มาคุยกันต่อในเรื่องของฟังก์ชั่น Limiter
ก่อนอื่น หลาย ๆท่าน อาจจะสับสนระหว่างการทำงานและการตั้งค่าระหว่าง Limiter กับ Compressor ว่าสองตัวนี้
มันทำงานแตกต่างกันอย่างไร? ถ้าคุยกันประสาชาวบ้านเปรียบเทียบการทำงานระหว่างสองหน้าที่นี้ ก็จะประมาณว่า
ถ้าท่านมีตู้เสื้อผ้าอยู่หนึ่งใบ ท่านกำหนดพื้นที่ให้ ครึ่งตู้สำหรับแขวนกางเกง เมื่อมีกางเกงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเต็ม
พื้นที่ ท่านจะทำอย่างไร?
1. เอาส่วนที่มันแขวนแล้วเกินพื้นที่ออก (Limiter)
2. อัดมันเข้าไปทั้งหมดในพื้นที่ที่เรากำหนดไว้ให้ได้ อาจจะมีมีล้นออกมาบ้างเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร (Compressor)
ทั้งสองอย่างทำหน้าที่คล้าย ๆ กัน แต่แตกต่างตรงที่ Limiter ท่านจะสูญเสียกางเกงส่วนที่เกินไป แต่ Compressor
ท่านจะได้กางเกงครบตามจำนวน แต่ต้องบีบอัดกางเกงทั้งหมดเข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้กางเกงยับไปบ้างก็ไม่เปงไร
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าฟังก์ชั่น Limiter นั้นจะเหมาะสมสำหรับการใช้ควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายของส่วนรวมโดยยอม
ตัดส่วนเกินทิ้งไป ในขณะที่ฟังก์ชั่น Compressor จะพยายามรักษาทุกอย่างเอาไว้ทั้งหมด โดยที่ส่วนรวมอาจจะเสีย
หายบ้าง มากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับเราตั้งค่าการบีบอัดไว้ขนาดไหน
อธิบายแบบนี้พอจะเห็นภาพหรือเปล่าครับ
ในกรณีที่เราใช้สำหรับการควบคุมระดับความแรงสัญญาณของแหล่งสัญญาณเดี่ยว ๆ เช่นเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น หรือ
เฉพาะเสียงพูด เสียงร้อง เราจะพยายามรักษาเนื้อเสียงไว้ทั้งหมด โดยใช้วิธีบีบอัด (Compressor) แทนที่จะตัดส่วนเกิน
ทิ้งไป (Limiter)
แต่ในกรณีที่เราต้องการควบคุมความแรงสัญญาณของเสียงทั้งย่าน เราจะนิยมใช้วิธีการตัดส่วนเกินทิ้ง Limiter เพราะ
ว่าส่วนที่เกินอาจจะเกิดจากสัญญาณของเครื่องดนตรีชิ้นใด ชิ้นหนึ่ง หรืออาจจะเกิดจากเสียงพูด เสียงร้อง ซึ่งการใช้
วิธี Limiter จะสามารถรักษาคุณภาพของเสียงส่วนรวมได้ดีกว่าการบีบอัด Compressor นั่นเอง ดังนั้นในส่วนภาค
Output ของครอสจึงมักจะใช้ฟังก์ชั่น Limiter ในการควบคุมการทำงานเป็นหลัก
สำหรับฟังก์ชั่น Limiter จะมีค่าให้ปรับตั้งอยู่ทั้งหมด 3 ค่าด้วยกันคือ
1. Threshold คือระดับความแรงสัญญาณ (หน่วยเป็น dB) ที่กำหนดให้วงจร Limiter เริ่มทำงาน
2. Attack คือเวลา (หน่วยเป็น ms) ที่กำหนดให้วงจร Limiter เริ่มทำงานหลังจากสัญญาณเกินจากค่า Threshold
3. Release คือเวลา (หน่วยเป็น ms) ที่กำหนดให้วงจร Limiter หยุดทำงานหลังจากสัญญาณต่ำกว่าค่า Threshold
หลังจากการปรับตั้ง Gain Output ของแต่ละย่านความถี่แล้ว เมื่อเราได้ค่า Gain Output ของแต่ละย่านแล้ว ก็มาถึง
ว่าเราจะตั้งค่า Limiter กันอย่างไร?
ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าเรากำหนดค่า
- Gain Output ของย่านเสียง Low ไว้ที่ 0dB
- Gain Output ของย่านเสียง Mid - High ไว้ที่ -5dB
แล้วเราไม่ต้องการให้ระบบของเราทำงานเกินจากค่าที่เราตั้งไว้ที่ Gain Output ของครอส เราก็จะกำหนดค่า Limiter
ดังที่แสดงในรูป ด้านล่างนี้
จากรูป ผมกำหนดค่าอะไรไว้อย่างไรบ้าง
- Threshold ของ Output 1 และ 3 ซึ่งเป็นย่าน Low L & R อยู่ที่ 0dB นั่นหมายความว่าเมื่อระดับความแรงสัญญาณของ
ย่านนี้เพิ่มขึ้นจนเลย 0dB วงจร Limiter จะเริ่มทำงาน โดยทำงานสัมพันธ์กับค่า Attack
- Attack กำหนดไว้ที่ 0.3ms ก็คือวงจร Limiter จะเริ่มทำงานภายในเวลา 0.3ms ทันทีที่ความแรงสัญญาณเกินค่า Threshold
- Realese กำหนดไว้เป็น 2x ของ Attack นั่นคือ 0.6ms วงจร Limiter จะหยุดทำงานภายในเวลา 0.6ms ทันทีหลังจากที่
ความแรงสัญญาณลดลงต่ำกว่าค่า Threshold
สำหรับความเหมาะสมของค่า Attack และ Release นั้นขึ้นอยู่กับแหล่งสัญญาณว่า มีความความแรงสัญญาณเกินค่า Threshold
แบบต่อเนื่องหรือเปล่า หรือ เกินบ้างเป็นบางครั้ง นาน ๆ ที ตรงนี้ก็จะกำหนดค่าแตกต่างกันออกไป
ในส่วนของ Output 2 & 4 ซึ่งเป็นย่าน Mid - High จะแตกต่างกันที่ค่า Threshold ที่ตั้งค่าความแรงสัญญาณไว้ที่ -5dB
หากสัญญาณมาเกินกว่า -5dB วงจร Limiter ก็จะเริ่มทำงานครับ ซึ่งจะสอดคล้องกับ Gain Output ของครอสที่เราตั้งไว้