ผู้เขียน หัวข้อ: assembled by Shure in mexico  (อ่าน 4061 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
assembled by Shure in mexico
« เมื่อ: วันที่ 28 พฤษภาคม 2012, 08:40:30 น. »
ได้มาอย่างละตัว








 แต่คราวนี้มิได้ฟรี  ค่าตัวแพงกว่าตั๋วดูเลดี้กาก้า นิ๊ดด เดียว

จะเก็บไว้ หรือ ขายหาทุนซื้อ  ลำโพง   เนียร์ฟีลมอนิเตอร์   ดีน๊า....


คงต้องระดมทุนเป็นการใหญ่  เพื่อ  ADAM  A7X  

เค้าขายกันเป็นข้าง  ข้างซ้าย  =  29200    ข้างขวาอีก    29200      เป็นลม.....


น่าจะเป็นอันดับหนึ่งใน    10  Best  monitors


  





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 พฤษภาคม 2012, 10:52:27 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ เดวิด ณ.นครราชสีมา

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4031
  • HL#8D1F1119 ครูภูม
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันที่ 28 พฤษภาคม 2012, 09:56:39 น. »
ของดี คุณภาพ

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันที่ 28 พฤษภาคม 2012, 11:10:08 น. »


ตามอ่านรีวิวแล้ว  เกิดความทุกข์เพิ่มขึ้น

 ADAM  A7X



ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันที่ 28 พฤษภาคม 2012, 18:07:27 น. »

หาข้อมูลเกี่ยวกับ สตูดิโอมอนิเตอร์ทั้งวัน  ยี้ห้อนี้น่าจะคุ้มเงินมากที่สุดครับ

KRK VXT6





                        ขายคู่ละ  37,000.-


ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันที่ 28 พฤษภาคม 2012, 18:10:52 น. »
รีวิวจากผู้ที่มีประสบการณ์


http://www.simplywit.net/2011/05/krk-vxt6-studio-monitor-%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A-%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7-ohm4u/



จริงๆแล้ว บททดสอบและรีวิวชิ้นนี้ของเสี่ยโอม @Ohm4u นั้นถูกเขียนไว้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2010
เป็นบทรีวิวขนาดยาวที่แม้แต่ผมยังทึ่งในความขยันที่มักจะไม่ค่อยได้เห็นในตัวของโอม
พอไถ่ถามมาถึงได้ความว่าเป็นความอัดอั้นและความอยากได้ที่สะสมมานาน
แวะเวียนไปทดสอบหลายต่อหลายครั้งก่อนจะตัดสินใจซื้อ

ช่วงนี้เสี่ยโอมกำลังวางแผนปรับปรุง blog SonarBoy.com ของเขาอยู่ ผมเลยขออนุญาติยกเอาบทรีวิวชิ้นนี้
และอาจจะมีตามมาอีกเล็กน้อยจาก SonarBoy มาแปะรวมๆกันเอาไว้ที่ blog ผมเอง
ซึ่งเจ้าตัวเองก็อนุญาติมาแล้วเรียบร้อย เพราะเกรงว่าโอมมันจะเบลอและเผลอลบทิ้งไป คงจะน่าเสียดายน่าดู


KRK VXT6 studio monitor : ทดสอบและรีวิว โดย @ohm4u





ลำโพง KRK ตระกูล VXT เป็นลำโพงสูดิโอ ที่สามารถจัดอยู่ในกลุ่มลำโพงสตูดิโอแบบ Near field ราคาระดับกลาง
ที่ทำตลาดแข่งกับลำโพงจากยี่ห้ออื่นๆ อย่าง Fostex, Alesis, Mackie, ADAM, Dynaudio, Genelac, Yamaha หรือ M-Audio,
สำหรับ KRK เองนั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในลำโพงที่มักถูกเลือกใช้ในสตูดิโอใหญ่ๆ ที่เราๆสามารถสังเกตเห็นได้จากนิตยาสารต่างๆ,

KRK ตระกูล VXT นี้มีความพิเศษอยู่หลายอย่าง ที่ทำให้แตกต่างจากลำโพงยี่ห้ออื่นๆที่อยู่ในระดับเดี่ยวกัน
รวมทั้งแตกต่างจากรุ่นเล็กของ KRK เอง,
ในบทความนี้ จะเป็นการรีวิวลำโพง KRK ตระกูล VXT เน้น VXT 6 ตามแบบฉบับของผมเองทั้งในเรื่องของ โครงสร้าง วัสดุ วงจร และเสียงของมัน

KRK นั้น เป็นยี่ห้อ ที่ผลิตเฉพาะลำโพงสตูดิโอ มาตั้งแต่เปิดบริษัท
ในขณะที่ยี่ห้ออื่นๆหลายยี่ห้อ มีสายการผลิตลำโพงสำหรับจุดประสงค์อื่นๆ
เช่น ลำโพงรถยนต์ ลำโพงสำหรับงานเสียงกลางแจ้ง หรือลำโพงสำหรับเครื่องเสียงภายในบ้าน
จากประเด็นนี้เอง หลายคนจึงมอง KRK เป็นยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ในแง่ของลำโพงที่ถูกออกแบบมาเฉพาะทาง
เพื่องานสตูดิโอโดยเฉพาะ รวมทั้งสามารถตีความลึกไปถึงความชำนาญเฉพาะทางในเรื่องของการออกแบบลำโพงสตูดิโออีกด้วย

ชื่อเสียงของ KRK คือลำโพงที่ถ่ายทอดเสียงออกมาได้เที่ยงตรง แข็งกระด้าง ขี้ฟ้องในทุกรายละเอียดของเสียงโดยไม่เกรงใจผู้ฟัง,
และข้อตำหนิที่น่าเสียดายคือเรื่องของการย้ายการผลิตจากประเทศอเมริกาไปสู่ประเทศจีน
และการปรับเปลี่ยน spec บางอย่างที่ทำให้ภาคขับเสียงคุณภาพด้อยกว่าครั้งที่ยังผลิตที่ประเทศอเมริกา,
คำร่ำลือต่างๆ เป็นจริงเท็จแค่ไหน เสียงที่ออกมาเป็นอย่างไร เราจะได้รู้กัน

ทำความรู้จักกับ KRK ตระกูล VXT กันก่อน





รูป KRK VXT4 โดย kryxtal จาก Flickr.com
KRK ตระกูล VXT นี้ เปิดตัวครั้งแรกในงาน NAMM ต้นปี 2007 และวางขาย ทำตลาดหลังจากนั้น,
KRK ตระกูล VXT มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น คือ VXT4, VXT4 สีขาว, VXT6 และ VXT8
สำหรับ VXT4 นั้น จะมีความแตกต่างจาก VXT6 และ VXT8 อยู่หลายอย่าง เช่น ดอกลำโพงใช้วัสดุคนละชนิด
ไม่มี low cut, hi cut เป็นต้น, และท้ายที่สุด สิ่งที่จะเห็นได้ชัดจากภายนอก
คือ แต่ละตัว จะมีขนาดที่แตกต่างกัน, โดยเฉพาะ VXT8 จะมีขนาดที่ใหญ่มาก ใครที่คิดจะซื้อ VXT8 ก็ต้องหาที่ว่างๆ ในห้องให้มันด้วย

ความพิเศษที่มีอยู่ในลำโพง KRK รุ่น VXT มีประเด็นหลักที่สังเกตได้อยู่ 3 อย่าง คือ
โครงสร้างภายนอกที่มีลักษณะโค้งมน ทำด้วยพลาสติก แทนที่จะใช้ไม้ และยังมีรูน๊อตใต้ลำโพงเอาไว้ยึดกับขาวางลำโพงอีกด้วย,
 วงจรภายในที่เพิ่มความซับซ้อนในการทำงาน มีระบบ stand-by และ clip limiter,
และดอกลำโพงที่เลือกใช้ เส้นใย Kevlar สาน สำหรับ woofer และ โคนผ้าไหม (สำหรับ Tweeter เฉพาะรุ่น VXT 6 และ VXT 8
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 พฤษภาคม 2012, 18:24:41 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันที่ 28 พฤษภาคม 2012, 18:21:20 น. »

KRK VXT : ตู้ลำโพงที่ผลิตจากพลาสติด ABS

โครงสร้างภายนอกที่ทำให้ KRK VXT มีความโดดเด่น คือ การเลือกใช้ พลาสติกหล่อ เป็นทรงโค้งมนทั้งตัวลำโพง
แทนที่จะใช้ไม้ หรือ โลหะ เป็นโครงสร้าง ทั้งนี้ KRK ให้เหตุผลว่า จะช่วยลดพื้นที่ผนังที่วางขนานกัน
ช่วยลดเสียงสะท้อน และการเกิด standing wave ในบางความถี่ลงได้

พลาสติกที่เลือกใช้นั้น เป็น ABS Structural Foam ไม่ใช่ ABS แบบ Solid ทั่วไป
ซึ่ง KRK ได้อธิบายหลายอย่างเดียวกับกรเลือกใช้วัสดุประเภทนี้ในแง่ของคุณภาพเสียง
แต่สุดท้ายแล้วผมคิดว่าคำโฆษณาต่างๆ ควรที่จะถูกตัดสินด้วยผลลัพท์ที่ลูกค้าสามารถรับรุ้ได้ด้วยตัวเองมากกว่า

ในทางตรงกันข้ามกัน การเลือกใช้พลาสติกแทนใช้ไม้ ทำให้ลดขั้นตอนการผลิตลงได้
ไม่ต้องทำสีภายนอกซ้ำอีกครั้ง ซึ่งในบางความคิดอาจจะมองว่าอาจจะทำให้ความสวยงามในแบบลำโพงทั่วๆไป
ที่ทำสีแบบ Glossy Black ขาดหายไปจากลำโพงตัวนี้





สำหรับการคิดในแง่ลบนั้น การเลือกใช้พลาสติก ABS แทนการใช้ไม้ทำตู้ลำโพง
อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ในการลดต้นทุนการผลิตของ KRK, การออกแบบรูปร่างที่พิเศษ และการสร้างคำอธิบายต่างๆ
เกี่ยวกับข้อดีของการออกแบบ และการเลือกใช้พลาสติก อาจเป็นเพียงคำอธิบายที่ใช้ในการกลบเกลื่อนการลดต้นทุน,
ผมคิดว่าการมองในมุมลบที่กล่าวมาข้างต้นนั้น คงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
หากการเลือกใช้พลาสติกทำให้เสียงไม่ดีเท่ากับการเลือกใช้ไม้
KRK คงจะไม่เอาอนาคตของบริษัทฯมาแขวนเอาไว้กับการเลือกใช้วัสดุแบบนี้แน่ และถ้าหากเป็นการเลือกใช้วัสดุเพื่อการลดต้นทุนจริงๆ
ในรุ่น Rokit Gen II ซึ่งเพิ่งออกวางขายไม่นาน น่าจะถูกผลิตด้วยพลาสติกเหมือนกัน เพื่อเหตุผลเดียวกัน,
ดังนั้นผมสามารถสรุปได้ง่ายๆว่า การเลือกใช้พลาสติกไม่ใช่เรื่องของการลดต้นทุนแน่นอน

Front-Firing Bass Port / ช่องขับลมทวารที่อยู่ด้านหน้า
Front-Firing Bass Port หรือ ช่องทรงสี่เหลี่ยมโค้ง สำหรับเสียงย่านความถี่ต่ำที่อยู่ด้านหน้า
ตามแบบฉบับของ KRK ที่จะไม่ยอมให้ bass port อยู่ด้านหลังของตัวลำโพง
ด้วยความคิดที่ว่า การที่มี bass port อยู่ด้านหลัง อาจจะทำให้เสียงสะท้อนกับผนังกำแพง
หรือมุมห้องที่อยู่ใกล้กับลำโพงได้ อาจทำให้เสียงที่ได้ยินถูกทำให้ผิดเพี้ยนไป
KRK จึงเลือกให้ bass port อยู่ด้านหน้าของตัวลำโพง เพื่อลดปัญหาแบบนี้
โดยเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นต้องวางลำโพงใกล้กับผนังหรือมุมห้อง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 พฤษภาคม 2012, 18:27:20 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: วันที่ 28 พฤษภาคม 2012, 18:33:29 น. »
รูน๊อตยึดลำโพงซึ่งอยู่ข้างใต้ของตัวลำโพง





สิ่งหนึ่งที่ผมเพิ่งจะสังเกตเห็นคือ ลำโพงของ KRK VXT นี้ เมื่อพลิกดูด้านล่างของลำโพง จะมีรูน๊อต 4 รู
เอาไว้ยึดกับขาวางลำโพง ซึ่งถือว่า เป็นอีกหนึ่งจุดที่ KRK ให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อการใช้งานมากเป็นพิเศษ,
เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการนำไปใช้งานในรูปแบบที่หลากหลายกว่า
ไม่ว่าจะเป็น การวางลำโพงบนขาลำโพง หรือว่าการยึดติดกับผนัง
(ซึ่ง KRK ผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับวางกับขาวางลำโพง หรือยึดกับผนัง ออกมาขายด้วย),  
ซึ่งถ้าลองสังเกตจากลำโพงยี่ห้ออื่นๆที่ผมเคยใช้มา คือ Wharfedale PRO Diamond  หรือว่า Yamaha
ก็จะไม่มีรูสำหรับใส่น๊อตยึดขาวางลำโพงแบบนี้เอาไว้ให้ มีเพียงลำโพงสตูดิโอเพียงไม่กี่ยี่ห้อเท่านั้นที่จะเตรียมเอาไว้ให้
และในการใช้งานจริง เราอาจจะพบเจอคนบางคนเลือกเจาะรูทะลุลำโพง หรือทากาว แปะกระดาษกาว 2 หน้า ยึดลำโพงให้ติดกับพื้นผิว
ซึ่งทำให้ความสวยงามของผิวลำโพงลดลงไป และขายต่อไม่ได้ราคาอีกด้วย

วงจรขับเสียงของ KRK VXT
วงจรตัดการทำงานของลำโพง หรือเข้าสู่ Stand-by mode ของ KRK รุ่น VXT นี้ ถูกเรียกว่า Auto-Mute
โดยจะมีปุ่ม เปิด/ปิด การทำงานของความสามารถนี้อยู่ด้านหลังของตัวลำโพง สามารถอธิบายการทำงานของระบบนี้ได้คือ
เมื่อสัญญาณเสียงที่ส่งเข้าตัวลำโพงมีสัญญาณอ่อนมากๆ หรือ ไม่มีสัญญาณเลย
และอยู่ในสภาวะอย่างนี้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานประมาณ 20 นาที
ระบบขยายเสียงของลำโพงจะตัดการทำงานของตัวเอง หรือ ปิด ลำโพง นั่นเอง
ซึ่งจะสังเกตการปิด ได้จากไฟแสดงสถานะการทำงานที่อยู่ด้านหน้าของลำโพงนั่นเอง
และลำโพงจะเปิดทำงานอีกครั้ง เมื่อมีสัญญาณเข้าสู่ลำโพงอีกรอบ  
Auto-mute หรือ stand-by mode นี้ จะช่วยถนอมวงจรขยายเสียงของลำโพงให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นได้
แต่ระบบนี้ก็มีข้อเสียอยู่ที่จะไม่เหมาะสมกับงานบางงานที่เสียงไม่ดังมาก เช่น เสียงเกมส์ เป็นต้น
ซึ่ง KRK ก็แนะนำให้ปิดระบบนี้ซะ ถ้างานที่ทำมีระดับเสียงค่อนข้างเบา





รูป KRK VXT6 โดย Vincent X จาก Flickr.com

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ KRK VXT มีความแตกต่างจากลำโพงยี่ห้ออื่นๆ คือ ระบบ clip indicator/limiter
เป็นอีกระบบที่ช่วยป้องกันลำโพงจากสัญญาณเสียงที่ดังเกินไป โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้เพียงแค่ clip indicator
ที่จะแสดงเพียงสัญญาณเตือน หรือ เปิดให้ limiter ทำงานไปพร้อมๆกับที่พบเจอสัญญาณ clip หรือ ปิดระบบนี้ซะ,
ซึ่งถ้าหากคิดในแง่ของอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทำงาน เช่น การถอดเสียบสายสัญญาณผิดพลาด
การใช้สายสัญญาณที่ขาดภายใน หรือสัญญาณ clip ที่อาจจะมาจาก ไฟฟ้าที่ไม่สะอาด
ระบบนี้สามารถช่วยป้องกันความเสียหายได้อีกขั้นตอนหนึ่ง, และแน่นอนว่า
หากมีความจำเป็นที่จะต้องทำงานในสภาวะที่เสียงดังมากๆ ก็สามารถปิดระบบนี้ลงได้เช่นกัน

LF Cut-off และ HF Trim ดูเหมือนจะเป็นวงจรมาตรฐานที่ควรจะมีอยู่ในลำโพงราคาระดับนี้แล้ว,
สำหรับ KRK VXT นั้น มีเพียงรุ่น VXT 4 เท่านั้น ที่จะไม่มีความสามารถนี้ติดมาให้
ส่วนรุ่น VXT6และ VXT8 มีมาด้วย, ซึ่งการ cut-off ที่ความถี่ต่ำ จะทำงานที่ความถี่ประมาณ 40Hz, 48Hz หรือ 62Hz
ขึ้นกับการเลือก และ การปรับแต่งย่านความถี่สูงจะทำงานที่ความถี่ประมาณ 2kHz
สามารถเลือกปรับได้คือ +2 dB หรือ – 2 dB หรือ flat ซึ่งถือเป็นการปรับแต่งแบบหยาบที่มักจะพบเจอในลำโพงสตูดิโอส่วนใหญ่,
ซึ่งถ้าผู้ใช้ต้องการปรับแต่งลำโพงในแบบที่ละเอียดกว่านั้น
KRK ได้ผลิต Hardware ที่ทำงานในส่วนของ Room Collection Correction
ให้เลือกซื้อมาใช้อยู่แล้ว ในขณะที่ยี่ห้ออื่นอาจจะนำความสามารถนี้ติดเข้าไปในตัวลำโพงเลย
 (ซึ่งหมายความว่าต้องจ่ายเงินมากขึ้น เพื่อที่จะได้ความสามารถนี้ติดลำโพงมาด้วย)

nayoi

  • บุคคลทั่วไป
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: วันที่ 24 ตุลาคม 2012, 11:59:40 น. »
แนะนำเป็นยี่ห้อ Genelec ครับ ส่วนตัวคิดว่าลำโพงใช้ยี่ห้อเหมือนๆกับในสตูไปเลย คุยกันง่ายดี
ยี่ห้อนี้ถึงจะเป็นมอนิเตอร์แต่ เสียงอิ่มแน่น กังวาล มิติเยี่ยมมากๆ ฟังนานๆได้เลย ไม่มีล้า

ออฟไลน์ ทีมงาน ส.สีดา

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1044
  • Hd7487360A (X-men) 0817682909 ทีมงานส.สีดาอุดรธานี
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: วันที่ 24 ตุลาคม 2012, 12:11:04 น. »
ช่วยระดมทุนครับป๋า แจ้งราคาหลังไมค์ได้ครับ  :thank1: :thank1:

ออฟไลน์ krabi1961

  • ระดับ 2
  • ***
  • กระทู้: 34
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: วันที่ 6 พฤษภาคม 2013, 19:27:41 น. »
คุณอามะละกอครับ ผมกำลังหัดเล่นไมค์สายอยู่ครับ  ตอนนี้มี  sm 58  mexico แล้ว1 ตัว    เขาว่า  BETA 58 นั้นดีกว่ามากมายก็เลยอยากลอง   บางกระแสว่ารุ่นใหม่แม้ของมหาจักรก็ผลิตที่จีนแล้ว  เท็จจริงอย่างไรก็ไม่ทราบแน่   ใคร่เรียนถามคุณอาว่าจริงหรือไม่ครับ   และก็ตัวที่คุณอาว่าจะปล่อยออก ไม่ทราบว่าพอจะแบ่งให้ผมได้ไหมครับ    จะซื้อจากไพศาลก็กลัวว่าจะเป็นรุ่นที่ผลิตในจีนครับ    ผมเป็นมือใหม่ทีพึ่งหัดเล่น pa ครับ      ไม่ได้รับจ้างมีใว้เพื่อการพักผ่อนอย่างเดียวครับ 


ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: วันที่ 6 พฤษภาคม 2013, 19:59:06 น. »

คุณอามะละกอครับ ผมกำลังหัดเล่นไมค์สายอยู่ครับ  ตอนนี้มี  sm 58  mexico แล้ว 1 ตัว    
เขาว่า  BETA 58 นั้นดีกว่ามากมายก็เลยอยากลอง  

บางกระแสว่ารุ่นใหม่แม้ของมหาจักรก็ผลิตที่จีนแล้ว  เท็จจริงอย่างไรก็ไม่ทราบแน่  
ใคร่เรียนถามคุณอาว่าจริงหรือไม่ครับ  

และก็ตัวที่คุณอาว่าจะปล่อยออก ไม่ทราบว่าพอจะแบ่งให้ผมได้ไหมครับ    
จะซื้อจากไพศาลก็กลัวว่าจะเป็นรุ่นที่ผลิตในจีนครับ    

ผมเป็นมือใหม่ทีพึ่งหัดเล่น pa ครับ      ไม่ได้รับจ้างมีใว้เพื่อการพักผ่อนอย่างเดียวครับ  




ขอตอบง่ายๆ  ก่อน  ไมค์ที่ผมได้มา  ขายหมดแล้วครับ

เรื่องผลิตที่จีน  หรือที่เม็กซิโก  น่าจะดูจากข้างกล่องได้ครับ  ฝรั่งคงไม่หลอก


ชัวร์  เอสเอ็ม 58  ใช้งานบนเวทีมานานแล้ว  อาจจะทนทาน
แต่ที่แน่ๆ  เพื่อป้องกันเสียงรบกวนรอบด้านบนเวที  


ร้องในบ้าน  ผมแนะนำพรรคพวกใช้ตัวไม่เกินพันบวกนิดหน่อยพอละครับ
เอาเงินไปซื้อ  MIX  ดีๆ  มาจูนเสียงดีกว่า

แต่มีอยู่แล้วหนึ่งตัวนี่ครับ  เบต้านะดีกว่าแน่  แต่  มิกซ์ต้องดีตามรวมทั้งสายไมค์พร้อมหัวเสียบด้วยครับ


ทุกวันนี้ผมใช้ไมค์คอนเด็นเซอร์ร้องครับ   เพื่อนซื้อมาฝากจากอเมริกา
สามพันต้นๆ  ดีกว่าเบต้าหลายขุม





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 6 พฤษภาคม 2013, 20:18:18 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ krabi1961

  • ระดับ 2
  • ***
  • กระทู้: 34
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: วันที่ 6 พฤษภาคม 2013, 21:30:53 น. »
ขอบคุณครับ 

ออฟไลน์ krabi1961

  • ระดับ 2
  • ***
  • กระทู้: 34
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: วันที่ 12 พฤษภาคม 2013, 19:43:15 น. »
เมื่อวานไปเดินเที่ยวที่ตลาดสันติสุขชั้นสอง อ.หาดใหญ่  เป็นร้านขายเครื่อง pa   เห็น AT2020 สาม สี่ตัว บอกราคามาว่า 3,500 ไม่มีประกัน  แต่ไม่กล้าซื้อมาเพราะกลัวปลอม    ไม่ทราบว่าไมค์รุ่นนี้มีปลอมไหมครับ    อยากให้แนะนำสายไมค์ที่เสียงเป็นกลางๆให้ด้วยครับ

niceworld

  • บุคคลทั่วไป
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: วันที่ 12 พฤษภาคม 2013, 21:56:25 น. »



ทุกวันนี้ผมใช้ไมค์คอนเด็นเซอร์ร้องครับ   เพื่อนซื้อมาฝากจากอเมริกา
สามพันต้นๆ  ดีกว่าเบต้าหลายขุม






โฮ่ๆๆ ดีกว่าเบต้าหลายขุม ต้องขอลอกการบ้านโปรแล้ว

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: assembled by Shure in mexico
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: วันที่ 13 พฤษภาคม 2013, 07:52:32 น. »

โฮ่ๆๆ ดีกว่าเบต้าหลายขุม ต้องขอลอกการบ้านโปรแล้ว



ที่อังกฤษมีข่าวการทดสอบและเล่าต่อกันมาว่า

มันมีคุณงามความดีเท่ากับหรือดีกว่า  ไมค์ราคาเกินสองหมื่น

คุ้มค่าที่สุด  จนระยะเวลาหนึ่งหลังรีวิว  มันขาดตลาดโลกนานหลายเดือน
ตลาดเมืองไทยฉวยโอกาสขึ้นราคาเป็นประมาณ  5,500.- บาท จาก  3,900

ห้องอัดต่างประเทศมีไว้ทุกห้อง  เหมือน  Yamaha NS10 M (ลำโพงมอนิเตอร์ตลอดกาล  ไม่เพราะแต่ขาดไม่ได้)

ไดอะแฟรมคือตัวรับเสียง  มีพื้นที่ใหญ่กว่าเบต้าสองเท่า  จึงเก็บทุกรายละเอียดได้ดีกว่า
ถ้าสามารถหาไมค์ปรีที่มีคุณภาพมาใช้มันคงเปล่งประกายมากขึ้นครับ

เพราะต้องไม่ลืมว่า  ไมค์กับไมค์ปรี ต้องไปด้วยกัน  เฉกเช่นเดียวกับ  แอมป์กับลำโพง ครับ

อยู่แถวบางนามาลองทดสอบได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 13 พฤษภาคม 2013, 08:07:25 น. โดย มะละกอ »