ถ้า ต้องการฟังเพลงที่ให้ Fidelity แบบดี ๆ จริง ๆ ก็ลองเก็บเจ้า ASIO ซึ่งเป็นไดร้เวอร์เสียงที่ใช้ได้กับพวก Windows Digital Media ทั้งหลาย (ก็คือพวกไฟล์ดิจิตัลเสียงทั้งหลายที่ใช้กับเครื่องคอมพ์ขอรับ) ซึ่งสร้างขึ้นโดยกลุ่ม Opensource กลุ่มหนึ่งในเยอรมัน ไฟล์ไดร้เวอร์นี้จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับไดร้เวอร์ชิปเสียงหรือการ์ดเสียง ในเครื่องแต่อย่างใดและก็เป็นโปรแกรมเปิดเสรี (พูดง่าย ๆ คือฟรีนั้นแหละท่าน)
...เหตุผลว่าทำใมที่บรรดานักฟังเพลงหูบริสุทธิ์ เขามักจะเลือกไดร้เวอร์ของ ASIO มาใช้นั้นก็เนื่องจากปกติแล้วในคอมพ์นั้นสัญญาเสียงจากแหล่งจะต้องผ่านขบวน การ kmixer ซึ่งจะทำการแปลงรหัสหรือที่กันเรียกว่า Resample ของไฟล์เสียงทุกชนิดให้เป็น 16bit/44.1k เสียก่อนแล้วค่อยส่งไปยังชิปหรือการ์ดเสียงอีก ค่า resample นี้ก็ใช้ได้เหมาะสมดีสำหรับไฟล์เสียงที่ถูกบีบอัดให้เล็กลงเช่น MP3 แต่ถ้ากรณีต้องการที่จะฟังเสียงจากแหล่งที่ดี ๆ เช่น CD หรือไฟล์ดิจิตัลดี ๆ เช่นไฟล์ flac ซึ่งมี resample rate ขนาด 24bit/48K หรือจะเป็นขนาดเดียวกับข้างบน (16bit/44.1k) แต่ไม่ได้ถูกบีบอัดเลย (เสียงจะต่างกันมากระหว่างไฟล์ที่ถูกบีบอัดเช่น mp3 กับไฟล์ที่ไม่ถูกบีบอัดเพราะการบีบอัดเพื่อลดขนาดเขาตัดเสียงแหลมและเสียง ทุ่มที่ประเมินว่าคนเราไม่สามารถได้ยินเสียง ออกไป แต่ในความรู้สึกของเหล่า Audiophile แล้วแม้จะไม่ได้ยินเสียงแต่ความถี่สูงต่ำเหล่านั้นมันทำให้เกิดบรรยากาศหรือ อารมณ์เพลงเพิ่มขึ้นซึ่งสำคัญพอ ๆ กับเนื้อหาของเพลง) การที่ต้องผ่านขบวนการเหล่านั้นของ Windows ทำให้ไฟล์เสียงดีถูกลดทอนประสิทธิภาพในแต่ละขั้นตอนไปเรื่อย เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกที่ต้องผ่าน Directsound เสร็จแล้วก็ขั้นตอนของ kmixer จากนั้นก็เป็นขั้นตอนของ kernel เสร็จแล้วเป็น Mixer ของ Soundcard แล้วค่อยถึงตัว Sound Card - รูปแบบหรือเรียกเท่ ๆ หน่อยว่าปรัชญาของ ASIO ก็คือส่งไฟล์เสียงจากแหล่งเช่นเครื่องเล่น CD/DVD ตรงสู่ Mixer ของ Sound Card แล้วก็เป็นส่วนของ Hard Ware ซึ่งก็คือ Sound Card ตรงเลย หรือในกรณีย์สุดขั้วเลยก็คือการส่งไฟล์ระดับที่มี Gain ขนาด 0db/10Kohm Output (อย่าถามรายละเอียดมันเลยครับท่าน แฮ่ะ ๆ ผมไม่รู้ขอรับ) ตรงจากแหล่งไปสู่ Sound Card โดยไม่ใช้ Mixer ของ Sound Card อีกต่างหาก โดยใช้เฉพาะการปรับของ ASIO เท่านั้น
...ปัจจุบันถ้าฟังเพลงจากพวก ไฟล์ mp3 ผมใช้ jetAudio แต่ถ้าฟังแผ่นดี ๆ จาก CD/DVD ผมใช้ Foobar 2000 กับเจ้า ASIO4All ขอรับ เปิดเทียบเสียงกับ Output อื่น ๆ เห็นความแตกต่างของเสียงชัดเจนครับท่าน เท่าที่เห็น ก็จะมี output plugin ของ Foobar และก็ Winamp เท่านั้น ก็คาดว่าส่วนใหญ่สมาชิกในนี้คงจะใช้ Winamp กันก็เลยต้องมานั่งติดตั้ง Winamp แล้วมาลอง configure ให้ใช้เจ้า ASIO ได้สมบูรณ์แล้วก็เอามาแนะนำกัน
...ก็ขอย้ำอีกครั้ง ASIO มีจุดประสงค์หลักในการฟังเสียงเพลงที่บริสุทธิ์เท่านั้นครับ ถ้าความประสงค์ของท่านคือการฟังเพลงให้ได้ความละเอียดและเป็นธรรมชาติของ เพลงจริง ๆ เจ้า ASIO เหมาะกับท่านแน่ ส่วนถ้าต้องการฟังแบบหวือหวาหรือฟังแบบ Home Theater คงต้องไปใช้เจ้า DFX หรือ SRS Audio Sandbox จะดีกว่า ก็ลองลงเอาใว้ดูขอรับ ยามใดต้องการใช้ Winamp ฟังเสียงระดับหูทองก็เลือก Output แบบ ASIO ไป แต่ยามใดที่ฟังเพลงประเภทหูทนก็เปลี่ยน Output ไปเป็นตัวอื่นเอา จะเห็นผลก็เมื่อใช้กับแหล่งที่ดี ๆ เท่านั้นน่ะครับท่าน ถ้าเป็น MP3, OGG, WMA ก็คงไม่เห็นความแตกต่างนักเพราะต้นทางมันมีคุณภาพเท่านั้นเอง
...ถ้า อยากจะลองกัน ก่อนอื่นไปเก็บเจ้า ASIO4ALL v.2.9 (Final) มาติดตั้งก่อน จากนั้นค่อยไปหยิบเจ้า out_asio(dll)_xxx.7z มาแล้วทำการคลายออกด้วย WinRAR ก็ได้ คลายออกมาแล้วก็เข้าไปในโฟลเดอร์ bin > normal แล้วก็อปเจ้าไฟล์ out_asio(dll).dll ไปวางใว้ที่ C:\Program Files\Winamp\Plugins
ASIO4ALL http://www.asio4all.comASIO Output for WinAmp http://otachan.com/out_asio(dll)_067.7zเครดิตท่าน พีระ..Mike9™
อ้างอิง : http://www.it-th.net/webboard/index.php?topic=61197หรืออาจจะใช้ AIMP2 ติดตั้ง asio plugin
แต่ตัวผมใช้ foobar2000