หัวข้อ: Balanced หรือ Unbalanced Audio

[สองไม้ไทย]

ขอความรู้จากท่านผู้เชี่ยวชาญ
ผมไม่ยังกระจ่างในเรื่อง

- การต่อบาลานซ์ และอัน(ไม่)บาลานซ์ เกี่ยวข้องกันกับการต่อกราวด์(ลงดิน)ของตัวเครื่องเสียง หรือระบบไฟฟ้า(ต่อกราวด์ หรือปลั๊กไฟ3ขา) หรือไม่ อย่างไรครับ?
- ต่อบาลานซ์  มีขากราวด์(ขาเลข1Ground)ถ้าใช่  มันจะไปกราวด์อย่างไร? ที่ไหนครับ?
- ต้องใช้สายดินต่อกับอุปกรณ์เครื่องเสียงของเราที่กำลังใช้งาน   หรือ ใช้ไฟเมนที่มีการต่อสายกราวด์จริงๆ (แบบปลั๊กไฟ3ขา)  จึงจะเป็นการกราวด์จริงใช่ไหมครับ?
- การต่อบาลานซ์ แต่ถ้าระบบเครื่องเสียงหรือไฟเมนไม่มีระบบสายดิน  ก็จะกลายเป็นการต่อแบบไม่บาลานซ์หรือไม่ครับ?
- คุณภาพของเสียงจากการต่อบาลานซ์ จะดีกว่าการต่อแบบไม่บาลานซ์  เฉพาะในเรื่องลด"เสียงรบกวน"ในการส่งสันญานระยะไกลเท่านั้น  ใช่ไหมครับ?
- สายไมค์หรือสายสัญญาน ที่ต่อแจ็คXLRแบบไม่บาลานซ์ โดยไม่เชื่อมขั้วเลข1(Ground)กับขั้วเลข3(Cold)จะมีผลต่อคุณภาพสัญานและเสียงหรือไม่?(ในสายขายสำเร็จมักต่อเชื่อมกันมา)
ขอบถามความรู้เท่านี้ก่อนครับ

[มานพ]

ท่าน ผอ. น่าจะหมายถึง Balanced Audio ใช่ไหมครับ

ไม่เกี่ยวข้องกับ ระะบบสายดิน (Balanced Audio กับ Balance ด้าน Power ไม่เหมือนกัน)

เป็นการลดสัญญาณรบกวนถูกต้องแล้ว ไม่จำเป็นต้องส่งระยะไกลเสมอไป

คุณภาพเสียงดีกว่า unbalanced เพราะเรื่อง noice

gain ต่างกันครับ ว่างๆ อยู่หน้าคอมฯ ผมจะเขียน diagram อธิบายตามที่เรียนมาให้ทราบครับ

อาจจะไม่เข้าใจก็ได้  

[มานพ]

สายที่เราใช้กันแบบ Unbalanced


Unbalanced Audio ใช้สายตัวนำเดี่ยวในการส่งสัญญาณและสาย shield ในการป้องกันพวกความถี่ต่ำและสัญญาณวิทยุ
ใช้ในการนำสัญญาณกลับมาที่ source การป้องกันสัญญาณรบกวน (Noise) ทำได้จำกัด ทำให้ ส่งในระยะไกลๆ ไม่ได้
ที่พบเห็นในการใช้ได้แก่ Mic ที่มี gain level ต่ำหรือพวกกีต้าร์



สายที่เราใช้กันแบบ Balanced

Balanced Audio จะประกอบด้วยสายสามเส้น การส่งสัญญาณ Signal - และ + เหมือนกันเพียงกลับเฟส 180 องศา
และใช้ shield ในการป้องกันพวกความถี่ต่ำและสัญาณรบกวน จากคลื่นวิทยุเช่นกัน แต่ shield ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสัญญาณ


มีต่อ..

[มานพ]

Unbanced Audio ง่ายๆ ครับ Source มี output สัญญาณเดียว เทียบกับ ground ส่งสัญญาณไปตามสาย
ตัวนำสีแดงๆ ไปยัง Amplifier จากนั้นสัญญาณกลับหา source ด้วย ground สีเขียวๆ และมันยังมี
หน้าที่ป้องกันคลื่อนรบกวนต่างๆ จากคลื่นวิทยุหรือความถี่ต่ำ



สัญญาณจากต้นทางอาจจะสะอาดไม่มี noise แต่เมื่อผ่านตัวนำมา จะเกิดขึ้นและพ่วงไปกับสัญญาณ
ของเราด้วย เพราะอะไร ก็เพราะว่าเจ้าสายตัวนำมันดันทำตัวเป็นเสาอากาศรับสิ่งที่เราไม่ต้องการเข้าไปด้วย
เคยไหมครับ โทรศัพท์ตามบ้านดันมีเสียงวิทยุแทรกเข้าไปด้วย



ทำให้สัญญาณด้านออก = Signal + Noise

งงป่ะ มีต่อ..

[มานพ]

มาดู Balanced บ้าง สัญญาณจาก source จะถูกส่งผ่าน 2 ตัวนำ คือ main signal และ inverse signal
ซึ่งมีสัญญาณเหมือนกันแต่กลับเฟส 180 องศา


พาลูกไปทานข้าวก่อน.. 

[มานพ]

เมื่อส่งสัญญาณไปปลายทางมันก็เกิด noise แบบ Unbalanced นั่นแหล่ะ



สัญญาณด้าน + และ - จะมี noise เหมือนกัน ลองคิดดูครับ สัญญาณ A และ -A ที่ต่างเฟส รวมทั้ง Nosie
ที่มีเฟสเหมือนกันเมื่อผ่าน Amplifier เพื่อรวมสัญญาณจะได้ OUTPUT = 2A
มาไงลองดูสมการ



ซึ่งในความคิดส่วนตัวผมไม่ว่าใกล้ไกลอุปกรณ์ audio ปัจจุบันน่าจะเป็น Balanced ทั้งหมดน่าจะดีกว่า 

[มานพ]

ที่ต่อแจ็คXLRแบบไม่บาลานซ์ โดยไม่เชื่อมขั้วเลข1(Ground)กับขั้วเลข3(Cold)จะมีผลต่อคุณภาพสัญานและเสียงหรือไม่?(ในสายขายสำเร็จมักต่อเชื่อมกันมา)

จากที่อธิบายมั่วๆ ข้างบนท่าน ผอ. พอจะเดาได้ไหมครับ

อ่าน Phantom Power มีผลกับ Mic อย่างไร?

[veenus]

กระทู้นี้ออกเร็วสักหน่อย ผมคงไม่ใด้เปลี่ยนครอส.. ของผมเสียงไม่เท่ากัน L R.. ซื้อ ครอส ไหม่มาเปลี่ยน ก็ไม่หาย หาอยู่หลายวัน เลย เอาสายมาดู จึงใด้รู้ว่า 2สาย ต่อไม่เหมือนกัน กดโทร คุยกับเพื่อนที่อยุธยา  เขาคุยให้ฟังถึงได้รู้ และแก้ปัญหาได้   

[สองไม้ไทย]

จาก สายไมค์หรือสายสัญญาน ที่ต่อแจ็คXLRแบบไม่บาลานซ์ โดยไม่เชื่อมขั้วเลข1(Ground)กับขั้วเลข3(Cold)จะมีผลต่อคุณภาพสัญญานและเสียงหรือไม่?(ในสายขายสำเร็จมักต่อเชื่อมกันมา)

จากที่อธิบายมั่วๆ ข้างบนท่าน ผอ. พอจะเดาได้ไหมครับ

อ่าน Phantom Power มีผลกับ Mic อย่างไร?

เข้าใจว่า
คุณภาพเสียงและสัญญาญ(gain)ก็มีค่าเท่ากับการต่อแบบไม่บาลานซ์(Unbalance)ตามปกตินั่นเอง...(ไม่แตกต่างกันกับการเชื่อมขั้ว1-3เข้าด้วยกัน??..ยังไม่ได้ทดลองเปรียบเทียบกันดู)
และ
การไม่เชื่อมขั้วเลข1(Ground)กับขั้วเลข3(Cold)นั้นหมายความว่า  ..ใช้ขั้ว1ตามปกติเพื่อนำสัญญานกลับแหล่ง(source)และป้องกันคลื่นรบกวน  ส่วนขั้ว3 ปล่อยไว้

ถูกต้องไหมครับ? อาจารย์

(ที่มาของเรื่อง ผมสับสนจากข้อความ  "......ถ้าไม่บาล้านซ์แต่ขา 1 ลอยไว้เฉยๆ ไม่ได้โยงกับขา 3 ก็ไม่เป็นไรไฟที่ป้อนไปก็มาจุกอยู่แค่นั้น
แต่ถ้าโยงขา1-3 เข้ากันเมื่อไหร่  ไฟก็เข้าว๊อยส์ไมค์ผ่านขา 3 คิดดูเอาว่าจะเกิดอะไร ..."
และ ".....ถ้า Mic เป็นแบบ unbalanced output voice coil หรือ ribbon ถูก short ลง ground แน่นอนครับ phantom จะพัง Mic คุณได้
นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่เคยต่อ สาย short 1-3 ให้ mipro แล้วเสียบที่ XLR ผมเพื่อให้ gain มันดังขึ้นครับหมอนพ..." จากอีกกระทู้ในเรื่อง Phantom Power มีผลกับ Mic อย่างไร?

[นพ สุพรรณ]

จาก สายไมค์หรือสายสัญญาน ที่ต่อแจ็คXLRแบบไม่บาลานซ์ โดยไม่เชื่อมขั้วเลข1(Ground)กับขั้วเลข3(Cold)จะมีผลต่อคุณภาพสัญญานและเสียงหรือไม่?(ในสายขายสำเร็จมักต่อเชื่อมกันมา)
เข้าใจว่า
คุณภาพเสียงและสัญญาญ(gain)ก็มีค่าเท่ากับการต่อแบบไม่บาลานซ์(Unbalance)ตามปกตินั่นเอง...(ไม่แตกต่างกันกับการเชื่อมขั้ว1-3เข้าด้วยกัน??..ยังไม่ได้ทดลองเปรียบเทียบกันดู)
และ
การไม่เชื่อมขั้วเลข1(Ground)กับขั้วเลข3(Cold)นั้นหมายความว่า  ..ใช้ขั้ว1ตามปกติเพื่อนำสัญญานกลับแหล่ง(source)และป้องกันคลื่นรบกวน  ส่วนขั้ว3 ปล่อยไว้

ถูกต้องไหมครับ? อาจารย์

(ที่มาของเรื่อง ผมสับสนจากข้อความ  "......ถ้าไม่บาล้านซ์แต่ขา 1 ลอยไว้เฉยๆ ไม่ได้โยงกับขา 3 ก็ไม่เป็นไรไฟที่ป้อนไปก็มาจุกอยู่แค่นั้น
แต่ถ้าโยงขา1-3 เข้ากันเมื่อไหร่  ไฟก็เข้าว๊อยส์ไมค์ผ่านขา 3 คิดดูเอาว่าจะเกิดอะไร ..."
และ ".....ถ้า Mic เป็นแบบ unbalanced output voice coil หรือ ribbon ถูก short ลง ground แน่นอนครับ phantom จะพัง Mic คุณได้
นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่เคยต่อ สาย short 1-3 ให้ mipro แล้วเสียบที่ XLR ผมเพื่อให้ gain มันดังขึ้นครับหมอนพ..." จากอีกกระทู้ในเรื่อง Phantom Power มีผลกับ Mic อย่างไร?

ผมใช้แต่ 2-3 ครับ  1 ลอยไว้เฉยๆ  ไม่ได้เดินสายอะไรเข้าไป   มีคนเคยถามผมว่าทำไมไม่ใช้แจ๊คโฟน  ผมบอก  แจ๊ค xlr มันเหลือเพราะซื้อทีหนึ่งยกโหล

คนถามก็ไม่ถามต่อแล้วครับ

[niceworld]

- คุณภาพของเสียงจากการต่อบาลานซ์ จะดีกว่าการต่อแบบไม่บาลานซ์  เฉพาะในเรื่องลด"เสียงรบกวน"ในการส่งสันญานระยะไกลเท่านั้น  ใช่ไหมครับ?

โดยทั่วไปน่าจะเป็นจะเป็นอย่างนั้น
คือได้ความดัง+ลดน๊อยส์ เหมาะสายสัญญานยาวๆแบบสายไมค์

แต่สายสัญญาณสั้นๆ เมตร-สองเมตร unbalanced อาจดีกว่า balanced ด้วยซ้ำไป
เพราะไม่ต้องผ่านวงจร differential แปลงไปมาลดทอนคุณภาพเสียง

ยกเว้นเป็น fully balanced กันตั้งแต่ input ถึง output ไม่ต้องแปลงไปมา
แบบนี้เสียงดีกว่าแน่นอน แต่มันจะแพงกว่าธรรมดามาก เหมือนไป double circuitry
ยกตัวอย่าง dac ที่เป็น fully balanced ก็ต้องใช้ 2 dacs/ channel

[มะละกอ]

โดยทั่วไปน่าจะเป็นจะเป็นอย่างนั้น
คือได้ความดัง+ลดน๊อยส์ เหมาะสายสัญญานยาวๆแบบสายไมค์

แต่สายสัญญาณสั้นๆ เมตร-สองเมตร unbalanced อาจดีกว่า balanced ด้วยซ้ำไป
เพราะไม่ต้องผ่านวงจร differential แปลงไปมาลดทอนคุณภาพเสียง

ยกเว้นเป็น fully balanced กันตั้งแต่ input ถึง output ไม่ต้องแปลงไปมา
แบบนี้เสียงดีกว่าแน่นอน แต่มันจะแพงกว่าธรรมดามาก เหมือนไป double circuitry
ยกตัวอย่าง dac ที่เป็น fully balanced ก็ต้องใช้ 2 dacs/ channel

ผู้รู้   คือผู้เล่นตัวจริง

99%  ที่เห็นเกลื่อนตลาด  Balance เทียมทั้งนั้น

[raysoundmark]

ขออนุญาต เข้ามาเสริม สำหรับสมาชิกท่านอื่นๆที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ นะครับ

เรื่องของการต่อสัญญาณแบบ BALANCED
(แบบภาษาบ้านๆครับ)

เชิญคลิกตามลิงค์ เข้าไปชมครับ

http://www.soundmarkthai.com/webboard_1829907_38020_th

.