จากหน้าเวที ไปถึงท้ายสุดเกือบ 80 เมตร
11.30 ผมย้อนกลับไปที่งานอีกครั้ง ทุกอย่างยังคงปกติดี แต่ที่ไม่ปกติคือ คนที่อยู่บนเวที ไม่ใช่นักร้องผม แต่เป็นรจนา สารคาม คนที่ร้องแล้วและกลับไปหลบร้อนในรถคือ ศรีไพร ไทยแท้
เมื่อรู้ว่านักร้องคนต่อไปคือกาญจนา มาศิริ ทำให้รีบบึ่งรถกลับไปอนามัยเก่า เพื่อยืมกล้อง คนในงานประมาณนี้ครับ
กาญจนา มาศิริ กำลังอยู่บนเวที
เอาซ่ะหน่อย
ชุดแค่นี้ ไม่ใช้ครอส ทุกอย่างต่อตรงจากอีคิวเข้าแอมป์ขับกลางฟูลเรนจ์ โยงจากแอมป์ตัวขับกลาง เข้าแอมป์เลื่อนไป Lowpass ขับเบส -ข้างละใบ ครอสถูกงดใช้ชั่วคราว
เพื่ออะไร ผมทำแบบนี้เพื่อให้กลางมีเบสและมิดเบส เสริมให้กับโลว์ ดังนั้นโลว์ข้างละใบ เอาอยู่ครับ
ทั้งๆที่เป็นเวลากลางวันไฟยังเหลือแค่นี้
ขอบคุณทุกคำชมที่มอบให้มือมิกซ์คาราไลท์ผมในวันนี้ ทั้งจากศิลปินและทีมงานศิลปิน ความดังจุกอกคงไม่ใช่ แต่ถ้าเอาเพราะนั่งฟังหวานๆสบายๆ ใช่เลย
ศรีไพร ไทยแท้ สารภาพกับผมว่ามาถึงงานเห็นเครื่องเสียงแล้วเครียดมากบ่นกับทีมงานไปแล้ว ก่อนขึ้นเวทีทำหน้าที่พิธีกรก็ยังมากำชับลูกน้องผมว่าช่วยปรับเสียงพี่ให้ชัดๆหน่อยน๊ะ เสียงไม่ค่อยมี แต่พอจะกลับลงจากเวที หันมายกนิ้วให้แถมชมออกไมค์ เล่นเอาลูกน้องผมยิ้มไปทั้งวัน เจ้าภาพหน้าบานเป็นกระด้ง เสียเงินจ้างดนตรีแค่ 5000 มีแต่คนชม