คืนนั้นเราก็อยู่กับกลุ่มของท่านผู้ว่าจนงานเลิก ฝนตกพรำๆ ผมกับเจ้าเป็กซ์ก็ยืนหลบฝน รอจน
แขกวีไอพี ทะยอยกลับจนหมด จนเหลืออยู่ท่านหนึ่งเดินถือร่มย้อนกลับเข้ามาในโถงทางเดิน
ที่เรายืนหลบฝนกันอยู่ เป็นชายวัยกลางคนประมาณป๋าแบทเห็นจะได้ หน้าตาก็ชาวบ้านธรรมดา
เจ้าเป็กซ์ก็เลยถามว่า เขาไปกันหมดแล้วคุณอายังไม่กลับหรือค่ะ แกก็หันมาคุยด้วย ชมว่า
"หนูเก่งนะ เล่นสนุกมาก ดูไม่เบื่อ" แล้วก็บอกต่อว่า "เรากลับไม่ได้เพราะเราเป็นเจ้าของสถานที่
ยังไม่กลับหรอก" เราถึงบางอ้อว่าผู้ชายชาวบ้านธรรมดา คนนี้แหละเป็นเจ้าของโรงแรมหรูๆแห่งนี้
และข้อมูลที่เราได้เพิ่มเติมวันรุ่งขึ้นคือแกสูญเสียครอบครัวไปหมด ทั้งภรรยาลูกชายลูกสาวจากเหตุ
วิปโยคซือนามิ มารวมกันฉลองคริสมาสกันที่นี่ครับ ว่ากว่าแกจะทำใจได้ก็นานทีเดียว ในยังต้อง
บูรณะสถานที่อีกเป็นสิบล้าน แล้วมันก็ยังซบเซาอยู่ น่าเห็นใจกับผู้ที่ต้องประสบเคราะห์กรรมในครั้งนั้นจริงๆ
ตกลงเราเข้านอนกันเลย ที่แรกผมจะนั่งเล่นเนทที่ล็อบบี้ แต่เจ้าเป็กซ์มันไซโคผม
ว่ายุงเยอะขึ้นไปบนห้องดีกว่า มันสารภาพทีหลังว่าไม่กล้าอยู่คนเดียว แต่มันก็เจอเพราะผมม่อย
หลับไปก่อน มันเอาไวน์ไปนั่งกินที่ระเบียง มันได้ยินเสียงลากรองเท้าแตะ แกรกๆ....แกรกๆ.....
ที่ระเบียงห้องถัดไป มันกำลังจะลุกหนี พอยืนขึ้นมันก็ยินเสียงแหม่มฝรั่งพูด "ฮัลโหล"
เจ้าเป็กซ์มันเล่าให้ฟังว่าพอมันลุกขึ้นยืนเต็มตัว มองข้ามไปยังระเบียงห้องถัดไป....................
โอย....แม่เจ้า แหม่มฝรั่งยืนเปลือยเปล่า เซย์ฮัลโหลกับมัน พอตั้งสติได้เจ้าเป็กซ์ก็เซย์ฮัลโหล
ตอบไป มันบอกเล่นเอาแทบช็อค ที่แท้เป็นแค่แหม่มทำตัวเข้ากับธรรมชาติเท่านั้นเอง
ผมเห็นตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว ช่วงที่ผมสาละวนถ่ายรูปห้องอยู่ ผมเห็นแล้วรีบเข้ามาในห้อง กลัวว่า
เดี๋ยวหล่อนโวยวาย ผมจะซวยหาว่าแอบถ่ายแอบมองประมาณนั้น
ตื่นเช้าเราเดินเลาะสวน ผ่านที่พักเป็นหลังๆ ไปทานอาหารเช้า(ฟรีรวมอยู่ในราคาห้อง)
ที่ห้องอาหารด้านติดริมหาด วันนั้นเขาชักธงแดงให้รู้ว่าไม่ควรลงเล่นน้ำทะเล เพราะคลื่นลมแรง
ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในราคาคนไทยประมาณพันบาท ผมว่าน่าไปพักผ่อนนะครับไม่แพงอย่างที่นึก