ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD  (อ่าน 19640 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ จุติมิวสิค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 245
  • HL#.8C0ABECD..
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: วันที่ 22 พฤศจิกายน 2011, 08:41:26 น. »
3D..แท้ๆก็ต้องใส่แว่นดูถูกต้องมั้ยครับ
      แล้วแว่น 3D ที่ดีๆต้องซื้อแบบไหนครับ

ออฟไลน์ + ค ลิ นิ ก พ ร ร ณี

  • คณะก่อการ
  • ระดับ 5
  • ***
  • กระทู้: 1240
  • HL#8F626B02/70E83B6C/6C8548B0
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: วันที่ 22 พฤศจิกายน 2011, 09:09:52 น. »
..แหม..กระทู้นี้ถูกใจผมบักขนาด ได้ความรู้เนื้อๆจากผู้ใช้งานจริง อ.เสริมครับ ผมมีหนัง 3D BD ประมาณ 30-40 เรื่อง(เดี๋ยวจะList รายชื่อหนังวันหลัง) เอามาแลกเปลี่ยนกันดูดีมั้ย อิอิ

ออฟไลน์ เสริม

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ระดับ 3
  • **
  • กระทู้: 239
  • HL-54902934
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: วันที่ 22 พฤศจิกายน 2011, 20:13:45 น. »
..แหม..กระทู้นี้ถูกใจผมบักขนาด ได้ความรู้เนื้อๆจากผู้ใช้งานจริง อ.เสริมครับ ผมมีหนัง 3D BD ประมาณ 30-40 เรื่อง(เดี๋ยวจะList รายชื่อหนังวันหลัง) เอามาแลกเปลี่ยนกันดูดีมั้ย อิอิ

ยินดีครับ วันนี้เพื่อนให้ผมมาอีก 2TB ครับ ตอนนี้ฮาร์ดดิสก์ราคาก็สูงมาก เสียดายหนังที่มีอยู่ก็เสียดาย สุดท้ายคงต้องลบออกบ้าง ไม่งั้นจะไม่มีที่สำหรับเก็บหนังที่ได้มาใหม่

ออฟไลน์ เสริม

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ระดับ 3
  • **
  • กระทู้: 239
  • HL-54902934
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: วันที่ 22 พฤศจิกายน 2011, 20:18:42 น. »
3D..แท้ๆก็ต้องใส่แว่นดูถูกต้องมั้ยครับ
      แล้วแว่น 3D ที่ดีๆต้องซื้อแบบไหนครับ
      3D แท้ ๆ หรือ 3D SBS ปัจจุบันก็ต้องใส่แว่นดูครับ ส่วนในอนาคตอาจพัฒนาเป็นไม่ต้องใส่แว่นก็ได้ สำหรับแว่นนั้นก็จะมาพร้อมกับทีวีที่เราซื้อครับ ส่วนใหญ่จะแถมให้ 2 หรือ 4 อัน แล้วแต่โปร.ที่ทางร้านจัด

ออฟไลน์ เสริม

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ระดับ 3
  • **
  • กระทู้: 239
  • HL-54902934
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: วันที่ 9 ธันวาคม 2011, 08:41:27 น. »
              HDMI 1.3 หรือ 1.4  ทำให้หลาย ๆ ท่าน (รวมทั้งตัวผมเองด้วย) ก่อนซื้อสายภาพชนิดนี้ต้องเกิดความลังเลเป็นอย่างยิ่ง ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี เพราะตอนที่ 1.4 ออกใหม่ ๆ ก็มีผู้แนะนำว่าจะเล่น Full 3D ต้องใช้สาย HDMI v.1.4 หากใช้ v.1.3 จะเล่น Full 3D ไม่ได้ เมื่อวานได้มีโอกาสรับเครื่องเล่น HD Player ที่สามารถเล่นไฟล์ Full 3D นามสกุล .iso มาเล่น ปัจจุบันสายที่ใช้อยู่เป็น v.1.3 ทั้งหมด ประมาณ 3-5 เส้น ยังไม่เคยได้ซื้อสาย v.1.4 มาลองใช้เลย จึงอยากพิสูจน์ว่าสาย 1.3 จะสามารถเล่น Full 3D ได้หรือไม่ เมื่อลองแล้วปรากฏว่าเล่นได้ปกติ ทั้งระบบภาพและระบบเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงขอยืนยันด้วยความมั่นใจว่าสาย 1.3 สามารถใช้กับเครื่องเล่นบลูเรย์หรือ HD Player ชนิด 3D ได้อย่างแน่นอน ดังนั้น ท่านใดที่มีสาย 1.3 อยู่ และกำลังจะเล่น 3D ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อสาย 1.4 มาใช้ ยกเว้นท่านที่ยังไม่มีสาย 1.3 อยู่เลย หากจะซื้อสายเส้นแรกก็ควรจะซื้อ 1.4 ไปเลย ทั้งนี้ ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่สามารถจะหาสาย 1.3 ทุกระดับราคาที่มีอยู่ในท้องตลาดมาทดลองได้ แต่มั่นใจว่าสายที่มีขายโดยทั่วไปส่วนใหญ่ก็น่าจะมีคุณภาพไม่หนีกันนัก เพราะดูหน่วยก้านสายที่แถมมากับเครื่องเล่นบลูเรย์และ HD Player ชนิด Full 3D ก็เป็นสายในระดับราคาทั่้ว ๆ ไป เพราะเครื่องเล่นราคา 3000 พันบาท ขึ้นไป คงไม่มีบริษัทไหนแถมสายราคา 7-8 ร้อยบาทให้แน่ ๆ  
              จากการที่ได้ลองเปรียบเทียบการเล่นหนัง Full 3D ในเรื่องเดียวกับหนัง SBS 3D ขอฟันธงได้อย่างมั่นใจเลยว่ามิติภาพของ Full 3D สมจริงมาก ๆ เวลาจะลอยออกมาก็ลอยออกมาเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือน SBS ซึ่งลอยออกมาอย่างผิดธรรมชาติ (เกินความเป็นจริงมากไปหน่อย)  คนที่เคยดูแบบ SBS (ซึ่งส่วนใหญ่ร้านขายจอใช้ Demo ให้ลูกค้าดู) แล้วบอกว่ามึนศีรษะ ลองมาดู Full 3D รับรองว่าอาการดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้ืนอย่างแน่นอน เครื่องเล่น Full 3D ที่มีขายในบ้านเรา มีอยู่ 3 แบรนด์เท่านั้น คือ Xtreamer รุ่น Prodigy    Egreat รุ่น R300  และ HiMedia HD900b โดยใช้ชิพประมวลผลรุ่นเดียวกันทั้งหมด คือ Realtek 1186DD และทำราคาได้น่ารักมาก ๆ คือมีราคาเท่ากันทั้ง 3 รุ่น  ราคาอยู่ที่ 5 พันต้น ๆ ถึงกลาง ๆ สำหรับตัวแรกเป็นเครื่องแบรนด์เกาหลี แต่ปัจจุบันผลิตที่จีน ตัวสุดท้ายเป็นผลผลิตของจีนที่จีนภูมิใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นเครื่องเล่นที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดของจีน ที่สำคัญได้แถม Wifi มาให้พร้อม ส่วนสองเครื่องแรกต้องซื้อเพิ่มต่างหาก   หากจะถามว่าทั้งสามเครื่อง ตัวไหนน่าเล่นที่สุด ซึ่งปัญหานี้ผมใช้เวลาหาข้อมูลค่อนข้างยากทำให้การตัดสินใจเป็นไปด้วยความยากลำบาก หากเน้นแบรนด์ดังรูปสวย ก็ต้องเบอร์ 1 หากต้องการพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบถ้วนและสมบูรณ์แบบกว่าตัวอื่น ๆ ก็ต้องเบอร์ 2  หากต้องการมี Wifi พร้อมโดยไม่ต้องซื้อเพิ่ม ก็ต้องเบอร์ 3  สำหรับการใช้งานนั้น แต่ละเครื่องย่อมแตกต่างกันไป ผมได้เคยลองเล่นเฉพาะเบอร์ 1 และเบอร์ 3 จึงสามารถให้ข้อมูลเฉพาะสองเครื่องนี้เท่านั้น  สำหรับเบอร์ 1 นั้น เมื่อนำมาเล่น Full 3D แล้ว ภาพที่จอพลาสม่าขนาด 64 นิ้ว ของผมไม่เต็มจอ โดยขาดทั้งข้างบนและข้างล่าง แม้เครื่องจะมีฟังก์ชั่นในการปรับให้แต่ปรับแล้วก็ไม่สามารถทำให้เต็มจอได้ เมนูต่าง ๆ บนจอค่อนข้างเล็ก การเลือกเสียงหรือคำบรรยายไม่คล่องตัวเท่าใดนัก  ส่วนเบอร์ 3 ตรงกันข้ามกับเบอร์ 1 คือ เล่นเต็มจอ เมนูต่าง ๆ ค่อนข้างใหญ่ การเลือกเสียงหรือคำบรรยายคล่องตัว แต่เบอร์ 3 เครื่องที่ผมได้ลองยังไม่สามารถโชว์ปกได้ ส่วนเบอร์ 1 โชว์ปกได้ตามปกติ  เมื่อเห็นข้อแตกต่างดังกล่าว การตัดสินใจจึงง่ายขึ้น ผมจึงเลือกเบอร์ 3 ไว้ใช้ โดยเหตุผลหลักประการเดียวคือมันแสดงผลได้เต็มขนาดของจอนั่นเอง  สิ่งที่ค้างคาใจอีกเรื่องก็คืออยากลองเล่นเครื่องเล่น Full 3D ที่ใช้ชิพของ Sigma ดูว่าจะต่างกันขนาดไหน เพราะเคยใช้ในรุ่นธรรมดาด้วยกัน คุณภาพของภาพและสีแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดโดยไม่ต้อง A-B Test เลย แต่ได้ข่าวว่าหาก Sigma ออกมาจริง ๆ ราคาคงเกินหนึ่งหมื่นบาทขึ้นไปแน่ ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 9 ธันวาคม 2011, 21:04:38 น. โดย เสริม »

ออฟไลน์ พี่ฐม นาโยง

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 270
  • HL#7487C894 (ครูภูม)
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: วันที่ 9 ธันวาคม 2011, 10:18:34 น. »
อาจารย์ให้เนื้อหาในการตัดสินใจ  ได้ลูกชายชอบเนื้อหามาก  และสนใจหนังคุณภาพ

ออฟไลน์ เสริม

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ระดับ 3
  • **
  • กระทู้: 239
  • HL-54902934
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: วันที่ 4 มกราคม 2012, 10:24:49 น. »
หลังจากได้ลองเล่นเครื่องเล่น Full 3D มาได้ระยะหนึ่ง พอสรุปได้ว่า ณ เวลานี้ เครื่องเล่นดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์เต็มที่นัก คงจะต้องมีการพัฒนา FW ไปสักระยะหนึ่ง การใช้งานจึงจะตอบสนองได้อย่างครบถ้วน กล่าวคือ ปัญหาที่เครื่องเล่นทั้ง 3 แบรนด์ ปัจจุบันที่ยังแก้ไม่ได้ก็คือ เมนูบลูเรย์ กับเล่นไฟล์ 3D SBS ที่มีขนาด 13 Gb ขึ้นไปแล้วต่อผ่านรีซีฟเวอร์ จะมีปัญหาสะดุดทุกเครื่อง/ทุกเรื่อง แต่แปลกตรงที่หากเ็ป็นหนัง Full 3D (ซึ่งแต่ละเรื่องมีขนาดตั้งแต่ 30-50 Gb) กลับเล่นผ่านรีซีฟเวอร์ได้โดยไม่มีการสะดุด หรือ 3D SBS ขนาดน้อยกว่า 13 Gb ลงมาก็ไม่สะดุดเช่นกัน แต่ข้อด้อยทั้งสองดังกล่าวข้างต้น มันก็ยังเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เพราะความสามารถด้านอื่นเช่นการเล่นไฟล์ Full 3D ได้มันก็เกินคุ้มกว่าค่าตัวของมันแล้ว  แต่ก่อนเมื่อมีระบบ 3D ออกมาใหม่ ๆ นักเล่นแต่ละคนก็เกิดความกังวลว่าแล้วจะหาไฟล์ Full 3D จากที่ไหนมาดูกัน แต่ปัจจุบันมันค่อนข้างรวดเร็วกว่าที่คิด ขนาดผมเริ่มสะสมมาตั้งแต่เดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีมีหนัง 3D SBS เกือบจะ 100 เรื่อง และมีหนัง Full 3D อีกเกือบจะ 20 เรื่องแล้ว เหลือเพียงความกังวลใจว่าเมื่อไรราคาฮาร์ดดิสก์จะลดลงมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนวิกฤตน้ำท่่วมสักทีเท่านั้น

ออฟไลน์ เด็กชายเคยโสด

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 20083
  • 6E65CE52,7309F48F,48B54692,6E674E74,1E001EF5
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: วันที่ 4 มกราคม 2012, 10:53:40 น. »
ผมซื้อมายังดูได้ไม่ถึงสองชั่วโมงเลยครับ  ตอนนี้วางแข่แหล่อยู่ในบ้านครับ  อิอิ

ออฟไลน์ เสริม

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ระดับ 3
  • **
  • กระทู้: 239
  • HL-54902934
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: วันที่ 27 มกราคม 2012, 20:25:51 น. »
             วันนี้มีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับภาคของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ชอบเล่น HD เหมือนกัน โทร.มาปรึกษาว่าอยากเปลี่ยนทีวี เครื่องเล่นบลูเรย์ ให้เป็นระบบ 3 มิติ ผมจึงย้อนถามไปว่า หากทีวีและเครื่องเล่นบลูเรย์รองรับ 3 มิติแล้ว รีซีฟเวอร์ที่เล่นอยู่รองรับระบบ 3 มิติหรือยัง ก็ตอบว่ายังไม่รองรับ ผมจึงบอกว่าทำไมไม่เปลี่ยนทั้งระบบพร้อมกันเลย เจ้าตัวรีบตอบทันทีเลยว่าคงยังไม่เปลี่ยนครับเพราะตัวเก่าของผมเพิ่งซื้อมาเป็นรุ่นสูงราคาค่าตัวอยู่ที่เลข 6 หลัก (ขืนปล่อยออกไปคงไม่มีราคา) หากเปลี่ยนทั้งหมดคงจะใช้งบประมาณที่สูงมาก  ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังก็เพราะว่าอยากให้เป็นข้อเตือนใจของเพื่อน ๆ ที่สนใจจะเล่น HD ว่าอุปกรณ์เครื่องเล่นเหล่านี้ อยู่ในระหว่างการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีส่วนทำให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา จึงทำให้รุ่นที่ผลิตออกมาก่อน เพียงชั่วข้ามปีฟังก์ชั่นการใช้งานและราคาก็ตกลงอย่างรวดเร็ว
             ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจซื้ออุปกรณ์ใด ๆ เพื่อนำมาเล่น HD ก็ตาม จึงขอแนะนำให้เลือกหารุ่นที่มีคนนิยมใช้ และราคาไม่สูงมาก เช่น เครื่องเล่น HD ราคาอยู่ระหว่าง 4000-6000 บาท เครื่องเล่นบลูเรย์ ราคาอยู่ระหว่าง 4500-14000 บาท รีซีฟเวอร์ราคาอยู่ระหว่าง 13500-22000 บาท ชุดลำโพงทั้ง 5.1 หรือ 7.1 ราคาทั้งชุดอยู่ระหว่าง 12500-25000 บาท ส่วนทีวีก็เลือกตามงบประมาณที่มีอยู่ แต่ต้องให้มีฟังก์ชั่น 3D ไว้ด้วย เพราะราคาปัจจุบันต่ำลงมาใกล้เคียงกับทีวีที่ไม่มีฟังก์ชั่น 3D แล้ว ข้อสำคัญอย่านึกหรือคิดเด็ดขาดว่ายังไม่เล่น 3D ฉะนั้น จึงซื้อทีวีระบบ 2D ก็พอ (เดี๋ยวจะเสียใจภายหลัง เพราะซื้อทีวีเครื่องหนึ่งเราใช้ยาวเป็นเวลาถึง 5 - 10 ปี)  หากมีบางท่านย้อนถามว่าแล้วรุ่นที่ดีและแพงกว่าช่วงราคาที่แนะนำไว้ไม่ดีหรือ ก็ขอยืนยันว่ารุ่นสูงและราคาสูงกว่าดีกว่าแน่นอน แต่ระยะยาวหากไม่รองรับระบบที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ๆ การจะเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านั้นก็คงจะตกอยู่ในสภาพเดียวกับเพื่อนรุ่นน้องผมรายที่กล่าวมาแน่นอน
 

ออฟไลน์ เสริม

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ระดับ 3
  • **
  • กระทู้: 239
  • HL-54902934
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2012, 10:49:00 น. »
เฟิร์มแวร์ (FW) เครื่อง HD Player ปัจจุบันผู้เล่น HD Player ส่วนใหญ่ รวมทั้งผมด้วย เมื่อซื้อเครื่องเล่นมาแล้วก็พยายามติดตามการพัฒนา FW พร้อมทั้งอัพ FW ไปเรื่อย ๆ ให้เป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันอยู่เสมอ ด้วยความเข้าใจว่า FW ที่ออกมาใหม่ย่อมดีกว่าตัวเก่า  แต่จากความเป็นจริง ตลอดเวลาการอัพ FW ประมาณ 4-5 เวอร์ชั่นที่ผ่านมา หากนำไปเปรียบเทียบกับรุ่นแรก ๆ ที่มากับเครื่องแล้ว แทบจะหาความแตกต่างกันไม่ได้เลย บางครั้งจะแย่กว่าตัวที่ติดเครื่องมาเสียอีก เช่นเครื่องเล่นที่ผมใช้คือ Himedia HD900B ซื้อมาตั้งแต่เดือน ธันวาคม ปีที่แล้ว ตั้งแต่ปีใหม่จนถึงปัจจุบันได้ออก FW มา 4-5 เวอร์ชั่น แต่ผลจากการอัพ FW ตลอดมา ทำให้ความสามารถในการอ่านข้อมูลใน HD แย่ลงไปกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะคนที่ใช้บอกซ์ที่ใส่ HD มาก ๆ ตั้งแต่ 4 ลูกขึ้นไป จะเกิดอาการบูทเครื่องแล้วเห็น HD เพียง 2 หรือ 3 ลูกตลอดเวลา ปัจจุบัน ผมจึงต้องหันกลับไปใช้ FW ที่ออกตั้งแต่เดือน ธันวาคม ปีที่แล้วแทน จึงฝากบอกนักเล่น HD ทุกท่านว่าอย่าให้ความสำคัญต่อการอัพ FW อีกเลย ยกเว้นหากอัพ FWแล้วสามารถแก้ไขปัญหาในการเล่นได้จริง ๆ แล้วจึงค่อยอัพ FW

ออฟไลน์ มานพ

  • ผู้ดูแลระบบ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 123094
  • 9664E44E,11D88A55,7C1132A8
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2012, 10:27:38 น. »


ลองดูเจ้านี่ครับสำหรับเครื่องเล่นที่สุดแล้วเวลานี้ สามหมื่นต้นๆ
ใช้ DAC ESS SABRE32 ด้วย มี Balance XLR ออกมาด้วย
ใช้ฟังเพลงไม่ขี้เหร่  :th2:

ได้เวลา dune prime 3 ต้องย้ายถิ่นฐานออกจากบ้าน

http://www.oppodigital.com/blu-ray-bdp-95

ออฟไลน์ เสริม

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ระดับ 3
  • **
  • กระทู้: 239
  • HL-54902934
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: วันที่ 18 มีนาคม 2012, 18:53:55 น. »
             การเล่น HD นอกจาก HD Player และ Blu-ray แล้ว ปัจจุบัน เครื่องรับดาวเทียมระบบ HD กำลังได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของเครื่องรับดาวเทียมคือ เราไม่ต้องซื้อแผ่น ไม่ต้องซื้อหรือโหลดไฟล์หนังมาดู และบางครั้งสามารถดูการถ่ายทอดสดได้เลย ทุกวันนี้ประเทศเพื่อนบ้านกำลังพัฒนาระบบโทรทัศน์เป็น HD กันมากแล้ว แต่ประเทศเรามีอยู่ช่องเดียวเท่านั้นคือ ไทย TBS แต่ได้ข่าวแว่ว ๆ ว่า ปลาย ๆ ปีนี้ สถานีโทรทัศน์ทุกช่องบ้านเราจะทดลองออกอากาศในระบบดิจิตอลกันแล้ว แต่ไม่ทราบว่าข่าวนี้จะเป็นจริงหรือเปล่า พูดถึงเครื่องรับดาวเทียมระบบ HD (ในที่นี้จะหมายรวมถึงกล่องฝันด้วย) ปัจจุบันเข้ามามีบทบาทในตลาดบ้านเรามาก และราคาก็ถูกลงอย่างน่าใจหาย ปัจจุบันมีเงิน 2000 บาท (บวก-ลบ) ก็สามารถซื้อเครื่องรับดาวเทียมที่เป็นระบบ HD ได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใครมีจานดำอยู่แล้วก็สามารถดูฟรีทีวีที่เป็นช่อง HD ได้ 2 ช่อง คือ ไทย TBS และของประเทศเพื่อนบ้านคือ M Tune (ดูมิวสิควิดีโอฟรี 24 ชั่วโมง) แต่หากมีจานเล็ก KU ก็สามารถดูช่อง HD ฟรีได้ที่ DTV 3 ช่อง และ NSS6 ได้ 4 ช่อง ทุกช่องที่ดูฟรีสำหรับจานเล็กเป็นการทดลองออกอากาศจึงไม่ใส่รหัสป้องกัน วันใดส่งจริงคงจะดูไม่ได้เช่นเคย ข้อเสียอีกประการหนึ่งของจานเล็กก็คือ 7 ช่องนี้จะส่งตามใจฉัน บางวัน บางช่วงก็หยุดส่ง แต่จะส่งสม่ำเสมอจริง ๆ คือประมาณ 3-4 ช่องเท่านั้น
             การส่งเคเบิลทีวีระบบดาวเทียมของประเทศเพื่อนบ้าน เขาพัฒนาไปเร็วกว่าบ้านเรามาก บ้านเราเป็นสมาชิกเพื่อดูเคเบิลระบบดาวเทียมสามารถดูช่อง HD ได้ 3 ช่อง (ยกเว้นดูระบบเคเบิลที่มาพร้อมทางสายแลน จะดูได้ 12 ช่อง)แต่ของประเทศเพื่อนบ้านเราระบบเคเบิลดาวเทียมของเขามีช่อง HD ให้ถึง 12 ช่อง แม้แต่ละครโทรทัศน์ของเขายังส่งระบบ HD เลย และความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งในช่องคอนเสิร์ตเขาจะไม่แยกเป็นของต่างประเทศกับในประเทศ แต่จะอยู่ในรายการเดียวกันโดยสลับเพลงทั้งต่างประเทศและในประเทศด้วยกันไปเลย 
             กลับมาพูดถึงคุณสมบัติของเครื่องรับ HD ดีกว่า ว่าปัจจุบันมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง เครื่องรับดาวเทียมระบบ HD ส่วนใหญ่จะเป็น 720p หรือ 1080i จะมีเพียงบางยี่ห้อบางรุ่นเท่านั้นที่เป็น 1080p เช่นเครื่องของ AZBox  ข้อเด่นยี่ห้อนี้คือใช้ชิปของ Sigma ซึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นเหนือชิปตัวอื่น ๆ สำหรับราคาของเครื่องอยู่ระหว่าง 3500-6500 บาท และจุดเด่นอีกประการหนึ่งก็คือเครื่องยี่ห้อนี้สามารถใส่จูนเนอร์ (ภาครับ) ได้ทั้งระบบดาวเทียม และระบบเคเบิล (ซึ่งมาพร้อมกับสายแลน)  เครื่องรับดาวเทียม HD รุ่นที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากและราคาประหยัดเห็นจะไม่มีใครเทียบยี่ห้อ Openbox ซึ่งเป็นระบบ 720p หรือ 1080i ใครได้เป็นเจ้าของเครื่องยี่ห้อนี้ค่อนข้างเล่นด้วยความสบายใจเพราะมีเพื่อนมากและ FW ก็พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ไม่เหมือนเครื่องที่มีคนเล่นน้อย ซึ่งขาดคนพัฒนา FW ใหม่ ๆ
              ช่วงระยะเวลา 1-2 เดือนที่ผ่านมา ได้มีเครื่องรับดาวเทียมระบบ HD ที่เป็น 1080p เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ซึ่งได้รับความนิยมค่อนข้างมาก จนทำให้สินค้าขาดตลาดบางระยะ ก็คือ Skybox F3 จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้ก็คือเป็น 1080p และราคาถูกมากคือประมาณ 2500 บาท (บวก-ลบ) เท่านั้นเอง ส่วนคุณสมบัติเรื่องภาพเป็นอย่างไรผมยังไม่ได้ซื้อมาลอง แต่หากเป็น AZBox กำลังสั่งมาเป็นเครื่องที่สอง เรื่องภาพและสีสรรผมกล้ายืนยันได้ว่าหาตัวเทียบยาก เพราะบ้านผมเคยมีนักเล่นหลายท่านนำมาเปรียบมวยกันหลายยี่ห้อและหลายรุ่นแล้ว ยังยอมรับว่าผ่านตัวนี้ไม่ได้จริง ๆ
               สื่อด้านดาวเทียมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คอ HD จะได้นำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งที่ให้ความบันเทิงกับสมาชิกภายในบ้าน ส่วนจะเลือกเครื่องยี่ห้อหรือรุ่นใดนั้น ก็สุดแต่ละท่านจะพิจารณาตามความชอบและความเหมาะสมของแต่ละท่าน

ออฟไลน์ เสริม

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ระดับ 3
  • **
  • กระทู้: 239
  • HL-54902934
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: วันที่ 13 เมษายน 2012, 20:25:43 น. »
ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมดูทีวีโดยเลือกดูที่ดาว Vinasat 1 ku ของเวียดนามเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีช่อง HD มากถึง 12 ช่อง ในบรรดาช่อง HD ของเคเบิลเวียดนามนั้น บางช่องจะสอดแทรกวัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจนสารคดีที่เกี่ยวกับเวียตนามค่อนข้างมาก ซึ่งนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปลูกฝังค่านิยมให้กับประชาชนของเวียดนามเอง ผิดกับช่อง HD 3 ช่องของเคเบิลดาวเทียมไทยเรา มีเฉพาะถ่ายทอดกีฬาของต่างประเทศ 1 ช่อง ภาพยนตร์ต่างประเทศ 1 ช่อง และอีก 1 ช่อง ก็เป็นรายการสดร้านกาแฟ (ซึ่งผมอยากให้มีการสำรวจความนิยมจริง ๆ ว่ามีผู้ดูช่องนี้ประมาณเท่าไร และมีประโยชน์อันใดหรือไม่) เท่านั้น เคเบิลดาวเทียมของเวียดนามมีประมาณ 3 ค่าย แต่ละค่ายจึงเกิดการแข่งขันค่อนข้างสูง  ส่วนที่บ้านผมสามารถดูได้เพียง 1 ค่ายเท่านั้น จึงไม่ทราบว่ารายการอีก 2 ค่าย เป็นอย่างไรบ้าง  ในบรรดาช่อง HD 12 ช่องของดาว Vinasat 1 ku นั้น ผมยอมรับว่าช่องที่ให้ประโยชน์อย่างมากคือช่อง Discovery HD ซึ่งประกอบไปด้วยสารคดีของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก แม้กระทั้งของประเทศเวียดนามเองด้วย รองลงไปคือช่อง AXN HD  ESPN HD ITV HD และ VTC3HD ซึ่งเป็นรายการเกมส์โชว์ ถ่ายทอดสดกีฬาประเภทต่าง คอนเสิร์ตทั้งต่างประเทศและของเวียดนามเอง แม้จะเกิดความรำคาญอยู่บ้างในเทคโนโลยีของเวียดนามนั่นคือหากรายการของต่างประเทศไม่มีตัวหนังสือเวียดนามบรรยายแล้ว เวียดนามจะมีผู้บรรยาย (เหมือนการพากย์หนังขายยาของไทยเราสมัยก่อน แต่แตกต่างตรงที่ของเวียดนามใช้ผู้พากย์เพียงคนเดียวและเป็นเสียงเดียวตลอด แม้ตัวละครจะเป็นหญิงหรือชายเป็นผู้พูด ก็ไม่มีการดัดเสียงเป็นหญิง-ชาย เหมือนหนังขายยาของไทยเรา) ซ้อนไปกับเสียงจริงของรายการ รายการหนังของช่อง HD บางครั้งจะเป็นไทยด้วย ซึ่งอันนี้ทำให้ผมแปลกใจมาก เพราะช่อง HD ของไทยไม่เคยนำหนังไทยออกเคเบิลระบบ HD เหมือนเวียดนามเลย  หากถามว่าการลงทุนกับดาวเทียมดังกล่าวต้องใช้งบประมาณประมาณเท่าไร ผมขอยืนยันว่าใช้งบประมาณไม่สูงมากนัก ของผมให้ช่างติดตั้งจานพร้อมอุปกรณ์ครบเสร็จราคา 1300 บาท สำหรับเครื่องรับก็มีราคาแตกต่างกันไป เริ่มต้นที่ประมาณบวก-ลบ  2000 บาท ไปจนถึงหลักหมื่นบาท เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วก็คงต้องหาบ้านเช่าซึ่งมีราคาตั้งแต่บวก-ลบ 200 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ หากจะถามว่าคุ้มไหมกับการลงทุน ในความเห็นส่วนตัวของผมผมคิดว่าคุ้มมาก เพราะนอกจากรายการต่าง ๆ จะทำให้เราได้รับความรู้และประสบการณ์อย่างกว้างขวางแล้ว ยังไม่มีความจำเจหรือซ้ำซากเหมือนที่เราได้รับจากสื่อด้านทีวีบางช่องของไทยเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเสียอีก

ออฟไลน์ เสริม

  • ตัวแทนจำหน่าย
  • ระดับ 3
  • **
  • กระทู้: 239
  • HL-54902934
Re: ข้อแนะนำเบื้องต้นในการเล่น HD
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: วันที่ 7 กรกฎาคม 2013, 10:04:01 น. »
จากที่เคยเริ่มต้นกระทู้นี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ผมได้เคยโพสไว้เกี่ยวกับสินค้าราคาพิเศษไว้ แต่ปีที่แล้วไม่มีการจัดงานดังกล่าวผมจึงไม่ได้แจ้งให้แฟน HD ทราบ ในปีนี้มีรายการที่น่าสนใจนั่นคือพลาสม่าซัมซุงรุ่น Top สุดในปีนี้คือรุ่น 8500 ขนาดจอภาพ 64 นิ้ว ซึ่งในเมืองนอกได้นำไปเปรียบเทียบกับจอภาพแบบ LED แล้ว สรุปว่าเป็นพลาสม่าที่มีความสว่างเทียบเท่า LED แต่ไม่มีแสงรั่วออกมาเหมือน LED โดยราคาพิเศษที่ได้มานี้ (แถมแว่น 3d 4 อัน และจูนเนอร์ดิจิตอลทีวีซึึ่งจะเป็นมาตรฐานการส่งในอนาคตอันใกล้นี้) ขอรับรองว่าถูกที่สุดในประเทศไทย ที่สำคัญถูกกว่าที่ผมซื้ออีก สนใจติดต่อหลังบ้านครับภายในไม่เกินวันที่ 20 กค.56 หมายเหตุ ราคานี้เป็นราคาที่แท้จริงผมไม่มีส่วนได้ใด ๆ ทั้งสิ้น ได้สิ่งเดียวคือความภูมิใจที่ได้ช่วยเพื่อนที่ชอบเล่น HD ได้ใช้ของถูกเท่านั้น