ขอเสนอความคิดอีกนิดหน่อยครับ
Sub Group แต่ละอันมันเป็น Mono แต่การส่งสัญญาณจาก Channal ต่างๆมาที่ Sub Group จะส่งทีละ 2 ช่องคู่กัน คือ [1-2] , [3-4] หรือ [5-6] , [7-8] เหมือนกับ Sterio เพียงแต่ว่าเราจะมองแบบไหน
ถ้ามองว่าเป็น Sterio ก็ต้องใช้ทั้ง 2 ช่องร่วมกัน โดยที่ Channal ต้อง Pan ซ้ายหรือขวาไว้แล้วก่อนที่จะส่งเข้า Group แล้วต่อมาที่ Group 1 จะต้อง Pan ซ้าย ที่ Group 2 จะต้อง Pan ขวา เวลาควบคุมก็ควบคุมทั้ง 2 Slide
แต่ถ้ามองว่าเป็น “Group” ก็จะสามารถแยกดนตรีต่างๆ ที่เป็นพวกเพียวกัน และต้นเสียเป็น Mono เหมือนกันมารวมกันได้ แล้วควบคุมเพียง Slide เดียว
ดนตรีบางอย่างจำเป็นต้องใช้ 2 ช่องคู่กันแยกไม่ได้ เช่น กลอง Tom1 Tom2 หรือ Hi-Hat1 Hi-Hat2 หรือ Return ที่ผ่าน Effect แล้ว ตลอดจน Channal ที่เป็น Sterio เพราะมันเกี่ยวกับต้นเสียงที่เป็น Sterio หรือเกี่ยวกับมิติของเสียง เช่นในการส่งกลองวิ่งจากซ้ายไปขวา หรือจากขวาไปซ้าย หรือ Effect ที่แต่งเสียงจาก Mono มาเป็น Sterio สังเกตได้ว่า Processor ส่วนใหญ่จะมี 2 ช่อง แต่จะไม่กำหนดว่าเป็น L หรือ R ส่วนใหญ่จะกำหนดเป็น Channal 1 และ 2
แต่ดนตรี หรือแม้กระทั่งไมค์ ที่นำมาเข้า Line ต่างๆ ล้วนมีต้นเสียงที่เป็น Mono ทั้งนั้น เพียงเรามา Pan หามิติเอาเอง (ส่วนใหญ่จะตั้งไว้ที่ตรงกลาง) ก็อยู่ที่ว่าเราจะ Pan ก่อน Group หรือ Pan หลัง Group (ผมเข้าใจอย่างนี้ครับ) ถ้าเรา Pan ก่อน Group คือไม่ตั้งไว้ตรงกลาง ซึ่งแน่นอนจะต้องใช้แบบ 2 Group ร่วมกัน ตัวอย่างจากในภาพ สำหรับ Channal 29-30 และ 31-32 เป็น Sterio ถ้าส่งสัญญาณให้ Group 1-2 จะต้องใช้ทั้ง 2 Slide เพราะสัญญาณซ้าย (29) จะไปอยู่ที่ Group 1 และสัญญาณขวา(30) จะไปอยู่ที่ Group 2
ส่วนการ Insert จริงๆ แล้วมันเป็น Mono ครับ แต่การต่อจะใช้ Jack แบบ Sterio โดยสัญญาณเส้นหนึ่งเป็นเส้นส่ง และอีกเส้นหนึ่งเป็นเส้นรับกลับเข้ามา (ต้องดูการต่อจากคู่มือของ Mixer)
แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกันครับ.. ผมอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนก็ได้ แต่วิธีแบบนี้ผมอ่านจากคู่มือประกอบกับดูจาก Diagram แล้วหาความรู้จากเว็บ และนึกพลิกแพลงเอา เพราะไม่ค่อยเห็นคนอื่นใช้แบบนี้เหมือนกัน.. ลืมนึกไปว่า Mixer บางรุ่น Function ของ Group อาจไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจทำได้หรือไม่ได้อย่างที่ผมอธิบาย.. และคงใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกหลายวิธีการอยู่ที่จินตนาการของแต่ละท่าน..