ตามไปอ่านกันดูครับ
http://www.thairath.co.th/content/468197
ทนายจัดเก็บลิขสิทธิ์ โดนชายอ้างเป็นตำรวจ 2 นายรุมกระทืบ โร่เข้าแจ้งสภาทนายความช่วยเหลือด่วน เผยเดินทางไปเก็บค่าลิขสิทธิ์ในพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา กลับถูกรุมทำร้ายนานกว่า 2 ชม. ภายหลังมีคนมาไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาความ แถมคดีไม่คืบ ตัดสินใจเข้าขอความช่วยเหลือ ด้านนายกสภาทนายความทำหนังสือประสาน ผบ.ตร.ขจัดตำรวจเกเรด่วน
ที่สภาทนายความ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. นายธรรมวัฒน์ คงพิกุล อายุ 55 ปี อาชีพทนายความและผู้จัดการปฏิบัติการ บ.จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จก. ในเครือ บมจ.อาร์เอส เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความและนายวิเชียร ชุบไธสง อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ หลังถูกชาย 2 ราย อ้างตัวเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รุมทำร้าย คดีไม่มีความคืบหน้า เกรงว่าจะมีการช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้พ้นโทษ
นายธรรมวัฒน์ลำดับเหตุการณ์ว่า ทำหน้าที่จัดเก็บลิขสิทธิ์เพลงจากร้านและสถานบริการต่างๆ ที่เปิดเพลงในเครือ บมจ.อาร์เอส โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เดินทางไปพบกับเจ้าของร้านอาหาร “ศรินทิพย์” ตั้งอยู่ในเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามค่าลิขสิทธิ์เพลงที่ทางร้านเคยจ่ายมาแล้ว 2 ครั้ง ในอัตราครั้งละ 3,400 บาท กำหนดเวลาครั้งละ 3 เดือน แต่ทางพนักงานเก็บค่าลิขสิทธิ์ไม่สามารถติดต่อเจ้าของร้านได้ จึงเดินทางไปร้านดังกล่าว ปรากฏว่าเจ้าของร้านรายนี้เป็นหญิงแจ้งว่าให้ติดต่อกับทางสามีภายหลัง
นายธรรมวัฒน์กล่าวต่ออีกว่า กระทั่งวันที่ 25 พ.ย.ได้รับการติดต่อจากเจ้าของร้านว่า ให้มารับเงินค่าลิขสิทธิ์ที่ร้าน นัดหมายเวลา 22.00 น. ของวันที่ 26 พ.ย. จึงเดินทางไปที่ร้านเพียงลำพัง ทันทีที่ไปถึงหน้าเคาน์เตอร์ร้านมีชายอ้างเป็นตำรวจ 2 นาย พร้อมหญิงเจ้าของร้านและสามีเดินปรี่มาที่ตน ก่อนชายทั้งสองคนที่อ้างเป็นตำรวจขอตรวจค้นและดูบัตรพนักงานบริษัท ตนให้ดูแต่โดยดีพร้อมแสดงตัวเป็นทนายพร้อมโชว์บัตรทนายให้ดู โดยขอให้ชายทั้งสองแสดงบัตรข้าราชการตำรวจ แต่ทั้งคู่ไม่ยินยอมใช้กำลังชกที่ลำตัว ลากเข้าไปในครัวจับกดลงกับพื้นรุมกระทืบ จนบาดเจ็บที่ลำตัว หลังและศีรษะ ขณะก่อเหตุทั้งคู่ชักปืนออกมาข่มขู่ ยึดกระเป๋าสะพายภายในมีเงินค่าลิขสิทธิ์ 4,300 บาท และบังคับพาตนไปตรวจค้นภายในรถ นำเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน เนื่องจากชุดที่สวมใส่เปื้อนเลือดพร้อมคืนกระเป๋าสะพาย กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งคู่จึงปล่อยตัว หลังเกิดเหตุตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พงส.ส่งไปตรวจร่างกายที่ รพ.โสธราเวช พบบาดแผลฟกช้ำตามลำตัว และใบหน้า ที่ศีรษะและหลังหูด้านขวามีแผลแตก
“ภายหลังพบว่าคดีไม่มีความคืบหน้า มีผู้มาเจรจาขอไม่ให้ดำเนินคดีกับชายที่อ้างเป็นตำรวจทั้ง 2 นาย ตนเห็นว่าอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องทุกข์ต่อสภาทนายความ ตนมีอาชีพเป็นทนายความ แต่กลับถูกกระทำถึงเพียงนี้ หากเป็นประชาชนทั่วไปไม่ทราบว่าจะถูกทำร้ายขนาดไหน ยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมเจ้าของร้านต้องทำถึงขนาดนี้ ทั้งที่ไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน โดย พงส.เจ้าของคดีนัดสอบปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 10 ธ.ค.นี้” ผู้เสียหายรายนี้กล่าว
ภายหลังนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เผยว่าเบื้องต้นทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดจากการ กระทำของตำรวจ สภาทนายความเห็นว่าการประกอบวิชาชีพได้รับผลกระทบอย่างมาก จากการถูกรุมทำร้ายโดยปราศจากเหตุผล อีกทั้งการทำหน้าที่ของตำรวจอาจมีการเข้าข้างกัน เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ จึงร้องไปยัง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ให้ช่วยขจัดตำรวจเกเรออกไปให้หมด เหมือนที่เคยกล่าวไว้ว่าจะรักษาวินัยของตำรวจและไม่ยอมรับตำรวจเกเร พร้อมเรียกร้องให้สืบหาตัวตำรวจที่ก่อเหตุทั้ง 2 นายมาลงโทษ พร้อมสั่งพักราชการภายใน 24 ชม.ทันที อย่าปล่อยให้ยืดเยื้อ โดยสภาทนายความจะจัดทีมทนายลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือนายธรรมวัฒน์ต่อไป