ตุลาคม 2015, 04:32:59 น. »
ตามเงื่อนไขของครูข้างบน ให้ต่อลำโง ขนาน ข้างละสองดอก
และใช้อินพุทแบบ สเตอริโครับ

ถ้าครูใช้ mode input แบบ parallel มันจะเป็น mono ครับ
** เฉพาะเงื่อนไขนี้นะ**
ขอบคุณ เน้อ คุณนเรศร์
 ;)
เรื่องต่อขนานในโหมดStereo ไม่สงสัยครับ เพราะแต่ละแชนแนลเราพ่วงต่อสปีคอนหลังตู้ลำโพงได้เลยครับ แอมป์ต้องมีสเปค 1200 WattsX2  ที่ 4 โอห์ม (ตามทฏษฎี)ด้วยครับ
แต่ที่โหมด Parallel สวิทช์จะสลับมาเป็นแบบขนานออกทั้ง AและB สำคัญที่ช่องออกนี่ครับ คือครูสงสัยว่า ช่องA ต่อลำโพง 1 ดอกแล้ว (600 Watts 8 โอห์ม) และช่องBต่อลำโพง 1 ดอกแล้ว(600 Watts 8 โอห์ม)  2 ดอกนี้ ทำให้แอมป์ต้องใช้สเปค 1200 Watts ที่ 4 โอห์ม จริงไหม (ตามทฤษฎี) นี่ที่แอมป์ต้วเดียวนะครับ รับมาแค่แชนแนล A นะครับนี่ (ยังสู้แบบสเตอริโอไม่ได้ เขาได้ 4 ดอกทั้งซ้ายขวา อย่างละ 2 ดอก)
ทีนี้เราอยากเพิ่มลำโพงในโหมดParallelที่มีอยู่ข้างละดอก ก็โยงสปีคอนเสียบรูตู้เพิ่มอีกข้างละ 1 ดอก ตอนนี้เป็นไง ก็เพิ่มแบบขนานไปอีกนะสิ ตัวหารหักล้างโอห์มลงอีก เหลือแค่ 2 โอห์ม ส่วนวัตต์ เพิ่มเป็น 600+600+600+600 = 2400 Watts มันเกินกำลังแอมปฺ์ตัวนั้นไปแล้วครับแถมได้แค่สัญญาณA(ซ้าย) แชนแนลเดียว มีทางเดียวจะได้สัญญาณB(ขวา)ก็ต้องเพิ่มแอมป์ แล้วมาทำเหมือนตัวแรก  ตรงนี้คือความยุ่งยากในการต่อแบบขนานในโหมดParallel หละครับ 
 :love2:
ผิดถูกอย่างไร  ขอความรู้และประสบการณ์จากท่านอื่นๆด้วยครับ :thank1:

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: วันที่ 3 ตุลาคม 2015, 06:12:00 น. »
สอบถามการต่อลำโพงครับ งานคาราโอเกะ ส่วนใหญ่ต่อกันแบบไหนครับ
กลาง-แหลม ข้างละ3ครับ ซับข้างละ2ครับ


ดีที่สุด คือการต่อแล้วลองฟัง  รับรู้ได้ทันที

เริ่มจาก แอมป์หนึ่งตัว ขับลำโพง กลาง แหลม ที่ว่า หนึ่งคู่
แอมป์อีกตัวขับซับอีกหนึ่งคู่

ฟังจนจับใจความของเสียงดนตรีว่าเป็นอย่างไร
เอากลาง แหลม อีกหนึ่งคู่มาต่อแบบขนาน ตู้วางข้างกัน หรือ วางซ้อนเทินกันโดยให้ส่วนทวีทเตอร์อยู่ติดกัน  ส่วนซับเหมือนเดิม
ฟังเสียงถูกใจไหม

จากนั้น  ลองต่อแบบอนุกรมดู  ครับ จะเห็นความแตกต่างทันที

ส่วนกลาง แหลม อีกคู่  ขายไปเถอะ เล่นลำโพงว่ากันเป็นเลขคู่  เลขคี่  ขาดทุนทันที

หลังจากฟังเสร็จ  ถึงค่อยเพิ่มซับอีกคู่ ก็ยังไม่สายไป ครับผม

ทำแบบนี้ จะได้ทั้งคุณภาพ และเค้นประสิทธิภาพ ของระบบที่คุณมีอยู่ ซึ่งอาจไม่เหมือนของท่านอื่น

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: วันที่ 3 ตุลาคม 2015, 07:57:36 น. »
ขอบคุณ เน้อ คุณนเรศร์
 ;)
เรื่องต่อขนานในโหมดStereo ไม่สงสัยครับ เพราะแต่ละแชนแนลเราพ่วงต่อสปีคอนหลังตู้ลำโพงได้เลยครับ แอมป์ต้องมีสเปค 1200 WattsX2  ที่ 4 โอห์ม (ตามทฏษฎี)ด้วยครับ
แต่ที่โหมด Parallel สวิทช์จะสลับมาเป็นแบบขนานออกทั้ง AและB สำคัญที่ช่องออกนี่ครับ คือครูสงสัยว่า ช่องA ต่อลำโพง 1 ดอกแล้ว (600 Watts 8 โอห์ม) และช่องBต่อลำโพง 1 ดอกแล้ว(600 Watts 8 โอห์ม)  2 ดอกนี้ ทำให้แอมป์ต้องใช้สเปค 1200 Watts ที่ 4 โอห์ม จริงไหม (ตามทฤษฎี) นี่ที่แอมป์ต้วเดียวนะครับ รับมาแค่แชนแนล A นะครับนี่ (ยังสู้แบบสเตอริโอไม่ได้ เขาได้ 4 ดอกทั้งซ้ายขวา อย่างละ 2 ดอก)
ทีนี้เราอยากเพิ่มลำโพงในโหมดParallelที่มีอยู่ข้างละดอก ก็โยงสปีคอนเสียบรูตู้เพิ่มอีกข้างละ 1 ดอก ตอนนี้เป็นไง ก็เพิ่มแบบขนานไปอีกนะสิ ตัวหารหักล้างโอห์มลงอีก เหลือแค่ 2 โอห์ม ส่วนวัตต์ เพิ่มเป็น 600+600+600+600 = 2400 Watts มันเกินกำลังแอมปฺ์ตัวนั้นไปแล้วครับแถมได้แค่สัญญาณA(ซ้าย) แชนแนลเดียว มีทางเดียวจะได้สัญญาณB(ขวา)ก็ต้องเพิ่มแอมป์ แล้วมาทำเหมือนตัวแรก  ตรงนี้คือความยุ่งยากในการต่อแบบขนานในโหมดParallel หละครับ 
 :love2:
ผิดถูกอย่างไร  ขอความรู้และประสบการณ์จากท่านอื่นๆด้วยครับ :thank1:

อ่านดูที่ครูถามแล้วก็ยังงงกับข้อสงสัยและคำถาม

การต่อแต่ละอย่างมีวัตถประสงค์ของมันแบบที่สมาชิกบอก

การต่อแบบ พาราเรล คือการใช้สัญญาณแค่ข้างเดียวเสียงที่ได้จึงเป็นโมโนแบบที่สมาชิกบอก  ครูจะพ่วงกี่ใบเอาลำโพงไปไว้สองฟากเสียงมันก็เป้นโมโน

แล้วถามว่าเขาทำมาเพื่ออะไร   เขาทำมาเพื่อประหยัดช่องสัญญาณเข้าที่มันมีแค่สองช่องและเพื่อใช้ในกรณีที่มันทำงานแบบโมโนเช่นการต่อจาก aux

หากครูเคยดูคอนเสริทใหญ่ๆ ลำโพงแขวนเป็นพวงแอมป์เรียงข้างเวทีเป็นชั้นๆ   การต่อแบบนี้ต่อแบบ พาราเรลทั้งนั้น การทำงานคือข้างใครข้างมันเพราะสายลำโพงที่สั้นที่สุด  ไม่ใช่เอาแอมป์ตั้งตรงกลางแล้วโยงสายลำโพงไปสองช้างให้สิ้นเปลืองและเกะกะ

ออฟไลน์ นพ สุพรรณ

  • คณะก่อการ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 16031
  • HL#5490A920   (x-men)
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: วันที่ 3 ตุลาคม 2015, 08:03:22 น. »
ครูต่อแบบพาราเรล คือการขนานที่ช่องสัญญาณเข้า และใช้ลำโพง 600w /8 โอมส์ข้างละตัว โดยต่อจาก Aและ B แบบนี้ทั้งกำลังขับและความต้านทานก็ยังเป็น 600w/8 โอมส์เหมือนเดิม  เพราะไม่ใช่การขนานที่ขาออกหรือที่ขั้วลำโพง


ผมขี้เกียจพิมพ์ใช้มือถือ ตัวมันเล็กพิมพ์ยาก  สงสัยให้โทรมาครับ จะอธิบายเท่าที่รู้

ออฟไลน์ Sumatethep

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 2476
  • 6E664E4B ซื้อจาก ชัยสแตมป์ ลำปาง
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: วันที่ 3 ตุลาคม 2015, 08:21:56 น. »
ขอบคุณมากครับ คุณครูนพ  :thank1:

สาระ สาระ เนื้อๆ เลยครับ

ทุกท่านที่แสดงความรู้มา.  :thank1:

ออฟไลน์ หม่อง เมืองสิงห์

  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1260
  • 8E576468 [Music Creator] 4EE168C8 (เสียชีวิต)
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: วันที่ 3 ตุลาคม 2015, 08:43:36 น. »
อย่าไปคิดอะไรมากครับครู สวิทต์พาราเรล หรือปุ่มกดโมโนด้านหล้งเครื่อง เป็นเพียงการย้ายอินพุทจาก B มารวมกับ A (ที่มันจะต่อกันเองภายในเครื่อง) เท่านั้นครับ ส่วนภาคขยายกำลังและเอ้าพุทของแอมป์มันก็เหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรด้วยครับ ง่ายๆ ก็เปรียบเสมือนครูเอื้อมมือของครูออกมา ข้างซ้ายมาจับแก้วน้ำเย็น ข้างขวาจับแก้วน้ำร้อน ความรู้สึกระหว่างมือทั้งสองข้างจะไม่เหมือนกัน พอกดสวิทต์พาราเรล ก็เท่ากับครูละมือขวาจากแก้วน้ำร้อน มาจับแก้วน้ำเย็นที่มือซ้ายด้วย คราวนี้ทั้งสองมือของครูก็จะรู้สึกเย็นเหมือนกัน ก็เท่านั้นครับ เอ้าพุทของเครื่องก็ต่อปกติเหมือนสเตอริโอ นั้นแหละครับ จะขนานหรืออนุกรม มันก็ทำงานเหมือนเดิม เพียงแต่เสียงมันเหมือนกันเป็นโมโน ก็เท่านั้นเองครับ  ;D

ออฟไลน์ Sumatethep

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 2476
  • 6E664E4B ซื้อจาก ชัยสแตมป์ ลำปาง
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: วันที่ 3 ตุลาคม 2015, 09:15:48 น. »
 :hap3:
ครับไอ้เจ้าสวิทช์ Parallel หนะครับ ที่ทำให้ครูงงงงงงง..... คือคิดว่าพอสวิทช์ปุ๊บ มันก็รวบเอาขั้ว+และ-ของช่องออก A และ B มาไว้ด้วยกันปั๊บ พอเราต่อลำโพง เข้าช่องออกAและBปุ๊บ มันก็ขนานกันปั๊บ จากดอกละ 600 วัตต์ 8 โอห์ม ก็ถูกหักล้างเป็น 600+600=1200 วัตต์ โอห์มก็ลดลงเป็น 4 โอห์ม   พอเราพ่วงดอกไปข้างละ 1 อีกก็เพิ่มวัตต์ไปอีก   โอ๊ยครูนี่ โง่จริงๆ  :hap3:

ขอขอบคุณ  :thank1:  ทั้งครูนพและครูหม่องครับ  :happy: 

ออฟไลน์ เศกสรร มิวสิคไลท์แอนด์ซาวด์

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 482
  • ้้H L 860AF969 จาก ครูภูมิ
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: วันที่ 3 ตุลาคม 2015, 14:38:01 น. »
ความรู้ทั้งนั้นเลย :thank1: :thank1: :thank1: :thank1:

ออฟไลน์ anuruk buranon

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 2
  • *
  • กระทู้: 25
  • 57E43D58 / 23458990 น้านพ สุพรรณ
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: วันที่ 8 ตุลาคม 2015, 00:09:11 น. »


ตัวอย่างการต่อใช้งานในโหมด parallel ครับ

จะเห็นว่า output ผมต่อสายลำโพงไว้ทั้ง 2 ch.

ซึ่งถ้าแอมป์ทำงานในโหมด stereo ผมต้องทำการเชื่อมต่อสายสัญญาณจาก ch.A มายัง ch.B

แต่ผมปรับสวิทต์มาที่โหมด parallel ผมก็แค่เสียบสายสัญญาณที่ ch.A เพียงช่องเดียว สัญญาณก็จะขนานมาที่ ch.B ด้วยครับ

ออฟไลน์ พิมพ์ชนก

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 767
  • HL#8D02910B (กุ้งD4D) 8FE64E59(กุ้งD4D)
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: วันที่ 8 ตุลาคม 2015, 07:56:23 น. »
:hap3:
ครับไอ้เจ้าสวิทช์ Parallel หนะครับ ที่ทำให้ครูงงงงงงง..... คือคิดว่าพอสวิทช์ปุ๊บ มันก็รวบเอาขั้ว+และ-ของช่องออก A และ B มาไว้ด้วยกันปั๊บ พอเราต่อลำโพง เข้าช่องออกAและBปุ๊บ มันก็ขนานกันปั๊บ จากดอกละ 600 วัตต์ 8 โอห์ม ก็ถูกหักล้างเป็น 600+600=1200 วัตต์ โอห์มก็ลดลงเป็น 4 โอห์ม   พอเราพ่วงดอกไปข้างละ 1 อีกก็เพิ่มวัตต์ไปอีก   โอ๊ยครูนี่ โง่จริงๆ  :hap3:

ขอขอบคุณ  :thank1:  ทั้งครูนพและครูหม่องครับ  :happy:  
สวิทช์ Parallel  มันลิ้งสัญญาณจากข้าง A ไป B อย่างเดียว หมายถึงเอาสัญญาณข้างเดียวต่อพ่วงกันโดยไม่ต้องใช้สายสัญญาณเพิ่ม ส่วนในภาคขยาย A และ B กำลังวัตต์ยังปกติตามโหลด ตามสเป็กเดิม เหมือนกับการต่อแบบเสตริโอ (มันไม่ได้หมายถึงการรวมภาคขยาย AกับB เหมือนกับการบริดส์)

ออฟไลน์ anuruk buranon

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 2
  • *
  • กระทู้: 25
  • 57E43D58 / 23458990 น้านพ สุพรรณ
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: วันที่ 8 ตุลาคม 2015, 11:39:03 น. »


ที่ครูเข้าใจนั้นมันเป็นอีกแบบหนึ่งครับ parallel mono จับ output ขั้วบวก ของ ch.A และ ch.B มาขนานกัน

ออฟไลน์ โด่งครับ

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1787
  • HL#: 4D2F90F0 ท่านชายอ่ำ
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: วันที่ 8 ตุลาคม 2015, 11:52:20 น. »
ผมคิดง่ายครับ ถ้าแอมป์ตัวเดียวเล่นโหมด stereo สัญญาณ L-chA     R-chB

ถ้า 2 ตัวขึ้นไปก็โหมด Parallel โมโน   L-power1      R-power2

ออฟไลน์ Sumatethep

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 2476
  • 6E664E4B ซื้อจาก ชัยสแตมป์ ลำปาง
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: วันที่ 8 ตุลาคม 2015, 20:32:33 น. »
 :thank1:  ขอบคุณครูๆ(พี่น้อง)ทุกคนครับ   ;)

ใครมีความรู้(จริง)มาถ่ายทอดบันทึกไว้ ให้คนไม่รู้ได้รู้  ถือว่าเป็น"ครู"ทุกคน  ;)

 :happy:   :happy:   :happy:

ถ้าเขึยนอธิบายเสริมเพิ่มเติมไปอีก(ตามประสบการณ์จริงของท่าน)ก็จะยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นไปอีก

ครูเองไม่ค่อยได้ใช้ลำโพงมากมายนัก เล่นแค่ 2 ทาง กลางแหลม กับ ซับเบส ใช้เพาเวอร์แอมป์(โหมดสเตอริโอ)2แท่นขับลำโพงทางละ1คู่

สาเหตุเพราะใช้ฟังในบ้าน  ไม่ได้รับงานนอก เพราะงานประจำเป็นข้าราชการครู  ไม่อาจเอาเวลาราชการไปทำงานอื่น

เพาเวอร์แอมป์แท่นละ  480 Watts X 2   8 Ohm เปิดในบ้านก็เพียงพอแล้ว (เป็นความสุขเล็กๆ ความสุขน้อยๆ ครับ)

 :D   :D   :D

ออฟไลน์ tornadonaja

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 290
  • 4FE5BD4C, 8FE74E58, 483230C6, (ซื้อจากคุณเลิศพล)
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: วันที่ 8 ตุลาคม 2015, 22:11:18 น. »
:thank1:  ขอบคุณครูๆ(พี่น้อง)ทุกคนครับ   ;)

ใครมีความรู้(จริง)มาถ่ายทอดบันทึกไว้ ให้คนไม่รู้ได้รู้  ถือว่าเป็น"ครู"ทุกคน  ;)

 :happy:   :happy:   :happy:

ถ้าเขึยนอธิบายเสริมเพิ่มเติมไปอีก(ตามประสบการณ์จริงของท่าน)ก็จะยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นไปอีก

ครูเองไม่ค่อยได้ใช้ลำโพงมากมายนัก เล่นแค่ 2 ทาง กลางแหลม กับ ซับเบส ใช้เพาเวอร์แอมป์(โหมดสเตอริโอ)2แท่นขับลำโพงทางละ1คู่

สาเหตุเพราะใช้ฟังในบ้าน  ไม่ได้รับงานนอก เพราะงานประจำเป็นข้าราชการครู  ไม่อาจเอาเวลาราชการไปทำงานอื่น

เพาเวอร์แอมป์แท่นละ  480 Watts X 2   8 Ohm เปิดในบ้านก็เพียงพอแล้ว (เป็นความสุขเล็กๆ ความสุขน้อยๆ ครับ)

 :D   :D   :D




+100 ครับ

ออฟไลน์ Sumatethep

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 2476
  • 6E664E4B ซื้อจาก ชัยสแตมป์ ลำปาง
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: วันที่ 9 ตุลาคม 2015, 11:20:46 น. »
 ;)  เมื่อเรารู้หลักการต่อลำโพงจากคุณสมบัติของเครื่องขยายเสียงหรือเพาเวอร์แอมป์ทั้งแบบStereo แบบ Parallel และแบบ Bridge Mono แล้ว ก็ควรเคร่งครัดเรื่องจุดออกไปยังลำโพง โดยเฉพาะช่องต่อแบบ สปีคอน (หรือ สเปคคอน ตามแต่จะออกเสียงมาจากภาษาอังกฤษว่า Speakon  -  Speaker -ลำโพง)

ซึ่งต้องปฏิบัติตามคู่มือหรือภาพอธิบายข้างช่องต่อสปีคอนหลังเพาเวอร์แอมป์อย่างเคร่งครัด  ครับ  ;)

สปีคอนตัวผู้







ออฟไลน์ Sumatethep

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 2476
  • 6E664E4B ซื้อจาก ชัยสแตมป์ ลำปาง
Re: การต่อลำโพงครับ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: วันที่ 9 ตุลาคม 2015, 11:23:37 น. »
ให้ยึดคู่มือ หรือตารางแนะนำหลังแอมป์ใกล้ๆช่องสปีคอนนะครับ ตัวอย่างที่ผมนำมาให้ดูบอกชัดเจนเลยครับ ปกติสปีคอนหัวหนึ่งควรมีสายไฟ2เส้น สายหนึ่งเป็นขั้วบวกต่อกับเกลียวสปีคอนที่ +1 อีกสายหนึ่งเป็นขั้วลบต่อที่เกลียว -1  ใช้ได้ทั้งแชนแนล A และ B  แต่เดี๋ยวนี้สายลำโพงเห็นทำเป็นเส้นเดียวรวมไว้ 2 คู่เลย เราก็สามารถใช้สปีคอนหัวเดียวรวม2แชนแนลไว้เลย  โดยคู่แรกตามที่บอกแล้ว คู่ +1 -1 เป็นแชนแนล A ส่วนอีกคู่หนึ่ง เส้นไหนเป็นขั้วบวกก็ต่อกับเกลียว +2  เส้นไหนเป็นขั้วลบก็ต่อที่เกลียว -2 เป็นแชนแนล B  ใช้สปีคอนหัวเดียวเสียบที่แชนแนล A ทำเครื่องหมายสายไฟไว้คู่ไหนเป็น A คู่ไหนเป็น B ไปแยกต่อหัวที่ปลายสายเอาเองข้างใครข้างมัน ใช้ทั้งโหมด Stereo และโหมด Parallel ครับ

   ส่วนหัวสปีคอนที่จะต่อในโหมด Bridge Mono ก็ต่อเหมือนคู่ไบดิ้งโพส  คีอ สายขั้วบวก เข้าที่เกลียว +1 สายขั้วลบต่อที่เกลียว +2  โหมดบริดจ์นี้ต่อเพียงคู่เดียวเท่านั้น ใช้ที่แชนแนล A   

     ทั้งหมดเป็นตัวอย่างจากคำแนะนำที่ปรากฏหลังแอมป์ที่ผมนำมาประกอบครับ