ผมอาจมีความเชื่อไปในทางว่า
ผู้บริหารระดับสูงของแผนกนี้ ย่อมมีความรู้เรื่องระบบเสียงพอตัว
ถึงสามารถของบได้ถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท
แน่ละผู้มีอำนาจอนุมัติยอมจ่ายถือว่า
ผู้ที่ทำเรื่องของบต้องมีเครดิตมีความรู้พอสมควรในเรื่องนี้
เรื่องของหน้าตาสำคัญมากสำหรับภาพพจน์ของบริษัท
มันหมายถึงอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างตามมา
รวมทั้งหมายถึงรสนิยมของผู้บริหาร (ใครจะไปรู้ว่าเค้าอาจเล่นระบบเสียงระดับบนอยู่)
เงินบริษัทลงไป 150,000.- มันต้องกลับมาคิดแล้วต้องได้เกิน 3 เท่าของที่จ่ายไปนะครับ
ดังนั้นแบรนด์ดีเอ็นเอ ( Brand DNA ) จึงสำคัญมาลำดับแรก เสียงตามมาทีหลัง ซึ่งย่อมแน่ว่าดี
เป็นผมจะทำเรื่องของบเพิ่มด้วยซ้ำครับ
ไม่จริงเสมอไปครับป๋า......ผู้บริหารระดับนี้ บางทีก็ไม่รู้อะไรเลยเรื่องเครื่องเสียง
เพียงแต่ที่ตั้งงบไว้สูงเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์กลับมา 5%-10% มันมีค่ามากกว่าตั้งงบต่ำครับ
และคนระดับนี้ เมื่อไม่ใช่เงินของตัวเองมักคิดว่าของแพงๆจะต้องดี คิดว่าเมื่อจะเสียเงนทั้งทีมันต้องจบ โดยไม่รู้อะไรเลย
เรืองนี้ครูวัติเคยเอามาโพสต์ถามผมหลายหนแล้ว
มีกรณีตัวอย่างเครื่องเสียงห้องประชุมที่อำเภอผมนายอำเภอคนเก่าๆติดตั้งไว้หมดงบไปเกือบแสน จ้างบริษัทมาติดตั้ง
ใช้ไมค์ประชุมของ NPE ตัวละสามพันกว่า ฟากละ 8 ตัว รวมกับของประธานอีก 2 ตัว รวมแล้ว 18 ตัวพอดี
แต่ไม่มีลำโพงในห้อง ทุกคนต้องฟังเสียงผ่านลำโพงที่ฐานไมค์ตัวเท่าก้อนขี้หมา บอกตรงๆครับเสียงเหมือนรถขายน้ำปลา
นายอำเภอมาประชุมที่ห้องประชุมสำนักงานผมบอกเครื่องเสียงสาธารณสุขชัดดีจังใช้งบกี่แสน ผมบอกหมื่นต้นๆ พาวเวอร์มิกซ์ ลำโพงติดผนังสี่ใบ และไมค์ตั้งโต๊ะสองตัว
แน่นอน ทั้งหมดเป็นของจีน สุดท้ายนายอำเภอท่านก่อนหางบมาให้ผมหมื่นหนึ่งแล้วบอกช่วยทำเครื่องเสียงของอำเภอให้ดังแบบของสาธารณสุขที
ก็เลยได้จัดหาให้ไป ได้แอมป์ไปตัว ลำโพงสี่ใบ เอาสัญญาณจากไมค์ที่โยงกันไว้ป้อนใส่เข้าไป
ขอแรง อส.ให้ช่วยปีนป่ายเพื่อยึดลำโพง ตอนนี้ผมเดินขึ้นอำเภอแบบยืดหลังเชิดหน้าสง่าผ่าเผยครับ ไม่ต้องก้มหน้าก้มตาแบบแต่ก่อน